ถังซีเงยหน้าขึ้นมองเซียวหงอี้อย่างเฉยชาและเกรี้ยวกราดใส่เขา “ไม่ค่ะ! ไม่พอ! ยังห่างไกลจากคำว่าพอ! พ่อก็เหมือนกัน! หนูขอให้พ่อดูแลแม่ แต่ทำไมแม่ถึงเป็นแบบนี้ หนูบอกว่าหนูจะจัดการเรื่องพวกนั้นเอง พ่อเพียงแค่ต้องดูแลแม่ของหนู แต่พ่อทำอะไรอยู่คะ แล้วยังจะมีหน้ามาตะโกนใส่หนูอีก”
เซียวหงอี้หยุดชะงัก มองถังซีด้วยท่าทางละอายใจ เม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “พ่อไม่คิดว่าตำรวจพวกนั้นจะถามแม่ถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลินเจียวกับเซียวจิ้นหนิง และพูดถึงลูก”
ถังซีหายใจเข้าลึกๆ หลับตาลง ลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “ขอโทษนะคะ พอดีหนูโกรธมาก”
เซียวหงอี้ตัวนิ่งแข็ง ส่ายศีรษะรีบบอกว่า “ไม่ ไม่ พ่อดูแลแม่ของหนูไม่ดี”
ถังซีนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆ นั้น และกล่าวกับเซียวหงอี้เบาๆ ว่า “หนูอยากอยู่กับแม่ตามลำพังค่ะ พ่อออกไปข้างนอกก่อนนะคะ หนูจะไม่พูดอะไรที่ไม่ดี ที่จะทำให้แม่เสียใจอีกแล้วค่ะ”
เซียวหงอี้มองหลินหรูด้วยท่าทางห่วงใย น้ำตาหลินหรูไหลรินตรงหางตา แต่เธอก็พยักหน้าให้เซียวหงอี้ เขาจึงเดินออกไป
ถังซีนั่งอยู่บนโซฟา เปิดระบบและติดต่อกับ 008 ทันที เพื่อขอคำปรึกษาจากเขา
หลินหรูหันมาด้านข้าง มองดูถังซีทุกการเคลื่อนไหว หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เห็นถังซีแบบมือออกด้วยท่าทางวิตกกังวล แล้วขมวดคิ้ว และเข็มเงินสองห่อก็ปรากฏขึ้นในมือถังซี จากนั้นถังซีก็ลุกขึ้นเดินมาที่เตียงหลินหรู เม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “เมื่อก่อนโน้นเวลาที่หนูไม่สบาย โรงพยาบาลไม่มีเพราะหนูอาศัยอยู่บนภูเขา บ่อยครั้งหนูต้องไปหาหมอผู้เฒ่าคนหนึ่ง เขามีความเชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีนโบราณ ทุกครั้งเขาจะรักษาหนูด้วยการฝังเข็ม เขารักษาผู้ป่วยมาเป็นจำนวนมาก รวมถึงผู้ป่วยโรคหัวใจและเป็นอัมพาต ปรากฏว่าท้ายที่สุดเขาสามารถรักษาคนเหล่านั้นให้หายได้ หนูก็เลยเรียนรู้วิธีฝังเข็มจากเขา แม่เชื่อมั่นไหมคะ ว่าหนูสามารถรักษาแม่ได้”
หลินหรูอยากจะบอกว่า หนูบอกให้พ่อของหนูเชิญแพทย์แผนโบราณมาฝังเข็มให้แม่ก็ได้ แต่เมื่อเห็นประกายตาที่จริงใจของถังซี เธอก็พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเห็นมารดาพยักหน้าถังซีก็ยิ้ม และกล่าวอย่างมั่นใจ “แม่คะ แม่วางใจได้ค่ะ หนูจะรักษาแม่เอง”
ถังซีทำตามคำแนะนำของ 008 ในการค้นหาจุดฝังเข็มบนร่างกายหลินหรู และปักเข็มเงินลงไปทีละจุด ถังซีรู้สึกโล่งอกหลังจากใช้เข็มเงินหมดไปทั้งสองห่อ เธอรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าเข็มเงินสองห่อนั้นเพียงพอ ขณะมองดูเข็มสีเงินที่ปักอยู่ทั่วร่างกายหลินหรู ถังซีก็ถาม 008 ด้วยความไม่แน่ใจ ‘การฝังเข็มจะได้ผลจริงเหรอ’
[ระบบ : (ทำหน้าหยิ่ง) ไม่ต้องใช้วิธีนี้ ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน]
ถังซีรีบประจบเขา : ‘ฉันเชื่อคุณ เชื่ออย่างแน่นอนที่สุด คุณคือศูนย์ ศูนย์ แปดผู้ยอดเยี่ยม ฉันจะไม่เชื่อคุณได้ยังไง’
[ระบบ : ต้องอย่างนี้สิ]
[ระบบ : ขออนุญาตแจ้งเตือน ; เนื่องจากสมองผู้ป่วยได้รับการความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และร่างกายเธอก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน การรักษาด้วยการฝังเข็มไม่สามารถได้ผลภายในหนึ่งหรือสองวัน การรักษาจะต้องดำเนินไปอย่างน้อยหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้น จากนั้นเธอจะสามารถลุกขึ้นจากเตียงเดินได้ตามปกติ และเคลื่อนไหวอย่างอิสระได้ในอีกสองสัปดาห์]
ถังซีโกรธขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินว่าไม่สามารถรักษาหลินหรูให้หายได้ในทันที แต่ต้องใช้เวลาหลังจากนี้อย่างน้อยหนึ่งเดือน ตำรวจคนไหนกันโง่มากที่มาบันทึกปากคำที่โรงพยาบาล! เธอจะร้องเรียนเขาอย่างแน่นอน!
สี่สิบนาทีต่อมาถังซีก็ดึงเข็มเงินออกจากร่างกายหลินหรู และให้เซียวหงอี้เข้ามาได้ เมื่อเขาเข้ามาในห้องถังซีสังเกตเห็นใบหน้าอันเหนื่อยล้าของเขา ถังซีเม้มริมฝีปากมองดูหลินหรูที่นอนอยู่บนเตียง แล้วเอ่ยเบาๆ ว่า “ช่วยไปจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้แม่หน่อยค่ะ ไม่มีประโยชน์ที่แม่จะอยู่ในโรงพยาบาล พ่อเป็นประธานเซียวกรุป พ่อไม่ไปทำงานเลยแบบนี้ไม่ได้ หลังจากพาแม่กลับบ้านแล้ว พ่อต้องพักผ่อนให้เพียงพอแล้วไปทำงานนะคะ”
เซียวหงอี้ขมวดคิ้ว “ลูกหมายความว่าจะเราจะไม่รักษาแม่แล้วหรือ” เซียวหงอี้ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หลังจากจ้องมองถังซี เขาก็กล่าวออกมาด้วยความโกรธ “โหรวโหรว พ่อรู้ว่าแม่ของลูกปฏิบัติต่อลูกอย่างไม่ยุติธรรมมาก่อน แต่ลูกจะปล่อยแม่ไว้แบบนี้ไม่ได้!”
เมื่อได้ยินคำพูดเขาถังซีก็ขมวดคิ้ว แต่ไม่อยากอธิบายอะไร เธอจึงกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “หนูบอกว่าให้พาแม่กลับบ้าน”
เซียวหงอี้ตะโกนลั่น “เซียวโหรว พ่อจะบอกให้นะว่าไม่เป็นไรหรอก ถ้าลูกไม่ต้องการยอมรับเรา และไม่สำคัญว่าลูกจะเกลียดเรา ออกไป! พ่อจะดูแลแม่ของลูกเอง เรา…”
“เซียวหงอี้!” ถังซีขัดจังหวะเซียวหงอี้ด้วยความโกรธ เธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าเซียวหงอี้ และกล่าวอย่างประชดประชัน “อยู่ที่นี่จะทำอะไรได้คะ แม่ของหนูจะหายเหรอคะถ้านอนโรงพยาบาลอยู่อย่างนี้ หนูต้องการให้แม่กลับบ้าน เพราะหนูสามารถรักษาแม่ได้ พ่อรับรองกับหนูได้ไหมล่ะคะ ว่าแม่จะหายถ้ายังอยู่ที่นี่”
เซียวหงอี้กำลังจะอ้าปากคัดค้าน แล้วทันใดนั้นเขาก็เข้าใจว่าเมื่อกี้ถังซีพูดว่าอะไร เขามองหน้าถังซีอย่างลังเลและถามว่า “เมื่อกี้ลูกบอกว่าลูกสามารถรักษาแม่ได้อย่างนั้นหรือ”
ถังซีพยักหน้า “ใช่ค่ะ หนูจะย้ายไปอยู่กับพ่อสักพัก จะอยู่จนกว่าจะรักษาแม่หาย”
เซียวหงอี้ยังคงไม่เชื่อคำพูดของถังซี และถามด้วยความประหลาดใจ “ลูกพูดจริงๆ หรือ แม่ของลูกจะหายได้ใช่ไหม”
ถังซีขมวดคิ้ว “พ่อมีวิธีที่ดีกว่านี้ ที่จะทำให้แม่หายโดยเร็วที่สุดไหมล่ะคะ”
“ตกลง พ่อจะไปจัดการเรื่องพาแม่ออกจากโรงพยาบาล” เซียวหงอี้หันหลังเดินออกจากห้องคนไข้โดยไม่พูดอะไรอีก ถังซีเห็นได้จากก้าวเดินอย่างรีบร้อนจนสะดุดขาตัวเองว่าเขาตื่นเต้นมาก
ถังซีซึ่งเมื่อครู่นี้อารมณ์ไม่ดียิ้มออกมาได้ และมองหลินหรูด้วยรอยยิ้มนิดๆ “ถึงแม้แม่จะมีวัยเด็กที่น่าสงสารมาก แต่พระเจ้าก็ยุติธรรม ให้แม่มีสามีที่รักแม่มาก มีลูกชายที่ฉลาด และมีหนู ลูกสาวที่มีความสามารถนะคะ” เธอกล่าว
เมื่อหลินหรูได้ยินคำพูดของถังซี เธอก็ยิ้มด้วยใบหน้าซีดเซียว
หลังจากเซียวหงอี้กลับมา ถังซีก็บอกว่าเธอจะกลับไปที่บ้านเซียวหงลี่ก่อน
เธอสัญญากับหยางจิ้งเสียนไว้ว่าจะกลับไปทานอาหารกลางวัน ดังนั้นเธอจะต้องทำตามสัญญา
ทันทีที่ถังซีเดินออกจากห้องคนไข้โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอมองดูหมายเลขโทรศัพท์ของคนแปลกหน้าแต่ดูคุ้นเคยแล้วขมวดคิ้ว ฉินซินหยิ่งโทรหาเธอทำไม… และรู้หมายเลขโทรศัพท์ของเธอได้อย่างไร
ถังซีลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรับโทรศัพท์ และก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรเสียงฉินซินหยิ่งก็ดังขึ้น “เซียวโหรว เธออยู่ในโรงพยาบาลหรือเปล่า เธอเห็นไหมว่าแม่ของเธอเป็นอย่างไร นี่คือสิ่งที่ถังซีสามารถทำได้ เพราะฉะนั้นเธอควรฟังคำแนะนำของฉัน เลิกกับเฉียวเหลียงซะ เธอรับมือถังซีไม่ได้หรอก ถังซีต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม นอกจากนี้ถังซีไม่เคยสนใจชีวิตของคนอื่น ที่แม่เธอเป็นแบบนี้เพราะถังซีขอให้ตำรวจคนนั้นจงใจทำให้แม่เธอตกใจ เธออยากเห็นคนที่เธอรักต้องทนทุกข์ทรมาน เพียงเพื่อผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้รักเธอเลยอย่างนั้นหรือ”
เมื่อได้ฟังการใส่ร้ายป้ายสีอย่างไร้ยางอายของฉินซินหยิ่ง ถังซีก็ยิ้มด้วยความรังเกียจอย่างที่สุด ทันใดนั้นประกายความเยือกเย็นก็วาววับในดวงตาเธอ เธอกล่าวอย่างเย็นชา “ฉินซินหยิ่ง ฉันไม่มีวันให้อภัยเธอ”