บทที่ 279 แค่มือข้างเดียวก็ทำได

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

เธอรีบเข้าไปปิดเตาไฟ แล้วจับมือเทาเท่กดไปใต้ก๊อกน้ำ “รีบล้างน้ำเย็นซะสิ”

เทาเท่อยู่เฉยๆ ปล่อยให้เธอจัดการ พลางพูดกับเธออนึ่งว่าหงุดหงิดเสียเต็มประดา “ผมขอโทษ ผมมันไร้ประโยชน์ ขนาดทำอาหารยังไม่ได้เรื่อง”

ไม่รู้ทำไม เวลาเทาเท่เป็นแบบนี้หลินจือรู้สึกว่าเขาเหมือนกับ… สุนัขตัวเมีย แม้รู้ว่าเขาแกล้งทำ แต่ก็ไร้ซึ่งวิธีเมินเฉยต่อเขา จึงทำได้เพียงพูดปลอบ “ไม่เป็นไรหรอก ตอนที่ฉันเพิ่งเรียนทำอาหารก็เป็นแบบนี้แหละ”

เทาเท่ถามเสียงต่ำแล้วโอบเอวบางเธอไว้ด้วยมือข้างที่ไม่เจ็บ “คุณก็เคยโดนลวกมาก่อนเหรอ”

เขาจำได้ เธอเคยบอกว่าทำอาหารเป็นตั้งแต่ยังเด็กๆ เพราะภรรยาของชาร์ลีซึ่งเป็นแม่บุญธรรมของเขาสุขภาพร่างกายไม่ค่อยดี ชาร์ลีและลูกก็พึ่งพาอาศัยอะไรไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงต้องเป็นคนคอยดูแล

หลินจือเม้มริมฝีปากยิ้มอย่างเขินๆ “ก็ไม่หรอก”

ที่เธอพูดไปแบบนั้นเพื่อปลอบใจเขา ไม่ให้เขาคิดว่าตัวเองซุ่มซ่ามเงอะงะ เขาคงไม่ได้คิดว่า ทุกคนที่ทำอาหารเป็นจะไม่มีพรสวรรค์เหมือนเขาหรอกนะ

ตอนเธอทำอาหารครั้งแรกก็ไม่มีเหตุการณ์โดนน้ำมันลวกแบบนี้

คิดไม่ถึงว่าชายวัยสามสิบกว่าจะโดนน้ำมันลวก เธอไม่รู้จะพูดอย่างไรกับเขาจริงๆ

ผลลัพธ์ เทาเท่ลงทุนแก้ไขความเฉยเมยของหลินจือที่มีต่อเขาด้วยการโดนน้ำมันลวก จากนั้นเธอก็ทาครีมบริเวณที่โดนลวกให้เขา พร้อมยังบอกอีกว่าอย่าให้โดนน้ำเด็ดขาด

และเทาเท่ยังได้รับประทานอาหารฝีมือหลินจืออีกด้วย รู้ว่าตั้งแต่ที่หย่ากับหลินจือไป นอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เธอเคยทำให้สองสามครั้ง เขายังไม่ได้รับประทานอาหารฝีมือหลินจืออีกเลย

เทาเท่รับประทานอาหารรสชาติแสนอร่อยอันคุ้นเคย และแอบคิดว่าการโดนน้ำมันลวกของเขาช่างคุ้มค่าเสียจริง

ทว่า ในไม่ช้าของคืนนั้นเขาก็ต้องเสียใจ

เทาเท่นับคำนวณวันตกไข่ของหลินจือ เพื่อที่จะให้พวกเขาได้มีค่ำคืนอันแสนเร่าร้อน

ตกเย็นทันทีที่หลินจืออาบน้ำเสร็จ ก็ถูกเทาเท่อุ้มขึ้นมาบนเตียง

หลินจือรู้ว่าเขาจะทำอะไร เธอต่อต้านพลางยกมือขึ้นพลักเขา “ไม่ได้ๆ”

เทาเท่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทำไมล่ะ ประจำเดือนคุณยังไม่หมดเหรอ”

“หมดแล้ว แต่มือคุณโดนลวกอยู่นี่” หลินจือพูดอย่างเคร่งขรึม

หลินจือรู้ว่าเทาเท่ใช้กลยุทธ์ทุกข์กายเพื่อทำลายสงครามเย็นระหว่างพวกเขา แต่ตอนนี้เธอไม่ได้ใสซื่อเหมือนเมื่อก่อน แม้รู้ว่าเขาต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหน แต่ก็ยังจงใจได้ใช้มือข้างที่โดนลวกของเขาปิดโอกาสเขาซะ ทำให้เขาอยากกินแต่กินไม่ได้

เทาเท่ร้อนรน “มือผมเจ็บแค่นิดเดียวเอง ไม่ได้มีผลกระทบอะไร”

เขาแค่มีตุ่มพองเล็กๆ ที่มือก็เท่านั้น จะมีผลต่อกิจกรรมเข้าจังหวะระหว่างเขากับเธอได้อย่างไร?

จะว่าไปแล้ว จากด้วยความแข็งแรงของร่างกาย เขาทำได้ด้วยมือข้างเดียวด้วยซ้ำ

“แบบนั้นก็ไม่ได้ ถ้าเกิดมันฉีกขึ้นมาจะทำยังไง” พูดจบหลินจือก็ผลักเขาออก แล้วลุกขึ้น เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าเขาเบาๆ เพื่อปลอบโยน “เด็กดี อดทนหน่อยนะ รอให้มือคุณหายดีก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที”

จากนั้นเธอก็ลุกขึ้น แล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ล็อกตัวเองไว้ในห้องนอนแขกอีกครั้ง

เทาเท่กัดฟันกรอดแล้วทิ้งตัวลงเตียงใหญ่ด้วยความโมโห

เขาจะผ่านค่ำคืนที่แสนยาวนาน และทรมานนี้ไปได้อย่างไร

เขาเดินไปหน้าห้องของหลินจือด้วยความคับแค้นใจ “ถ้าคุณกดขี่ห่มเหงผมจนเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาละก็ เชื่อเถอะว่าผมจะจับคุณไปแต่งงานใหม่ที่กระทรวงฝ่ายกิจการพลเรือนทันที คุณต้องรับผิดชอบ!”

เสียงเอื่อยเฉื่อยของหลินจือดังออกมาจากห้องนอนแขก “คุณอย่ามาหาเรื่อง ผู้ชายบางคนไม่มีผู้หญิงก็อยู่ได้ไม่ใช่เหรอ จะว่าไปแล้ว พวกผู้ชายก็ยังมีหญิงสาวทั้งห้านิ้วของตัวเองนี่?”

คำพูดของเธอกระตุกต่อมเดือดของเทาเท่ทำให้ให้เขาแทบคลั่ง แต่ไม่ว่าอย่างไรหากเธอไม่เปิดประตู เขาก็เข้าไปไม่ได้ จึงทำได้เพียงกลับห้องนอนตัวเองด้วยความโกรธเคือง

เมื่ออยู่คนเดียวในห้อง สิ่งแรกที่เขาทำคือ กล่าวถึงไวท์ในกลุ่มสี่คน แล้วถามไปว่า “มีวิธีไหนบ้างที่ทำให้แผลโดนน้ำมันลวกหายทันที”

ไวท์ตอบกลับมาสั้นๆ “ไม่มี”

แต่ไวท์ถามเขากลับ “ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่านายตั้งใจจะไม่ทายาหรอกเหรอ เพราะอยากให้แผลหายช้าๆ ทำไมถึงเปลี่ยนใจอยากให้แผลหายเร็วๆ ซะล่ะ”

เทาเท่พูดไม่ออก เพราะนี่คือหลุมที่เขาขุดฝังตัวเอง เพื่อให้หลินจือเป็นห่วง เขาจึงจงใจไม่ทายาแผลจะได้หายช้าๆ ใครจะคิดว่าหลินจือจะใช้เหตุผลนี้ปฏิเสธการร่วมรักกับเขา…..

โซเมนตอบกลับราวกับมองเห็นอย่างทะลุปรุโปร่ง “นี่เขาเรียกว่า ฉลาดเกินไปจนเสียรู้”

เทาเท่รู้ว่าโซเมนไม่พูดอะไรที่เป็นประโยชน์ เขาจึงวางโทรศัพท์ลงและเลิกสนใจมัน

เขาเข้าไปอาบน้ำอีกรอบเพื่อดับร้อน เมื่อกลับออกมาเห็นข้อความจากในกลุ่มที่พวกเขาคุยกัน99+ ข้อความ เทาเท่คิดว่าคงพูดคุยเรื่องสำคัญอะไรเป็นแน่ แต่เมื่อกดเข้าไปอ่าน ใครจะรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาคุยกันก็คือ “ท่าที่ผู้ชายใช้ได้ขณะที่มือได้รับบาดเจ็บ”

ภาวะจิตใจเทาเท่ยิ่งหดหู่ลง

ตอนนี้ที่เขาขาดแคลนคือท่ายากเหล่านี้งั้นเหรอ

เขาต้องการผู้หญิง!

และคนๆ นั้นก็คือหลินจือ!

ตลอดค่ำคืนที่ไม่รู้ว่าฝ่าฟันมาได้อย่างไร หลังจากตื่นนอนสภาพจิตใจของเทาเท่ไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก

ความหิวกระหายอยากแต่ทำไม่ได้แบบนี้ ทำให้ผู้ชายคลั่งได้จริงๆ

แต่แม่สาวน้อยในห้องนอนแขกกลับพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มร่า “อรุณสวัสดิ์”

เทาเท่เคียดแค้น จึงดึงหลินจือเข้ามาในอ้อมกอดแล้วกดจูบลงที่ริมฝีปากนุ่มๆ นั้น

จูบเสร็จ หลินจือก็พลักเขาออก “ฉันจะออกไปซื้อของที่ซูปเปอร์มาร์เก็ต พรุ่งนี้โนอาห์จะมาไม่ใช่เหรอ ฉันว่าจะอยู่บ้านต้อนรับเขาสักหน่อย”

หลินจืออยากชวนโนอาห์ไปรับประทานอาหารข้างนอก แต่เวลานี้เทาเท่กลับเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้ว ถ้าเธอและโนอาห์ถูกถ่ายรูปตอนไปรับประทานอาหารด้วยกัน ต้องมีเรื่องให้เป็นประเด็นร้อนอีกแน่นอน

อันที่จริงมันก็ไม่เหมาะนักที่โนอาห์จะมาหาเธอที่เมืองเจสเวิร์ด แต่เธอไม่รู้จะพูดกับโนอาห์อย่างไร ทุกคนอยู่ในช่วงลาพักร้อนประจำปี ถ้าขอให้คนอื่นมาด้วยจะเป็นการเห็นแก่ตัวไปหน่อยไหม

ดังนั้นหลินจือจึงพยายามหลีกเลี่ยงการถูกถ่ายรูปกับโนอาห์เมื่ออยู่ข้างนอก ทว่าเมื่อเทาเท่รู้ว่าหลินจือจะเลี้ยงต้อนรับโนอาร์ที่บ้าน เขาก็กังวลขึ้นมาทันที “ทำไมต้องต้อนรับที่บ้าน”

ไม่ง่ายเลยกว่าที่เขาจะได้อิ่มเอมกับอาหารแสนอร่อยฝีมือหลินจือเพราะมือได้รับบาดเจ็บ แม้เป็นเพียงเมนูธรรมดาๆ แต่ถ้าพูดถึงการเลี้ยงต้อนรับโนอาห์ หลินจือต้องทำอาหารสุดพิเศษมาเสิร์ฟอย่างแน่นอน

แค่คิดเทาเท่ก็หวงแล้ว เขาไม่ยอมให้หลินจือทำอย่างนั้นเด็ดขาด

หลินจือจ้องเขาเคืองๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณทำให้ฉันขึ้นอันดับการค้นหายอดนิยม คุณคิดว่าฉันอยากชวนแขกมาที่บ้านงั้นเหรอ”

เทาเท่แทบสำลัก เป็นความผิดของเขางั้นเหรอ

เทาเท่รีบขวางเธอทันทีและกล่าวว่า “คุณชวนเขาไปทานที่ร้านของโซเมนก็ได้ ผมจะแจ้งมันไว้ล่วงหน้าเอง ที่นั่นระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมาก โซเมนดูแลพวกเราได้ดีแน่นอน”

หลินจือถามต่อ “ก็ทานอยู่ที่นั่นทั้งวันไม่ได้อยู่ดี?”

เทาเท่ตอบไปอย่างไม่คิด “ทำไมจะอยู่ทั้งวันไม่ได้? ร้านของโซเมนมีเพื่อให้บริการพวกเรา”

“นั่นเป็นบริการสำหรับพวกคุณเท่านั้น” พูดจบหลินจือก็เดินไปเตรียมของ เพื่อออกไปข้างนอก

เธอกับเทาเท่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันขนาดนั้น จึงไม่อยากรบกวนเพื่อนของเขา