126 ถูกปลดปล่อย

ปล้นสวรรค์

Chapter 126 ถูกปลดปล่อย

 

อี้ฉวนเห็นกรงเล็บของหงอี้โดนหน้าผากของเย่หยู เธอไม่สามารถหยุดหยังแววตาแห่งความสุขได้เลย

 

“ฮ่าฮ่า ฆ่ามัน! ไม่ฉีกมันเป็นชิ้นๆหละ?”

 

เสียงที่น่าขนลุกหยุดทันที เหมือนกับมีบางคนสําลักขึ้นมาทันที

 

“อย่า…อ้าย?”

 

ก่อนที่แววตาที่ตกตะลึงของเนียเสี่ยวเฉียนจะค่อยๆลดลง แต่กลับแสดงสีหน้าแปลกแทน

 

กรงเล็บแหลมของปีศาจชุดแดงสัมผัสไปโดนที่หน้าผากของเย่หยู แต่มันไม่ทําร้ายเย่หยูเลยแม่แต่น้อย แต่เล็บที่เหมือนใบมีดกลับหดลงบนนิ้วเรียวยาวที่กางออกของเธอ

 

“คุณชาย ทําไมข้าถึงขยับไปสู้กับคุณได้หละ?”

 

ความเหี้ยมโหดและดุร้ายในดวงตาของปีศาจชุดแดงได้หายไป และพวกเขากลับมองเย่หยูอย่างอ่อนโยน

 

เมื่อรู้สึกว่านิ้วเย็นๆของหงอี้กําลังสัมผัสใบหน้าของเย่หยู เขาก็อดไม่ได้ที่จะเม้มปากแอบหัวเราะเยาะระบบ

 

“ความสามารถนี้ครอบงําได้เล็กน้อย”

 

อื้ฉวนเห็นว่าตนไม่สามารถทําให้หงอี้ฉีกเย่หยูเป็นชิ้นๆได้ แต่กลับแสดงความอ่อนไหวต่อเย่หยูแทน เมื่อมองดูเขา เธอก็อดไม่ได้ที่จะพุ่งตัวเข้าสู่อ้อมแขนเย่หยู

 

“หงอี้ หยุดเล่นได้แล้ว รีบฆ่าเขาซะ!”

 

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนที่ตกใจและโกรธจัดของอี้ฉวน หงอี้ก็หันหลังไปจ้องอี้ฉวนด้วยท่าที่เย็นชา เธอพูดอย่างเยือกเย็นว่า

 

“ฆ่าเขาหรอ? ฉันจะฆ่าแกก่อนนะสิ!”

 

หรือ!”

 

ทันใดนั้นฝ่ามือซีดเขียวก็จับไปที่ร่างอื้ฉวนทันที

 

อื้ฉวนไม่คิดว่าหงอี้จะเคลื่อนมาหาตน เขาไม่เข้าใจเธอในเวลานี้ และไม่คิดด้วยซ้ําว่าจะถูกจับด้วยกรงเล็บของเธอและบดเข้ากับกําแพง

 

“แก! แกเป็นภูติรับใช้ฉันนะ! ทําไมแกถึงช่วยศัตรูและมาโจมตีฉันห้ะ?!”

 

อื้ฉวนจ้องหงอื้อย่างไม่เชื่อ เขายากที่จะเชื่อว่าเธอจะช่วยเย่หยูเพื่อสู้กับเขา

 

หงอี้ไม่ได้สนใจอาการช็อคใดๆเลยของอี้ฉวน เธอเพียงหันหลังไปมองเย่หยูแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า

 

“คุณชาย คนๆนี้ช่างน่ารําคาญนัก นางสนมคนนี้จะสั่งสอนมัน คุณชายจะพอใจไหม? ”

 

“ค่อก!”

 

เย่หยูไอแห้งๆแล้วพยักหน้า

 

“ใช่แล้ว! ฉันจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าเธอฆ่ามัน”

 

หวือ!”

 

“ฟิ้ว!”

 

หงอี้ฝังกรงเล็บของเธอไปที่ร่างอี้ฉวย

 

อื้ฉวนกระอักเลือดออกมาและพ่นไปที่หงอี้ เธอโกรธมากจนสั่นไปทั้งตัว

 

” หงอี้! นี่แกบ้าไปแล้วใช่ไหม! เทคนิคชั่วร้ายอะไรที่เด็กเหลือขอนั้นใช้จนแกดูสนิทกับมันได้ขนาดนี้?!”

 

อี้ฉวนเกือบจะเป็นบ้า นี่เป็นผีภูติรับใช้ของเขานะ

 

เขาอดไม่ได้ที่จะแตะมือหงอี้ แต่หงอี้ที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกับเด็กสาวที่เพิ่งเปิดใจและเต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนา

 

“เด็กเหลือขอนี่ชักจะแปลกเกินไปละ! ถึงมันจะไม่ทํา ไม่ว่ายังไงก็ต้องฆ่ามันให้ได้!”

 

อื้ฉวนพิมพ์กบตัวเองด้วยใจของเขาที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงและหวาดกลัวเย่หยู

 

หลังจากที่สะบัดมือจากอี้ฉวน หงอี้ไม่แม้แต่จะมองเขา แต่กลับกล่าวขอโทษเย่หยู

 

“คุณชาย น่าเสียดายที่ข้าได้ทําสัญญาอย่างเท่าเทียมกับเขาไว้ จึงไม่สามารถฆ่าเขาด้วยตัวข้าเอง !”

 

เย่หยูยิ้มอย่างใจเย็น

 

“ไม่ต้องกังวล เธอช่างใจดีเหลือเกิน”

 

หงอี้รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยิน จากนั้นเธอก็พูดอย่างอ่อนโยน

 

“ข้าขอขอบคุณที่คุณชายที่ชมข้า”

 

เนียเสี่ยวเฉียนที่ยืนหลังเย่หยูรู้สึกงงงวยกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า

 

“สถานการณ์เปลี่ยนไปเร็วมาก สมองของภูติรับใช้ตอบกลับไม่ทัน!”

 

หงอี้เป็นราชินีกระหายเลือดผู้ชั่วร้าย แต่ตอนนี้ภายในพริบตาเดียว เธอกลับกลายเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยน

 

“คุณชาย คุณทําได้ยังไง? นี่มันปีศาจชุดแดงเลยนะ! เธอกระหายเลือดและโหดร้าย เธอจะมาสนิทสนมกับข้าได้ยังไง?”

 

เนียเสี่ยวเฉียนถามเย่หยูด้วยความประหลาดใจ

 

มันไม่ใช่ความผิดของเนียเสี่ยวเฉียนที่จะเริ่มประหลาดใจ ความสนิทสนมระหว่างเย่หยูและเนียเสียวเฉียนมาถึงขั้นไว้เนื้อเชื่อใจกันมากแล้ว ความสามารถของความรักใคร่ต่อผีสาวมันจะไร้ประโยชน์ต่อเนียเสี่ยวเฉียน

 

ไม่ไกลจากนี้ อี้ฉวนที่กําลังสําลักเลือดมองหงอี้และเนียเสี่ยวเฉียนด้วยรอยยิ้ม แล้วเขาก็โอดครวญในใจอย่างไม่พอใจว่า

 

“มันต้องเป็นของฉัน!”

 

อื้ฉวนจ้องเย่หยูอย่างชั่วร้าย จากนั้นก็พ่นเลือดที่อยู่เต็มปากออกมา

 

” คัมภีร์หัวใจปีศาจ !”

 

ร่างของหงอี้สั่นเทาขณะมองไปที่อื้ฉวนอย่างดุร้าย เธอพูดด้วยน้ําเสียงที่เยือกเย็น

 

“อื้ฉวน แกรนหาที่ตายเองนะ!”

 

อื้ฉวนพูดอย่างหงุดหงิดกับหงอี้ด้วยน้ําเสียงมุ่งร้าย

 

“แกบังคับให้ฉันทําแบบนี้เองนะ!”

 

“คัมภีร์หัวใจปีศาจ!”

 

อื่ฉวนใช้ไพ่ต่ายของเขาแล้วตะโกนใส่หงอี้ว่า

 

“ถ้าแกไม่อยากทนความเจ็บปวดจากลูกธนูนับพันที่เจาะไปที่หัวใจ ก็รีบฆ่าไอเด็กเหลือขอนั้นซะ!”

 

หงอี้ยืนอยู่ที่เดิมด้วยอาการไม่ไหวติงขณะพูดอย่างเย็นชา

 

*เป็นไปไม่ได้!”

 

อีฉวนพูดอย่างประหลาดใจว่า

 

” แกเป็นใครกันแน่?”

 

“ฉัน? แกไม่ได้พูดก่อนหน้านี้หรอว่าฉันเป็นก้อนขยะเล็กๆ”

 

เย่หยยักไหลและตั้งใจพูดออกมา

 

ใบหน้าของอี้ฉวนหมองหม่นขณะมองหงอี้ จากนั้นก็พ่นเลือดที่มีอยู่เต็มปาก

 

“หงอี้ รีบฆ่ามันเร็วๆสิ!”

 

“หึม!”

 

หงอี้ส่งเสียงคร่ําครวญและยื่นมือมากุมอกตัวเองไว้ ร่างบางของเธอสั่นเทาและจ้องไปยังอี้ฉวนข้างหน้าอย่างไม่แยแส

 

“บ้าเอ้ย!”

 

เนื่องจากเสียเลือดไปมาก ใบหน้าของอี้ฉวนซีดเผือด เขาตะโกนใส่หงอี้โหดเหี้ยม

 

“หงอี้ อย่ามาว่าโทษฉันแล้วกันว่าไร้ปราณี! คัมภีร์หัวใจปีศาจเพิ่มขึ้นอีก!”

 

ลิ้นครึ่งนึงของอี้ฉวนโผล่ออกมาจากปาก ออร่าผีรอบๆตัวเริ่มปั่นป่วนและเขาไม่สามารถระงับการแผ่ออร่าผีรอบตัวและปฏิกิริยารุนแรงนี้ได้

 

“ อ้า!”

 

หงอี้กรีดร้อง ใบหน้าของเธอซีดเหมือนคนตายและเธอก็รู้สึกว่าหากลูกธนูนับพันเจาะผ่านเข้าไปในหัวใจในร่างของเธอแล้วฉีกร่างเธอเป็นชิ้น

 

“ฮ่าฮ่า…”

 

หงอึ้งอตัวหัวเราะเยาะ เธอจ้องอี้ฉวนและพูด

 

“ลิ้นของแกโดนตัดออกด้วยฟันของแก ฉันยากจะเห็นว่าแกจะสวดมนต์ต่อได้ยังไง!”

 

อีกทางด้านหนึ่ง ใบหน้าของเย่หยูดูสับสน เมื่อเห็นหงอี้อดทนต่อความเจ็บปวดจากลูกธนูนับพัน

 

ที่เจาะเข้าหัวใจเธอ และไม่ต้องการทําให้เขาบาดเจ็บแม้แต่น้อย เย่หยูมองไปข้างหน้าเพื่อดูความสามารถที่มีในหน้าระบบ

 

เขายังคงเงียบและมั่นคงไม่พูดอะไร แต่แววตาของเขาก็เปล่งประกาย

 

“หงอี้: กบฏ!”

 

“ฉันต้องรีบไปแล้ว!”

 

อื้ฉวนตัดสินใจแล้วโยนบางสิ่งไปที่เย่หยู จากนั้นก็ตะโกนว่า

 

“ตายซะ!”

 

เย่หยูเหยียดนิ้ว ก็ปรากฏกริซเล็กๆที่อยู่ระหว่างนิ้วเขา

 

เขาเงยหน้าขึ้นมามองอี้ฉวนที่พังประตูเรียบร้อยแล้ว

 

หงอี้ที่ยืนอยู่ข้างเย่หยมองหลังอี้ฉวนและพูดอย่างเยือกเย็นว่า

 

“ฉันจะปกป้องน้องเสี่ยวเฉียน ดังนั้นคุณชายรีบออกไปเถอะ!”

 

“เขาจะหนีไปไม่ได้!”

 

เย่หยูตวัดนิ้วแล้วดาบฉีก็พันรอบกริซแล้วพุ่งไปยังอี้ฉวนราวกับสายฟ้า

 

ในเสี้ยววินาที อี้ฉวนราวกับโดนระบิดจนทําให้เลือดพุ่งกระจายออกมาราวกับพลุ

 

“ติ๊ด! ขอแสดงความยินดีที่สามารถสังหารศัตรูผู้แข็งแกร่งได้ โฮสจะได้รับรางวัลเป็นจับล็อตเตอร์รี่ได้หนึ่งครั้ง!”

 

เย่หยูรู้สึกปลาบปลื้มในหัวใจที่ชนะล็อตเตอร์รี่อีกครั้ง 

 

“ฮ่าฮ่า… ฉันเป็นอิสระแล้ว!”

 

” ขอบคุณนะท่านเย่หยู”

 

หงอี้ให้กําลังใจอยู่ข้างๆ

 

“ต้องขอบคุณคุณชายที่ยกเลิกสัญญาปีศาจนี้จนทําให้ฉันได้รับอิสระอีกครั้ง”

 

หงอี้มองไปยังเย่หยูและพูดอย่างอ่อนโยน

 

“เพื่อเป็นการตอบแทนให้กับคุณชาย จะเป็นอย่างไรหากฉันจะขออยู่ติดตามคุณชาย?”

 

เย่หยูไม่ได้พูดอะไรแต่เนียเสี่ยวเฉียนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาก็ทําท่าพ่นลมทางจมูกอย่างไม่แยแส

 

“หึม! คุณชายจะไม่เห็นด้วยกับคําขอของเธอหรอก”

 

“ฮิฮิ… น้องเสียวเฉียนกําลังทิ้ง”

 

หงอี้หัวเราะเมื่อได้ยิน

 

“พอแล้ว พี่จะไม่หยอกล้อน้องอีกแล้ว ”

 

” ฉันอยากจะรอคุณชาย แต่คุณชายไม่เห็นด้วย”

 

หลังจากหงอี้พูดจบ เธอก็จ้องเย่หยูอย่างอื่นขม

 

“หึม! ไม่ฆ่าเธอก็ถือเป็นของขวัญแล้วเ”

 

เย่หยูรู้ว่าหงอี้ที่อ่อนแอดูเหมือนเพิ่งจะปรากฏให้เห็น แต่เธอก็ยังคงเป็นวิญญาณปีศาจชุดแดง!

 

หงอี้ทําท่ายื่นริมฝีปากล่างและพูดอย่างเสียใจว่า

 

“คุณชาย คุณชายช่างโหดร้ายยิ่งนัก”

 

“เห้อเห้อ

 

หงอี้หัวเราะหลังจากที่เธอพูดจบ เธอหลบตาแล้วพูดด้วยน้ําเสียงน่ารักว่า

 

“คุณชาย ฉันไปก่อนนะ ไม่ช้าก็เร็ว คุณชายจะเข้าใจความรู้สึกของฉัน”

หงอี้จ้องไปยังรูปเหมือนแกะสลักของเจ้าของคฤหาสน์หวังต่ง เธอพูดว่า

 

” เพื่อประโยชน์ของคุณชาย ฉันจะไว้ชีวิตเขาเพื่อคุณชายเสี้ยว!”

 

หงอี้หันหลัง กระโปงยาวของเธอสยายพลิ้วไปในอากาศ เธอได้ลอยจากไปไกลจนเห็นแค่เพียงจุดแดงๆและเธอก็ค่อยๆหายไป

 

เย่หยูมองไปยังห้องที่แสนจะรกรอบๆ จากนั้นก็พูดกับหวังตั้งที่อยู่ข้างๆว่า

 

” ค่อยโทรหาตํารวจ! อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งบอกว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ก็พอ”

 

หวังต่งพยักหน้าจริงจัง

 

“โอเค โอเค! มั่นใจได้ว่าท่านผู้เป็นอมตะอันสูงส่ง ผมจะเก็บปากเงียบไว้!”

 

เย่หยูพยักหน้าแล้วปล่อยเนียเสี่ยวเฉียนไว้

 

เมื่อเย่หยูและเนียเสี่ยวเฉียนจากไป หวังต่งผู้ซึ่งเป็นเจ้าของคฤหาสน์ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขานั่งแข็งที่ออยู่บนพื้นร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

 

“โอ้พระเจ้า! เขาทําให้ฉันกลัวจนจะตายอยู่แล้ว!”