ตอนที่ 1579 ขอโทษนะ แต่เราไม่ได้สนิทกัน (10)

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1579  ขอโทษนะ แต่เราไม่ได้สนิทกัน (10)

“จวินอู๋!”  หลินเฮ่าอวี่ทำได้แค่ตะโกนอย่างเปล่าประโยชน์

จวินอู๋เสียนั่งอย่างสงบ  มองหลินเฮ่าอวี่ที่โกรธจัดจากการถูกฉีกหน้า  จากนั้นนางก็ลุกขึ้นช้าๆ  หันหลังเดินออกไปจากศาลาต่อหน้าทุกคน

กู่ซินเยียนจ้องมองด้านหลังของจวินอู๋ที่กำลังจากไปอย่างเหม่อลอย  นางรู้แน่แก่ใจว่าการเดินจากไปของจวินอู๋ในครั้งนี้  คือความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงว่าจวินอู๋จะไม่มีวันเข้าร่วมวิหารมารโลหิต  ความทรงจำที่ได้อยู่กับจวินอู๋ในช่วงที่ผ่านมาผุดขึ้นในสมองของนางอย่างต่อเนื่อง  ภาพความทรงจำอันเงียบงันทั้งหมดนั้นให้ความรู้สึกกลมกลืนและสงบเงียบเป็นอย่างมาก  พวกมันยังคงแจ่มชัดอยู่ในใจนาง  แต่ไม่รู้ทำไม  ตอนนี้มันถึงได้เริ่มเลือนขึ้นมาแล้ว

การจากไปของจวินอู๋ทำให้วิหารมารโลหิตกลายเป็นตัวตลกที่น่าขำที่สุดในสำนักธาราเมฆ  ความโอ้อวดและคำโกหกของพวกเขาทำให้วิหารมารโลหิตกลายเป็นเรื่องตลกอย่างรวดเร็ว

ความพยายามในการเจรจาสันติครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่า  ทำให้กู่ซินเยียนมีสีหน้าแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้  และหลินเฮ่าอวี่อับอายจนโกรธจัด  พวกเขากลับไปท่ามกลางเสียงหัวเราะเย้ยหยันจากทุกคนที่นั่น  ความอัปยศอดสูและการเยาะเย้ยที่พวกเขาได้รับในวันนี้จะติดตัวพวกเขาไปตลอดชีวิตที่อยู่ในสำนักอย่างไม่มีวันลบเลือน

หลังกลับมาที่หอพัก  หลินเฮ่าอวี่ก็เดินไปมารอบๆห้องด้วยความโกรธที่ไม่อาจระงับได้

“ไอ้จวินอู๋นั่นคิดว่าตัวเองวิเศษนักเรอะ!  หมอนั่นมันก็แค่คนอกตัญญู!  เราทำเพื่อมันมาตลอด  แล้วดูมันตอบแทนพวกเราซิ!  มันตบหน้าวิหารมารโลหิตจนจมดิน!  คิดว่าตัวเองเป็นใคร?  ถ้าไม่ใช่เพราะมันเป็นคนของเผ่าจ้าววิญญาณเพียงคนเดียว  มันก็ไม่มีวันได้เหยียบเข้ามาในสำนักธาราเมฆด้วยซ้ำ!”

หลินเฮ่าอวี่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  จวินอู๋ทำให้วิหารมารโลหิตกลายเป็นตัวตลกต่อหน้าทุกคน  แล้วที่น่าโมโหยิ่งกว่านั้นก็คือ  เขาไม่สามารถแก้แค้นจวินอู๋ได้เนื่องจากมีพวกเฉียวฉู่อยู่ด้วย

“เจ้านั่นต้องมีเจตนาแอบแฝงแน่ๆ!  มันทำตัวว่าง่ายหมอบอยู่ข้างเท้าเจ้าเหมือนสุนัขก็เพื่อรอวันที่จะกัดเราจมเขี้ยวแบบนี้!  ข้าแน่ใจว่า……”

“พอแล้ว!”  กู่ซินเยียนที่เงียบอยู่ตลอดเวลาตะโกนขึ้น  เสียงเย็นชาของนางทำให้หลินเฮ่าอวี่ตกตะลึงจนตัวแข็ง

“ซินเยียน  อย่าโกรธเลย  ข้าจะทวงความยุติธรรมให้เจ้าเอง  ยังไงซะเจ้าหมอนั่นก็แค่รู้วิชาเสริมวิญญาณนิดๆหน่อยๆเท่านั้นใช่ไหมล่ะ  หากไม่มีวิชาเสริมวิญญาณ  เจ้านั่นก็เป็นแค่สวะไร้ค่า  ข้าสามารถจัดการมันได้ง่ายๆ……”

“ข้าบอกว่าพอไง!  ไม่เข้าใจหรือ!?”  กู่ซินเยียนตะโกนพร้อมกับปัดถ้วยน้ำชาตกจากโต๊ะ  เสียงกระเบื้องแตกดังชัดเจนภายในห้อง

“ซินเยียน  เจ้า……”  หลินเฮ่าอวี่ตื่นตกใจเล็กน้อย  เขาไม่เคยเห็นกู่ซินเยียนแสดงสีหน้าแบบนั้นมาก่อน

กู่ซินเยียนสูดหายใจเข้าลึกๆ  แล้วพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกว่า  “ข้าทระนงตัวเกินไป  คิดว่าจะสามารถเอาชนะใจเขาแล้วดึงเขาเข้าร่วมวิหารมารโลหิตได้  ข้าผิดเอง  ข้าควรฟังท่านผู้อาวุโส  ไม่ควรไปหาเรื่องเขาเลย”

“ไม่  ซินเยียน  เจ้าทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของวิหารมารโลหิต”  เมื่อหลินเฮ่าอวี่เห็นกู่ซินเยียนตำหนิตัวเองอย่างรุนแรง  หัวใจของเขาก็เจ็บปวด  หลินเฮ่าอวี่พูดต่อว่า  “ที่เรื่องเป็นแบบนี้ก็เพราะจวินอู๋  ข้าจะให้มันชดใช้อย่างแน่นอน”

“ให้เขาชดใช้?”  กู่ซินเยียนหัวเราะอย่างขมขื่นพร้อมกับส่ายหัวอย่างหมดหนทาง  “หลินเฮ่าอวี่  เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ?  ไม่ว่าจวินอู๋จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม  เรื่องที่วิหารมารโลหิตขัดแย้งกับวิหารอื่นๆทั้งหมดก็ยังอยู่  เจ้ายังคิดจะหาเรื่องจวินอู๋อีกหรือ?  เราจะปกป้องตัวเองได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย!”

ในหัวของกู่ซินเยียนอื้ออึงไปหมด  แต่นางไม่มีทางเลือกนอกจากพยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้  วันข้างหน้าในสำนักธาราเมฆของวิหารมารโลหิตคงไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อดูจากปฏิกิริยาของพวกเฉียวฉู่  นางรู้ว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องสงบลงง่ายๆแน่

“ทำให้สถานการณ์ของคนอื่นๆจากวิหารมารโลหิตมั่นคงก่อน  ให้พวกเขาเก็บเนื้อเก็บตัวกันหน่อย  ผ่านจุดนี้ไปได้แล้วค่อยว่ากัน”  กู่ซินเยียนพูด

“แล้วจวินอู๋……”  หลินเฮ่าอวี่เลิกคิ้วเล็กน้อย