ตอนที่ 555 เกิดเหตุวุ่นวายในเรือน

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 555 เกิดเหตุวุ่นวายในเรือน

“รอบคอบอย่างนั้นหรือ ? คิดจะมาก็มาและมิแสดงความเคารพต่อข้าน่ะหรือที่เรียกว่ารอบคอบ ? ” ทัวป๋าหลิวลี่มองด้วยสายตาเหยียดหยามและพูดโดยไร้ความปรานี

ทัวป๋าถิงฟางมองทัวป๋าหลิวลี่ด้วยแววตาประหลาดใจ สีหน้าสับสนและถามว่า “ข้ารู้จักมารยาทตั้งแต่เยาว์วัย หรืออาจเพราะพี่หญิงอายุมากแล้วจึงมองมิค่อยชัดเจน ข้าแสดงความเคารพต่อพี่หญิงตามกฎระเบียบแล้ว คนในจวนเป็นพยานได้เจ้าค่ะ”

“สารเลว” ทัวป๋าหลิวลี่เบิกตากว้างด้วยความโกรธและอดกลั้นมิไหวอีกต่อไปจึงง้างฝ่ามือและวาดออกไป บังอาจกล่าวหานางหรือ ?

ถึงอย่างไรก็เคยตบหน้ามาแล้วครั้งหนึ่ง ตบอีกครั้งจะเป็นอันใดไป

ทัวป๋าถิงฟางจะยิ้มก็ไม่ยิ้มพร้อมยกมือขึ้นมาจับมือของทัวป๋าหลิวลี่ไว้ ทัวป๋าหลิวลี่พยายามดิ้นแต่ก็ดิ้นมิหลุดจึงอดตื่นตระหนกมิได้ นางเอ่ยออกไปด้วยความขุ่นเคืองว่า “ปล่อยมือข้าเดี๋ยวนี้”

“เช่อเฟยเก่งนักมิใช่หรือ ? ที่แท้ก็เก่งแต่ปาก ! ” ทัวป๋าถิงฟางยิ้มและพูดออกไป ก่อนคลายมืออย่างฉับพลันทำให้ทัวป๋าหลิวลี่เกือบล้มลงกับพื้น

ยังมิทันที่ทัวป๋าหลิวลี่จะได้ร้องตะโกน ทัวป๋าถิงฟางก็ขึ้นมาคร่อมร่างของนางและกดร่างไว้โดยมิปรานี

ทัวป๋าถิงฟางเติบโตอยู่นอกวังตั้งแต่เด็กจึงเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ย่อมมิยอมให้ผู้ใดมารังแกได้โดยง่าย

“เช่อเฟย ท่านมิเป็นอันใดใช่หรือไม่เจ้าคะ ? ” น้ำเสียงที่น่าหวาดกลัวของทัวป๋าถิงฟางดังออกไป จากนั้นทัวป๋าหลิวลี่ก็ถูกประคองขึ้นมา

ทัวป๋าหลิวลี่เห็นว่าข้างกายของตนมีกลุ่มคนที่ไม่รู้ว่าเข้ามาตั้งแต่เมื่อใดอยู่จำนวนมาก ทว่าด้วยความโกรธที่ยังคุกรุ่นในใจจึงสบถด่าโดยมิสนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น “นางสารเลว เจ้าจะตีสองหน้าไปถึงเมื่อไร ? ”

ทัวป๋าถิงฟางคุกเข่าลงพื้น ทำท่าทางเหมือนจะร้องไห้ “เช่อเฟยเจ้าคะ หากท่านจะตบตีข้า ตามหลักแล้วข้ายอมเจ้าค่ะ แต่ข้ามิได้กระทำผิดอันใด ผู้ใดจะไปคิดว่าข้าแค่เบี่ยงตัวหลบแล้วเช่อเฟยจะลื่นล้ม ข้าแค่อยากช่วยประคองขึ้นมาแต่ก็พลาดสะดุดล้มลงไป ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเองเจ้าค่ะ”

ทุกอย่างที่กล่าวมาได้อธิบายเหตุผลและเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี กลุ่มคนเหล่านั้นจึงมองไปยังทัวป๋าหลิวลี่และพากันกระซิบกระซาบด้วยความรังเกียจ

“บ่าวสารเลว…” ทัวป๋าหลิวลี่บันดาลโทสะแต่ยังมิทันพูดจบก็ถูกคนผู้หนึ่งตัดบทเสียก่อน

“เช่อเฟย เพราะเหตุใดกัน ถิงฟางเช่อเฟยก็เป็นคนหนึ่งที่ได้รับเกียรติสมรสเข้ามาอยู่ในจวน ทั้งยังมาก่อนเช่อเฟยอีกด้วย ท่านมีสิทธิ์อันใดเรียกนางว่าบ่าวสารเลวเจ้าคะ” ฟางซู่ซู่อดกล่าวออกไปมิได้

ก่อนหน้านั้นนาง หลิงอวี่หนิงและทัวป๋าถิงฟางก็ล้วนเป็นฝั่งเดียวกัน

“ใช่ ! ถิงฟางเช่อเฟยมิใช่คนเลวร้ายเจ้าค่ะ”

“เช่อเฟย แม้ท่านขุ่นเคืองใจแต่การระเบิดอารมณ์ในจวนเยี่ยงนี้ก็มิสมควรเจ้าค่ะ!”

สาวใช้ของทัวป๋าหลิวลี่ก็พากันเข้ามาและช่วยดึงชายเสื้อนายหญิงให้ออกไปก่อน

“ทัวป๋าถิงฟาง เจ้า…เจ้าเก่งนัก” ทัวป๋าหลิวลี่เดินจากไปพร้อมสาวใช้ด้วยความมิยอม

“พี่สาวไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่ ? ” หลิงอวี่หนิงมองทัวป๋าถิงฟางและเอ่ยถาม ทว่านัยน์ตากลับฉายแววมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น

ทัวป๋าถิงฟางส่ายหน้าและพูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ขอบใจน้องสาวที่เป็นห่วง ข้ามิได้เป็นอันใด”

ฟางซู่ซู่จึงกล่าวขึ้นว่า “หลิวลี่เช่อเฟยผู้นี้ทำเกินไปแล้ว”

ทัวป๋าถิงฟางทอดถอนใจเบา ๆ “วันนี้ขอบใจเจ้าสองคนมาก” นางกล่าวอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน

“วันนี้ข้าเหนื่อยมากแล้ว ขอตัวกลับเรือนก่อน หากมู่เหล่าหวางเฟยลงโทษหลิวลี่เช่อเฟยก็หวังว่าทุกคนจะช่วยกันพูดเพื่อนาง” ทัวป๋าถิงฟางพูดอย่างเนิบช้า

หลิงอวี่หนิงเห็นนางซูบเซียวจึงเอ่ยด้วยความเต็มใจ “พี่สาวกลับไปพักเถิด ! ”

สองวันต่อมาทัวป๋าถิงฟางก็พาสาวใช้ไปหาทัวป๋าหลิวลี่ถึงในเรือน

นางและทัวป๋าหลิวลี่สร้างปัญหาอีกแล้ว มู่เหล่าหวางเฟยจึงชักสีหน้ามิพอใจใส่

ในจวนอ๋องแห่งนี้หากสร้างปัญหามากเกินไปคงดูมิงาม

ผู้อื่นมิรู้ แต่มู่เหล่าหวางเฟยรู้ชัดเจนดีว่าทัวป๋าถิงฟางตั้งใจทำให้ทัวป๋าหลิวลี่ดูแย่ในสายตาผู้อื่น

วันนั้นทัวป๋าถิงฟางมิควรปฏิบัติต่อทัวป๋าหลิวลี่ตามอำเภอใจโดยมินึกถึงผลที่จะตามมา

ตอนนี้หวังเพียงว่าทัวป๋าหลิวลี่จะยังโป้ปดได้เก่งเฉกเช่นเมื่อก่อน

ครั้นทัวป๋าหลิวลี่ได้ยินการรายงานของสาวใช้ก็เบิกตากว้างด้วยความโกรธทันที จากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นางยังกล้ามาหาอีก ข้ามิได้ไปหานางก็ดีมากแล้ว”

สาวใช้ถามกลับ “ให้บ่าวขับไล่หรือไม่เจ้าคะ ? ”

“มิต้อง ให้นางเข้ามา ข้าอยากเห็นเช่นกันว่านางจะกล่าวอันใด” ทัวป๋าหลิวลี่นั่งลงด้วยใบหน้าเย็นชา

“เจ้าค่ะ”

ทัวป๋าถิงฟางเดินเข้ามาและทำความเคารพเป็นอันดับแรก “คารวะเช่อเฟยเจ้าค่ะ”

“หืม ? เจ้ามาด้วยเหตุอันใด ? ” ทัวป๋าหลิวลี่เอ่ยถามและมิได้บอกให้ทัวป๋าถิงฟางลุกขึ้นยืน

“เช่อเฟย วันนั้น…” ทัวป๋าถิงฟางเอ่ยขึ้นอย่างคนมิได้รับความเป็นธรรม

ทัวป๋าหลิวลี่ตัดบททันใด “เจ้ายังกล้าเอ่ยถึงเรื่องวันนั้นอีกหรือ ? ”

ทัวป๋าถิงฟางตอบอย่างร้อนใจ “ท่านเข้าใจผิดไปแล้ว น้องหญิงหวาดกลัวอยู่ในใจจึงทำลงไปเยี่ยงนั้นเจ้าค่ะ”

ทัวป๋าหลิวลี่รู้สึกเหมือนได้ฟังเรื่องน่าขบขันที่สุด จากนั้นก็หัวเราะเยาะสองคราและพูดว่า “ช่างน่าขันเสียจริง นางบ่าวสารเลวผู้นี้คิดว่าข้าโง่เขลามากหรือ ? ”

ครั้นทัวป๋าถิงฟางเห็นท่าทางของทัวป๋าหลิวลี่ก็รู้ทันทีว่ามิอาจรังแกได้อีกต่อไปจึงแกล้งพูดอย่างน่าสงสาร “ข้าทราบดีว่าบัดนี้กล่าวอันใดท่านก็คงมิเชื่อ เช่นนั้นข้าขอลา วันหน้าจะมาเยี่ยมเช่อเฟยใหม่เจ้าค่ะ”

“ไสหัวออกไป ! ” ทัวป๋าหลิวลี่ตวาดด้วยน้ำเสียงเอือมระอา

ทัวป๋าถิงฟางเอ่ยอย่างมีมารยาท “ขอตัวก่อนเจ้าค่ะ”

ภายในวังหลวง บัดนี้มู่เหล่าหวางเฟยนั่งอยู่บนเก้าอี้นุ่มและเอ่ยถามองครักษ์เงาว่า “เรื่องที่ให้เจ้าไปตรวจสอบเป็นเยี่ยงไร ? ”

องครักษ์เงากล่าวอย่างสุภาพ “ถิงฟางเช่อเฟยอยู่ในเรือนแค่สองวัน จากนั้นก็ไปหาหลิวลี่เช่อเฟยขอรับ”

“นางยังกล้าไปหาทัวป๋าหลิวลี่อีกหรือ ? ” มู่เหล่าหวางเฟยถามด้วยท่าทางมิอยากเชื่อ

องครักษ์เงาพยักหน้าและกล่าวว่า “ถิงฟางเช่อเฟยเหมือนอยากไปปลอบใจพี่สาว แต่มิสำเร็จและบัดนี้มิทราบว่าคิดทำการใดอยู่ในเรือนขอรับ”

มู่เหล่าหวางเฟยรู้ว่าที่ทัวป๋าถิงฟางทำเยี่ยงนี้เพราะมิอยากสูญเสียแรงสนับสนุนจากนางไป

มู่เหล่าหวางเฟยพยักหน้าและกล่าวว่า “ทราบแล้ว ต่อไปเจ้ามิจำเป็นต้องจับตาดูนางอีก ออกไปได้!”

“ขอรับ” องครักษ์เงาจากไป

สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างจึงเอ่ยขึ้น “เหล่าหวางเฟยเจ้าคะ บ่าวได้ยินมาว่าเช่อเฟยมิชอบถิงฟางเช่อเฟยใช่หรือไม่เจ้าคะ ? พวกนางสร้างปัญหาใหญ่โตในงานเลี้ยงจนแทบมองหน้ากันมิติด เหตุใดจึงเป็นเยี่ยงนี้ไปได้เจ้าคะ ? ”

มู่เหล่าหวางเฟยกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชาโดยมิได้ตอบสาวใช้ ตอนนี้นางเริ่มมิถูกชะตากับทัวป๋าถิงฟางเสียแล้ว

วันนั้นตนพาสาวใช้ไปแอบดูเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ จึงเห็นความเจ้าเล่ห์ของทัวป๋าถิงฟางชัดเจน

นางไปถึงได้มินานก็เห็นทัวป๋าถิงฟางยอมคุกเข่าให้ทัวป๋าหลิวลี่ที่สาดน้ำชาใส่ ในฐานะหมู่เฟย เดิมทีนางอยากเข้าไปช่วยเหลือ แต่ผู้ใดจะรู้ว่านัยน์ตาของทัวป๋าถิงฟางจะฉายแววพึงพอใจออกมา

หลังจากนั้นนางก็เห็นคนในจวนทั้งหมดเข้าข้างทัวป๋าถิงฟางและกล่าวหาทัวป๋าหลิวลี่ว่ากระทำมิถูกต้อง

แม้บอกว่าฉลาดแต่จิตใจร้ายกาจเกินไป สตรีเยี่ยงนี้จึงมิเหมาะสมจะอยู่เคียงข้างมู่จวินฮาน

“ผู้มีพิษมากสุดคือผู้ที่รู้วิธีแสดงความอ่อนแอ ! ” มู่เหล่าหวางเฟยอดทอดถอนใจออกมามิได้

ในยามนี้ทัวป๋าถิงฟางยังมิรู้ว่าเหล่าหวางเฟยกำลังเอ่ยถึงความผิดลับหลังนาง

“นายหญิงถิงฟาง เราจะกลับไปเยี่ยงนี้หรือเจ้าคะ ? ” เด็กสาวที่คอยดูแลปรนนิบัติทัวป๋าถิงฟางอย่างใกล้ชิดเอ่ยออกมาด้วยความกังวล ตามนิสัยของถิงฟางเช่อเฟยนั้นนางย่อมรู้ดีว่าหากกลับไปเยี่ยงนี้ คนที่โชคร้ายก็จะเป็นสาวใช้เยี่ยงนางอีกแน่นอน