เมื่อถังหนิงได้ยินเชียนฮุ่ยว่าดังนั้น แววตาของเธอแข็งกร้าวขึ้นโดยปริยาย
เธอเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเหยียดเล็กน้อย “ไม่ใช่ค่ะ เชียนหลานกำลังจะแต่งงานเข้าตระกูลโม่แต่ตระกูลโม่ยังไม่ได้ยอมรับเธอ
“เธอเซ็นสัญญาก่อนสมรสเพื่อตกลงว่าเธอจะไม่สนใจฐานะร่ำรวยของตระกูลโม่และไม่แตะต้องเงินของเราหลังจากแต่งงานค่ะ
“ยังไงเธอก็ทำร้ายลูกชายของเรามาตั้งแต่แรก เป็นธรรมดาที่เราจะทำขอตกลงกันอย่างนี้น่ะค่ะ”
หลังได้ยินคำพูดของถังหนิง เชียนฮุ่ยตบโต๊ะก่อนลุกขึ้นยืน “ตระกูลโม่อาจจะมีอิทธิพลในปักกิ่ง แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องเชื่อฟังคำสั่งของคุณนะคะ น้องสาวของฉันมีค่าน้อยแค่นี้เหรอคะ อีกอย่างคุณคิดว่าตัวเองไม่ดูถูกที่ให้น้องสาวฉันเซ็นสัญญาก่อนสมรสบ้างเหรอคะ
“ทำไมคุณถึงคิดว่าเราดูถูกลูกสะใภ้ของเราล่ะคะ เพราะว่าครอบครัวของเธอเป็นฝูงปลิงดูดเลือด เราจะทำยังไงถ้าพวกคุณหน้าไม่อายพอที่จะขอเงินจากเธอล่ะ แทนที่จะทำให้เธอรู้สึกแย่ทีหลัง เราไม่ให้ความหวังเธอตั้งแต่แรกจะดีกว่านะคะ คิดว่าไงล่ะคะ คุณเชียน”
“ก็ถูกนะคะ” คุณนายเชียนเห็นด้วย
“แม่สาวน้อย อย่าทำให้ฉันดูทำเกินกว่าเหตุเลยนะ ยังไงตระกูลโม่ก็ไม่ได้ใสซื่อไร้เดียงสา เรายอมรับลูกสะใภ้ไม่ใช่ทั้งครอบครัว”
เชียนฮุ่ยท่าทางไม่พอใจแต่ไม่อาจมีปากเสียงกับถังหนิงได้ เมื่อเป็นเรื่องของคำพูดเธอไม่มีข้อได้เปรียบแต่อย่างใด
“แม่คะ พูดบางอย่างสิคะ” เชียนฮุ่ยตัดพ้อ “เธอกำลังข่มเหงเราอยู่นะคะ…”
“แม่ว่าคุณโม่ก็พูดถูกนะ เชียนฮุ่ย ลูกก็ไม่ได้อายุน้อยๆ แล้ว น่าจะออกไปหางานทำ ลูกอยู่บ้านเฉยๆ ทั้งวัน หวังให้แม่เลี้ยงลูกเหรอไง” คุณนายเชียนสั่งสอน
“แม่คะ เชียนหลานเป็นความหวังเดียวของตระกูลเรานะคะ แม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ ได้ยังไงล่ะ”
เชียนฮุ่ยผิดหวังเต็มที อย่างไรเสียเธอกับคุณพ่อเชียนก็รอที่จะเกาะเชียนหลานและยกระดับฐานะทางสังคมของตัวเอง
“ถ้าเชียนหลานอยากจะแต่งงานก็ไม่มีใครห้ามเธอได้หรอกค่ะ ฉันตกลงค่ะ คุณโม่ เราจะทำอย่างที่คุณบอก ฉันไม่คัดค้านใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ”
เชียนฮุ่ยทนไม่ได้กับสิ่งที่ได้ยิน เธอลุกขึ้นก่อนเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น
ตอนนี้เองที่ถังหนิงหยิบเช็กอีกใบออกมาจากกระเป๋าและยื่นให้คุณนายเชียน “จื่อเฉินบอกฉันเรื่องสถานการณ์ครอบครัวคุณแล้ว หวังว่าคุณจะยกโทษให้ฉันที่เจ้าจื่อเฉินงี่เง่าขอให้ฉันยกเงินก้อนนี้ให้คุณนะคะ”
เมื่อคุณนายเชียนว่ามันมีค่าสองล้านหยวน เธอรู้สึกว่ามันมากเกินไป “” ไม่ค่ะ มันมากเกินไป เราตกลงยอมทำตามกฎไปแล้วนะคะ”
“มันไม่ได้มาจากฉันหรือพ่อของจื่อเฉินค่ะ เป็นเงินเก็บของจื่อเฉินเอง ในเมื่อคุณป่วยอยู่คุณต้องใช้เงินนะคะ ไม่ต้องห่วงเชียนหลาน เธอแยกจากจื่อเฉินไม่ได้เราเลยปล่อยให้พวกเขาคบกันค่ะ”
คุณนายเชียนมองเงินและพยักหน้ารับ “โอเคค่ะ ฉันจะยอมรับมันไว้ ช่วยบอกจื่อเฉินว่าไม่ต้องเป็นห่วงด้วยนะคะ แต่ยังไงฉันก็ไม่คิดว่าเชียนฮุ่ยกับสามีของฉันจะยอมแพ้ พวกเขาอาจจะไปรบกวนเชียนหลานถึงที่ฐานทัพด้วยซ้ำค่ะ”
“ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ” ถังหนิงระบายยิ้ม
ในระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกัน เชียนฮุ่ยออกไปรับพ่อตัวเองที่คาสิโน เธอยังได้อธิบายเจตนาของถังหนิงให้เขาฟังด้วย
เป็นธรรมดาที่คุณพ่อเชียนจะตื่นตระหนกและโกรธ
ทันทีที่เขาเห็นถังหนิงจึงเอ่ย “ตระกูลเชียนไม่ต้อนรับคุณ ออกไปซะ แล้วก็…
“ลูกสาวผมจะไม่แต่งงานกับโม่จื่อเฉิน ผมไม่ยอม”
คุณนายเชียนปรายตามองสามีก่อนเลื่อนสายตามาที่ถังหนิง
ทว่าถังหนิงทำเพียงหัวเราะและตอบ “นายกเทศมนตรีเชียนคะ คุณลืมไปแล้วเหรอคะว่าตัวเองทำอะไรลงไปตอนที่อยู่ในตำแหน่ง”
ท่าทีของคุณพ่อเชียนเปลี่ยนไป
“คุณรู้เอาไว้นะคะว่าไห่รุ่ยมีข้อมูลทุกอย่างในปักกิ่งอยู่ในมือ ถ้าเราอยากจะรู้บางอย่าง ไม่มีอะไรที่เราไม่รู้หรอกค่ะ คุณอยากให้ร่ายการกระทำชั่วๆ ของคุณออกมาจริงเหรอคะ” ถังหนิงถามเสียงนุ่มนวล “ขอฉันพูดตรงๆ กับคุณแล้วกันนะคะ ถ้าเชียนหลานอยากจะแต่งงานนั่นก็เป็นทางเลือกของเธอ แม้ว่าคุณจะเป็นพ่อแต่ก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้านค่ะ
“ดังนั้นแน่นอนว่าพี่สาวที่เอาแต่นั่งเฉยอยู่บ้านก็พูดอะไรไม่ได้เหมือนกันค่ะ
“คุณมีสิทธิ์อะไรมายุ่มย่ามกับชีวิตของเชียนหลานกันคะ
“เชียนหลานจะแต่งงานหรือเปล่ามันก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ แล้วก็ไม่ใช่การตัดสินใจของฉันด้วย มันเป็นการตัดสินใจของเธอค่ะ ตามมารยาทแล้วตระกูลโม่จะไม่ให้อะไรคุณนอกจากสิ่งที่สมควร แต่ถ้าคุณกล้าทำเกินกว่าเหตุ งั้นฉันก็ต้องขอโทษด้วย ตระกูลโม่ไม่กลัวที่จะแจ้งความกับทางตำรวจหรอกนะคะ” ถังหนิงเอ่ยเสียงแข็ง
“คุณแค่ต้องทำเรื่องวู่ว่ามสักครั้ง ลองดูก็ได้นะคะ
“ส่วนเชียนฮุ่ย ฉันยินดีที่จะหางานให้เธอและแนะนำเธอให้ผู้จัดการที่ช่วยให้เธอแจ้งเกิดได้ แต่เธอช่วยเลิกเกาะแม่กินสักที”
หลังเชียนฮุ่ยได้ยินดังนี้ เธอก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด
“ฉันบอกจุดประสงค์ของฉันที่มาที่ที่วันนี้แล้ว สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่การล้มเหลวแต่คือการแยกแยะถูกผิดไม่ได้ต่างหากค่ะ
“พวกคุณสองคนคิดเอาแล้วกันค่ะ ฉันขอตัวก่อน” พูดจบถังหนิงก็ลุกขึ้น ก่อนคุณนายเชียนจะเดินไปส่งเธอ
“ดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
ถังหนิงพยักหน้าและทำท่าทาง โอเค ให้คุณนายเชียน
หลังจากหลับมาที่ห้องนั่งเล่น คุณนายเชียนเห็นว่าท่าทีของคุณพ่อเชียนดูหัวเสียเต็มที “คุณทำได้แค่นี้ไม่ใช่เหรอคะ”
ในขณะที่เชียนฮุ่ยเริ่มฝันถึงการเป็นดาราดัง
ทว่าแน่นอนว่าด้วยทักษะของเชียนฮุ่ย แม้ว่าถังหนิงจะเป็นคนแนะนำ การแสดงเป็นซากศพยังเกินตัวไปด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ถังหนิงไม่ได้สนใจ แค่เธอทำภารกิจสำเร็จและมีผลงานไปฝากโม่จื่อเฉินเธอก็พอใจแล้ว
…
ไม่นานเชียนหลานก็ได้รับสายจากแม่ตัวเอง บอกว่าถังหนิงมาหาและยังมอบของขวัญรับหมั้นกับพวกเขา
เชียนหลานกังวลถึงท่าทีของเชียนฮุ่ยกับคุณพ่อเชียน แต่คุณนายเชียนส่ายหน้าก่อนเอ่ย “แม่สามีของลูกแก้ปัญหานี้แล้วละ ลูกแต่งงานได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว
“หลานเอ๋อร์ แม่เคยทำผิดกับลูก แม่เลยหวังว่าต่อไปนี้ลูกจะมีความสุขนะ”
“แม่คะ…”
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย สองคนวางแผนจะจัดงานแต่งกันเมื่อไหร่ล่ะ”
เธอและโม่จื่อเฉินไม่คิดจะจัดงานแต่ง หากแต่เธอก็พึงพอใจกับมัน
เมื่อนึกถึงกิจกรรมบนเตียงที่ผ่านพ้นไปของพวกเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน ใบหน้าเธอก็ขึ้นสีระเรื่อ
บางทีชายคนนี้อาจห่างหายเรื่องอย่างนี้มานานเกินไป ทันทีที่ประตูเปิดออก ทุกความปรารถนาของเขาถึงได้ล้นทะลักถาโถมใส่เธอจนล้มเสียหลัก
เธอเป็นทหาร ความแข็งแกร่งของเธอจึงมีมากกว่าคนปกติ หากแต่ก็ยังห่างชั้นกับโม่จื่อเฉินมากนัก
“อีกอย่างพี่สาวลูกกำลังจะแจ้งเกิดในฐานะศิลปินด้วย ถังหนิงจะเป็นคนจัดการให้…”
“ถ้าเธออยากจะทำก็ปล่อยเธอไปเถอะค่ะ”
อย่างนั้นคุณพ่อเชียนคงไม่หวังพึ่งพาลูกสาวเพียงคนเดียว และเชียนฮุ่ยก็จะได้ช่วยจุนเจือได้บ้าง
ลึกๆ แล้วเชียนฮุ่ยอาจจะต้องการสร้างชื่อให้ตัวเอง อย่างไรเสียสวีฉุนเฮ่าก็ทอดทิ้งเธอไป หากเธอได้กลายเป็นดาราดัง เขาก็คงจะเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองใช่ไหมล่ะ
น่าเสียดายที่ไม่มีใครคาดหวังจากเธอมากนัก