ตอนที่ 492 : เสียงกระซิบจากเงามืด
ได้เวลาแล้วที่ร้านในเมืองครึ่งและจิวหัวจะต้องเปิดรับสมัครพนักงานใหม่
เนื่องจากแต่ละร้านมีพนักงานที่มีประสบการณ์เพียงแค่สองคนซึ่งไม่เพียงพอต่อจํานวนผู้เล่น จึงต้องทําการค้นหาผู้ช่วยอีกคน งานไม่หนักเท่าไรขอเพียงช่วยเหลือและให้คําแนะนําผู้เล่นได้ก็พอ
ตู้ม!
จู่ๆ ท้องฟ้าเหนื่องเมืองจิวหัวก็มีสีดำมืดสนิท
ในฤดูใบไม้ผลิตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงเช้าของวัน .. อากาศเริ่มอุ่นขึ้นแต่จู่ๆ กลับกลายเป็นหนาวเย็น เสียงฟ้าร้องคล้ายกับพายุโหมกระหน่าดูเหมือนจะเทความโกรธลงมาบนพื้น คลื่นทะเลซัดสาดหนุนน้ําในคลองกว้างให้ล้นเอ่อในเมืองจิวหัว
บนท้องฟ้าในตอนนี้ก้อนเมฆกําลังก่อตัวหนา แม่น้ําในคลองต่างเปลี่ยนสีไปตามแสงของท้องฟ้าลมพายุซัด เกือบจะกวาดคนที่พายเหลือให้จมสู่ใต้น้ํา กระแสน้ํายังคงพัดไม่หยุดสายลมและหยาดฝนที่โปรยปรายก่อตัวคล้ายร่างดํา
เมืองจิวหัวที่มีความเจริญรุ่งเรืองตลอดมานับตั้งแต่ผู้ฝึกฝนออกจากกองถ่าลังหลัก พวกเขากรูกันเข้ามาในเมืองจนเติมเต็มทุกส่วนในตอนนี้ที่นี่หนาแน่นไปด้วยผู้คน รวมทั้งคนที่นี้เองและคนที่สัญจรไปมา
ร่างเงามืดมองไปยังถนนที่คนเดินท่ามกลางสายฝน เขามองราวกับว่ามาสังเกตการณ์ยังโลกมนุษย์ “พวกเขาโชคดีแค่ไหนที่มีชีวิตเหมือนมดต่ําต้อยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอนาคตและคล้ายกับจักจั่นที่มีอายุสั้น” เขาพึมพำ
“ความหายนะกําลังมาเยือน” ร่างนั้นดูเหมือนจะกลืนไปกับผู้คนและหายไป
….
ผู้เล่นทยอยเข้ามาในร้านเรื่อยๆ แม้ว่าพวกเขาจะต้องรอที่นั่ง หลายคนดูเหมือนจะมีวิธีฆ่าเวลาด้วยการดูโปเกม่อน อย่างดงชิงลี่เธอจ้องมองที่หน้าจอด้วยความตั้งใจ “ทําไมคนรอบตัวเราเยอะจัง”
ในหมู่ผู้คนเงาสีดําเคลื่อนไปข้างหน้าที่ละน้อยโดยไม่รู้ตัว ..
เนื่องจากตอนนี้คอมทั้งหมดถูกจับจอง มันจึงยืนจ้องมองดูอนิเมะอยู่ข้างหลัง ดงชิงลี่หันกลับไปดูการ์ตูนต่อ
ผู้คนที่อยู่ข้างหลังเด็กสาวสองคนตั้งหน้าตั้งตาดูการ์ตูนไปกับพวกเธอจนกระทั่งถึงคิวของพวกเขาที่ละคนสองคน
หลังจากที่ดงชิงลี่และจางวานยูได้คอม คนข้างหลังที่กําลังรอคิวไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากหมดเวลาสนุกจากการดูการ์ตูนที่เธอเปิด พวกเขากําลังต้องนั่งอดทนอย่างโรยราต่อไป
“ดี! ไม่มีอะไรให้ดูอีกแล้ว” หลายคนบ่นประชด
เมื่อไม่มีดงชิงลี่หลายคนก็แยกย้ายกันไปร่างดํามืดที่ซ่อนอยู่ก็เช่นกัน .. เวลาเดียวกันกลิ่นเปรี้ยวแปลกๆ ลอยมา
ด้วยชามบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปสีม่วงในมือชายหนุ่มนักรบ .. ชงซิงเฟิงและพองเพื่อนเขาได้ยินเสียงผู้คนพูดคุยกันเรื่องหยกสื่อสารรุ่นใหม่
ในฐานะผู้เล่นเก่าในคิวโซนพวกเขาเปิดแปลกผักขนาดใหญ่ขึ้นมาปลูกคั่นเวลา พวกเขาได้รับเงินจํานวนมาก
“นั่นพวกเขากําลังพูดถึงอนิเมะหรอ?” หลินเซียวถามด้วยความสงสัย
“ข้าคิดว่ามีแค่เราที่ได้ดูการ์ตูน” ซูเหลียวกล่าว
“นี่ ข้าโหลดการ์ตูนมาหลายเรื่องที่มีหลายตอนก็น่าจะเรื่องโคนัน!”
“เจ้าคิดว่าไง มันสนุกมั้ย?”
“มาดูด้วยกันสิ!”
พวกเขานั่งลงบนโซฟาและเริ่มดูอย่างตั้งใจ
“หือ? พวกเขากําลังดูอะไรกัน?”
“มีการ์ตูนให้ดูอีกมั้ย?” หลายคนมองหน้ากัน
หลินเซียวผู้ซึ่งเคยดูการ์ตูนเรื่องนี้ไปแล้วมองไปรอบๆ พลางเกาหัว “ทําไมข้ารู้สึกเหมือนมีสายตาจ้องมองเรา”
เขาเห็นหลายคนกําลังขยับเขามาช้าๆ
ฝั่งทะเลสวรรค์ สภาพอากาศที่นั่นมืดมนอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ยามที่ด่านบนชายฝั่งนั่งงับด้วยความเคลิ้มกับลมโชยพร้อมฝนปรอยจากท้องฟ้า
มันเงียบ .. เงียบจนได้ยินเสียงเม็ดฝน
ในเมืองอันเงียบสงบเต็มไปด้วยผู้คนที่หลับไหล
ยามสองสามคนผลอยหลับไปโดยไม่รู้ตัว เปลือกตาของพวกเขาหนักพอๆ กับลูกตะกั่ว
สายลมโชยค่อยๆ พัดแรงขึ้นพัดจนก้อนหินจากหน้าผากลิ้งเผยให้เห็นร่างสูงในชุดคลุมสีดําผู้ซ่อนอยู่ ร่างนี้ปรากฏขึ้นโดยไร้เสียง ความมืดค่อยๆ กลืนให้ร่างหายไปช้าๆ
เมฆดําทะมึนก่อตัวบนท้องฟ้าพัดพาหยาดฝนโปรย
“เมื่อคืนข้าไปถึงอาณาจักรดวงดาว ขาใช้เวลากว่าแปดชั่วโมงเพื่อจะไปยังที่นั่น”
“ข้าเดินทางจากหยวนหยางไปยังทะเลร้างและในที่สุดก็มีโอกาสได้ผ่านน่านน้ํา” เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นบนท้องฟ้า
“เจ้ามีความเห็นยังไง? ..”
เสียงเย็นนั้นกล่าวว่า “เราต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ของเรา”
เขาฟังดูเป็นกังวลกับความลึกของมหาสมุทร
เสียงของเขาลดต่ําลงเรื่อยๆ จนได้ยินแค่ไม่กี่ค่า เล่นเกม ..ร้านค้า การ์ตูน
“เจ้าต้องการให้เราเปลี่ยนแผนตอนนี้และเล่นเซียนกะบี่พิชิตมารในร้านหรือไม่? หรือว่า ..” ร่างสูงในเสื้อคลุมกล่าว “ถ้าคนอื่นรู้ว่าเราไปร้านเล็กๆ ในโลกมนุษย์ทุกวัน พวกเขาจะหัวเราะเยาะเรา”
ท่ามกลางลมที่โหมกระหนาพร้อมสายฝน เสียงเยือกเย็นกล่าวด้วยความมั่นใจ “ไม่ต้องกังวล ถ้าเราไม่พูดเรื่องนี้ไม่มีใครรู้แน่”
เสียงคนมันแหบพร่าแต่แฝงไปด้วยความมั่นใจ
ไม่นานเสียงนั่นก็หายไป.. ดูเหมือนว่าทั้งสองจะหายไปแล้ว
ทุกอย่างรอบข้างดูเหมือนจะเงียบลง ไม่ว่าจะเป็นท้องทะเลหรือร้านค้า
เวลาเที่ยงคืนแล้วแต่ไฟในร้านยังคงเปิดอยู่
กลุ่มผู้ฝึกฝนและนักรบรวมตัวกันในบริเวณห้องนั่งเล่นพวกเขากําลังตั้งหน้าตั้งตาดูการ์ตูนกันอย่างครึกคักบางคนจิบชานมและกินบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปไป
ด้วยความเพลิดเพลินทําให้หลายคนไม่ได้โฟกัสกับสิ่งแวดล้อมนอกร้านพลางหลงคิดว่าโลกใบนี้กาลังสงบสุข
ไม่มีใครรู้เลยว่าข้างหน้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในใจกลางของทะเลลึกซึ่งมีชื่อเสียงและตํานานเล่าขานกันมาแสนนาน..