ตอนที่ 486 : โครงการวิจัยเกม

Black Tech Internet Cafe System

ตอนที่ 486 : โครงการวิจัยเกม

 

จำนวนลูกค้าในร้านอื่นรวมถึงร้านใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามค่าบอกเล่า ตอนนี้เกมในร้านค้าสามารถให้ได้มากกว่าความสนุก มันให้ทั้งทักษะและเทคนิคต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นทั้งผู้ฝึกฝนและนักรบสามารถเรียนรู้เริ่มใหม่ ได้พร้อมกัน

 

แน่นอนว่าหากเทียบกับผู้เล่นในดินแดนทะลร้างอย่างอาจินแล้ว ลูกค้าที่นั้นมีความแข็งแกร่งด้านสถานะจิตวิญญาณและพลังลมปรานมากกว่า นอกจากนี้พวกเขายังมีมุมมองในการต่อสู้ที่กว้างกว่าเนื่องจากเล่นเกมมาตั้งแต่ร้านเปิด บางคนเข้าใจถึงกฎธรรมชาติและบางคนเองสามารถสร้างสมบัติจิตวิญญาณที่ทรงพลังได้ นอกจากนี้พวกเขายังได้รับสมบัติมากมาย

 

นี่คือเหตุผลที่ครอบครัวในสมัยโบราณคอยเฝ้าสังเกตการณ์หลังจากที่ได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับร้านนี้

 

ท้ายที่สุดพวกเขาก็ภูมิใจกับสิ่งของต่างๆ ในครอบครัว เมื่อพูดถึงสมบัติวิเศษ ส่วนสมบัติวิเศษในร้านนี้บางคนที่เห็นอาจจะต้องใช้เวลาเพื่อท่าความเข้าใจ

 

ตอนนี้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปหลังจากข่าวลือกระจายไปทั่ว พวกเขาหลายคนที่ได้ยินข่าวคราวเริ่มตัดสินใจที่จะไปที่นั่นเพื่อดูด้วยตาตัวเอง

 

นอกจากนี้เจ้าของร้านได้เปิดเผยความแข็งแกร่งของเขาให้ทุกคนได้เห็น เพราะงั้นหลายคนเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งดีที่พวกเขาจะไปชมสมบัติและสร้างมิตรภาพ

 

ฟางฉีเหลือบมองชิ้นส่วนอาวุธชิ้นสุดท้ายบนหน้าอินเทอร์เฟซ เวลาซิงโครไนซ์ของเบวูฟหมดลง!

 

ขณะที่เขาใช้พลังไป ระบบเองก็ใช้พลังไปจำนวนมากเช่นกัน

 

“ไม่แย่เท่าไร” เมื่อมองดูเวลาที่หมดลงเทียบกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า ฟางฉีจึงทำการโต้แย้งเรื่องลูกค้าเพื่อเป็นการปลอบใจตัวเอง

 

วันนี้ตระกูลถัง ตระกูลซุนและตระกูลหวังมาเยี่ยมเยียนถึงร้าน

 

ประตูเปิดออก ชายชราสามคนก้าวขาเข้ามา เขาดูมีอายุราวๆ หกสิบกว่าๆ ใบหน้าของเขามีเครายาวและผิวเหี่ยวแห้งตามวัย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนทั้งชายหญิงตามหลังพวกเขามา

 

ผู้คนในตระกูลถังล้วนสวมเสื้อผ้าสีดา ตามมาด้วยคนจากตระกูลหวังนั้นอยู่ในชุดสีเขียวขาวและตระกูลซุนพวกเขานั้นอยู่ในชุดคลุมสีม่วงขอบทอง

 

พวกเขาดูเรียบร้อยแต่แฝงไปด้วยความยิ่งใหญ่เพียบพร้อมมองดูแล้วรู้เลยว่าถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดีจากตระกูลมีหน้ามีตา

 

“ยินดีที่ได้พบท่าน!”

 

“เป็นเกียรติที่ได้พบท่าน!”

 

ถังหมูและคนอื่นๆ นำบะหมี่สำเร็จรูปสองถ้วยไปให้พวกเขา

 

“ฮะ ..จ๊อบแจ๊บ ..” เงียบฟังเสียงเคี้ยว

 

“อาจารย์ตระกูลซุน นี่เป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ” ผู้เฒ่าชุดดำนั่งลงบนโซฟา เขามองดูลูกค้าที่จอแจในมือของพวกเขาถือถ้วยบะหมีด้วยความหิว “นี่.. เอ่อ.. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นดีมาก”

 

“อันที่จริงหยูน้อยของเราพูดถึงร้านนี้ให้ข้าฟังอยู่บ่อยครั้ง แต่ข้าคิดว่าเจ้าเด็กนี้ต้องมาแกล้งหยอก” ชายชราพูดพลางซ์ดเส้น “ว้าว .. ต้องลอง!”

 

ซุนไทปรมาจารย์ตระกูลซุน เขาคือชายวัยกลางคนอยู่ในชุดม่วงขอบทอง ในมือของเขาถือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเงยหน้ามองไปทางตู้ “นั้น .. ใช่ดาบศักดิ์สิทธิ์จากสุสานดาบหรือเปล่า?”

 

เขาจำได้ดีว่าเมืองสองสามวันก่อนครอบครัวโบราณได้ส่งดาบเหล่านั้นมาที่ร้านค้าหลังจากทำลายวังดาบเป็นที่เรียบร้อย

 

“มองอะไร?” เสียงเอ่ยถามดังมาจากดาบ

 

ผู้คนต่างหันมองด้วยความอึ้ง “เอ่อ ..”

 

หลังจากที่ทำบะหมีกันเสร็จแล้ว พวกเขาก็เดินไปตามทางเดินโดยท่าทางประสานมือไว้ด้านหลังเพื่อเด็นชมร้าน

 

บางจอปรากฏให้เห็นคนตัวเล็กก่าลังถืออาวุธ หนึ่งในนั้นมีคนถือชวานขนาดใหญ่อยู่ในมือกำลังต่อสู้กับหมูขาวที่มีร่างสูงกว่าคนถึงสามเท่าของคน

 

บางจอบางคนกำลังต่อสู้อยู่กับสัตว์ประหลาดด้วยดาบสีม่วงเข้ม

 

นอกจากนี้พวกเขาเห็นกวางขาวตัวใหญ่ .. ใช่! พวกเขากระพริบตาซ้ำแล้วซ้ำอีกและสงสัยว่านี่มันอะไรกัน

 

ในที่สุดพวกเขาก็หยุดอยู่ข้างหลังชายชราผมขาว

 

“ท่านอดีตปรมาจารย์” บนหน้าจอของเขามีกล่องที่มีลวดลายเรียบง่ายและไอคอนขวารูปนกเพนกวินกำลังกระโดดอยู่ที่มุมล่างขวาของจอ

 

เขากำลังทำอะไร?” หัวหน้าครอบครัวเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

 

การต่อสู้นั้นดูเข้าใจง่าย แต่นี่ .. มันเป็นเพียงกล่องแสดงค่าพูด

 

“เขากำลังคุยในคิวคิว”

 

บนหน้าจอของกูถึงหยุนปรากฏข้อความของหลายคน

 

กูถึงหยุนที่กำลังตอบข้อความ [อ็ม ..เจ้าบอกว่าผู้คนสามารถเข้าใจถึงกฎแห่งธรรมชาติได้มากกว่าเดิมใช่มั้ย? มันเป็นไปได้จริงๆ หรอ?]

 

ข้อความตอบกลับมาสปริต [มันยากที่จตระหนัก แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้]

 

คนที่ใช้ชื่อ “ผู้ทรงอำนาจถาม [พวกเจ้ากำลังพูดถึงใคร]”

 

[มันยากสำหรับเจ้าสาวน้อย แต่สำหรับข้ามันง่ายเหมือนเค้ก] เขาเสริม

 

[มีคนอวด!]

 

ขณะที่พวกเขากำลังขาคิกคักกับบทสนทนาในแชทกลุ่ม หัวหน้าครอบครัวที่ทำหน้าที่เฝ้ามองดูจุนงง

 

กฎธรรมชาติ? อะไร? พวกเขาเดินดูรอบๆ ด้วยความสับสน

 

พวกเขาเห็นว่าผู้อาวุโสสองสามคนจากสำนักสวรรค์ที่นั่งใกล้กถึงหยุนเองก็กำลังคิกคักไม่ต่างกัน

 

พวกเขากำลังพูดคุยกันในกลุ่มสื่อสารชนชั้นสูงเกี่ยวกับเรื่องราวของการประดิษฐ์

 

หลี่เฮารันกล่าว [ข่าวดี! ข่าวดี! กลุ่มของเราประสบความสำเร็จในโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวน]

 

ปรมาจารย์ด้านจิตวิญญาณเผ่าผิงถาม [อะไรคือความก้าวหน้า ทางนี้ติดเรื่องนี้มานานแล้ว]

 

ถังหมูตอบ [ใช่ ข้าดึงปืนออกจากเกมแล้วพยายามเลียนแบบแต่ก็ทำไม่ได้สักที ข้าไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไรและเจ้าของร้านก็ทำตัวลึกลับไม่บอกข้าสักที่]

 

หลี่ฌอารันตอบว่า [พวกเจ้าจำนักวิจัยที่เราเคยช่วยเหลือใน GTAV ได้มั้ย? ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ]

 

เป่าผิง [เราไม่มีเกมนี้ ทำไมเกิดอะไรขึ้น!?]

 

หลี่เฮารันตอบ [ไม่เขาแค่ ..ไม่ได้บอกส่วนสำคัญให้เรารู้กล่าวแค่ว่าปืนใหญ่นั้นถูกสร้างแทนที่ปืนอาวุธปืนเล็กที่มีความแข็งแรงน้อยในการต่อสู้ ซึ่งนอกจากนี้ข้าได้ข้อมูลมาจึงทำของเล่นชิ้นเล็กๆ ขึ้นมา]

 

จากนั้นหลุมอารันก็อับโหลดวิดีโอสั้นๆ เขาฉีดพลังสายฟ้าเข้าไปในปืนใหญ่พร้อมขดลวดจากนั้นเขากดอุปกรณ์

 

ปัง!

 

ถ้วยชาที่ยาวออกไปตรงหน้าเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

“มันมีอะไรดี?” หัวหน้าครอบครัวยังคงคาใจ

 

“ท่านอาจารย์ ถ้าท่านไม่รีบเราจะไม่มีที่นั่งแล้ว” เหล่าหนุ่มสาวเอ่ยเดือนเขา

 

“เจ้าตัดสินใจหรือยังว่าจะเล่นอะไร?” พวกเขามองหน้ากัน

 

“เจ้านาย มีความเห็นยังไงกับการพบปะผู้คนเยอะแบบนี้ครั้งแรก” เจียงเสียวหยูพูดด้วยความตื่นเต้น เห็นได้ชัดว่าเธอแอบปลื้มไม่น้อยกับคนหมู่มาก

 

“การพบปะ?” ฟางฉีลูบคาง “มันฟังดูดี แต่เจ้าต้องการให้ผู้ฝึกฝนจากที่นั้นมาหรือไม่ คิดอีกที่อาจจะเป็นปัญหาก็ได้”

 

“ท่านไม่ได้บอกหรอกหรอว่าจะผ่านไปยังดินแดนทะเลร้าง ว่าแต่ไม่พาคนอื่นไปด้วยหรอ?”

 

“อะไร? เจ้าไม่ได้ผ่านเขตต้องห้ามส่านักสวรรค์หรอ?” เวลาเดียวกันดาบที่ห้อยอยู่กลับมีปากเสียง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้อื่นยังไม่รู้