ตอนที่ 128 แอบหนีจากโรงพยาบาล 

 

 

           เมื่อเจียงมู่เฉินตื่นมาแต่เช้าแล้วโดนจูบไปจูบมาก็ชักจะรำคาญบ้างแล้ว เขายกเท้าถีบใส่อีกคน “ฉันยังต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนานเท่าไหร่” 

 

 

           “ทำไม อยากออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินขมวดคิ้ว “อยู่โรงพยาบาลเกลียดที่สุดแล้ว” 

 

 

           ซือเหยี่ยนมองดูคนย่นคิ้วในอ้อมกอดตัวเอง แล้วยิ้มเบาๆ ก่อนเอ่ย “ไม่งั้นผมพาคุณกลับบ้านดีไหม” 

 

 

           “นายแน่ใจเหรอว่าจะพาฉันกลับไปได้” เจียงมู่เฉินไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ 

 

 

           จู่ๆ ซือเหยี่ยนก็ยกมุมปากขึ้น “หมอไม่ให้คุณออก ผมจะพาคุณแอบออกไปเป็นไง” 

 

 

           เจียงมู่เฉินมองซือเหยี่ยนด้วยความตะลึงตกใจ “นายเอาจริงเหรอ จะแอบหนีจริงๆ เหรอ” 

 

 

           “ทำไมล่ะ หรือคุณไม่อยากออกจากโรงพยาบาลแล้ว?” 

 

 

           “อยากออกไปอยู่แล้วสิ” เจียงมู่เฉินทำหน้าบูดบึ้ง “แต่แอบหนีไปไม่ค่อยดีเท่าไหร่มั้ง” 

 

 

           ซือเหยี่ยนช้อนตัวอุ้มเขาออกไป “แอบหนีออกไปสักครั้งก็ตื่นเต้นเร้าใจดีไม่ใช่เหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินครุ่นคิด แววตาก็ทอประกายขึ้นมา จะว่าไปเขาก็ยังไม่เคยแอบหนีจริงๆ คิดไปคิดมาก็ใจเต้นไม่เบาเลย 

 

 

           “จะเอายังไง เฉินเฉิน จะหนีหรือไม่หนี” ซือเหยี่ยนยิ้มรอ ดูเหมือนจะสอบถามความคิดเห็น แต่ที่จริงในใจก็มั่นใจอยู่พอตัว 

 

 

            ตามนิสัยของเจียงมู่เฉินแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ยอมตกลง 

 

 

           เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เจียงมู่เฉินรีบพยักหน้า “หนีๆๆ รีบหนีเร็วเข้า” 

 

 

           เขาพูดจบก็รีบให้ซือเหยี่ยนอุ้มเขาออกไป ซือเหยี่ยนอุ้มเขากลับห้องผู้ป่วย พวกเขาไม่มีสัมภาระอะไร เสื้อผ้าสองชิ้นบนตัวเจียงมู่เฉินที่เปื้อนเลือด ซือเหยี่ยนก็เอาไปจัดการทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว 

 

 

           ตอนนี้จะอุ้มคนออกไปก็ได้แล้ว 

 

 

           เจียงมู่เฉินสวมชุดคนไข้ ขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของซือเหยี่ยน จะว่าไปครั้งแรกที่จะหนีออกจากโรงพยาบาลแบบนี้ ยังค่อนข้างจะตื่นตระหนกจริงๆ 

 

 

           เขาเงยหน้ามองดูซือเหยี่ยนสีหน้านิ่งเฉยอุ้มเขาอยู่ แล้วเลิกคิ้ว “นายไม่ได้อยากจะแอบหนีหรือไง” 

 

 

           “อืม” ซือเหยี่ยนรับคำหนึ่ง ก่อนเอ่ยต่อ “นี่กำลังหนีอยู่ไม่ใช่เหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกรามแน่น อุ้มเขาเดินไปช้ากว่าปกติอีก นี่เรียกว่าหนี? ไปเดินเล่นสาธารณะก็ยังไม่เอ้อระเหยขนาดนี้เหอะ 

 

 

           ซือเหยี่ยนก้มลงใบหน้าของเขา “เฉินเฉิน อย่าใจร้อนสิ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินกัดฟันกรอด เขาไม่ได้ใจร้อนสักหน่อยเลยเหอะ! 

 

 

           … 

 

 

           ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ซือเหยี่ยนวางเขาลงข้างที่นั่งคนขับอย่างอ่อนโยน ยังกลัวว่าเขาจะรู้สึกไม่สบายตัว ตั้งใจวางเบาะรองนิ่มๆ เป็นพิเศษ แล้วยังปรับที่นั่งเอนไปข้างหลังนิดหน่อยให้อีก 

 

 

           เจียงมู่เฉินเอนกายนอนบนเบาะที่นั่ง มองดูซือเหยี่ยนที่กำลังช่วยเขารัดเข็มขัดนิรภัย แล้วถอนหายใจอย่างปลงๆ “ตอนนี้ฉันเหมือนคนพิการมากเลยใช่ไหม” 

 

 

           ซือเหยี่ยนโน้มตัวเข้าไปใกล้ ใช้ปากงับมุมปากของเจียงมู่เฉิน “ไม่เหมือน” 

 

 

           เจียงมู่เฉินไม่ค่อยสบายใจ “ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉันทำอะไรก็ไม่ได้ดีสักอย่าง” 

 

 

           ซือเหยี่ยนกัดเขาซ้ำอีก “ไม่ใช่หรอก คุณยังมีอย่างอื่นที่ทำได้อีก” 

 

 

           เจียงมู่เฉินเลิกคิ้วมองเขา 

 

 

           “อืม” ซือเหยี่ยนขานรับ ก่อนพูดต่อ “นอนคราง” 

 

 

           เจียงมู่เฉินไม่ทนแล้ว ชกเขาเข้าไปเต็มๆ 

 

 

           ‘แม่งเอ๊ย ทำไมนายไม่ไปนอนครางเองล่ะ!’ 

 

 

           …… 

 

 

           แอบหนีจากโรงพยาบาลกลับบ้านมา รถเพิ่งจะมาจอดที่หน้าทางเข้าคฤหาสน์ก็เห็นหลินเหวินฮุ่ยยืนอยู่ตรงนั้น เจียงมู่เฉินเลิกคิ้วมองซือเหยี่ยน 

 

 

           “แฟนสาวน้อยของนายมาหานายแล้ว” เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะ 

 

 

           ซือเหยี่ยนกุมขมับ “ผมไม่มีแฟนสาวน้อย ถ้ามีก็เป็นคุณ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกราม “ฉันเป็นแฟนหนุ่มของนายต่างหาก” 

 

 

           ซือเหยี่ยนขำ ยื่นมือไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้เขา แล้วก็ไม่ลืมจะจูบเขาด้วย “อืมๆ คุณเป็นแฟนหนุ่มของผม” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเปิดประตูรถออกไป หลินเหวินฮุ่ยเห็นเขาก็รีบเดินเข้ามาหา “พี่ซือเหยี่ยน ในที่สุดพี่ก็กลับมาแล้ว ฉันรอพี่มาตั้งนานเลย” 

 

 

           “เหวินฮุ่ย มีธุระอะไรหรือเปล่า” 

 

 

           “ไม่มีอะไรค่ะ ก็แค่อยากบอกพี่ว่าฉันออกจากโรงพยาบาลแล้ว” หลังจากที่ซือเหยี่ยนพาตัวเธอไปส่งโรงพยาบาลก็ไม่เคยได้ปรากฏตัวอีกเลย เธอโทรศัพท์หาก็โอนสายไปหาผู้ช่วยตลอด ไม่มีวิธีการอื่นจะติดต่อซือเหยี่ยนจริงๆ ทำได้แค่มาบ้านเขาเท่านั้น 

 

 

           “อืม งั้นเธอก็พักผ่อนดีๆ แล้วกัน” 

 

 

           หลินเหวินฮุ่ยมองดูซือเหยี่ยน กัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกน้อยใจ “พี่ซือเหยี่ยน พี่ไม่ห่วงใยไม่สนใจฉันเลยนะ” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 129 คุณชายคือผู้ชายของเขา 

 

 

           ซือเหยี่ยนไม่อยากพูดก็ต้องพูด “เหวิยฮุ่ย เพิ่งออกจากโรงพยาบาลยังอยู่ในช่วงที่ต้องพักฟื้นดีๆ ออกมาแบบนี้จะไม่ดีต่อสุขภาพได้” 

 

 

           หลินเหวินฮุ่ยกะพริบตาปริบๆ ดูน่าสงสารไม่น้อย เธอคว้าแขนของซือเหยี่ยนไว้ “พี่ซือเหยี่ยน ฉันเศร้ามาก พี่อยู่เป็นเพื่อนฉันได้ไหมคะ” 

 

 

           “ประธานซือ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร นายอุ้มฉันเข้าไปข้างในก่อน แล้วค่อยออกมาจู๋จี๋กับน้องหลินเหวินฮุ่ยจะได้ไหม” เจียงมู่เฉินมองอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาเย็นชา ถ้าไม่ติดว่าเขาเดินเหินไม่สะดวก เขาเดินเข้าไปเองแล้ว 

 

 

           ซือเหยี่ยนกวาดสายตามองหลินเหวินฮุ่ยแวบหนึ่ง “เหวินฮุ่ย คุณชายเจียงยังไม่ค่อยสบาย ฉันอุ้มเขาเข้าไปก่อนนะ” 

 

 

           หลินเหวินฮุ่ยตะลึงงันมองซือเหยี่ยนเดินอ้อมรถไปอยู่อีกฝั่ง แล้วช้อนอุ้มเจียงมู่เฉินออกมา 

 

 

           นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นพวกเขาแบบนี้ ไหนจะยังมีครั้งก่อนในห้องทำงานของซือเหยี่ยน เจียงมู่เฉินยังบอกว่าพวกเขานอนด้วยกัน… 

 

 

           หลินเหวินฮุ่ยไม่กล้าคิดต่อไป เธอปากสั่นมองทั้งสองคนด้วยความหวาดกลัว “พวกพี่…ตกลงว่าความสัมพันธ์ของพวกพี่คือแบบไหนกันแน่คะ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนหยุดฝีเท้าลง มองหน้าหลินเหวินฮุ่ย กำลังจะเตรียมตอบเธอก็ถูกเจียงมู่เฉินคว้าคอลงมาประกบริมฝีปาก 

 

 

           เจียงมู่เฉินยักคิ้วมองดูหลินเหวินฮุ่ยที่อยู่ข้างๆ “คุณชายคือผู้ชายของเขา เธอว่าฉันกับเขาเป็นอะไรกันล่ะ” 

 

 

           พูดจบก็ไม่มองหลินเหวินฮุ่ยอีก แล้วหันมาสั่งซือเหยี่ยนต่อ “ยังไม่รีบอุ้มคุณชายเข้าไปอีก” 

 

 

           ซือเหยี่ยนขำจนยกยิ้มมุมปากขึ้น เห็นเจียงมู่เฉินมีแนวโน้มว่าจะระเบิดลงในอีกไม่ช้าจึงรีบอุ้มเขาเข้าไปข้างใน 

 

 

           หลินเหวินฮุ่ยผู้น่าสงสารมองพวกเขาสองคนเดินเข้าคฤหาสน์ไปด้วยสีหน้างุนงง เหลือแค่เธอคนเดียวยืนสับสนวุ่นวายใจค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ 

 

 

           ‘พี่ซือเหยี่ยนกับเจียงมู่เฉิน…’ 

 

 

           ‘จะเป็นไปได้ยังไง นี่เป็นไปไม่ได้หรอก พวกเขาจะมาคบกันได้ยังไง’ เธอชอบพี่ซือเหยี่ยนมาตลอด เธออยากจะเป็นเจ้าสาวของพี่ซือเหยี่ยน 

 

 

           หลินเหวินฮุ่ยกำหมัดแน่นยืนอยู่หน้าคฤหาสน์ พวกเขาเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่จะมาคบกันได้ยังไง คนที่คบกับพี่ซือเหยี่ยนได้มีแค่เธอเท่านั้น       

 

 

         เธอกับพี่ซือเหยี่ยนครอบครัวพวกเขาจะรู้จักกันมารุ่นสู่รุ่น พ่อของเธอเป็นอาจารย์ของพี่ซือเหยี่ยน หลายปีมานี้พี่ซือเหยี่ยนดูแลเธอดีมาเสมอ 

 

 

           มีเพียงเธอเท่านั้นที่ยืนเชิดหน้าชูตาอยู่ข้างพี่ซือเหยี่ยนได้ 

 

 

           เจียงมู่เฉินเป็นผู้ชาย ไม่มีทางเด็ดขาด 

 

 

           เธอจะไม่ยอมให้เจียงมู่เฉินมาแย่งพี่ซือเหยี่ยนจากเธอไปเด็ดขาด 

 

 

           …… 

 

 

           เมื่อเข้าคฤหาสน์มาแล้ว เจียงมู่เฉินให้ซือเหยี่ยนวางเขาลงบนโซฟา ซือเหยี่ยนเพิ่งจะวางเขาลง เจียงมู่เฉินก็ทำเสียงเย็นแสดงความไม่พอใจใส่ “ไสหัวไปเลย ฉันอยู่ตรงนี้ไม่มีอะไรแล้ว นายไปโอ๋แฟนสาวน้อยของนายเถอะ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนได้ยินก็ยักคิ้วทันที “ได้ งั้นคุณนั่งตรงนี้สักพักนะ” พูดจบก็หมุนตัวจะเดินออกไป 

 

 

           เจียงมู่เฉินโกรธจนระเบิดลง มือคว้าเอาหมอนข้างๆ เขวี้ยงใส่ไหล่กว้างของซือเหยี่ยน 

 

 

           “แม่งเอ๊ย นายกล้าเดินออกไป ก็ลองดู” 

 

 

           ซือเหยี่ยนหมุนตัวกลับมา แววตาแฝงรอยยิ้ม แต่กลับทำหน้าตาจริงจังใส่อีกฝ่าย 

 

 

           “คุณให้ผมไปไม่ใช่เหรอ” 

 

 

           “ฉันให้นายไปตาย นายก็จะไปใช่ไหม” ปกติก็ไม่ได้เห็นว่าเขาจะเชื่อฟังกันเท่าไหร่ ตอนนี้ยังมาเสแสร้งทำตัวเป็นเจ้ากระต่ายน้อยสีขาว[1]ต่อหน้าเขาอีก 

 

 

           “ไป” ซือเหยี่ยนขานรับทันที 

 

 

           เจียงมู่เฉินยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบกลับ ยังเพลิดเพลินตกอยู่ในภวังค์การก่นด่าซือเหยี่ยนอยู่ จู่ๆ มาได้ยินคำๆ หนึ่ง ก็อดจะเอ่ยถามไม่ได้ “นายว่าอะไรนะ” 

 

 

           “ถ้าคุณอยากให้ผมไปตาย ผมก็จะไป” 

 

 

           เจียงมู่เฉินอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่ง เขาก็แค่พูดไปส่งๆ แต่ซือเหยี่ยนกลับมาตอบเขาจริงจังแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกประทับใจเกินจะบรรยายออกมาได้ 

 

 

           เขาแกล้งทำเป็นไม่เชื่อหูตัวเอง กวาดสายตามองซือเหยี่ยนแวบหนึ่ง “ปากหวานแบบนี้ใครจะไปเชื่อ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนไม่ได้ชี้แจงอะไรต่อ เขาโผเข้าหาแล้วจับตัวคนกดลงไป 

 

 

           เจียงมู่เฉินตกใจจนสะดุ้งโหยง “นายมันบ้าไปแล้ว พูดจาดีๆ กันก็ได้จะลงไม้ลงมือกันทำไม” 

 

 

           ซือเหยี่ยนก้มหัวลงไปกัดคอระหงขาวผ่องของเขา “ใช้คำพูดกับคุณไม่ได้หรอก ใช้ได้แค่การกระทำแสดงออกเท่านั้น” 

 

 

            

 

 

 

 

 

[1] เจ้ากระต่ายน้อยสีขาว เป็นการเปรียบเปรยกับคนที่ไม่รู้จักสิ่งชั่วร้าย บริสุทธิ์สีขาวเหมือนกระต่ายขาว