บทที่ 281 ช่วยเหลือตัวเอง

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

หลินจือรู้ว่าตัวเองถูกวางยาแล้ว ปฏิกิริยาหลังจากที่เธอดื่มน้ำผลไม้ของชาร์ลีสองพ่อลูกในตอนนั้นก็เป็นแบบนี้

คิดได้เช่นนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะขอบตาแดงด้วยความหวาดกลัว ครั้งนั้นเธอถูกส่งไปที่เตียงของเทาเท่ แล้วคราวนี้ล่ะ?

หลินจือไม่กล้าคิดต่อ เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามเธอก็รับไม่ได้

ในตอนนั้นถ้าคนๆนั้นไม่ใช่เทาเท่ เธออาจจะตายไปนานแล้ว

ในบางครั้งผู้หญิงก็โง่แบบนี้ ตราบใดที่เป็นผู้ชายในใจของตน ไม่ว่ายังไงก็ได้หมด

แต่ถ้าไม่ใช่ เธอก็สามารถละทิ้งชีวิตได้เช่นกัน

หากครั้งนี้เธอถูกขืนใจ เธอก็คงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ แต่เมื่อนึกได้ว่าเธอเพิ่งจะจำจอร์แดนพ่อของเธอได้ และยังมีเหล่าคนตระกูลแม็กซิมัสที่แสนอบอุ่นอีก น้ำตาของหลินจือก็ไหลลงมาในทันที

เธอตัดใจไม่ลง

ทำไมพระเจ้าถึงทำกับเธอเช่นนี้?

ไม่ง่ายเลยที่กว่าเธอจะได้รับความรักจากพ่อ กว่าจะมีครอบครัวใหญ่ที่แสนอบอุ่น พระเจ้าพรากทั้งหมดนี้ไปจากเธอได้ลงคอได้อย่างไร?

บนตู้ข้างเตียงมีแก้ววางอยู่ เห็นได้ชัดว่ามีคนใช้แก้วนี้ป้อนน้ำกับยาให้เธอ หลินจือใช้แรงทั้งหมดที่มียกแขนขึ้น ปัดแก้วลงกับพื้นอย่างยากลำบาก

แก้วตกลงพื้นแตกเป็นเสี่ยงๆ หลินจือสูดหายใจเข้าลึกๆสองสามครั้ง แล้วพยายามใช้แรงทั้งหมดพลิกตัวกลิ้งลงจากเตียง เศษแก้วปักใส่แขนและหลังของเธอ ทำให้เธอปวดจนเหงื่อไหล แต่ก็ทำให้เธอได้สติอยู่บ้าง

ภายใต้ความเจ็บปวดนี้ เธอพยายามเคลื่อนตัวไปทางกระเป๋าตัวเองอย่างยากลำบาก ไม่ว่าเธอจะช่วยเหลือตัวเองได้สำเร็จหรือไม่ ในตอนนี้เธอก็ต้องทำแบบนี้

ที่ระเบียงด้านนอกมีเสียงคุยกันเล็ดลอดเข้ามา หลินจือจำต้องกัดฟันและเร่งความเร็วเพื่อปีนไป

ยาในร่างกายเธอออกฤทธิ์แรงขึ้นเรื่อยๆ เธอออกแรงกัดหลังมือตัวเองอีกครั้ง พยายามปลุกให้ตัวเองตื่น

ขณะที่เธอดึงกระเป๋าลงมาและพยายามหาโทรศัพท์ที่โดนจงใจปิดเครื่องอย่างมีจุดประสงค์ร้าย เสียงภายนอกห้องก็ชัดเจน

มีเสียงหื่นกามของผู้ชายดังขึ้นก่อน “คุณซูซีคนสวย ผู้หญิงที่คุณพูดถึงดีขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”

จากนั้นก็มีเสียงผู้หญิงดังเข้ามา แม้ว่าเธอจะตั้งใจกดเสียงให้ต่ำลง แต่หลินจือก็ยังฟังออกว่าเป็นเสียงของซูซี

“แน่นอน เดี๋ยวคุณเข้าไปดูก็รู้แล้ว” ซูซีปลอบโยนผู้ชายคนนั้นเช่นนี้

พอหลินจือรู้ว่าซูซีทำร้ายตัวเองก็หงุดหงิดและโกรธอยู่ครู่หนึ่ง แต่ดูเหมือนว่านอกจากซูซีแล้ว เธอก็ไม่เคยทำให้ใครขุ่นเคือง ตามนิสัยของซูซีแล้ว การทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

“แต่ทำไมตอนนี้ผมถึงอยากจะนอนแค่กับคุณล่ะ?” ชายที่อยู่ข้างนอกยังคงพูดอย่างมีเลศนัย แต่หลินจือไม่มีเวลากังวลกับเรื่องนี้ เธอนอนฟุบออกแรงกดปุ่มเปิดเครื่อง จากนั้นโทรหาเทาเท่เป็นสายแรก ​​

โทรศัพท์แทบจะถูกกดรับสายในทันที หลินจือร้องไห้ออกมา “เทาเท่…”

เทาเท่ไม่ได้ถามเธอว่าเธออยู่ที่ไหนในทันที แต่พูดมาตรงๆว่า “ผมจะไปถึงแล้ว ไม่ต้องกลัว”

คำพูดของเทาเท่ทำให้หลินจือโล่งใจเล็กน้อย เขาน่าจะหาเธอพบในไม่ช้า

“ฉัน ฉันทนไม่ไหวแล้ว หมดแรงแล้ว…” เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ร้อนแรงในร่างกายที่กำลังแผดเผา พูดจบเธอก็หอบ

เทาเท่พูดออกมาโดยไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องทนแล้ว”

ขณะที่หลินจือกำลังจะทำโทรศัพท์ตก เทาเท่พูดกับเธออย่างจริงจังทีละคำว่า “หลินจือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่ทิ้งคุณ”

หลินจือร้องไห้หนักขึ้นอีก

เมื่อเธอได้ยินเขาพูดแบบนี้ในเวลาเช่นนี้ ไม่ว่าจะเพื่อปลอบโยนเธอหรือไม่ทิ้งเธอจริงๆ เธอก็ล้วนรู้สึกซาบซึ้งมาก เพราะคำพูดของเขาอาจจะช่วยสนับสนุนเธอในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่จะเกิดต่อจากนี้

ยังไม่ทันจะพูดอะไรก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้นจากด้านนอก หลินจือรีบยัดโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋าแล้วบีบแก้วในมือแน่น

ใช่ เธอเพิ่งหยิบเศษแก้วขึ้นมา หากอีกเดี๋ยวเกิดเรื่องอะไรที่ไม่ดีขึ้น เธอสามารถใช้มันเพื่อช่วยเหลือตัวเองได้

ประตูถูกเปิดออก จากนั้นผู้ชายข้างนอกก็เข้ามา หลินจือก็เห็นหน้าตาของเขาอย่างชัดเจน เขาคือซาโต้ที่ชื่อเสียงแย่

มือของหลินจือที่บีบเศษแก้วสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ซูซีใจร้ายมากที่ให้ซาโต้มาจัดการเธอ เธอจำได้ว่าครั้งที่แล้วที่นานิเสียดสีซูซี ซาโต้คนนี้ดูเหมือนกำลังตามจีบซูซีอยู่ในตอนนี้

แต่ซูซีก็เป็นคนฉลาด เธอไม่ปรากฏตัว แต่พูดกับซาโต้นอกห้องว่า “ประธานโตโต้ งั้นฉันจะไม่รบกวนแล้ว”

ไม่เพียงเท่านั้นซูซียังล็อกประตูห้องจากด้านนอกด้วย

เนื่องจากถูกฤทธิ์ยาทรมาน หลินจือจึงออกแรงบีบเศษแก้วในมือของเธอสองสามครั้ง ความเจ็บปวดของการที่เศษแก้วบาดฝ่ามือทำให้เธอยังคงมีสติ

เห็นได้ชัดว่าซาโต้ก็ถูกวางยาเช่นกัน หลินจือเห็นใบหน้าที่ผิดปกติของเขาก็รู้ทันที

หลังจากที่ซาโต้เข้ามาก็โถมตัวลงนอนบนเตียงก่อน “สาวน้อย ฉันมาแล้ว…”

หลังจากโถมตัวลงมาเจอความว่างเปล่าแล้วลุกขึ้นมาอย่างโซเซ ถึงจะเพิ่งเห็นหลินจืออยู่บนพื้นตรงปลายเตียง

หลินจือกัดฟันยกเศษแก้วในมือขึ้นไปทางเขา “ซาโต้ อย่าเข้ามานะ!”

ซาโต้เหล่มองเธอจากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า “โว้ว เธอสวยจริงด้วย เนื้อตัวขาวเนียน ทำให้ยากจะอดใจไหวจริงๆ”

ซาโต้พูดพลางเริ่มปลดกระดุม ในตอนนี้เขาถูกฤทธิ์ยากัดกร่อนไปแล้ว ไม่สนใจเลยว่ากำลังแตะต้องใครอยู่ รู้เพียงว่าในสายตาที่เบลอของเขา ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ถูกสเปคเขามาก

เขาชอบผู้หญิงที่สะอาดหมดจดและหยิ่งเล็กน้อย ยิ่งเป็นแบบนี้เวลาปราบได้ก็ยิ่งรู้สึกภูมิใจมากขึ้นเท่านั้น

หลินจือเตือนเขาเสียงดัง “คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”

ซาโต้ถอดเสื้อผ้าด้านบนออกหมดแล้วโยนทิ้งไปข้างๆ เดินมาหาหลินจือพลางปลดเข็มขัดหนัง “คุณเป็นใคร?”

“คุณเป็นใคร เกี่ยวข้องอะไรกับผมไหม?”

หลินจือหดตัวถอยหลังพลางเตือนเขาต่อ “ฉันคือลูกสาวของจอร์แดน!”

“จอร์แดน?” ซาโต้เอียงศีรษะคิดอยู่ครู่หนึ่งราวกับจำได้รางๆ แต่เขาคนนั้นเป็นใครนั้นเขาจำไม่ได้

จะไปสนทำไมว่าเป็นใคร เขารู้แค่ว่าตอนนี้เขาอดใจรอไม่ไหวที่จะครอบครองผู้หญิงหน้าซีดตรงหน้า ยิ่งหญิงสาวกลัวมากเท่าไร เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อเห็นว่าซาโต้ไม่มีท่าทีที่จะหยุด หลินจือก็รีบพูดว่า “เทาเท่ คุณรู้จักไหม?”

ซาโต้หยุดฝีเท้าอีกครั้ง หลินจือรีบกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ตอนนี้ฉันคบกับเทาเท่ ทางที่ดีคุณควรจะมองสถานการณ์ตอนนี้ให้ชัด คุณกำลังถูกซูซีปั่นหัว!”

จิตใจของซูซีช่างน่ากลัวจริงๆ หากซาโต้แตะต้องเธอ ไม่เพียงแต่ทำให้เธอกับเทาเท่อับอาย แต่ยังทำให้ซาโต้ต้องทำให้ตระกูลแม็กซิมัสและเทาเท่ไม่พอใจอีกด้วย เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ซูซีคิดได้สวยมาก หลินจือกำเศษแก้วในมือแน่น เธอไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรกว่าเทาเท่จะมา แต่วันนี้เธอยอมตายดีกว่าปล่อยให้ซาโต้แตะต้องตัวเธอ อย่างมากก็แค่เธอและซาโต้ตายไปด้วยกัน