124 ปีศาจชุดแดง

ปล้นสวรรค์

SPHบทที่ 124 ปีศาจชุดแดง

 

วิ๊ง!

 

บนถนนตอนกลางคืน รถสปอร์ตสุดเท่ขับผ่านเข้า

 

เย่หยูนั่งอยู่ที่นั่งคนขับของรถ ส่วนเนียเสี่ยวเฉียนนั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสารด้านข้าง

 

” หวา! คุณชาย นี่คืออะไรหระ? ทําไมรถเหล็กนี้วิ่งได้เร็วนัก?”

 

เย่หยมองไปที่เนียเสียวเฉียนอย่างใคร่รู้แล้วพูดว่า

 

“นี่คือรถ”

 

“ไงเจินเทียน ทักทายเสียวเฉียนหน่อยสิ !”

 

เย่หยูเคาะไปที่พวงมาลัยขณะพูดกับเหยาเจนเทียน

 

“เขย่าสวรรค์ นี่เป็นชื่อของรถคันนี้หรอ? แปลกอะไรเช่น

 

เนียเสี่ยวเฉียนถามด้วยความอยากรู้ขณะมองไปที่เหยาเจินเทียนที่ทรงอํานาจ

 

เสียงระบบเอไอดังมาจากสเตอริโอของรถ

 

“สวัสดี! ฉันคือเขย่าสวรรค์! นายท่าน!” เมื่อได้ยินเสียงทักทายของเจินเทียน เนียเสี่ยวเฉียนก็ฉายแววตาที่อยากรู้อยากเห็น แล้วเธอยังพูดต่ออีกว่า

 

“สวัสดี! ฉันคือเนียเสียวเฉียน เป็นภรรยาของคุณชาย!”

 

เย่หยูส่ายหน้าอย่างขบขันขณะที่เขาได้ยินบนสนทนาระหว่างเหยาเจินเทียนกับเบี้ยเสี่ยวเฉียน

 

“คุณชาย! คนคนนั้นอยู่ใกล้พวกเราแล้ว!”

 

เมื่อเย่หยูขับรถผ่านพ้นเขตชนชั้นสูงมาแล้ว เนียเสี่ยวเฉียนก็เตือนเขาทันที

 

เปลี่ยนแปลงเส้นทาง เย่หยูขับรถตรงเข้าไปในเขต

 

เย่หยูลากเนียเสียวเฉียนลงมาจากรถสปอร์ต และแล้วพวกเขาก็มาถึงหน้าคฤหาสน์

 

“คุณชาย เจ้าของไข่มุกอยู่ในบ้านหลังนี้ค่ะ”

 

เนียเสี่ยวเฉียนมองไปยังคฤหาสน์ที่อยู่ตรงหน้าเธอแล้วพูดกับเย่หยูอย่างอ่อนโยน

สายตาเย่หยูส่องประกายและพูดอย่างเยือกเย็น

 

“ไปกันเถอะ ไปดูคนที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้กัน! เขากล้าเลี้ยงผีไว้มาทําร้ายคนได้ยังไง!”

 

เย่หยูคิดว่าเจ้าของไข่มุกกระหายโลหิตต้องอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ แต่เย่หยูกลับไม่รู้ว่าเจ้าของ

 

คฤหาสน์หลังนี้ก็ตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน

 

หวังต่งผู้ที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์เป็นเอเย่นต์ขายจําพวกอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียง เดิมที่เขาจะจัดงานรื่นเริงฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิกับคนรัก แต่กลับถูกขัดขวางจากเรื่องที่ไม่คาดฝัน

 

เวลานี้ หวังต่งกําลังนั่งอยู่บนพื้นอย่างอ่อนแรงและกําลังพยายามอย่างที่สุดเพื่อขยับตัวไปข้างหลัง พยายามออกห่างชายแปลกหน้าและผีที่พบก่อนหน้านี้

 

“ได้โปรด อย่าฆ่าฉัน!”

 

ใบหน้าที่แสดงถึงความหวาดกลัวถูกปกคลุมไปด้วยเลือดซึ่งเลือดนี้ก็เป็นเลือดของคนรักเขาเอง

 

ช่างน่าสงสารคนรักแสนสวยของเขาที่ถูกผีชุดแดงที่อยู่ตรงหน้าเธอฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ เลือดกระเซ็นไปทั่วห้องซึ่งมันทําให้รู้สึกสะอิดสะเอียน!

 

หวังต่งกัดฟันแน่นแต่ก็ไม่กล้าสบถออกมา เพราะกลัวว่าปีศาจชุดแดงจะเข้ามาฉีกร่างเขาเป็น

 

ขึ้นๆ

 

“จิ๊ จิ๊! บ้าเอ้ย! นังผู้หญิงคนนี้มันสวยมากกว่าฉันอีก!” 

 

ปีศาจชุดแดงที่กําลังลอยอยู่กลางอากาศยิ้มอย่างหงุดหงิดขณะมองนิ้วที่เรียวยาวและพูดด้วยท่าทางสบายๆ

 

ข้างๆปีศาจชุดแดง อี้ฉวนที่หัวเราะอย่างชั่วร้าย

 

“เจี่ยเจีย…หงอี้! หยุดเสียเวลาได้แล้ว รีบดูดเลือดของมันออกมาให้หมดเถอะ!”

 

ปีศาจชุดแดงจ้องไปยังอี้ฉวนแล้วพูดอย่างเยือกเย็นว่า 

 

“อี้ฉวน จําเอาไว้นะ พวกเราเท่าเทียมกัน และแกก็ไม่มีสิทธิมาสังฉันด้วย!”

 

ใบหน้าของอี้ฉวนหม่นมองแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเขาก้มหน้าลง แววตาชั่วร้ายของก็เขาก็ประกายออกมา

 

“รอฉันได้ชานาญคัมภีร์หัวใจของจอมมารซะก่อนเถอะ! ฉันจะจัดการแกทุกวิถีทางเลย!”

 

หงอี้เห็นว่าอี้ฉวนไม่ได้ปฏิเสธเธอ แต่กลับยิ้มอย่างพอใจ

 

“แม้แกจะพูดถูก แต่ฉันก็รอดูดเลือดจนหมดตัวไม่ไหวแล้ว”

 

เมื่อหวังต่งได้ยิน เขาก็หวาดกลัวจนใบหน้าของเขาซีดเผือด เขาอยากจะวิ่งแต่เขาก็กลัวจนแขนขาไร้เรี่ยวแรง เขาไม่สารถใช้พละกําลังได้เลย

 

“ฮิฮิ ไปลงนรกซะ!”

 

หงอี้กรีดร้องและพุ่งตรงไปยังหวังต่ง

 

ปัง!

 

ทันใดนั้น ประตูในบ้านก็ถูกใครบางคนเตะเปิดออก

 

“โย่ว! ที่นี่มันช่างสดใสจริงๆ นี่ฉันเข้ามาผิดเวลาไหมเนี่ย?

 

เย่หยูยืนอยู่ที่ประตูแล้วมองไปในห้องที่แสนจะยุ่งเหยิงและพูดกลั้นหัวเราะนิดๆ

 

” หมอนี้เป็นใคร!”

 

อื้ฉวนหันหลังไปพูดด้วยน้ำเสียงดุดันกับเย่หยูและเนียเสี่ยวเฉียนทันที

 

หงอี้ไม่สามารถที่จะประมาทในการดูดเลือดของหวังต่งได้เธอหันกลับมาและกลับมายืนข้าง

 

อื้ฉวน และมองไปยังประตูข้างหน้า

 

อื้ฉวนมองเนียเสี่ยวเฉียนอย่างไม่ได้ตั้งใจในครั้งแรก แต่จากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

 

ขณะที่ตะโกนออกมาด้วยความตกตะลึง

 

” ความสามารถนี่มัน! ร่างปีศาจหยินแห่งสวรรค์!” 

 

อื้ฉวนมองเนียเสี่ยวเฉียนด้วยแววตาที่แทบจะลุกเป็นไฟแล้วพูดกับหงอี้ว่า

 

” หงอี้ ปล่อยผีผู้หญิงไว้ที่นี่แล้วฆ่าไอ้เด็กเหลือขอนั้นซะ!”

 

เมื่อเนียเสี่ยวเฉียนรู้สึกถึงสายตาของอี้ฉวนที่จ้องมาเธอก็แสดงท่าที่เปลี่ยนไป เธอไปซ่อนหลังเย่หยูและกระซิบกับเขา

 

“คุณชาย ช่วยข้าด้วย!”

 

เย่หยูเห็นหน้าเนียเสี่ยวเฉียนที่กําลังหวาดกลัวและมาซ่อนข้างหลังเขา เขายิ้มและพูดกับเธอว่า

 

“เสี่ยวเฉียน เธอเป็นผืนะ เธอจะกลัวพวกมนุษย์จริงๆ เหรอ?”

 

เนียเสี่ยวเฉียนยืนอยู่ข้างหลังเย่หยูและพูดกับเขาด้วยเสียงอันทรงเสน่ห์

 

“แน่นอน ออร่าของผีที่อยู่รอบๆชายคนนั้น นอกจาออร่าชั่วร้ายและน่ากลัวนั้นแล้ว เพียงแค่มองก็รู้แล้ว ว่าเขาไม่ใช่คนดี! โดยเฉพาะปีศาจชุดแดงที่อยู่ข้างเขา ซึ่งดูไม่ใช่คนดีอย่างแน่อน! ”

 

สายตาของอี้ฉวนมองผ่านเย่หยูแล้วไปหยุดที่เนียเสี่ยวเฉียน ยิ่งเขามอง สายตาของเขาก็ฉายให้เห็นถึงความละโมบยิ่งขึ้น

 

“จิ๊จิ๊! ช่างเป็นผีที่สมบูรณ์จริงๆ แต่เดิมนี่เป็นร่างปีศาจหยินสวรรค์ และยากที่มันมาจากผู้บิรสุทธิ์

 

นี่คือเตาหลอมที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่สวรรค์ประทานให้กับฉัน !”

 

อี้ฉวนมองไปยังเนียเสี่ยวเฉียนด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความต้องการ เขายิ้มเยาะและพูดว่า

 

“ตราบใดที่ฉันใช้เตาหลอมในการฝึกตน ฉันก็จะสามารถเป็นผู้ควบคุมของคัมภีร์หัวใจปีศาจได้อย่างรวด เร็ว!”

 

เนียเสี่ยวเฉียนกลัวสายตาของอี้ฉวนที่มองมา เธอซ่อนอยู่หลังเย่หยูและตะโกนออกไปว่า

 

“คุณชายอยู่ที่นี่แล้ว แกทําไม่สําเร็จหรอก!”

 

“คุณชายงั้นหรอ?”

 

อื้ฉวนจ้องเย่หยูด้วยสายตาที่เหยียดหยัน และพูดอย่างไม่ตั้งใจว่า

 

“รอจนฉันขยี้คุณชายของแกให้ตายเถอะ ฮิฮิ แล้วแกค่อยมาเรียกฉันว่าสามี”

 

เมื่อเนียเสี่ยวเฉียนได้ยิน เธอก็กระทืบเท้าลงแล้วตะโกนไปว่า

 

” ช่างไร้ยางอาย! พลังอันยิ่งใหญ่ของคุณชายไม่ใช่สิ่งที่แกจะสามารถทําลายได้ง่ายๆหรอกนะ!”

 

“ชิ!” มุมปากของอี้ฉวนยกขึ้นอย่างเหยียดหยัน

 

“คุณชายเศษขยะของเธอ ก็แค่ของหวานชิ้นหนึ่ง! หงอี้เขมือบมันเข้าไป อย่าลืมที่จะค่อยๆฉีกร่าง

 

มันออกเป็นชิ้นๆ ฉันอยากจะได้ยินเสียงกรีดร้องของมัน!”

 

หงอี้ที่ยืนอยู่ข้างๆอี้ฉวนก็เบิกตาขึ้น เธอใช้นิ้วเรียวยาวของเธอพันผมที่แสนยาวขณะจ้องมองไปที่เขาอย่างสนใจเป็นพิเศษ

 

“โย่ว แกนี่ก็หล่อใช้ได้เลยนะเนี่ย ฉันรับรองว่าแกต้องรู้สึกดีแน่ๆ ”

 

ร่างของหงอี้มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเย่หยูภายในพริบตาขณะที่กรงเล็บแหลมก็คว้าเข้าไปที่อกของเย่หยู

 

“อ๊า!”

 

เสียงของเย่หยูเหมือนกับฟ้าร้องตอนฤดูใบไม้ผลิ ด้วยเสียงร้องตะโกน เขากําหมัดแน่นและต่อยไปที่หงอี้

 

กรรรร!

 

ด้วยเสียงคํารามของมังกร กําหมดของเย่หยูพุ่งไปยังไหล่ของหงอี้

 

“ย๊า!”

 

หงอี้ถอยกลับมาอย่างรวดเร็ว เธอกุมไหล่ของเธอไว้และล็อคไว้แน่นราวกับว่าเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

อื้ฉวนไขว้แขนแล้วยืนขึ้น เขาไม่ได้ดูกังวลแม้แต่น้อย แต่เขากลับยิ้มเยาะและพูดว่า

 

”เหอะ แกยังคงมีอุบายเล่นอยู่บ้าง แต่แกไม่คิดว่าศิลปะการต่อสู้แหกคอกแบบแกจะสามารถทําร้ายปีศาจที่มีระดับเท่าปีศาจชุดแดงงั้นหรอ?”

 

เดิมที่ใบหน้าที่แสนจะงดงามของหงอี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่หลังจากที่อื่ฉวนพูดจบ เธอก็กลับมาเย็นชาและมีท่วงท่าทรงเสน่ห์อีกครั้ง

 

” ชิ! ช่างน่าเบื่อเสียจริง!”

 

“ฉันไม่ได้หวังว่าเด็กน้อยจะเป็นนักต่อสู้ขั้นกลั่นโลหิตหรอกนะ ตอนนี้ฉันแค่จะดูดเอาเลือดของแกออกมาให้มากยิ่งขึ้น!”

 

หงอี้กํามือที่ว่างเปล่าขณะพูด หรือ!

 

เล็บมือมือทั้งห้ายิงมีดอันแหลมคมออกไปทันที

 

อื้ฉวนไม่ได้สนใจเย่หยูแต่กลับจ้องไปที่เนียเสี่ยวเฉียนอย่างลุ่มหลง เขาพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ

 

เนียเสี่ยวเฉียนที่ยืนอยู่ข้างเย่หยู สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวขณะกระซิบกับเย่หยู

 

“เราจะทํายังไงดีคุณชาย? วิธีของท่านดูเหมือนจะไม่ได้ผล

 

“ไม่เป็นไร”

 

น้ำเสียงของเย่หยูเรียบเฉยขณะหยิบมุกกระหายโลหิตออกมาวางในมือและถามอื้ฉวนว่า

 

“นี่ใช้ลูกแก้วของแกรึเปล่า”

 

อื้ฉวนตัวแข็งทือในขณะที่แววตากําลังลุกไหม้ด้วยความโกรธ เขาพูดอย่างเยือกเย็น

 

“งั้น มันคือแก! ผีชุดขาวที่ถูกโจมตี! ของฉันตายในมือนักสู้ที่ต่ำต้อยแบบแกเนี่ยนะ!”

 

“ตอนแรกฉันก็แค่จะตามหาแก แต่ฉันไม่ได้คิดว่าแกจะออกมาตามหาฉันด้วยตัวเอง!”

 

อื้ฉวนโบกมือให้สัญญาณปีศาจชุดแดงหยุด เขามองเย่หยูด้วยสายตาที่ชั่วร้ายและพูดว่า

 

“เพราะแกทําลายสัตว์เลี้ยงของฉัน งั้นฉันจะใช้ชีวิตแกเป็นการตอบแทน! ”

 

หลังจากที่อื้ฉวนพูดจบ ทั่งร่างของเขาก็ปกคลุมไปด้วยออร่าปีศาจสีเขียวและมือทั้งคู่ของเขาก็กลายเป็นกรงเล็บอันน่ากลัว

 

” กรงเล็บปีศาจแดนใต้!”

 

เสียงตะโกนที่ระเบิดออกมา กรงเล็บแหลมขออี้ฉวนคว้าไปในอากาศแล้วต่อยที่เย่หยูตรงหน้า

 

แคร๊ง!

 

“สวรรค์อมตะ!”

 

ออร่าดาบฟ้าคํารามอออกมาจากปลายนิ้วเย่หยูแล้วแทงไปยังอี้ฉวนราวกับสายฟ้า