ตอนที่ 552 อิจฉา

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 552 อิจฉา

ทัวป๋าถิงฟางตกตะลึง ก่อนเงยหน้าขึ้นมาและเห็นแววตาที่น่ารังเกียจของทัวป๋าหลิวลี่ นางจึงหยุดชะงักและเอ่ยว่า “เช่อเฟยพูดเรื่องอันใดเจ้าคะ”

ทัวป๋าหลิวลี่กระตุกยิ้มมุมปาก “คงลำบากเจ้ามิน้อย เพราะคนต่ำต้อยเยี่ยงเจ้าสามารถขับไล่พระชายาเอกออกไปได้สำเร็จ”

ในขณะที่กล่าว นัยน์ตาของทัวป๋าหลิวลี่ก็ฉายแววเย็นชาออกมา ความเกลียดชังและความมิพอใจเหล่านั้นได้เอ่อล้นราวกับใบมีดที่กำลังทิ่มแทงทัวป๋าถิงฟางอย่างไรอย่างนั้น

คนต่ำต้อยหรือ ? ประโยคนี้มิใช่กำลังกล่าวหาว่านางต่ำต้อยกระมัง

สีหน้าของทัวป๋าถิงฟางซีดเผือดเล็กน้อยจนอยากเข้าไปตบหน้าทัวป๋าหลิวลี่ให้รู้แล้วรู้รอด แต่สุดท้ายก็อดทนไว้ นางยังมิได้กลายเป็นพระชายาเอกของมู่จวินฮาน จึงพ่ายแพ้กลางคันมิได้เด็ดขาด

นางต้องอดทนไว้เหมือนที่เหล่าหวางเฟยย้ำเตือน!

“เช่อเฟย ข้ามิได้ทำเช่นนั้นเลย” ทัวป๋าถิงฟางแสดงท่าทีอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด

ทัวป๋าหลิวลี่เริ่มดุร้ายขึ้นเรื่อย ๆ โดยมิอาจฝืน จากนั้นนางก็ตวาดอย่างดุดัน “มิได้ทำ ? เช่นนั้นข้าก็ใส่ความเจ้าหรือ ? ”

ดูเหมือนว่าทัวป๋าถิงฟางแสดงท่าทีอ้ำอึ้งอย่างร้อนใจ “มิใช่…ข้ามิได้ทำ ข้ามิบังอาจ…”

“สำหรับเจ้าแล้ว ข้ากล่าวอันใดผิดไปหรือ ? ” ทัวป๋าหลิวลี่แสยะยิ้มเย็นชาพลางตำหนิทัวป๋าถิงฟางราวกับตำหนิบ่าวรับใช้อย่างไรอย่างนั้น

ทัวป๋าถิงฟางก้มหน้าลงโดยมิได้กล่าวอันใดแล้วรีบข่มโทสะที่กำลังปะทุเอาไว้

ทัวป๋าหลิวลี่เห็นทัวป๋าถิงฟางเอาแต่ก้มหน้าก้มตาโดยมิกล่าวอันใดจึงยิ่งบันดาลโทสะเข้าไปใหญ่ การนิ่งเงียบมิพูดอันใดเยี่ยงนี้ มิว่านางกล่าวอันใดก็เพิกเฉยเหมือนมิได้ยินนั้นทำให้นางยิ่งมิสบอารมณ์

“บังอาจ ข้าถามแต่เจ้ากล้าเงียบใส่ข้า เจ้าคงถูกเลี้ยงดูนอกวังจนเคยตัว แม้แต่มารยาทขั้นพื้นฐานก็มิเข้าใจแล้วหรือ ? ” ทัวป๋าหลิวลี่เอ่ยด้วยความโกรธ

ทัวป๋าถิงฟางเป็นที่ต้องการของทุกคนมาตั้งแต่เด็ก แค่นางต้องเติบโตนอกวังเท่านั้น แต่บัดนี้นางกลับมาแล้ว ทั้งยังแข็งแกร่งกว่าทัวป๋าหลิวลี่ด้วย

ทัวป๋าถิงฟางข่มโทสะเอาไว้และกล่าวว่า “เช่อเฟย ข้าแค่มิทราบว่าควรตอบเยี่ยงไรดี ได้โปรดอภัยด้วยเจ้าค่ะ”

“เช่นนี้ยังสมควรให้อภัยอีกหรือ ? คุกเข่าลง ! ” ทัวป๋าหลิวลี่ตวาดเสียงดัง

ในที่สุดทัวป๋าถิงฟางก็ทนมิไหวอีกต่อไป นางจึงแสดงความโกรธออกมาด้วยสีหน้าที่เย็นเยือกและพูดอย่างสุภาพว่า “เช่อเฟย สุขภาพของข้ามิค่อยดี ขอลาเจ้าค่ะ” เมื่อกล่าวจบ นางก็จากไปโดยมิหันมามองอีก

ทัวป๋าหลิวลี่คาดมิถึงว่าทัวป๋าถิงฟางจะจากไปเยี่ยงนี้ นางจึงตกตะลึงอยู่ที่เดิม ครั้นได้สติคืนมาก็มิเห็นแม้แต่เงาของอีกฝ่ายแล้ว

“ข้าให้เจ้าไปได้แล้วหรือ ? ” ทัวป๋าหลิวลี่ตะโกนไล่หลังด้วยโทสะและทำได้แค่จ้องเขม็งไปยังแผ่นหลังทัวป๋าถิงฟางที่เดินไกลออกไป จากนั้นนางก็ปาถ้วยชาที่อยู่ในมือลงพื้น

สาวใช้ที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกได้ยินเสียงก็รีบเดินเข้ามาและปลอบใจว่า “เช่อเฟยอย่าเพิ่งกลัดกลุ้มไปเลยเจ้าค่ะ ถิงฟางเช่อเฟยอาจมิสบายจริงก็ได้เจ้าค่ะ!”

ทัวป๋าหลิวลี่หมดคำพูด มินานก็เอ่ยออกไปว่า “เก็บกวาดที่นี่ให้เรียบร้อย ! ”

“เจ้าค่ะ เช่อเฟย”

“นายหญิงเจ้าคะ เราออกมาเช่นนี้ดีแล้วหรือ ? หากเป็นเยี่ยงนี้ต่อไปเราจะมาที่นี่อีกมิได้เจ้าค่ะ” สาวใช้เอ่ยถามทัวป๋าถิงฟางด้วยความเป็นห่วง

นัยน์ตาของทัวป๋าถิงฟางฉายแววเย็นชาออกมา ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยือกที่ตัดบทสาวใช้โดยสิ้นเชิง “มาไม่ได้ก็ไม่ต้องมาสิ หยุดพูดได้แล้ว”

สักวันนางต้องเป็นพระชายาเอกให้จงได้ !

นางจะมิทำตามความคิดของมู่เหล่าหวางเฟยอีก ! และนางก็ไม่จำเป็นต้องเลียแข้งเลียขาทัวป๋าหลิวลี่อีกด้วย เนื่องจากทำไปก็ไร้ประโยชน์!

สาวใช้เก็บกวาดเศษถ้วยชาที่แตกอยู่บนพื้นพลางพูดปลอบใจทัวป๋าหลิวลี่ “เช่อเฟยเจ้าคะ ท่านมิต้องกลัดกลุ้มไปหรอก ถิงฟางเช่อเฟยต้องกลับมาอีกแน่นอนเจ้าค่ะ”

“นางจะมาหรือไม่มาเกี่ยวอันใดกับข้า หึ ข้ามิอยากเห็นหน้านางอีก” ทัวป๋าหลิวลี่นั่งลงด้วยความขุ่นเคือง หากทัวป๋าถิงฟางยังอยู่ ณ ตรงนี้ก็คงโดนสั่งสอนต่อไป

สาวใช้จึงเอ่ยด้วยความลำบากใจ “เช่อเฟยเจ้าคะ มิว่าอย่างไรถิงฟางเช่อเฟยก็เป็นคนโปรดของเหล่าหวางเฟย ท่านมิควรทำเยี่ยงนี้กับนางอีกนะเจ้าคะ”

สาวใช้ผู้นี้กำลังสั่งสอนนางอยู่หรือ ?

พอเอ่ยถึงเรื่องนี้ ทัวป๋าหลิวลี่ก็บันดาลโทสะขึ้นมาทันที นางคิดว่าทัวป๋าถิงฟางจริงใจกับนางจริง ไฉนเลยคืออยากเหยียบขึ้นที่สูงกว่านางเสียได้ !

“สาวใช้ชั้นต่ำ ผู้ใดเป็นนายหญิงของเจ้ากันแน่ ? ริอ่านช่วยพูดแทนผู้อื่น ข้าคิดว่าเจ้าคงมิอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว” ทัวป๋าหลิวลี่บันดาลโทสะใส่สาวใช้

สาวใช้ตื่นตกใจขึ้นมาทันใด จากนั้นก็รีบคุกเข่าลง “บ่าวซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อท่านมาโดยตลอด เกิดมาเพื่อเป็นคนของท่าน ครั้นตาย…”

ทัวป๋าหลิวลี่หลับตาลงแล้วเอ่ยอย่างจนปัญญา “เจ้าลุกขึ้นเถิด”

“ขอบพระคุณเช่อเฟยเจ้าค่ะ ! ” สาวใช้ดีใจและรีบลุกขึ้นทันที

ความเย็นเยือกได้ฉายชัดขึ้นในแววตาของทัวป๋าหลิวลี่ หลังจากวันนั้นทัวป๋าถิงฟางก็มิได้มาหานางอีกเลย นางคิดไปหาเรื่องทัวป๋าถิงฟางก่อน แต่พอจะไปหาก็มิรู้ว่าต้องใช้ข้ออ้างอันใด

“ทัวป๋าหลิวลี่ผู้นี้มิรู้จักเคารพตนเองเลยหรือ ? ”

ครั้นได้ยินทัวป๋าถิงฟางเล่าเรื่องทั้งหมด มู่เหล่าหวางเฟยก็ขมวดคิ้วพลางเอ่ยเช่นนี้ เดิมทีนางตั้งใจเลือกหนึ่งในสองคนนี้ขึ้นรับตำแหน่งพระชายาเอก ทว่านางเอนเอียงไปทางทัวป๋าถิงฟางมากกว่า แต่ก็คิดได้ว่าทายาทที่แท้จริงของแคว้นชิงเยว่น่าจะช่วยส่งเสริมบารมีให้แก่มู่จวินฮานได้ดีกว่า

คาดมิถึงว่าสองคนนี้มิได้เข้าใจความคิดของนางแม้แต่น้อย

หึ มิน่าเล่า ที่ผ่านมาพวกนางจึงสู้อันหลิงเกอมิได้

แม้ในใจของมู่เหล่าหวางเฟยคิดเยี่ยงนี้ ทว่าต่อหน้าก็มิได้กล่าวอันใดออกมา

“ใช่เจ้าค่ะหมู่เฟย มิทราบว่าต่อไปถิงฟางต้องทำเยี่ยงไรเจ้าคะ ? ”

สิ่งที่ทัวป๋าถิงฟางต้องการคือมู่เหล่าหวางเฟยเต็มใจสนับสนุนนางอย่างเต็มกำลัง

แต่นางก็มองออกว่ามู่เหล่าหวางเฟยแค่อยากใช้ประโยชน์จากตนในการขับไล่อันหลิงเกอออกไปเท่านั้น บัดนี้แผนการสำเร็จลุล่วงแล้วอาจมิได้รับการสนับสนุนจากมู่เหล่าหวางเฟยอีกก็ได้

“ช่วงนี้จวินฮานไปหาเจ้าบ้างหรือไม่ ? ”

มู่เหล่าหวางเฟยถามหยั่งเชิงซึ่งทัวป๋าถิงฟางก็ส่ายหน้า

“แล้วช่วงนี้เขาทำอันใดอยู่ ? ”

มู่เหล่าหวางเฟยขมวดคิ้วเป็นปม เขาคงมิออกไปตามหาอันหลิงเกอกระมัง ?

“เรื่องนี้ ถิงฟางมิทราบ…”

ปกติแล้วนางมักเห็นมู่จวินฮานในทุกที่ที่อันหลิงเกออยู่ มู่จวินฮานมิเคยกระทำผิดต่อนาง แต่บัดนี้เหมือนเขามิสนใจนางมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

“ช่างเถิด เจ้ากลับไปได้แล้ว”

พวกนางมิรู้ว่าช่วงหลายวันมานี้นอกจากตามหาอันหลิงเกอแล้ว มู่จวินฮานยังตรวจสอบเรื่องในอดีตอีกด้วย

แม้บุรุษผู้นั้นสิ้นใจไปแล้วก็ตาม ทว่าเหล่าคนในจวนเจียงอ๋องมากมายเยี่ยงนั้นย่อมไม่มีทางหลุดลอดสายตาใครสักคนว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นได้หรอก

วันนั้นอันหลิงเกอ…

มู่จวินฮานมิกล้าคิดเพราะหากหมู่เฟยและทัวป๋าถิงฟางทำให้นางได้รับความอยุติธรรมจริง เขาจักทำเช่นไรเพื่อให้นางกลับมา ?

หากเกิดเรื่องใดขึ้น เขาก็กลัวว่ามิมีทางพูดคุยกันอย่างสันติกับอันหลิงเกอได้อีก

หมู่เฟยของตนทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องบุตรชายมาตั้งแต่เด็ก หาก…

มู่จวินฮานมิกล้าคิดต่อ ทว่าหลายวันมานี้เบาะแสทุกอย่างล้วนบ่งบอกว่าเป็นความจริง เรื่องที่เกิดขึ้นกับอันหลิงเกออาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับมู่เหล่าหวางเฟย และเรื่องนี้ทัวป๋าถิงฟางก็อาจเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น

โง่เขลาเสียจริง !

มู่จวินฮานกำหมัดแน่นและทุบโต๊ะอย่างแรง เขามิรู้ว่าควรทำเยี่ยงไร หากปัญหาใหญ่เหล่านั้นมาถึงและหมู่เฟยของตน…

เหตุใดนางต้องทำเยี่ยงนี้ ?

ยามนี้มู่เหล่าหวางเฟยยังมิรู้ว่ามู่จวินฮานกำลังตรวจสอบจึงส่งคนไปตามหาอันหลิงเกอเพื่อหวังฆ่าปิดปาก