ตอนที่ 160 โดนกวนประสาทแต่เช้า / ตอนที่ 161 นึกไม่ถึงว่าคิดจะแอบออกไปกิน

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 160 โดนกวนประสาทแต่เช้า 

 

 

           หลังเที่ยงคืน ซือเหยี่ยนถึงเพิ่งได้อุ้มเจียงมู่เฉินออกจากห้องน้ำ เจียงมู่เฉินเอ้อระเหยพิงกายอยู่บนเตียง คิดอย่างจริงจัง “ซือเหยี่ยน นายเหนื่อยทุกวันแบบนี้ ต่อไปแก่ตัวมาจะขาดทุนเอาง่ายๆ ใช่ไหมล่ะ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนหน้าดำคร่ำเคร่ง “คุณนี่ชอบเป็นเดือดเป็นร้อนจริงๆ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินพลิกมานอนตะแคงข้างเลิกคิ้วใส่ซือเหยี่ยน “ที่จริงฉันคิดเพื่อนายแล้ว ที่จริงพวกเราสองคนมาสลับกันสักหน่อยก็ได้ ครั้งหน้านายนอนลง ฉันจัดการเองก็โอเคแล้ว” 

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มเยาะ “รอคุณจับผมกดลงได้เมื่อไหร่ ค่อยมาว่ากันเถอะ” 

 

 

           ตั้งหลายปีมาแล้ว หนทางการอยากผลัดเป็นรุกของเจียงมู่เฉินไม่เคยเปลี่ยนเลยสักนิด สมัยนั้นที่คบกับเขาก็อยากจะผลัดเป็นรุกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม 

 

 

           จู่ๆ ซือเหยี่ยนก็นึกถึงเมื่อก่อน เพื่อแผนการใหญ่แผนกลับมาเป็นรุกแล้ว เจียงมู่เฉินจะขยับไม่ขยับก็แอบจู่โจมเขาตลอด แต่สุดท้ายทุกครั้งก็จะกลับมาโดนเขาจับกดอยู่ดี 

 

 

           นึกไม่ถึงว่าผ่านไปตั้งหลายปีขนาดนี้แล้ว จะยังไม่เข็ดอยู่อีก 

 

 

           ตอนนั้นเป็นรุกไม่ได้เลย ตอนนี้ยิ่งไม่มีหวังแล้ว นอกจากวันไหนสมองเขาเกิดช็อตแล้วยินดีที่จะนอนให้เจียงมู่เฉินวาดลวดลาย 

 

 

           ‘เพียงแต่ว่าสมองเขายังดีเยี่ยมอยู่เสมอ ดูท่าจะช็อตไม่ไหวเสียด้วย’ 

 

 

           …… 

 

 

           รุ่งเช้าวันต่อมา เจียงมู่เฉินก็ตื่นแล้ว เขาเห็นซือเหยี่ยนยังนอนหลับตาอยู่ข้างกาย ดูๆ ไปแล้วยังพออ่อนโยนกับเขาบ้าง 

 

 

           ‘แท้จริงแล้วมีเพียงแค่ซือเหยี่ยนยามนอนเท่านั้นถึงจะเป็นคน ยามไม่นอนก็เป็นสัตว์ดีๆ นี่เอง’ 

 

 

           เขากลัวเสียงอึกทึกจะทำให้ซือเหยี่ยนตื่น จึงลงจากเตียงอย่างระมัดระวัง แต่ยังไม่ทันได้ลงไป มือโดนจับไว้เสียก่อน เจียงมู่เฉินหันกลับมาก็เห็นแค่ซือเหยี่ยนลืมตามองเขา จะมีความง่วงสักนิดที่ไหนกัน 

 

 

           “นายตื่นก่อนอยู่แล้วใช่ไหม” เจียงมู่เฉินโมโหแล้ว เสียแรงที่เขาอุตส่าห์ระมัดระวัง 

 

 

           ซือเหยี่ยนค่อยๆ ยกมุมปากขึ้น “เดิมทียังอยากจะนอนอุ่นเครื่องต่อ แต่พอเห็นเฉินเฉินปีนลงจากเตียง อดใจไม่ได้เลยตื่นดีกว่า” 

 

 

           เจียงมู่เฉินจ้องมองใบหน้าทำไขสือของเขา รู้สึกมาตลอดว่าไอ้หมอนี่มักจะมีเจตนาไม่ดีแอบแฝง 

 

 

           “เอามือนายออกไป ฉันจะลงจากเตียง” 

 

 

           “ไม่ปล่อย นอกจากคุณจะจูบผม” 

 

 

           ‘เชี่ย! แม่ง!’ 

 

 

           ‘นี่เขาโดนกวนประสาทแต่เช้าเลยเหรอเนี่ย’ 

 

 

           “จูบน้องสาวนายสิ ไสหัวไป” เจียงมู่เฉินระเบิดลง 

 

 

           ซือเหยี่ยนถอนหายใจอย่างซื่อๆ “น่าเสียดายนิดนึงจริงๆ ผมเป็นลูกคนเดียว ไม่มีน้องสาวให้คุณจูบเลย” 

 

 

           “นาย..” เจียงมู่เฉินขัดใจ “นายรู้ไหมว่านายนี่เรียกว่าอะไร” 

 

 

           “อะไร” 

 

 

           “นายนี่แม่งเรียกว่าจอมแถ จอมแถไง!” 

 

 

           ซือเหยี่ยนมองดูคนไม่ให้ความร่วมมือแล้วถอนหายใจเล็กน้อย นิ้วมือออกแรงดึงตัวคนนอนลงกับเตียง ไม่พูดไม่จาคร่อมทับอีกคนไว้ แล้วกดจูบลงไปหนักๆ 

 

 

           เจียงมู่เฉินไม่รู้ว่าถูกทำให้โมโหหรือถูกทำให้นิ่งเงียบ น้ำใสเอ่อล้นปริ่มเต็มนัยน์ตาดอกท้อคู่นี้ ช่างดูไร้เดียงสาไม่เบา 

 

 

           ซือเหยี่ยนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ปล่อยมือออก เจียงมู่เฉินรีบลงจากเตียง ยกเท้าถีบซือเหยี่ยนไปที “วันนี้นายอย่าพูดกับคุณชายจะดีที่สุด คุณชายกลัวว่าไม่ระวังพลั้งมือฆ่านาย” 

 

 

           ซือเหยี่ยนมองดูเจียงมู่เฉินที่เดินเข้าห้องน้ำไป แล้วลูบจมูกเล็กน้อย โอ้…เฉินเฉินของเขาวันนี้โหดแต่เช้าเลย  

 

 

           ทั้งสองคนล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็เดินตามกันลงบันไดมา เจียงมู่เฉินหน้าตาบูดบึ้งเหมือนกับไฟโกรธยังพลุ่งพล่านอยู่ ส่วนซือเหยี่ยนเชิดมุมปากขึ้น ราวกับแมวที่ได้ขโมยกินปลาเรียบร้อยแล้ว 

 

 

           คุณแม่เจียงจ้องมองคนสองคนที่สีหน้าอารมณ์ไม่สามัคคีกัน แล้วพิจารณาไตร่ตรองดูสักพัก ร้อยเรียงคำ ก่อนเอ่ยถามเสียงเล็ก “พวกลูกทะเลาะกันเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินกวาดสายตามองซือเหยี่ยนแวบหนึ่ง “หึ” อดกลั้นทำเสียงเย็นแสดงความไม่พอใจไม่ได้ ไม่ใช่แค่ทะเลาะกันหรอก ใกล้จะตีกันอยู่แล้วโอเคไหม 

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มเบาๆ มองคุณแม่เจียง “เมื่อกี้พูดผิดไปประโยคหนึ่งครับ เหมือนจะทำให้เฉินเฉินไม่พอใจแล้ว” 

 

 

           “เฉินเฉิน ลูกขี้น้อยใจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แค่พูดผิดไปประโยคเดียวแล้วจะเป็นไรไป ถึงขนาดต้องโกรธเสี่ยวเหยี่ยนเลยเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินโกรธแล้ว ชูนิ้วกลางใส่ซือเหยี่ยนที่อยู่ข้างล่าง 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 161 นึกไม่ถึงว่าคิดจะแอบออกไปกิน 

 

 

           ซือเหยี่ยนหัวเราะเบาๆ แอบกำนิ้วกลางที่ยื่นออกมาของเจียงมู่เฉิน สีหน้าไม่เปลี่ยน “ปัญหาอยู่ที่ผมเองครับ เฉินเฉินควรจะโกรธอยู่แล้ว” 

 

 

           คุณแม่เจียงถอนหายใจ “ถ้าเสี่ยวเหยี่ยนมาเป็นลูกชายน้าคงจะดีมากเลย รู้จักความขนาดนี้ เหวินฮุ่ยนี่โชคดีจริงๆ” 

 

 

           “น้าเจียงครับ เฉินเฉินก็รู้จักความมาก แม่ผมเองก็ชอบเขามาก” 

 

 

           คุณแม่เจียงเอามือค้ำคาง ไม่รู้ว่ากำลังนึกถึงอะไรอยู่ จู่ๆ ก็ดวงตาก็ลุกวาวขึ้นมา “แม่ว่าตอนนี้พวกลูกสองคนความสัมพันธ์ดีขนาดนี้แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราสองบ้านก็ยังดีมากด้วย แบบนี้ก็ให้พวกลูกสาบานเป็นพี่น้องกันซะเลย ตอนนี้ฮิตกันมากอยู่ไม่ใช่เหรอ” 

 

 

           เมื่อซือเหยี่ยนได้ยินคำว่า ‘พี่น้อง’ สองคำนี้ สมองก็อดจะกระตุกขึ้นมาไม่ได้ 

 

 

           เจียงมู่เฉินได้ยินแบบนี้ก็ชอบใจทันที เขายักคิ้วอย่างดีอกดีใจ “ใช่ๆๆ ผมคิดว่าความคิดนี้ดีมากเป็นพิเศษเลยครับ แม่มีลูกชายเพิ่มอีกคน ผมก็มีแม่เพิ่มอีกคน เพอร์เฟกต์” 

 

 

           ซือเหยี่ยนฉวยโอกาสตอนที่คุณแม่เจียงไม่ทันได้สังเกตถลึงตาใส่เจียงมู่เฉิน ให้เขาอย่าใส่ไฟอะไรเพิ่มเข้าไปอีกหลังจากนี้ พวกเขาสองคนเป็นคนรักกัน จะมาเปลี่ยนเป็นพี่น้องกันได้ยังไง 

 

 

           “จริงเหรอลูก งั้นวันหลังแม่จะพูดกับเหวินฮุ่ย ให้พวกลูกได้เป็นพี่น้องกัน” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นคุณแม่เจียงที่แทบอยากจะพุ่งตัวไปบอกแม่เขาเรื่องให้พวกเขาสาบานเป็นพี่น้องกัน ก็อดจะยกมือขึ้นมากุมขมับไม่ได้  

 

 

           เจียงมู่เฉินลำพองใจ ใครใช้ให้นายแกล้งฉันทุกวัน ตอนนี้มีแม่ฉันจัดการลงโทษนายแล้ว 

 

 

           “น้าเจียงครับ ผมรู้สึกว่าไม่เหมาะเอามากๆ เลยครับ” ซือเหยี่ยนรีบใช้ความคิดจะหาเหตุผลอะไรดีมาใช้ข้ามผ่านด่านที่ผ่านได้ยากนี้ 

 

 

           คุณแม่เจียงมองซือเหยี่ยนด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม “ไม่เหมาะสมตรงไหนเหรอจ๊ะ เสี่ยวเหยี่ยน” 

 

 

           ซือเหยี่ยนกัดฟัน ตัดสินใจขายพ่อตัวเองสักหน่อยแล้วกัน ให้พ่อออกหน้ารับแทนเขาไป 

 

 

           เขามองคุณแม่เจียงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พ่อผมอยากอยู่สองต่อสองกับแม่ผมครับ ถ้าให้เฉินเฉินกลายเป็นลูกบุญธรรมของแม่ผม ถึงตอนนั้นพ่อผมก็จะโดนแย่งความรักครับ” 

 

 

           คุณแม่เจียงแปลกใจ “ไม่หรอกมั้งจ๊ะ เขาขี้หึงขนาดนี้เชียว แต่จะว่าไปก็ใช่ ตั้งหลายปีมาแล้วยังขี้หึงมากๆ อยู่เลย” 

 

 

           เธอมองเจียงมู่เฉินทันที “ช่างเถอะๆ ลูกแม่อย่าไปรบกวนจะดีกว่า เป็นเพื่อนสนิทกันแบบนี้ดีแล้ว” 

 

 

           เจียงมู่เฉินโกรธจนกระอักเลือด ใช้พ่อตัวเองมาอ้าง ซือเหยี่ยนไอ้หมอนั้นช่างคิดได้ 

 

 

           แม้แต่เรื่องที่อาซือขี้หึงก็เอามาโพนทะนาข้างนอก เจียงมู่เฉินถอนหายใจ เลี้ยงลูกชายอย่างซือเหยี่ยน ซวยไม่เบาทีเดียว 

 

 

           คุณพ่อซือที่กำลังเที่ยวพักผ่อนอยู่บนเกาะเล็กๆ กับเหวินฮุ่ยจามขึ้นมาโดยฉับพลัน 

 

 

           เหวินฮุ่ยมองเขาแวบหนึ่ง “เป็นหวัดแล้วเหรอคะ” 

 

 

           คุณพ่อซือมองพระอาทิตย์ดวงใหญ่บนหัว ในใจคิด ไม่หรอกมั้ง อุณหภูมิที่นี่สูงถึงขนาดจะทำให้เขาเป็นหวัดแดดเลยเหรอ 

 

 

           “ไม่ควรจะใช่หวัดหรอก” เขาลูบคอที่เย็นขึ้นมา “หรือว่ามีคนพูดจาให้ร้ายผมลับหลังผมอยู่” 

 

 

           คุณพ่อซือไม่รู้ ว่ามีคนกำลังพูดจาให้ร้ายเขาแล้วจริงๆ คนที่เป็นตัวหลักในการพูดคือลูกชายแท้ๆ ของเขาเอง 

 

 

           …… 

 

 

           “นายนี่มันหน้าไม่อายจริงๆ เอาพ่อนายมาอ้างออกมา เพื่อจะไม่ต้องมาเป็นพี่น้องกับฉัน” เจียงมู่เฉินถากถาง 

 

 

           “แล้วไง คุณอยากเป็นพี่น้องกับผมมากนักเหรอ” ซือเหยี่ยนกวาดสายตามองเขาแวบหนึ่ง “ถ้าอยากมาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ ตอนนี้ผมขับรถกลับไปบอกน้าเจียงก็ได้นะ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินขมวดคิ้ว “นายเปลี่ยนใจง่ายขนาดนั้นเชียวเหรอ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มเยาะ “ถ้าคุณอยากเป็นพี่น้องกับผม ก็ฆ่าผมก่อนเถอะ ผมไม่มีธรรมเนียม ‘ทำ’ กับพี่น้อง” 

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกรามแน่น รู้สึกว่าไอ้หมอนี่หน้าซื่อใจเ**้ยมเกินไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะเอาเรื่องออกกำลังกายกันบนเตียงกับเรื่องชีวิตมาข่มขู่เขา 

 

 

           “ไม่มีนาย ฉันหาคนอื่น ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเลิกคิ้ว “คนอื่นทำให้คุณสบายได้อย่างที่ผมทำเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินกัดฟัน “ลองดูเดี๋ยวก็รู้ คนที่ชอบคุณชายมีอยู่เยอะแยะ อย่างมากก็แค่ลองสักไม่กี่คนดู” 

 

 

           เขาทำให้ซือเหยี่ยนโกรธจนดวงตาดำคล้ำแล้ว ยังอยากจะไปลองกับคนอื่นอีก ยังอยากจะลองกับสักกี่คนกัน 

 

 

           เขากวาดสายตามองเจียงมู่เฉินแวบหนึ่ง “คุณตัดความคิดเรื่องนี้ทิ้งไปเถอะ มีผมอยู่ ยังคิดจะแอบออกไปกินอีกเหรอ”