บทที่ 632 : โลกกลม!
หลังจากที่เซียนหยกพูดคุยเรื่องธุรกิจเรียบร้อยแล้ว หลิงหยุนก็มีธุระที่จะพูดกับเขาเช่นกัน และธุระของหลิงหยุนก็คงจะไม่ใช่เรื่องอื่นนอกจาก.. หินมังกรเขียว!
แต่เรื่องนี้ไม่ควรให้คนนอกได้ยิน หลิงหยุนจึงใช้สายตาสำรวจไปรอบๆ จากนั้นจึงเอ่ยปากว่า
“เซียนหยก.. หากคุณไม่มีธุระอะไรแล้ว ผมมีธุระที่ต้องการคุยกับคุณตามลำพัง!”
ทันทีที่ได้ยินว่าหลิงหยุนมีเรื่องต้องคุยกับเขาสองต่อสอง เซียนหยกก็รีบลุกขึ้นอย่างไม่ลังเลทันที และขอตัวกับทุกคน จากนั้นจึงเดินนำหลิงหยุนเข้าไปในห้องหนังสือส่วนตัวของเขา
“เชิญน้องชายพูดธุระมาได้เลย!” ทันทีที่ปิดประตูห้อง.. เซียนหยกก็รีบร้องบอกหลิงหยุนทันที
หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยแล้วจึงพูดขึ้นว่า “ท่านเซียนหยก.. เรื่องหินมังกรเขียวนั้น คืนนี้ตอนตีสามผมจะมาขนย้ายกลับไปด้วยตัวเอง ขอให้คุณช่วยบอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปิดทางให้ด้วย ผมใช้เวลาขนย้ายไม่นานนัก..”
เซียนหยกถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย!
จะมาขนย้ายภายในคืนนี้ตอนตีสาม และใช้เวลาขนย้ายไม่นานงั้นหรือ?
หินมังกรเขียวสูงถึงแปดเมตร และฐานกว้างถึงสามเมตร น้ำหนักคงต้องหลายตัน และตอนที่เขาขนย้ายมาไว้ที่หออวี้ติงเซวียนนั้น เขาก็ยังต้องใช้เครนยกถึงสองตัว และใช้เวลาเคลื่อนย้ายลงจากรถบรรทุกถึงสองชั่วโมงทีเดียวกว่าจะยกลงได้สำเร็จ แต่หลิงหยุนกลับบอกว่าตัวเขาเองใช้เวลาเคลื่อนย้ายเพียงแค่เดี๋ยวเดียวงั้นหรือ?!
“น้องชายรีบร้อนขนาดนี้.. หรือเป็นเพราะกลัวว่าฉันจะเปลี่ยนใจ? ฉันพูดไปแล้วว่าจะยกหินมังกรเขียวให้กับเธอ และได้วางแผนเรียบร้อยแล้วว่าพรุ่งนี้จะให้คนจัดส่งหินมังกรเขียวก้อนนี้ไปที่บ้านของเธอในตอนเช้า..”
หลังจากเซียนหยกพูดจบ หลิงหยุนก็รีบส่ายหน้าพร้อมกับตอบไปว่า “เซียนหยกอย่าได้เข้าใจผิด.. ผมไม่ได้กลัวว่าคุณจะเปลี่ยนใจเลย แต่เพราะผมไม่ต้องการรบกวนคุณต่างหาก นี่เป็นเรื่องของผม ผมควรจะจัดการด้วยตัวเอง!”
เซียนหยกได้แต่พยักหน้าพร้อมกับตอบไปว่า
“ถ้าอย่างนั้น.. ก็เอาที่เธอสะดวกก็แล้วกัน!”
“ผมต้องขอขอบคุณเถ้าแก่อวี้อีกครั้งนะครับ!”
หลิงหยุนดีใจมาก และไม่รีรอที่จะตอบแทนเซียนหยกทันที “เถ้าแก่อวี้ครับ.. ผมจะขายหยกจักรพรรดิให้กับคุณในราคาต่ำกว่าท้องตลาดสิบเปอร์เซ็นต์ และคุณสามารถนำหยกไปขายก่อนได้ ขายได้เมื่อไหร่ก็ค่อยมาเคลียร์เงินกับผม!”
“อะไรนะ?!”
เซียนหยกได้ฟังข้อเสนอของหลิงหยุนก็แทบทรุดลงไปกองกับพื้นทันที!
ลดสิบเปอร์เซ็นต์จากราคาตลาดเชียวหรือ? นี่เท่ากับว่าหากเขาซื้อหยกจักรพรรดิกับหลิงหยุนในราคาตลาดหนึ่งพันล้าน เขาจะได้ส่วนลดถึงหนึ่งร้อยล้าน! อีกทั้งยังให้เขานำหยกไปขายก่อนและจ่ายทีหลังได้!
“น้องชาย.. นี่เธอ..”
เซียนหยกถึงกับตกใจจนแทบช็อค เวลานี้เขาดีใจจนบอกไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหลิงหยุนจึงต้องลดให้เขามากมายขนาดนี้ นี่เท่ากับว่าหลิงหยุนให้เขาเป็นดีลเลอร์รายใหญ่ในการขายหยกจักรพรรดิ!
ยิ่งไปกว่านั้น.. เซียนหยกยังสามารถฉกฉวยประโยชน์จากการซื้อหยกจักรพรรดิกับหลิงหยุนได้ในราคาต่ำ และกว้านซื้อหยกที่พ่อค้าเจ้าอื่นทำออกมาขายเพื่อจะได้เป็นผู้ผูกขาดการขายแต่เพียงผู้เดียว และสามารถทำกำไรได้มากเท่าที่ต้องการ!
แต่หลิงหยุนนั้นรู้ดีว่าเซียนหยกเป็นนักธุรกิจที่ซื่อสัตย์ และรักษาคำพูดของตนเอง เขารู้ดีว่าเซียนหยกจะไม่มีทางทำลายดุลตลาดเพียงเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
“ตกลงตามนี้นะครับ!” หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับปิดการเจรจาทันที
หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่งหลิงหยุนก็ถามขึ้นว่า “ตอนนี้คุณกำลังทรมานกับโรคไขข้ออยู่ใช่มั๊ยครับ? หากปล่อยไปเรื่อยๆ ผมเกรงว่าจะไม่ดีต่อสุขภาพของคุณอย่างมาก!”
เซียนหยกถึงกับร้องถามออกมาอย่างตื่นเต้นตกใจ “ใช่ๆ.. นี่เธอรู้ได้ยังไง?”
หลิงหยุนไม่ตอบ เขาจัดการเรียกเข็มทองเก้าเล่มออกมาพร้อมกับพูดว่า “ผมพอมีความรู้เรื่องการแพทย์อยู่บ้างเล็กน้อย หากคุณเชื่อมั่นในตัวผม ขอให้ผมได้ฝังเข็มทำการรักษาให้กับคุณจะได้มั๊ยครับ? แล้วคอยดูว่าผลการรักษาจะเป็นยังไง?”
เซียนหยกได้แต่พยักหน้า และจ้องมองหลิงหยุนด้วยความงุนงง..
หลิงหยุนจัดการใช้เก้าเข็มปลุกชีพฝังลงไปตามร่างกายของเซียนหยก และจัดการถ่ายเทพลังชีวิตในร่างกายของตนเองลงไปในร่างกายของเซียนหยก เพียงแค่ไม่ถึงนาที อาการเจ็บป่วยในร่างกายของเซียนหยกก็ถูกกำจัดออกไปทันที
หลิงหยุนดึงเข็มออกพร้อมกับถามยิ้มๆ “ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง?”
เซียนหยกลุกขึ้นยืนงงๆ เขาขยับแขนขา และบิดข้อต่อต่างๆตามร่างกาย จากนั้นจึงร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
“โอ้.. นี่ฉันไม่รู้สึกเจ็บอีกเลยแม้แต่นิดเดียว! ฉันหายแล้วจริงๆเหรอ?!”
“ต่อไปถ้าคุณรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว ก็ไปหาผมได้ตลอดเวลา! ตอนนี้ผมต้องออกไปจากห้องนี้ก่อนแล้ว เดี๋ยวคนที่อยู่ข้างนอกจะกระวนกระวายใจ!”
พูดจบหลิงหยุนก็หันหลังเตรียมตัวเดินออกจากห้องหนังสือทันที!
“ขอบใจเธอมากน้องชาย!”
เซียนหยกเห็นหลิงหยุนกำลังจะเดินออกจากห้องไป จึงรีบทุรดตัวลงกับพื้น และทำการคำนับหลิงหยุนทันที
หลิงหยุนรีบหันกับไปพยุงร่างของเซียนหยกลุกขึ้นพร้อมกับพูดว่า “ลุกขึ้นเถิดท่านเซียนหยก! อย่าทำแบบนี้เลย พวกเรามาร่วมมือกันด้วยความจริงใจ และสร้างอนาคตที่สดใสร่วมกันจะดีกว่า..”
“ถ้าเช่นนั้น.. จากนี้ไปฉันเซียนหยกก็จะขอรับใช้น้องชาย!” อวี้เฉิงจินรีบร้องบอกหลิงหยุนทันที เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะมองอะไรไม่ออก
หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับตอบไปว่า “ผมไม่กล้ารับไว้หรอกครับท่านเซียนหยก! เอาเป็นว่าพวกเรามาสร้างอนาคตที่ดีร่วมกันจะดีกว่า อย่าเรียกว่ารับใช้เลย!”
“น้องชายของผมสองคนที่อยู่ด้านนอกนั้น คนหนึ่งชื่อถังเมิ่ง – เป็นลูกชายของผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความมั่นคงคนปัจจุบัน ส่วนอีกคนชื่อว่าตี้เสี่ยวอู๋ ตอนนี้เป็นหัวหน้าของแก๊งมังกรเขียว หากคุณมีปัญหาอะไร ก็สามารถขอความช่วยเหลือจากพวกเขาทั้งคู่ได้เลย ถ้าพวกเขาสองคนจัดการไม่ได้ คุณมาหาผมโดยตรงได้เลย!”
พูดจบหลิงหยุนก็ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ จากนั้นจึงหันไปเปิดประตู และเดินออกจากห้องหนังสือไปทันที ปล่อยให้เซียนหยกยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง
“เด็กหนุ่มพวกนั้นเป็นคนที่ซ่งเจิ้งหยางกับมู่หลงเวิ่นฉีพามานี่นา แล้วทำไมคนหนึ่งถึงได้กลายเป็นลูกของผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความมั่นคง ส่วนอีกคนก็เป็นหัวหน้าแก๊งมังกรเขียวไปได้? หนำซ้ำทั้งคู่ยังเป็นพี่น้องกับหลิงหยุนด้วย!”
“ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ! นอกจากเป็นนักพนันหินที่เก่งกาจ ยังสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้หายทันทีอีกด้วย คนแบบนี้ไม่ได้พบเห็นกันง่ายๆ!”
อวี้เฉิงจินได้แต่พึมพำเบาๆกับตัวเองก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ และรีบเดินตามหลิงหยุนออกไป
หลังจากที่ออกจากห้องไปแล้ว หลิงหยุนก็เดินไปทักทายพ่อค้าจิวเวลรี่ และเดินออกไปที่ลานด้านนอก
เวลานี้หลิงหยุนไม่ต่างจากเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยของผู้คนที่นี่ ทั้งเซียนหยก เถ้าแก่ฮั่น และเหล่าพ่อค้าต่างก็เดินตามหลิงหยุนออกไปที่ลาน
และเวลานี้.. ท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มมากแล้ว
รถเข็นทั้งสามคันที่บรรจุทั้งหินพลังชีวิตและหินดิบนั้น หลิงหยุนได้สั่งให้ตี้เสี่ยวอู๋นำกลับไปไว้ที่บ้านเลขที่-1 แล้ว
ส่วนหยกจักรพรรดิก้อนโตนั้น และหินห้าก้อนขนาดใหญ่นั้นก็ถูกเคลื่อนย้ายขึ้นรถบรรทุกขนาดใหญ่ไปแล้ว โดยมีถังเมิ่งควบคุมดูแลการขนย้ายด้วยตัวเอง
หินทั้งสองก้อนนี้มีมูลค่ามหาศาล ถังเมิ่งจึงไม่ยอมปล่อยให้ละสายตาไปได้อย่างแน่นอน
“ขับระวังๆล่ะ! ไปถึงแล้วก็ยังไม่ต้องเอาหินลงจากรถ จอดไว้แล้วก็เฝ้าเอาไว้ให้ดี”
ตี้เสี่ยวอู๋เกรงว่าจะมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น ก็เลยโทรเรียกคนของแก๊งมังกรเขียวอีกราวยี่สิบคนให้มาทำการอารักขารถบรรทุกไปด้วยอีกที
รถบรรทุกคันใหญ่แล่นออกจากลานด้านหลังของหออวี้ติงเซวียนไป หลิงหยุน หลงหวู่ และคนอื่นๆต่างก็ออกมาทันเห็นตี้เสี่ยวอู๋กับถังเมิ่งออกไปพร้อมกับรถบบรรทุกคันใหญ่ และรอจนรถบรรทุกแล่นลับสายตาไปท่ามกลางความมืด
“ยินดีด้วย..”
ทุกคนที่อยู่ในลานตอนนี้ ต่างก็เดินเข้าไปหาหลิงหยุนเพื่อแสดงความยินดีกับเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา
“ท่านปู่มู่หลง ลุงซ่ง และทุกๆคน ผมต้องขอตัวกลับก่อนแล้ว พรุ่งนี้ยังมีธุระต้องไปจัดการอีกมากมาย..”
หลิงหยุนขอตัวทุกคนกลับ และเขาจะกลับมาที่นี่อีกครั้งในตอนตีสาม..
“หลิงหยุน.. ทำไมถึงได้รีบร้อนกลับนักล่ะ อยู่ทานข้าวเย็นกับพวกเราก่อนสิ พวกเราจองโรงแรมไว้แล้ว!”
ซ่งเจิ้งหยางเห็นหลิงหยุนเตรียมตัวจะกลับ ก็รู้สึกกระวนกระวายใจเพราะยังมีคำพูดมากมายต้องการจะพูดกับเขา!
ในเวลานั้นเอง พนักงานของหออวี้ติงเซียนก็วิ่งตรงเข้ามายังลานด้านหลัง พร้อมกับร้องบอกเซียนหยก
“เถ้าแก่คะ.. คุณชายหลงที่มาหาเถ้าแก่เมื่อสองวันที่แล้วกลับมาอีกแล้วค่ะ เขาต้องการพบเถ้าแก่..”
อวี้เฉิงจินได้ยินก็ถึงกับขมวดคิ้ว และรีบสั่งไปว่า “ไปบอกเขาว่าฉันไม่อยู่”
“เซียนหยก.. ทำไมถึงต้องหลบหน้าคุณชายท่านนี้ด้วยล่ะ!?”
เพียงแค่หลิงหยุนได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าคุณชายที่พนักงานมารายงานนั้น ที่แท้ก็คือหลงเทียนเจียวนั่นเอง!
โลกช่างกลมเสียจริงๆ!
หลิงหยุนได้แต่นึกสงสัยว่า การพนันหินก็สิ้นสุดลงไปตั้งนานแล้ว เหตุใดหลงเทียนเจียวจึงต้องมาหาเซียนหยกในเวลามืดค่ำแบบนี้ด้วย?
ระหว่างที่หลิงหยุนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น หลงเทียนเจียวก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคน และสายตาของหลงเทียนเจียวก็จับจ้องอยู่ที่หลิงหยุนกับหลงหวู่ ส่วนสายตาของหลิงหยุนนั้นจับจ้องอยู่ที่ชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามาพร้อมกับหลงเทียนเจียว
เพียงแค่ประเดี๋ยวเดียวท่าทางของหลงเทียนเจียวก็กลับเป็นปกติ เขาหันไปมองชายวัยกลางคนที่มาด้วย แล้วจึงเดินเข้าไปหาหลิงหยุนด้วยท่วงท่าสง่าผ่าเผย
“โอ้โห.. คิดไม่ถึงว่าจะเจอน้องหลิงที่นี่ด้วย ช่างบังเอิญจริงๆ!”
ครั้งนี้หลิงหยุนไม่สนใจหลงเทียนเจียวแม้แต่น้อย สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ชายวัยกลางคนซึ่งยืนอยู่ข้างหลงเทียนเจียว ชายวัยกลางคนผู้นี้มีแววตาที่ดุร้ายและดูลึกลับ แม้แต่หลิหยุนก็ยังไม่สามารถมองเห็นระดับขั้นกำลังภายในของเขา
หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อย เขาจ้องมองหลงเทียนเจียวที่เหลือบมองหลงหวู่ และกำลังรอดูว่าหลงเทียนเจียวจะมาที่หออวี้ติงเซวียนด้วยเหตุผลใด?
“น่าเสียดายที่การพนันหินจบลงไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าเจ้าก็จะมาที่นี่ด้วย..”
หลงเทียนเจียวยิ้มให้หลิงหยุนพร้อมกับตอบไปว่า “นี่ลุงของฉันเองแซ่เฉิง เขาต้องการมาคุยธุระกับเซียนหยก!”
พูดจบ.. หลงเทียนเจียวก็จ้องมองหลิงหยุนและหลงหวู่อีกครั้ง แล้วจึงหันไปพูดกับอวี้เฉิงจินอย่างเย่อหยิ่งจองหอง
“เซียนหยก.. สบายดีสินะ? ตอบมา.. หินมังกรเขียวก้อนนั้น เจ้าจะขายหรือไม่ขาย?”
น้ำเสียงของหลงเทียนเจียวเต็มไปด้วยความยะโสโอหังและอหังการอย่างมาก!