128 ซื้อบ้าน

ปล้นสวรรค์

SPH: บทที่ 128 ซื้อบ้าน

 

“ผู้ดูแลการสร้างภัตตาคารอํามฤต?”

 

เย่หยหยิบเอาใบไม้ทองคําที่อยู่บนโต๊ะ แล้วนํามาดูตรงหน้าก็พบเพียงว่ามันถูกสลักด้วยตวอักษรและลวดลายอย่างหนาตา ใจกลางของใบไม้ทองคํานี้ หอคอยที่สูงตระง่านก็ถูกประทับลงในนั้น

 

หอคอยสูงโบราณมีทั้งหมด 999 ชั้น แม้มันจะถูกสลักบนใบไม้ทองคํา มันยังปลดปล่อยออร่าแห่งสวรรค์ด้วย

 

“ระบบภัตตาคารอมตะนี้เป็นเพียงเพนต์เฮ้าส์ใช่ไหม? ”

 

เย่หยูยังคงรู้สึกว่าภัตตาคารอมตะแห่งนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาก็ไม่ได้พบอะไรพิเศษเขาเลยถามระบบ

 

“หอหอยสวรรค์อมตะ คุณสามารถขึ้นไปยังขอบเขตอมตะได้! เทคนิคการฝึกวิญญาณ!”

 

เสียงของระบบดังอยู่ในความคิดของเย่หยูและก็ได้มีข้อความถูกส่งเข้ามา

 

“ฟู!” นี่มันคือทักษะลับเพียงเพื่อความสนุกหรอ?

 

เย่หยูล่วงรู้ถึงข้อมูลและเข้าใจความหมายของเทคนิคลับของภัตตคารอมตะ เขาอดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึกๆ

 

เก็บใบไม้ทองคําให้เข้าที่ เย่หยูก็เตรียมตัวหาเวลาสร้างภัตตาคารอมตะ ตามที่ระบบบอกว่าภัตตคารอมตะดูเหมือนจะมีพลังวิญญาณที่สําคัญเพิ่มขึ้น

 

วิ้ง *

 

บนถนน รถสอร์ตสุดหรูแล่นผ่านไป ซึ่งเป็นที่ดึงดูดสายตาของคนที่ผ่านไปผ่านมา เย่เว่ยกัวที่นั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับและพูดกับเย่หยูว่า

 

“หนูน้อย เราจะไปที่ไหนกัน?”

 

เมื่อเห็นเย่เว่ยกัวดูสับสน เย่หยูก็ยิ้มแล้วพูดว่า

 

“ไปศูนย์บริษัทอสังหาริมทรัพย์และซื้อบ้าน!”

 

“ซื้อบ้าน?”

 

“ใช่ ปู่ไม่ได้อยากอยู่ที่สบายๆหรอครับ? ครั้งนี้เราจะไปซื้อบ้านดีๆกัน!”

 

บริษัทอินเตอร์กริตี้แอสแทต เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับต้นๆของเมืองหมิง

 

เอี๊ยด!

 

รถสปอร์ตหยุดอยู่ตรงหน้าประตูบริษัท จากนั้นเย่หยูกับเย่เว่ยกัวก็เดินเข้าไปข้างใน

 

ในฐานะที่เป็นผู้นําด้านอุตสาหกรรมของเมืองหมิง โถงต้อนรับจึงต้องกว้างขวางและสว่างสดใส เย่เว่ยกัวไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้มาก่อน ดังนั้นหลังจากที่มองดูรอบๆเขาก็ทําท่าค่อนข้างสงบเสงี่ยม

 

เนื่องจากในตอนเช้ายังคงไม่มีลูกค้าในห้องโถงต้อนรับ ดังนั้นจึงมีเพียงพนักงานขายสาวนั่งรวมกันเป็นกลุ่มประมาณสองถึงสามคนกําลังพูดคุยและหัวเราะกัน

 

มีบางคนเห็นเย่หยูและเย่เว่ยกัวเดินเข้ามาในห้องโถง พวกเขาต่างจ้องไปที่พวกเขา จากนั้นก็เมินใส่ พวกเขาหันกลับไปสุมหัวนินทากับเพื่อนร่วมงานของพวกเธอ

 

หูของเย่หยูกระตุกเมื่อได้ยินบนสนทนาของเหล่าพนักงานขาย

 

“ฮิฮิ แขกสองคนนี้มาตั้งแต่เช้าเลย”

 

“ชิ! แขกอะไร? ก็แค่พวกล้าหลัง อย่าไปสนพวกเขาเลย!”

 

“ฮิฮิ อย่าพูดแบบนั้นสิ พวกเขาอาจจะรวยก็ได้นะ!”

 

พนักงานขายกลอกตาใส่เย่หยูและเย่เว่ยกัวแล้วกระซิบต่อ

 

“คนรวย?”

 

“ฮิฮิ ดูเสื้อผ้าพวกเขาสิ พวกเขาดูเหมือนพวกคนรวยงั้นหรอ?”

 

“ใช่แล้ว ดูตาแก่นั้นสิ เขาดูตื่นๆ เห็นได้ชัดว่าคงไม่เคยเห็นสถานที่ระดับไฮเอนด์แบบนี้มาก่อน แล้วยังจะเด็กหนุ่มที่ใส่ชุดนักเรียนนั้นอีก เขาเป็นแค่เด็กนักเรียนมัธยมไม่ใช่หรอ? พวกเขาทั้งสองคนจะมีเงินสักเท่าไหร่กันเชียว? ”

 

เหล่าพนักงานขายคิดว่าเย่หยูไม่สามารถได้ยินในสิ่งที่พวกเธอพูดแน่นอนซึ่งทําไมพวกเขาถึงดื้อด้านขนาดนี้ โชคไม่ดีที่ด้วยสมรรถภาพเย่หยู จึงสามารถได้ยินบทสนทนาของพวกเขาอย่างชัดเจน

 

เย่หยูหน้ามุ่ยจนดูหมองหมน เขาไม่เคยคิดว่าโฮเนสเรียลแอสแทตจะไม่ดีขนาดนี้

 

ตึก ตึก…

 

เสียงฝีเท้าชัดเจนดังก้องในห้องโถงกว้างขวาง

 

นั้นคือสาวร่างบางที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์ม

 

เมื่อพนักงานขายเห็นลูกค้า พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มหัวเราะ

 

” หลิวเฉียน มีบางคนมา เร็วเข้า ต้อนรับเขาสิ!”

 

“ฮิฮิ ใช่แล้ว พวกเขาอาจจะรวย!”

่ ่

“ฮิฮิ หลิวเฉียนนี้ช่างโชคไม่ดี ในฐานะพนักงานขาย สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือสังเกตสถานการณ์ ประเมิณว่าเป็นคนรวยหรือคนที่สามารถซื้อบ้านได้”

 

“ใช่แล้ว หลิวเฉียนนี่สายตาไม่ดีเลยนะ เธอควรต้อนรับทุกคน ดูสิ นี่ก็เหมือนจะมากกว่าครึ่งปีแล้วนะยังไม่เห็นมีใครประสบความสําเร็จเลย! ได้รับแค่เงินเดือนเท่าพื้นฐาน ชิ ช่างน่าสมเพช!”

 

ท่าทีของหลิวเฉียนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยิน เธอเผยให้เห็นรอยยิ้มทันทีแล้วเดินตรงไปยังเย่หยูและเย่เว่ยกัว

 

“ขอโทษนะคะ คุณลูกค้าทั้งสองต้องการจะซื้อบ้านใช่รึเปล่าคะ?”

 

เย่หยูถอนสายตาจากพนักงานขายระดับล่างสักพัก เขาก็พยักหน้าและพูดกับหลิวเฉียนว่า

 

“ใช่แล้ว พวกเราต้องการซื้อบ้าน”

 

หลิวเฉียนยิ้มและยื่นมือของเธอ

 

“โอเค ตามฉันมาค่ะคุณผู้ชาย ขออนุญาตแนะนําบ้านของโฮเนสเรียลเอสเทตก่อนนะคะ”

 

เย่หยูและเย่เว่ยกัวเดินตามหลังหลิวเฉียนไปจนมาถึงพื้นที่ แสดงสินค้าและตั้งใจฟังคําแนะนําของหลิวเฉียน

 

เมื่อพนักงานขายคนอื่นเห็น พวกเขาก็เริ่มหัวเราะ

 

“ฮ่าฮ่า เอาอีกละ หลิวเฉียนต้องเสียเวลาอีกแน่!”

 

“ห้า! ทําไมแนะนําพวกเขาละเอียดจัง? ทั้งดูแล้วไม่น่าจะจ่ายได้แน่นอน!”

 

“จริง แค่บ้านเดี่ยวของพวกเราก็เริ่มที่หนึ่งล้านเป็นอย่างต่ํา พวกเขาไม่มีทางจ่ายไหว!”

 

“หึม! เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นแค่พวกพวกบ้านนอกแล้วยังมาที่นี่เพื่อซื้อบ้านเนี่ยนะ? ฉันเกรงว่าพวกเขาคงจะไม่รู้จักโฮเนสพรอพเพอร์ตี้! พวกเราหนะมีความเชี่ยวชาญในการบริการคนชั้นสูงเท่านั้น!”

 

หลิวเฉียนยืนอยู่ในพื้นที่จัดแสดงสินค้าในห้องโถงและพูดกับเย่หยูและเย่เว่ยกัวว่า

 

“รบกวนดูนี่นะคะ สิ่งเหล่านี้คืออสังหาริมทรพย์ของโฮเนสพรอพเพอร์ตี้ทั้งหมด มีสิ่งที่ต้องการบ้างไหมคะ”

 

“ปู่ครับ อยากได้แบบไหนครับ?”

 

เย่หยูหันหน้าไปถามเย่เว่ยกัว เย่เว่ยกัวมองไปที่โมเดลหรูหราที่อยู่บนเวทีแพรวพราว เขาพูดด้วยความระมัดระวังว่า

 

“เอิ่ม อะไรก็ได้ อะไรก็ได้เลย”

่ ่

หลิวเฉียนที่อยู่ด้านข้างยิ้มให้

 

“คุณลุงคะ ขออนุญาตแนะนํานะคะ”

 

หลังจากที่หลิวเฉียนพูดจบ เธอก็ชี้ไปที่พื้นที่ที่แสดงสินค้าและพูดว่า

 

“บริษัทโฮเนสเรียลเอสเทตเชี่ยวชาญในเรื่องสินค้าชั้นสูง บ้านทุกหลังถูกเลือกมาเป็นอย่างดี เซ็ตนี้เหมาะกับผู้สูงวัยมากเลยนะคะ ส่วนเซตนี้”

 

สายตาของเย่เว่ยกัวเต็มไปด้วยความสุข ทุกครั้งที่หลิวเฉียนแนะนําเซตบ้าน เย่เว่ยกัวก็จะพยักหน้าตามแล้วดูเหมือนจะชอบมาก

 

หลังจากนั้นไม่นาน หลิวเฉียนก็แนะนําจบและถามเย่เว่ยกัวว่า

 

“คุณลุงคะ ได้ตัดสินใจบ้างรึยังคะ?”

 

เย่เว่ยกัวลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็ถามนิ่งๆว่า

 

“สาวน้อย เซตนี้ราคาเท่าไหร่?”

 

หลิวเฉียนยิ้ม

 

“มันไม่แพงเลยค่ะ บ้านและความน่าเชื่อถือของบริษัทเราดีที่สุดในเมืองหมิงโจวค่ะ เรตราคาอยู่ที่ประมาณสิบล้านต่อบ้านหนึ่งหลังคะ “

 

“เท่าไหร่ เท่าไหร่นะ?”

 

เย่เว่ยกัวเหมือนจะได้ยินไม่ถนัดเขาจึงพูดดังๆซ้ําอีกรอบ หลิวเฉียนยิ้มแข็งที่อจนดูเหมือนขมขึ้นเล็กน้อย เธอเม้มริมฝีปากและพูดว่า

 

“เซตนี้ราคาอย่างต่ําอยู่ที่สิบล้านค่ะ”

 

เมื่อเห็นเย่เว่ยกัวลังเล หลิวเฉียนก็รีบพูดทันที

 

“อย่าเพิ่งปฏิเสธนะคะ จริงๆราคานี้ถูกมากแล้ว ฉันจะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อให้ส่วนลดคุณลูกค้าค่ะ!”

 

เย่เว่ยกัวดูเหมือนเป็นทุกข์แล้วกระซิบบอกว่า

 

“แต่มันแพงเกินไป!”

 

เย่เว่ยกัวเห็นหลิวเฉียนคอตก เขาจึงพูดขอโทษเธอ 

 

” ขอโทษนะสาวน้อย ที่ทําให้เธอเสียเวลามาก”

 

หลิวเฉียนฝืนยิ้มแล้วส่ายหัว

 

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้มาซื้อ ฉันแค่มาเดินดูหนะ”

 

พนักงานขายที่อยู่ไกลนักกําลังให้ความสนใจกับเหตุการณ์นี้อยู่ด้วยตลอด เมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างเย่เว่ยกัวและหลิวเฉียน สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป และรู้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้

 

“ฮิฮิ บอกแล้ว พวกเขาจ่ายไม่ไหว!”

 

“เหอะ หลิวเฉียนนี้สายตาแย่จริง ทําไมถึงไปต้อนรับคนประเภทนั้น!”

 

“เสียเวลาจริง!”

 

“ใช่ หลิวเฉียนนี่โง่จริงๆ! การเรียนรู้จากพี่สาวที่มีเพียงความสามารถเมื่อตอนลูกค้าสั่งเท่านั้น!”

 

เมื่อได้ยินคําเหยียดหยามจากเพื่อนร่วมงาน แววตาของหลิวเฉียนก็แดงกําจนเหมือนจะร้องไห้

 

หลิวเฉียนฝืนยิ้มออกมาแล้วปาดน้ําตาขณะพูดกับเย่หยู และเย่เว่ยกัวว่า

 

“พวกคุณสองคนสามารถเดินดูรอบๆก่อนได้นะคะ ถ้าพวกคุณรู้สึกผิด งั้นก็ขอตัวสักครู่นะคะ”

 

“เดี๋ยว!”

 

เมื่อหลิวเฉียนจะเดินหันหลังไป เย่หยูก็หัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า

 

“ผมยังไม่ได้พูดเลยนะ ว่าไม่ได้ต้องการจะซื้อบ้าน!” 

 

หลิวเฉียนหยุดชะงักแล้วถามด้วยความสงสัยว่า

 

“แต่… แต่เมื่อคุณลุง…”

 

เย่หยูถอนหายใจและหันไปพูดกับเย่เว่ยกัว

 

“ปู่ครับ ผมบอกไปแล้วว่าตอนนี้เราไม่ได้ไม่มีเงินแล้ว ฉะนั้นซื้อแบบที่ปู่ชอบเลยครับ!”

 

เย่เว่ยกัวยังคงลังเลเล็กน้อย

 

“แต่นี้มันแพงเกินไป!”

 

เย่หยูรู้ว่าเย่เว่ยกัวว่าผิดหวังกับเรื่อเงินมาก่อน เย่เว่ยกัวนั้นคุ้นเคยกับความยากจนและยังคงไม่คุ้นชินกับการมีเงิน

 

“ปู่ครับ อย่ากังวลไปเลย ผมซื้อบ้านพวกนี้ไหว ขอเพียงอย่างเดียว แค่เลือกอย่างที่ต้องการ!”