บทที่ 278 กลยุทธ์ทุกข์กาย

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

หลังจากหลินจือเห็นคำสารภาพของพ่อลูกชาร์ลี เธอจึงรีบโทรศัพท์หาจอร์แดนทันที

จอร์แดนยังคงปกป้องเธอเสมอมา หลินจือซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง

จอร์แดนพูดออกมาจากปลายสาย “พอเรื่องเกิดพ่อไปหาพวกเขาทั้งคู่ทันที พวกเขาจะเอาความกล้าจากที่ไหนไม่ออกมาสารภาพล่ะ”

ความจริงตั้งแต่ต้น เพราะชาร์ลีและลูกชายคิดวางแผนกับหลินจือ ใช้ลูกสาวสุดที่รักของเขาเป็นตัวทำเงิน ถ้าหากพวกระยำสองคนนั่นไม่ออกมาพูดในตอนนี้ เขาจะทำให้พวกมันพูดไม่ได้อีกตลอดไป

หลินจือพูดเบาๆ “พ่อคะ ขอบคุณนะคะ”

น้ำเสียงของจอร์แดนสลดเล็กน้อย “เมื่อก่อนพ่อไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับลูกเลย ปล่อยให้ลูกได้รับความไม่เป็นธรรมและความยากลำบากมากมาย ต่อไปนี้พ่อจะไม่ปล่อยให้ลูกถูกรักแกอีกแม้แต่นิดเดียว!”

ความรู้สึกเมื่อได้รับการถูกปกป้องทำให้หลินจือมีความสุขเป็นล้นพ้น แต่เธอก็ยังมีเรื่องต้องถามจอร์แดน “เทาเท่ออกมายอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเราแล้ว พ่อรู้เรื่องนี้หรือยังคะ”

จอร์แดนตอบ “รู้แล้ว”

หลินจือถอนหายใจ “พ่อคะ ทำไมพ่อไม่ขัดขวางเขาล่ะคะ”

จอร์แดนตอบยิ้มๆ “พ่อรู้ว่าตอนนี้ลูกไม่อยากพัวพันกับเขาสักเท่าไหร่ แต่พ่อว่าเขายังอันตรายน้อยกว่าสองคนนั้น เขาออกมาปกป้องลูก โดยเฉพาะคำสารภาพของเขาเปลี่ยนสถานการณ์ของลูกได้มากทีเดียว”

การตัดสินใจทั้งหมดของจอร์แดนก็เพื่อให้เกิดผลดีต่อหลินจือ และตอนนี้คำวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนก็เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้ ไม่มีอะไรมาทำร้ายหลินจือได้อีก

จอร์แดนพูดขึ้นอีกว่า “แต่ลูกอย่าไปซาบซึ้งใจกับคำสารภาพของเขานักล่ะ มีอะไรซ่อนอยู่ภายในใจลึกๆ ของเขา และยังจงใจใช้โอกาสนี้สารภาพกับลูก”

“ไม่มีทางค่ะ” ถ้าหากเธอรู้สึกซาบซึ้งง่ายดายอย่างที่พูด เช่นนั้นการที่เทาเท่ทำหลายสิ่งหลายในช่วงนี้ให้เธอ คงพอให้เธอประทับใจตัวเขาได้บ้างแล้ว

ทว่าตอนนี้หัวใจเธอเเข็งแกร่งดุจหินผา คิดแต่เรื่องงานไม่มีเรื่องความรักเลยสักนิด

“งั้นก็ดี” จอร์แดนพูดปลอบใจ “เรื่องนี้ลูกไม่ต้องกลุ้มใจไปหรอก พ่อจะจัดการแทนลูกทั้งหมดเอง”

“อืม” หลินจือคุยกับจอร์แดนไม่กี่ประโยคก็วางสายไป

เรื่องครานี้ทางด้านซูซิกลับถูกพลิกกลับมาเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แม้กระทั่งโมโหให้ตัวเอง บนโลกอินเทอร์เน็ตมีคำด่าทอเธอเสียหายๆ ซูซีใจร้อนจนไม่เป็นสุข ซาโต้โรคจิตนั้นก็โทรหาเธอไม่หยุด

เดิมทีซูซีคิดจะเมินเฉยต่อสายนั้นเหมือนทุกครั้ง ทันใดนั้นความคิดดีๆ ก็ผุดเข้ามาในหัว เธอรีบเก็บความเกลียดชังไว้ในใจ แล้วกดรับสายทันที

ทันทีที่กดรับน้ำเสียงหยาบคายของซาโต้ก็ดังขึ้นมา “เฮ้คุณซู ทำไมครั้งนี้ถึงรับสายผมเร็วขนาดนี้ล่ะครับ”

ซูซีบล็อกเบอร์ของซาโต้ไปแล้ว แต่เขาก็ใช้เบอร์ใหม่โทรมาหาเธออีก ซูซีหงุดหงิดเอามากๆ ตอนนี้ถ้ามีเบอร์โทรแปลกๆ โทรมาหาเธอ รู้ได้ทันทีเลยว่าเป็นซาโต้

ซูซีปัดความเบื่อหน่ายออกจากใจ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ประธานโตโต้โทรมาหาฉันมีอะไรเหรอคะ”

ซาโต้พูดด้วยน้ำเสียงกลุ้มใจ “ผมเห็นคำต่อว่าคุณในอินเทอร์เน็ตแล้วไม่สบายใจ เพราะเป็นห่วงคุณ”

ซูซีตอบอย่างฝืนยิ้ม “เช่นนั้นก็ขอบคุณด้วยนะคะ”

ซาโต้ ฉวยโอกาสพูดขึ้น “แค่กล่าวขอบคุณจะมีประโยชน์อะไร ออกไปทานข้าวด้วยกันดีกว่าไหมครับ”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูซีจึงไม่คิดจะแสร้งหลอกซาโต้อีกต่อไป : “ประธานโตโต้ อันที่จริงฉันรู้จุดประสงค์และแผนของคุณ แต่ฉันอยากปรึกษาอะไรคุณสักหน่อย”

“หากฉันหาผู้หญิงที่ดีกว่าฉันในทุกๆ ด้าน และส่งเธอให้คุณได้ คุณจะปล่อยฉันไปไหม” นี่คือจุดประสงค์แท้จริงที่ซูซีรับสายซาโต้

ปล่อยให้ซาโต้ก่อกวนเธอต่อไปคงไม่ได้ และอีกอย่างเธอเกลียดหลินจือเข้ากระดูกดำ ถ้าส่งหลินจือให้ซาโต้ ให้เขาย่ำยีหล่อน ทำให้เธอหลุดพ้น และยังได้ทำลายหลินจือไปพร้อมๆ กัน

คราวก่อนที่เธอยุยงให้พินอินหามาทำร้ายหลินจือแต่ไม่สำเร็จ ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมแพ้

ซาโต้ดูสนอกสนใจขึ้นมา “โอ้ มีผู้หญิงที่ดีกว่าคุณในเมืองเจสเวิร์ดนี้ด้วยเหรอ”

“นั่นมันแน่อยู่แล้ว” ซูซีกัดฟันพูดคำนี้ออกมา เพราะเท่ากับเธอยอมรับว่าหลินจือดีกว่าเธอ

ซาโต้ถามต่อ “งั้นใครละครับที่ทำให้ซูซีคนสวยต้องยอมแพ้”

ซูซีชี้แจง “เรื่องนี้ต้องเป็นความลับก่อนนะคะ เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะให้เธออาบน้ำเตรียมตัวไปรอคุณบนเตียง แล้วคุณค่อยสอบตรวจสินค้าตอนนั้นยังทันนะคะ”

วันนี้เทาเท่เพิ่งสารภาพกับหลินจือไป ถ้าซาโต้รู้ว่าคนที่กำลังพูดถึงคือเธอ แล้วเกิดไม่กล้าขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ

ซูซียังมีอีกแผนการในใจ นั้นก็คือ ถ้าซาโต้แตะต้องหลินจือเมื่อไหร่ ก็เท่ากับว่าเป็นปฏิปักษ์กับเทาเท่ เมื่อถึงตอนนั้นเธอจะยืมมือเทาเท่กำจัดซาโต้ เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องถูกเขาตามรังควานอีกต่อไป

ซาโต้ระแวดระวัง “ซูซีคนสวย คุณไม่ได้กำลังทำผมลำบากอยู่ใช่ไหม”

ซูซียกยิ้ม “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ ฉันทำธุรกิจกับคุณอย่างจริงใจนะ”

ใบหน้าของซูซียิ้มแย้มแต่ในใจกลับคิดการใหญ่อย่างเงียบๆ เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะให้ยาชนิดรุนแรงกับซาโต้ ตอนยาออกฤทธิ์แม้เขาจะจำหลินจือได้ แต่ก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

เมื่อซาโต้แตะต้องหลินจือไปแล้ว เทาเท่และตระกูลแม็กซิมัสต้องไม่ไว้ชีวิตซาโต้แน่ๆ

“โอเค” ซาโต้ตอบกลับอย่างมีความสุข “ถ้าคุณมีความจริงใจ งั้นผมจะรอให้คุณพาคนมาส่งให้ผมละกัน”

ทั้งสองจบบทสนทนากันเพียงเท่านี้

ซูซีโทรหาเพื่อนของเธอในทันที และขอให้เขาซื้อยาปลุกเซ็กชนิดรุนแรงในตลาดมืดให้ เมื่อถึงตอนนั้นเธอจะวางยาทั้งสองคน ทั้งซาโต้และหลินจือ

โดยเฉพาะหลินจือ แม้ว่าหล่อนจะเป็นหม้ายพรหมจรรย์อะไรก็ตาม หล่อนก็จะต้องยอมจำนนต่อฤทธิ์ยา

เพราะเทาเท่เปิดเผยความสัมพันธ์ในอดีตของพวกเขาโดยที่ไม่ถามความคิดเห็นเธอก่อนสักคำ ดังนั้นช่วงนี้หลินจือจึงทำตัวห่างเหินจากเทาเท่

ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย เพราะเทาเท่มีรหัสบ้านเข้าเธอ เขาจึงมาหาเธอได้ทุกที่ทุกเวลา พูดคุยตีสนิทกับเธอในทุกๆ เรื่อง หลินจือทำได้แค่ไม่สนใจ ไม่คุยกับเขาเพียงเท่านั้น

เทาเท่ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าอย่างไรเขาก็หน้าด้านไปหาเธอทุกวัน เวลาเธอพิมพ์งานเขาก็จะยกคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปนั่งทำข้างๆ ตอนเธอไปชงกาแฟเขาก็คอยไปอยู่ใกล้ๆ ตอนเธออ่านหนังสือเขาก็ไปทำงานอยู่ข้างๆ เธอ

เขาไม่ได้รีบร้อนให้เธอหันมาสนใจ เพียงแค่ได้อยู่ข้างๆ เธอ เขาก็พอใจแล้ว

เทาเท่รู้ว่าตัวเองทำผิด เพราะเขาเปิดเผยความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างพวกเราไปแล้ว และใช้โอกาสพูดสารภาพไปแบบนั้น ท้ายที่สุดอย่างไรเขาก็คิดถี่ถ้วนดีแล้ว ดังนั้นจึงไม่กล้าบีบบังคับเธอมาให้สนใจ

แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเขาหมดหนทาง วันนั้นตอนเที่ยงเขาชวนเธอทำอาหารด้วยกัน โดยบอกว่าตัวเองเพิ่งเรียนทำปลามาจากพ่อครัว และหลินจือก็ขี้เกียจเกินกว่าจะพูดอะไรกับเขา จึงปล่อยให้เขาทำไป

หลังจากนั้นไม่นาน เขาแหกปากร้องตะโกนด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดปางตาย หลินจือรีบทิ้งคอมพิวเตอร์ปรี่ไปหาเขาในห้องครัวทันที

ปรากฏว่าตอนที่เขาเอาปลาลงกระทะ แล้วน้ำมันกระเด็นลวกหลังมือของเขาจนเกิดเป็นแผลพุพอง

หลินจือ “…”

นี่เหรอที่บอกว่าทำเมนูปลาได้?

แม้แต่คุมอุณหภูมิน้ำมันยังไม่ได้ แล้วบอกว่าทำอาหารเป็น

และเธอยังไม่รู้ว่า สิ่งนี้เป็นแค่กลยุทธ์ทุกข์กายที่เทาเท่ใช้หลอกล้อเธอเพียงเท่านั้น