ตั้งแต่ที่ซูซีวางแผนที่จะส่งหลินจือไปไว้บนเตียงของซาโต้ เธอก็ส่งคนไปจับตาดูการเคลื่อนไหวของหลินจือตลอด และได้ปรึกษากับเบลซล่วงหน้าแล้ว เมื่อถึงเวลาให้เบลซโทรหาเทาเท่ เพื่อถ่วงเวลาเทาเท่ไว้ อย่าให้เทาเท่รู้สึกได้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับหลินจือ
ซูซีรู้ว่า หากมีอะไรเกิดขึ้นกับหลินจือเทาเท่จะสามารถใช้เส้นสายหาหลินจือได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเธอจึงต้องยื้อเวลาให้ได้มากที่สุดเท่านั้น พอเมื่อเทาเท่เจอหลินจือก็จะสายไปแล้ว
แต่ว่าคนของซูซีเฝ้าดูอยู่หลายวันพบว่าหลินจือไม่ได้ออกบ้านเลย
ไม่ใช่เพียงแต่หลินจือที่ไม่ได้ออกบ้าน แต่เทาเท่ก็ไม่ออกไปเช่นกัน จากการที่ซูซีจับตามอง คิดไม่ถึงเลยว่าเทาเท่และหลินจือจะอาศัยอยู่ด้วยกัน
พูดให้ถูกคือ เทาเท่เกาะอยู่กับหลินจือทั้งวันไม่ยอมไปไหน
เมื่อซูซีรับรู้ข่าวนี้ ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าเธอโกรธเพียงใด
เมื่อก่อนตอนเทาเท่อยู่กับหลินจือ เธอรู้ว่าหัวใจของเทาเท่ไม่ได้อยู่ที่หลินจือ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก แต่ตอนนี้เทาเท่มอบร่างกายและจิตใจให้หลินจือ แค่คิดซูซีก็แทบจะเป็นบ้าด้วยความอิจฉา
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าตนกับเทาเท่นั้นมันเป็นไปไม่ได้ตั้งนานแล้ว แต่เธอก็ไม่สามารถยอมรับความรักของเทาเท่ที่ให้หลินจืออย่างสุดหัวใจได้ พูดได้อีกอย่างว่าเธอไม่สามารถยอมรับตัวเองพ่ายแพ้ได้
เพียงแต่ซูซีคิดไม่ถึงว่าครั้งนี้หลินจือจะพยายามต่อสู้ขัดขืนซาโต้
เพราะความพยายามอย่างสุดกำลังของหลินจือ จึงสามารถยื้อเวลาที่ซาโต้จะข่มขืนเธอได้
ซาโต้ที่ถูกฤทธิ์ยากัดกร่อนสติไปจนหมดสิ้นปรี่เข้าไปหาหลินจือที่อยู่บนพื้น ก่อนที่เขาจะทันทำอะไร มีบางอย่างแหลมคมแทงเข้าที่หน้าอกของเขา ความเจ็บทำให้เขาส่งเสียงร้องและกลิ้งไปมาในทันที
สิ่งที่หลินจือถืออยู่ในมือเป็นเพียงเศษแก้วที่ไม่สามารถทำให้บาดเจ็บอะไรได้มากมาย เพียงแค่แทงหน้าอกของซาโต้ให้เกิดแผลตื้นๆเท่านั้น
สิ่งที่หลินจือไม่รู้ก็คือ ซาโต้โรคจิตกับเรื่องแบบนี้ ตัวอย่างเช่น ยิ่งผู้หญิงคนหนึ่งทำให้เขาเจ็บปวดมากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นและสบายใจมากขึ้นเท่านั้น
ตัวอย่างเช่นในตอนนี้ หลินจือคิดว่าซาโต้จะไม่กล้าเข้ามาอีกหลังจากที่ถูกแทงหน้าอกไป แต่ใครจะคิดว่าหลังจากความเจ็บปวดในตอนแรกผ่านพ้นไป ซาโต้มองลงไปที่บาดแผลบนหน้าอก สายตาก็เป็นประกายในฉับพลัน
หลินจือตกใจมากที่เห็นซาโต้เอานิ้วเช็ดเลือดที่หน้าอก วางไว้ใต้จมูกแล้วสูดดมกลิ่น แล้วพูดอย่างโรคจิตสุดๆว่า “คนสวย คุณทำให้ผมต้องเลือดออก”
ซาโต้พูดพลางลุกขึ้นนั่ง ราวกับว่าไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดบนร่างกายเลย สายตามองไปทางหลินจืออย่างกระตือรือร้น “เดี๋ยวผมจะทำให้คุณเลือดออกเยอะกว่านี้ก็จบ”
“ซาโต้ คุณกำลังถูกซูซีหลอกใช้จริงๆนะ!” หลินจือถอยร่นจนถึงมุมกำแพงแล้ว เมื่อไม่มีที่ให้ถอยเธอทำได้เพียงส่งเสียงร้องเสียงดัง พยายามทำให้ซาโต้ได้สติบ้าง
แต่ทว่าซาโต้ไม่มีท่าทีจะหยุดเลย เขาก้าวไปข้างหน้าออกแรงดึง คอเสื้อไหมพรมของหลินจือถูกซาโต้ดึงจนเบี้ยว ไหล่ขาวของหญิงสาวปรากฏสู่สายตาของซาโต้ ซึ่งมันยิ่งทำให้เขาคลั่งมากขึ้น
เมื่อออกแรงมากขึ้นอีกหน่อย หลินจือก็ถูกเขาโถมใส่จนล้มลงพื้น เศษแก้วในมือตกลงไปด้านข้าง
หลินจือสูญเสียอาวุธที่มีเพียงอย่างเดียวจึงทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอส่งเสียงร้องไห้ออกมา “ช่วยด้วย”
ซาโต้หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วยกมือไปปลดกระดุมกางเกงยีนของเธอ ในตอนนั้นเองมีเสียงดังมาจากทางเดินด้านนอก
เสียงแหลมของซูซีดังขึ้นก่อน “เทาเท่ หยุดนะ!”
จากนั้นก็ตามด้วยเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของซูซีแล้วก็เงียบไป
ประตูห้องถูกเตะเปิดออก เทาเท่พุ่งเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม หลินจือที่ถูกซาโต้กดไว้เห็นเงาของเทาเท่ น้ำตาก็ไหลลงมาอีกครั้ง
เทาเท่ก้าวไปข้างหน้าเตะซาโต้อย่างแรงไปด้านข้าง จากนั้นก็โอบเอวอุ้มหลินจือมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องกลัว ผมมาแล้ว” เทาเท่กดหัวหลินจือเข้าไปในอ้อมแขนของตน เขาพูดปลอบด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นพลางเตะซาโต้ที่บ้ากาม
จอนห์ที่อยู่ด้านนอกตามเข้ามา “ประธานเทาเท่ครับ คุณซูซีที่ถูกคุณเตะจนหมดสติควรจัดการอย่างไรครับ?”
เมื่อกี้ตอนที่พวกเขาเพิ่งมาถึง ซูซีไม่เชื่อในสายตา จากนั้นจึงรีบวิ่งเข้ามาขวางพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง เทาเท่ไม่พูดอะไรก็เตะหัวใจของซูซี ซูซีถูกเตะจนตัวปลิว เมื่อกี้เขาไปตรวจดูพบว่าซูซีสลบไปแล้ว
เทาเท่หัวเราะเยาะแล้วพูดว่า “จะจัดการกับเธออย่างไรเหรอ?”
เทาเท่เหลือบมองซาโต้ที่อยู่บนพื้นแล้วสั่งจอนห์ “ลากเธอเข้ามาขังไว้กับซาโต้”
“เธออยากจะวางแผนชั่วจะทำกับหลินจือแบบนี้ไม่ใช่หรอกเหรอ งั้นก็ให้เธอได้ลองดู”
เทาเท่พูดจบถึงจะพบว่ามือที่ตัวเองอุ้มหลินจืออยู่เปื้อนเลือด เขารีบถามหลินจือด้วยความตกใจว่า “คุณได้รับบาดเจ็บเหรอ?”
หลินจือที่สะลึมสะลืออยู่ในอ้อมแขนของเทาเท่ได้ยินก็พูดอย่างยากลำบากว่า “ไม่เป็นไร แค่แก้วบาดเท่านั้น…”
เทาเท่ไม่รู้ว่าเมื่อกี้เธอเพิ่งผ่านอะไรมา รู้เพียงว่าหัวใจของตัวเองในตอนนี้เจ็บจนกระตุก
“ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้” หลังจากพูดจบ เขาก็สั่งจอนห์ว่า “ที่เหลือทำตามที่ฉันบอก”
“ครับ” หลังจากจอนห์ตอบรับ เทาเท่ก็รีบอุ้มหลินจือพุ่งออกจากห้องไป
ซาโต้ที่เพิ่งถูกเทาเท่เตะจนหายใจไม่ทัน ตอนนี้พอได้สติก็ลุกขึ้นจากพื้นด้วยความยากลำบาก จอนห์ออกจากห้องแล้วทิ้งซูซีเข้าไป จากนั้นก็ล็อกประตู พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์ของซูซีไปและปิดเครื่อง
หลังจากนั้นไม่นานเสียงแหลมของซูซีก็ดังออกมาจากข้างใน “ซาโต้ ปล่อยฉันนะ!”
ซาโต้ที่เดิมทีสนใจในตัวเธออยู่แล้ว อีกทั้งยังถูกเธอวางยาอย่างรุนแรงอีก เขาทรมานอยู่นานก็ยังไม่ได้แตะต้องหลินจือ แล้วตอนนี้เขาจะปล่อยซูซีไปได้อย่างไร
ไม่นานเสียงเสื้อผ้าฉีกขาด เสียงลมหายใจอย่างหนักของผู้ชายและเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของหญิงสาวก็ดังออกมา จอนห์หลับตาเยาะเย้ยแล้วจากไป
ซูซีจะสามารถว่าใครได้อีกล่ะ?
ก็แค่ทำร้ายตัวเองเท่านั้น
ถ้าเธอไม่มีความคิดชั่วร้ายต่อหลินจือ แล้วกรรมนี้จะมาลงที่ตัวเองได้อย่างไร
จอนห์ขับรถพาเทาเท่และหลินจือมุ่งตรงไปโรงพยาบาล ในร่างกายหลินจือก็มียาฤทธิ์รุนแรงอยู่ หลินจือที่ถูกเทาเท่กอดในอ้อมแขนก็รู้สึกทรมานมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะร่างที่แนบชิดกับหน้าอกกว้างที่อบอุ่นของชายหนุ่ม
เธอไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอย่างไร รู้เพียงว่าตัวเองรู้สึกทรมาน ทรมานมากๆ จึงพยายามจะแนบชิดอ้อมแขนของเทาเท่อย่างเต็มที่
จอนห์รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง มองเทาเท่ผ่านกระจกมองหลังแล้วพูดว่า “ประธานเทาเท่ครับ ต้องการให้หาโรงแรมใกล้ๆมั้ยครับ?”
เจ้านายของตนและหลินจืออยู่ด้วยกันทั้งวัน ทั้งคู่ไม่ควรปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา
คิดไม่ถึงว่าเทาเท่จะปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ไม่ต้อง เธอได้รับบาดเจ็บ รีบไปโรงพยาบาล”
เมื่อกี้เขาเพิ่งตรวจดูร่างกายของหลินจือ ที่หลังและแขนเธอมีบาดแผล 2 ที่ ซึ่งน่าจะถูกแก้วบาด ฝ่ามือขวาของเธอมีรอยบาดยาว จำเป็นต้องรีบจัดการบาดแผลให้เร็วที่สุด
ถ้าเธอสบายดี เขาจะไม่ปฏิเสธที่จะใช้วิธีที่จอนห์บอกเพื่อช่วยบรรเทาอาการให้เธอ แต่ตอนนี้เขาแข็งใจทำไม่ลง และเขายังเชื่อว่าไวท์ต้องมีวิธีอื่นที่จะบรรเทาได้