บทที่ 299 แผนรับมือ

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

นทีบดีพูดกับหลินจือถึงเรื่องไอเดียที่เขาได้หารือกับเทาเท่ “ในเมื่อซูซีกับอดีตแฟนของเธอเล่นงานคุณจะต้องมีจิตใจชั่วร้ายแน่ ในเมื่อพวกเขาได้เตรียมทำลายกล้องวงจรไปล่วงหน้าแล้ว งั้นพวกเราก็ใช้อุบายล่อ”

หลินจือถามอย่างใครรู้ “อุบายล่อ?”

นทีบดีพยักหน้า “กลับไปพวกเราจะหาคนจงใจปล่อยข่าวว่าในงานเลี้ยงมีคนถ่ายคลิปคุณกับซูซีที่กำลังฉุดดึงกันอยู่ไว้ได้พวกเรามีหลักฐานมากพอที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของคุณ พวกซูซีจะต้องคิดหาวิธีปิดปากคนที่ถ่ายคลิปนี้ไว้ เพียงแค่พวกเขาลงมือ พวกเราก็จับจุดสำคัญพวกเขาได้ทันที”

“คนนั้นพวกเราจัดให้เป็นคนของพวกเราเอง ตอนที่พวกซูซีไปหานั้นพวกเราจะมีหลักฐานชั้นดีไว้”

หลินจือถามอย่างกังวลว่า “อดีตแฟนของซูซีนั้นท่าทางปราดเปรียว พวกเขาจะติดกับหรอ?”

นทีบดียิ้ม “ติดกับแน่ พวกเขาคงไม่ให้จุดสำคัญมาตกอยู่ในมือพวกเรา ต่อให้มีความเป็นไปได้อย่างน้อยนิดพวกเขาก็ไม่ยอม”

หลินจือพยักหน้าพูดอย่างกังวลใจอีกว่า “แล้วคนที่นั่นที่พวกคุณจัดเตรียมไว้จะมีอันตรายมั้ยคะ ถ้าพวกเขาคิดแค่อยากจะปิดปากคนนั้นก็พออยู่ แต่ถ้าต้องถึงขั้นกับฆ่าละ?”

แม้ว่าหลินจือยังไม่เคยได้ใกล้ชิดกับอดีตแฟนของซูซีคนนั้น แต่หลินจือก็มีความรู้สึกด้วยสัญชาตญาณว่าผู้ชายคนนั้นมีจิตใจโหดเหี้ยม เธอกลัวว่าเขาจะลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับคนของพวกเธอ

นทีบดีหัวเราะแล้วพูดว่า “วางใจได้ คนที่พวกเราจัดหามานั้นไม่ธรรมดาและจะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดอย่างฉุกเฉินได้ครับ”

เทาเท่ที่อยู่ด้านข้างก็ส่งรอยยิ้มที่วางใจให้กับหลินจือ อารมณ์ของหลินจือให้ผ่อนคลายลงไปมาก ไม่ว่าจะเป็นนทีบดีหรือว่าเทาเท่ต่างก็เป็นคนที่มีความสามารถในการจัดการเรื่องราวสูง เธอควรที่จะเชื่อพวกเขา

หลังจากที่พูดคุยเสร็จ นทีบดีก็ลุกขึ้นขอตัวลา “เดี๋ยวผมจัดงานแถลงข่าวเพื่อบอกจุดยืนของพวกเรา”

หลังจากที่นทีบดีไป หลินจือก็มองไปยังเทาเท่พูดอย่างซาบซึ้งว่า “ขอบคุณทีช่วยเหลือฉันอย่างนี้”

แม้ว่าตอนนี้เธอมีตระกูลแม็กซิมัสไว้ให้พึ่ง แต่ตอนนี้จอร์แดนอยู่เวลฟ์ที่ไกลออกไป เทาเท่ก็เลยเป็นคนแรกที่พาทนายไปประกันตัวเธอออกมา เพื่อไม่ให้เธอได้ถูกขังคุก

อีกทั้งยังเชิญทนายที่มีอำนาจอย่างนทีบดีมาช่วยเธออีก หลินจือรู้สึกขอบคุณจากใจ

เทาเท่กระดกคิ้วขึ้น “ถ้าอยากขอบคุณจริงๆก็พิจารณาการแต่งงานกับผมใหม่ดีกว่านะ?”

หลินจือ “….”

เขาอาจจะรีบขอเร็วไปหน่อยหรือเปล่า?

เขาค่อยๆไปทีละสเต็ปก็ได้นิ ตั้งแต่ความสัมพันธ์ทางร่างกายและการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบแฟนก็ได้ นี่เขามาพูดว่าจะแต่งงานใหม่…

ยังไม่ทันที่คนทั้งสองจะได้พูดเรื่องนี้ต่อ จอร์แดนก็โทรมา

หลินจือรู้ว่าจอร์แดนเป็นห่วงเธออย่างแน่นอน และตอนที่รับสายจอร์แดนก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ “พอซื้อตั๋วเครื่องบินที่เร็วที่สุดเพื่อไปช่วยลูกนะ”

เทาเท่รับสายและพูดปลอบจอร์แดนเองว่า “คุณไม่ต้องมาแล้วครับ ไปๆกลับๆทรมานจะลำบากเอาครับ”

ตอนที่หลินจือถูกซูซีวางยาจอร์แดนก็เพิ่งมาไปครั้งนึง นี่ผ่านไปได้ไม่กี่วันก็ต้องมาอีกแล้ว เทาเท่เป็นห่วงสุขภาพของเขาว่าจะรับไม่ไหว ยิ่งไปกว่านั้นทางจอร์แดนยังมีลูน่าที่ป่วยเพิ่งหายต้องดูแลอีก

“เรื่องนี้ให้ผมจัดการก็พอ พวกเราคิดแผนรับมือได้แล้วครับ”

ทางจอร์แดนไม่รู้พูดอะไรก็ฟังเทาเท่พูดอีกว่า “คุณวางใจ ผมจะไม่ให้เธอได้รับความไม่เป็นธรรมแม้แต่นิดเดียว จะคืนความบริสุทธิ์ให้กับเธอ”

จอร์แดนได้ฟังคำพูดของเทาเท่ก็ให้รู้สึกสบายใจไม่น้อย บวกกับหลินจือพูดโน้มน้าวไม่ให้เขามา เขาเลยไม่มา

หลังจากที่วางสายลง จอร์แดนที่อยู่ในเทืองเวลฟ์นั้นก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ลูน่าที่อยู่ข้างๆพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ฉันคิดว่าเขาอยากเอาหลินจือกลับมาอย่างตั้งใจจริง ได้ผ่านเรื่องราวพวกนี้มาแล้ว คุณยังจะคัดค้านพวกเขาอยู่อีกหรอ?”

คำพูดของลูน่าก็เป็นสาเหตุที่จอร์แดนถอนหายใจ เขาส่ายหน้าพูดด้วยความรู้สึกจนใจว่า “เดิมทีผมตัดสินใจแด็ดเดี่ยวแล้วว่าจะไม่ให้หลินจือได้คบกับเขาต่อไปอีก เมืองเวลฟ์มีทายาทตระกูลสูงศักดิ์อยู่มากมาย ทำไมจะต้องไปเสียเวลากับอดีตสามีอย่างเขาด้วย”

“แต่ผมก็คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าเบลซสองคนพ่อลูกจะเปิดโอกาสให้เขาได้ใกล้ชิดและปกป้องหลินจือมากอย่างนี้ เขาช่วยหลินจือในยามยากทุกครั้ง ผมยังจะว่าอะไรได้”

ลูน่ามองถึงความกลัดกลุ้มของจอร์แดนออกเลยพูดปลอบเขาด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “รอให้เรื่องนี้ผ่านไปก่อน ฉันจะถามว่าหลินจือคิดยังไง ต้องให้เธอสมัครใจด้วยตัวเธอเองดีกว่า”

จอร์แดนทำได้แคพยักหน้ารับ “อื้ม”

เมืองเจสเวิร์ด

หลังจากที่นทีบดีออกมาจากที่อยู่ของหลินจือแล้วก็แถลงข่าว พูดอย่างมีวาทศิลป์ว่า “คุณหลินจือคู่กรณีของผมไม่ได้ผลักคุณซูซีอย่างแน่นอนครับ พวกเราก็ได้เจอหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ ในขณะเดียวกันพวกเราก็ขอยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีต่อคุณซูซีในฐานใส่ร้ายป้ายสีทำให้เกิดความผิด”

“ตรงนี้ผมต้องขอเตือนคุณซูซีว่าตามที่กฏบัญชาการได้กำหนดไว้ว่าด้วยการสร้างเรื่องใส่ร้ายผู้อื่นเพื่อเจตนาทำให้ผู้อื่นได้รับความผิด การกระทำร้ายแรงมีโทษจำคุกสามปีกักขังชั่วคราวหรือควบคุมตัว กรณีที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ร้ายแรงมีโทษจำคุกสามปีถึงสิบปีนะครับ”

ตัวนทีบดีเองก็เป็นทนายที่มีอำนาจในเมืองเจสเวิร์ดในตอนนี้ หลินจือได้เชิญนทีบดีมาเพื่อแก้ต่างให้ตัวเองก็เป็นหัวข้อที่ร้อนแรงพอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่านทีบดีจะมีหัวข้อร้อนแรงอย่างการออกมาฟ้องซูซีกลับอีก

นักข่าวที่อยู่ด้านล่างเวทีนั้นต่างงงกันเป็นแถว ทำไมซูซีจะกลายเป็นจำเลย?

นทีบดีค่อยๆพูดอธิบายว่า “ทุกท่านครับ โปรดสังเกตประโยคนี้ “สร้างเรื่องใส่ร้ายผู้อื่น” ทุกท่านไม่คิดว่าเรื่องนี้มีคนเจตนาร้ายหรอครับ?ไม่งั้นทำไมกล้องวงจรปิดของโรงแรมมันมาบังเอิญพังหมดล่ะครับ?”

นทีบดีพูดออกมาอย่างนี้ นักข่าวที่หัวไวนั้นก็ให้ตอบสนองกลับทันที นี่นทีบดีกำลังพูดว่าเรื่องนี้ซูซีเป็นคนกำกับการแสดงเองหรอ?ไม่น่าละเขาถึงได้บอกเป็นนัยว่าซูซีสร้างเรื่องขึ้น

นทีบดีพูดอีกว่า “แล้วอีกอย่างคู่กรณีของผมก็ไม่ได้มีเจตนารมย์กระทำผิดที่จะผลักคุณซูซีตกบันได”

“คุณซูซีบอกว่าคู่กรณีของผมนั้นอิจฉาเธอ แต่เธอมีอะไรให้คู่กรณีของผมนั้นอิจฉาล่ะครับ” ในน้ำเสียงของนทีบดีเต็มไปด้วยความเสียดสี “คู่กรณีของผมตอนนี้ลำดับศักดิ์ในวงตระกูลก็ดีกว่าเธอ ทั้งความรักและการงานต่างก็น่าภาคภูมิใจทั้งคู่ จะอิจฉาคุณซูซีเพื่ออะไรกัน? หรือว่าอิจฉาที่อดีตแฟนมีที่มาที่ไปไม่ชัดเจนหรอครับ?”

“ต่อให้คู่กรณีของผมนั้นจะไม่ได้คบกับท่านประธานเทาเท่อีก แต่ที่เมืองเวลฟ์ก็มีทายาทตระกูลสูงศักดิ์นั่นอยู่นิครับ เธอจะอิจฉาความรักของคุณซูซีกับอดีตแฟนหรอครับ?”

“ในทางกลับกันคุณซูซีอิจฉาคู่กรณีผมยังพอว่านะครับ”

คำพูดของนทีบดีทำให้พวกนักข่าวนั้นได้ฉุกคิดขึ้น เพราะคำพูดของเขามีเหตุผลมากจริงๆ

แน่นอนล่ะว่าก็มีจุดที่พวกนักข่าวไม่เข้าใจก็คือ “แต่ถ้าคุณซูซีกำกับการแสดงเองจริง ทำไมเธอจะต้องตกลงมาจากบันไดเพื่อให้ได้รับบาดเจ็บจนถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสล่ะคะ?”

นทีบดีลูบที่แหวนนิ้วนางด้านสายและพูดว่า “นี่คุณคงไม่เข้าใจสินะ?”

“นี่เรียกว่าถ้าไม่ทำแล้วจะกำจัดได้ยังไง” คำของพูดของนทีบดีเหมือนดูไม่ใส่ใจ แต่กลับพูดได้ตรงกับความจริง