ตอนที่ 308 เซียวเหยี่ยนหายไปแล้ว

 

 

หลิงอวี้จื้อส่งยิ้มสดใสให้มั่วชิง รีบเข้าไปประคองมั่วชิง

 

 

“ต้อนรับกลับบ้าน”

 

 

มั่วชิงนั่งลง

 

 

“ฝ่าบาทใช้นักโทษประหารแลกตัวข้าออกมา คุณหนู อย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ ข้าไม่เป็นอะไร”

 

 

“หรูเยียน รีบเชิญหมอมาสิ”

 

 

หรูเยียนพยักหน้า รีบไปเชิญหมอมา มั่วชิงนั่งสักครู่ก็ลุกขึ้น

 

 

“ข้ากลับห้องก่อน คุณหนู ดึกแล้ว รีบนอนพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ ถึงเวลาค่อยให้หรูเยียนล้างแผลให้ข้าสักหน่อย”

 

 

“ข้าส่งเจ้ากลับห้อง”

 

 

หลิงอวี้จื้อยืนยันจะส่งมั่วชิงกลับห้อง มั่วชิงก็ไม่ได้ปฏิเสธ หลิงอวี้จื้อประคองมั่วชิงกลับไป จวบจนหมอสั่งยาให้มั่วชิงแล้ว เธอกับหรูเยียนช่วยกันทายาและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง ทำเสร็จแล้ว เธอถึงกลับห้องตนเองอย่างสบายใจ ถอดเสื้อนอกออกก็ล้มตัวลงบนเตียงก่อนหลับไปอย่างรวดเร็ว

 

 

จากนั้นสองสามวัน หลิงอวี้จื้อก็อยู่ในเรือนของตนเองมาตลอด เธอไถ่ถามตามอาการมั่วชิง ดูแลนางเอง มั่วชิงรู้สึกซาบซึ้งใจจนไม่รู้จะซึ้งอย่างไรแล้ว หลายปีมานี้ เป็นครั้งแรกที่มีคนเอาใจใส่นางขนาดนี้ ทำให้นางมุ่งมั่นที่จะจงรักภักดีหลิงอวี้จื้อมากยิ่งขึ้น

 

 

ข้างนอกอากาศดี หลิงอวี้จื้อให้คนย้ายม้านั่งสามสี่ตัวไปวางในลานบ้าน เล่าเรื่องขุนศึกตระกูลหยางให้พวกสาวใช้ในเรือนฟัง หลิงอวี้จื้อเล่าเรื่องอย่างออกรสออกชาติ พวกสาวใช้ข้างล่างต่างตั้งใจฟังราวกับถูกสะกด

 

 

ในตอนที่กำลังเล่าถึงฉากสำคัญของเรื่องก็มีสาวใช้วิ่งเหยาะๆ เข้ามารายงาน

 

 

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านจู…”

 

 

ตอนนี้ทุกคนต่างรู้เรื่องที่จูจิ่นมีสถานะเป็นผู้หญิง นางออกจากตำแหน่งซื่อจื่อแล้ว กระทั่งชั้นยศของชางผิงโหวก็ถูกถอดแล้ว ดังนั้นจูจิ่นจึงไม่ใช่ซื่อจื่ออีกต่อไป ถือว่าเป็นคุณหนูของครอบครัวขุนนางธรรมดาคนหนึ่ง

 

 

“ที่นี่ไม่ได้มีหมูสักหน่อย”

 

 

หลิงอวี้จื้อขมวดคิ้วตอบกลับไปหนึ่งประโยค ถูกขัดจังหวะตอนนี้ อีกประเดี๋ยวจะจำไม่ได้ว่าตนเองเล่าไปถึงไหนแล้ว

 

 

“อวี้จื้อ เจ้านี่ช่างมีความสุขเสียจริง นึกไม่ถึงว่าจะมานั่งเล่านิยายในจวน”

 

 

จูจิ่นสวมชุดผู้หญิงสีเขียวน้ำทะเลสาบ ผมรวบขึ้นลวกๆ ถึงแม้จะปักปิ่นที่ดูธรรมดา แต่กลับสวยงามมาก เดิมทีนางเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยผิวขาวผ่องอยู่แล้ว

 

 

พอเห็นว่าเป็นจูจิ่น หลิงอวี้จื้อก็รีบลุกขึ้น ยิ้มบางๆ

 

 

“โอ้โห สาวสวยบ้านไหนกันเนี่ย ไม่นานก็รักษาแผลหายแล้ว มา ให้พี่ลูบคลำหน่อย”

 

 

“อวี้จื้อ เจ้าอย่าเพิ่งรีบลูบคลำข้า รอให้ข้าพูดจบก่อน ถึงตอนนั้นหากเจ้ายังมีแก่ใจจะลูบคลำข้าก็ค่อยลูบ”

 

 

หลิงอวี้จื้อกลับลงไปนั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง บิดขี้เกียจ

 

 

“ตัดสินใจจะบอกว่าคนที่เจ้าชอบเป็นใครแล้วหรือ”

 

 

“อาเหยี่ยนหายตัวไปแล้ว”

 

 

หลิงอวี้จื้อบิดขี้เกียจได้ครึ่งหนึ่ง ได้ยินข่าวนี้แล้ว ก็ชักมือกลับทันที มองจูจิ่นอย่างตระหนกตกใจ

 

 

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ พูดใหม่อีกทีสิ”

 

 

“ข้าได้ยินข่าวมาจากข้างนอก ตอนแรกก็ไม่อยากเชื่อ จึงจงใจเขียนจดหมายถึงอาเหยี่ยน แต่ว่าติดต่ออาเหยี่ยนไม่ได้ คาดการณ์ว่าเขาคงเกิดเรื่องจริงๆ ข้าส่งคนไปอำเภอฉางหนิงแล้ว ก็หาอาเหยี่ยนไม่เจอ นี่เป็นจดหมายตอบกลับจากพวกเขา”

 

 

พูดจบก็ส่งจดหมายให้หลิงอวี้จื้อ เธอรีบฉีกจดหมายเปิดออก

 

 

เพราะรีบร้อน เธอจึงฉีกจดหมายหยาบๆ เกือบฉีกจดหมายขาดเป็นสองซีก จดหมายเขียนว่าตามหาทั้งอำเภอฉางหนิงแล้วก็ไม่พบเซียวเหยี่ยน ยิ่งไปกว่านั้นนอกเมืองอำเภอฉางหนิงยังเคยเกิดการต่อสู้อย่างดุเดือด มีรอยเลือดอยู่มาก

 

 

หลิงอวี้จื้อคลายมือ จดหมายในมือตกลงบนพื้น สมองว่างเปล่า ร้อนใจจนแทบไม่ไหว เธออยู่ที่นี่เฝ้ารอให้เซียวเหยี่ยนกลับมาเร็วๆ เขาเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือไม่ ไม่ได้ เธอจะต้องไปหาเขาที่อำเภอฉางหนิงเอง ประเดี๋ยวออกเดินทางเลย เธอไม่สามารถรอข่าวอยู่ที่นี่ได้

 

 

“มีเรื่องหนึ่งที่ข้าเคยรับปากอาเหยี่ยนว่าจะไม่บอกเจ้า ข้าเห็นว่าการหายตัวไปของอาเหยี่ยนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จึงบอกเจ้าเสียดีกว่า”

 

 

หลิงอวี้จื้อหันกลับมาตัวเกร็ง

 

 

“อาเหยี่ยนมีเรื่องอะไรปิดบังข้า”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 309 ข้าจะไปหาเขา

 

 

“หลายปีมานี้อาเหยี่ยนไม่ได้มัวแต่หาพระชายาซีหนานอ๋อง หกปีก่อนได้ยินมาว่าพระชายาซีหนานอ๋องปรากฏตัวที่อำเภอฉางหนิง เขาไปอำเภอฉางหนิงด้วยตนเอง ใครจะไปรู้ว่าไปเขาจะไปขัดใจผู้หญิงที่รับมือยากคนหนึ่งเข้าที่อำเภอฉางหนิง ผู้หญิงคนนั้นชื่อเฟิงอิ๋น เป็นจอมยุทธ์หญิง วิทยายุทธ์ล้ำเลิศ ซ้ำยังเชี่ยวชาญการใช้พิษ”

 

 

หลิงอวี้จื้อไม่พูดอะไร รอจูจิ่นพูดต่อ นางหมายความว่าเซียวเหยี่ยนออกไปทำงานคราวนี้ ที่จริงคือไปหาผู้หญิงคนนี้หรือ

 

 

“เจ้าอย่าเข้าใจผิด อาเหยี่ยนมิได้สนใจผู้หญิงคนนั้น แต่เฟิงอิ๋นคอยเกาะแกะอาเหยี่ยนมาตลอด เรื่องนี้อาเหยี่ยนคอยอดทนรำคาญ เมื่อมั่นใจว่าที่อำเภอฉางหนิงไม่มีพระชายาซีหนานอ๋องแล้ว อาเหยี่ยนก็เตรียมจะไปจากอำเภอฉางหนิง เฟิงอิ๋นเห็นว่ารั้งอาเหยี่ยนไว้ไม่อยู่ ก็คิดแค้น วางยาพิษอาเหยี่ยน”

 

 

พูดถึงเรื่องนี้ จูจิ่นเริ่มกัดฟันกรอด เห็นได้ชัดว่าเกลียดผู้หญิงที่ชื่อเฟิงอิ๋นคนนี้มาก

 

 

“นางวางยาพิษอะไรให้อาเหยี่ยน”

 

 

“หลงโฉมงาม”

 

 

ชื่อเพราะขนาดนี้ เป็นพิษอะไรกันแน่ ใช้ทำอะไรกัน

 

 

จูจิ่นยังไม่ทันได้อธิบาย มั่วฉือที่ฟังอยู่ข้างๆ ก็เอ่ยออกมา

 

 

“หลงโฉมงามเป็นพิษที่แปลกมากชนิดหนึ่ง เมื่อโดนพิษนี้แล้วจะไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงได้อีก มิเช่นนั้นพิษจะออกฤทธิ์ถึงตาย”

 

 

นี่เป็นเหตุผลที่หลายปีมานี้เซียวเหยี่ยนครองตนบริสุทธิ์ใช่หรือไม่ ก่อนหน้านี้เธอยังสงสัยว่าเซียวเหยี่ยนกับมู่หรงกวานเย่ว์มีความสัมพันธ์อะไรแบบนั้นกัน ดูท่าเธอคงเข้าใจเซียวเหยี่ยนผิดไปแล้ว คิดถึงตรงนี้ หลิงอวี้จื้อก็เริ่มรู้สึกผิด

 

 

“เดิมทีอาเหยี่ยนไม่มีคนที่หมายปองจึงไม่ได้เอาเรื่องนี้มาใส่ใจ ต่อมาฮ่องเต้องค์ก่อนเสด็จสวรรคต ไทเฮาต้องการให้อาเหยี่ยนช่วยสนับสนุนลูกชายนางให้ก้าวขึ้นบัลลังก์ฮ่องเต้ จึงเสนอตนให้ แต่ถูกอาเหยี่ยนปฏิเสธ

 

 

“เมื่อรู้มาว่าอาเหยี่ยนโดนวางยาพิษ ไทเฮาก็ทุ่มเทสุดกายสุดใจหายาถอนพิษมาจนได้ อาเหยี่ยนจึงรับปากว่าจะช่วยสนับสนุนให้ฝ่าบาทก้าวขึ้นบัลลังก์ฮ่องเต้

 

 

ไม่นานมานี้ร่างกายของอาเหยี่ยนไม่ค่อยสู้ดี พอตรวจดูก็พบว่ายาถอนพิษที่ไทเฮาให้อาเหยี่ยนมามีเพียงครึ่งเดียว คราวนี้อาเหยี่ยนไปอำเภอฉางหนิงเพื่อไปเอายาถอนพิษจากเฟิงอิ๋น”

 

 

หลิงอวี้จื้อด่ามู่หรงกวานเย่ว์อย่างเจ็บแสบอยู่ในใจ นังผู้หญิงคนนี้แผนร้ายเยอะนัก รู้แก่ใจว่าเซียวเหยี่ยนโดนพิษ ให้ยาถอนพิษก็ให้แค่ครึ่งเดียว มีใครที่ไหนที่ทำกับคนที่รักแบบนี้ การที่เซียวเหยี่ยนได้พบนาง ถือเป็นเคราะห์ร้ายอย่างยิ่ง

 

 

ที่เซียวเหยี่ยนหายตัวไปคราวนี้ จะเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่ชื่อเฟิงอิ๋นหรือไม่

 

 

ไม่ว่าจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว เธอก็ต้องไปหาเซียวเหยี่ยนที่อำเภอฉางหนิง เธอทนไม่ได้อีกแม้แต่ครู่เดียว เธอหันกลับไปถาม

 

 

“จูจิ่น อำเภอฉางหนิงอยู่ไกลจากเมืองหลวงเพียงใด”

 

 

“หากไปอย่างเร็วที่สุด สี่วันก็ถึงแล้ว”

 

 

“เช่นนั้นก็ไม่ไกล มั่วชิง รีบไปเตรียมของสักหน่อย เตรียมของเสร็จแล้วพวกเราออกจากเมืองกัน”

 

 

จูจิ่นห้ามหลิงอวี้จื้อ

 

 

“ประเดี๋ยวฟ้าก็มืดแล้ว เจ้ายังจะออกจากเมืองอีก ถ้าจะไปก็ค่อยรอฟ้าสว่าง”

 

 

“พี่สาวใหญ่ ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายเอง กว่าอาทิตย์จะลับทิวเขาก็อีกหลายชั่วยาม เจ้าก็ว่าฟ้าจะมืดเสียแล้ว”

 

 

หลิงอวี้จื้อกรอกตาใส่จูจิ่น เห็นมั่วชิงยืนอยู่ไม่ขยับก็พูดเร่ง

 

 

“รีบไปเก็บของเดี๋ยวนี้เลย”

 

 

มั่วชิงพยักหน้า หมุนตัวกลับห้องพร้อมหรูเยียน

 

 

เมื่อเห็นว่าหลิงอวี้จื้อจะไปบ่ายนี้จริงๆ แบบนี้จูจิ่นถึงได้รู้สึกว่าเซียวเหยี่ยนไม่ได้รักคนผิด ก่อนหน้านี้นางรู้สึกว่าหลิงอวี้จื้อเป็นฝ่ายรับความรักตลอด เธอคงไม่ได้รักอาเหยี่ยนลึกซึ้งขนาดนั้น แต่ไหนแต่ไรมา เซียวเหยี่ยนก็ไม่ได้ต้องการให้หลิงอวี้จื้อทำอะไรเพื่อเขา ตอนนี้เห็นปฏิกิริยาของหลิงอวี้จื้อ ใจนางจึงรู้แล้วว่าควรจะทำอย่างไร

 

 

“เจ้าไม่มีวิทยายุทธ์”

 

 

“มั่วชิงมีวิทยายุทธ์”

 

 

“จากคำบรรยายของอาเหยี่ยน เฟิงอิ๋นเป็นผู้หญิงที่เก่งกาจมาก เจ้าพามั่วชิงไปก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง”

 

 

“ข้าไม่ได้ไปหานางเพื่อประลองยุทธ์สักหน่อย”

 

 

หลิงอวี้จื้อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แสงอาทิตย์เจิดจ้าทำให้เธอหรี่ตา

 

 

เซียวเหยี่ยน ข้าเปลี่ยนที่รอท่าน ท่านบอกแล้วว่าผ่านตรุษจีนไปจะมาสู่ขอข้า ข้ากำลังให้คนไปเตรียมชุดแต่งงานแล้ว ท่านจะคืนคำไม่ได้นะ