สำนึกผิด

 

 

กู้เหยี่ยนพูดจบก็วางถ้วยเหล้าในมือลง ลูบชื่อบนป้ายหลุมศพ ค่อยๆ เลื่อนมือผ่านคำว่าซูหลิ่ว 

 

 

เขายังจำคืนแรกที่แต่งงานได้ เขาเปิดผ้าคลุมศีรษะสีแดงให้ซูหลิ่ว ซูหลิ่วเหลือบตาขึ้น ยิ้มให้เขาอย่างร่าเริง พูดกับเขาว่า “ท่านพี่ ชีวิตที่เหลือขอให้ท่านพี่นำทางแล้วนะเจ้าคะ” 

 

 

ชั่วขณะนั้นเขาตะลึงในความงามของซูหลิ่ว เขาเกิดความคิดว่าจะดูแลนางไปตลอดชีวิตจริงๆ แต่ความคิดนี้ต่อมาเขากลับลืมไปแล้ว 

 

 

เขาเกิดในครอบครัวยากจน หลังจากแต่งงานกับซูหลิ่ว คนรอบข้างล้วนแต่เป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์ถือกำเนิดในตระกูลใหญ่ คนเหล่านี้ดูถูกกู้เหยี่ยน ทำให้กู้เหยี่ยนยิ่งนึกถึงชาติกำเนิดของตน อยากวางตัวหยิ่งต่อหน้าซูหลิ่ว  

 

 

แต่ซูหลิ่วเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองจากภายใน  

 

 

เวลาอยู่ต่อหน้านาง กู้เหยี่ยนจึงไม่อาจวางตัวหยิ่ง ซูหลิ่วเป็นคนสวย ชาติกำเนิดสูงส่ง เก่งทุกด้านทั้งดีดพิณเล่นหมากล้อมเขียนหนังสือวาดรูป ขี่ม้ายิงธนูก็เก่ง อ่านหนังสือโบราณทุกชนิด อ่านหนังสือมากกว่าเขา 

 

 

เขาเกลียดความหยิ่งทะนงของซูหลิ่ว พยายามจำกัดนางไม่ให้อวดเก่งเกินไป จึงขอร้องนางต่างๆ นานา ซูหลิ่วเองก็ควบคุมตัวเองได้มาก แต่แม้จะเป็นอย่างนี้ เขาก็ยังรู้สึกไม่พอใจ 

 

 

ช่วงเวลานี้เองที่เขาพบซูเหม่ย 

 

 

ซูเหม่ยแตกต่างจากซูหลิ่วอย่างสิ้นเชิง ซูเหม่ยเป็นลูกภรรยาน้อย มีความรู้สึกว่าตนเองมีชาติกำเนิดต่ำต้อย สู้ซูหลิ่วไม่ได้แม้แต่น้อยเช่นเดียวกับเขา นางนิสัยอ่อนโยนเอาใจเก่ง เทิดทูนกู้เหยี่ยนมาก และรักใคร่ในตัวกู้เหยี่ยนมาก ทำให้กู้เหยี่ยนค้นพบความพึงพอใจจากนาง ความรู้สึกนี้ซูหลิ่วไม่อาจมอบให้เขาได้ 

 

 

“ซูหลิ่ว ข้าขอโทษ ข้าไม่คู่ควรกับเจ้า ไม่ควรแต่งงานกับเจ้าเพื่อยกฐานะของตน ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้าเอง 

 

 

ข้านึกว่าข้ารักซูเหมย จนกระทั่งเจ้าจากไปข้าจึงเข้าใจ ข้าไม่เคยรักซูเหม่ย ในใจข้ามีคนที่ข้ารักมาตลอดก็คือเจ้า 

 

 

ช่วงหลายปีหลังแต่งงาน ข้าพยายามยกฐานะตัวเองให้สูงขึ้น นอกจากอยากทำเพื่อตระกูลแล้ว ที่สำคัญก็เพราะอยากให้ตัวข้าคู่ควรกับเจ้า แต่เจ้ากลับไม่ใส่ใจเลย นี่เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ข้าคู่ควรกับเข้า แต่เจ้ากลับมองข้าม 

 

 

ข้าจึงหลงใหลในตัวซูเหม่ย ติดกับดักอ่อนโยนของนาง ซูเหม่ย ถ้าชาติหน้ามีจริง เจ้าจะให้โอกาสข้าชดเชยให้เจ้าหรือไม่” 

 

 

กู้เหยี่ยนเอาหน้าแนบป้ายหลุมศพ กอดป้ายไว้แน่น ซูหลิ่วเคยบอกเขาว่า ไม่ว่าเขาจะมีชาติกำเนิดอย่างไร นางก็ไม่ใส่ใจ ขอแต่ให้หัวใจของเขากับนางแนบชิดกันก็พอ 

 

 

เวลานั้นเขารู้สึกว่าซูหลิ่วคงคิดไว้แล้วว่าชาตินี้เขาคงไม่มีทางสร้างผลสำเร็จ และดูถูกเขา ในใจเขาจึงกดดัน แม้แต่ซูหลิ่วก็ยังคิดอย่างเดียวกับคนอื่น ที่ไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถสร้างฐานะด้วยตัวเองได้  

 

 

หลังจากซูหลิ่วจากไปแล้ว เขาจึงเข้าใจว่าซูหลิ่วไม่ใส่ใจเรื่องนี้เลยจริงๆ คนที่ใส่ใจเรื่องนี้คือซูเหมยต่างหาก 

 

 

โง่จริงๆ  เขาทอดทิ้งคนที่มอบหัวใจให้เขาไปแล้ว 

 

 

กู้เหยี่ยนยังคงไม่ปล่อยมือ เขากอดป้ายหลุมศพของซูหลิ่วไว้แน่น “หลิ่วเอ๋อร์ ตอนที่เจ้าป่วย ถ้าข้าไม่เมินเฉย พาเจ้าไปหาหมอ บางทีอาจจะรักษาโรคของเจ้าให้หายได้ เราสองคนคงไม่เป็นอย่างนี้ใช่หรือไม่” 

 

 

กู้เหยี่ยนถามตัวเอง ซูจิ่วซือซึ่งหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ตะลึงมองกู้เหยี่ยน 

 

 

นางไม่รู้ว่ากู้เหยี่ยนพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร นางเข้าใจมาตลอดว่ากู้เหยี่ยนกับซูเหมยร่วมมือกันวางยาพิษนาง เวลานี้พอได้ยินกู้เหยี่ยนพูด ดูเหมือนเขาไม่รู้เลยว่านางถูกวางยา เขาไม่รู้เรื่องนี้เลยจริงๆ หรือ 

 

 

ถ้ากู้เหยี่ยนไม่รู้เรื่องนี้ แสดงว่าซูเหมยก็เป็นคนลงมือคนเดียว 

 

 

——