ตอนที่ 311 : ถึงเวลาดื่มชาแล้ว!

ฝั่งฟ่านเหม่ยอิงก็กวาดถ้วยชามบนโต๊ะและ หนังสือหลายเล่มออกไปอย่างหงุดหงิด

ในเวลานี้เองเลขาของเธอในบริษัทก็โทรมา

“เจ้านาย แผนงานนิทรรศการรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์มอเตอร์โชว์คาร์นิวัลได้รับการ ยืนยัน….”

ในเดือนหน้าจะมีงานที่ถูกจัดโดยเมอร์เซเดสเบนซ์กรุ๊ป มันเป็นงานจัดแสดงรถยนต์ที่ใหญ่มาก และจะถูกจัดที่ศูนย์จัดประชุมโอลิมปิกและแสดงสินค้าปักกิ่ง เธอนั้นหวังว่ายิ่งเค่อของเธอจะสามารถหาโอกาศในการทํารายได้ครั้งใหญ่จากงาน ในครั้งนี้…”

เหม่ยอิงพูดออกมาอย่างขมขึ้น “แล้วนายรู้แผนการเดินทางของประธานเมอร์เซเดส-เบนซ์ยัง?”

เลขา “ผมใช้เงินไปกว่า 10,000 หยวนเพื่อซื้อข่าวนี้มาเลยนะครับ คืนนี้ประธานเควินจะมี การต้อนรับรองประธานวอร์เรนจากบริษัทแม่เดม เลอร์ในร้านอาหารจิงซินเหลียนใกล้สวนสาธารณะเฉาหยาง”

“อะไรนะ!”

ฟานเหม่ยอิงปาถ้วยชาของเธอด้วยความโกรธ “ข่าวแบบนี้ราคา 10,000 หยวน!!”

ตอนเวลา 6 โมงเย็น

เจียงเฉินก็ขับรถมาเซราติของเขามาที่ลานจอดรถด้านนอกร้านอาหารจิงซินเหลียน

ในเวลานี้เองวอร์เรนรองประธานสํานักงานใหญ่ และเควินประธานประจําภูมิภาคจีนพร้อมทั้งเลขา และผู้ช่วยห้าคนก็กําลังรอกันอยู่ที่หน้าทางเข้าร้านอาหารจิงซินเหลียน

วอร์เรน “เควิน นายแน่ใจใช่ไหมว่าคุณเจียงจะมา”

เควิน “ไม่ต้องกังวลครับ คุณวอร์เรน ผมติดต่อคุณเจียงไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เขาบอกแล้วว่าเขาจะมา”

“คิดไม่ถึงเลยว่า คุณเจียงคนนี้จะยังมีอายุที่น้อย แต่ก็สามารถขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งของเดมเลอร์แล้ว! ก่อนที่ฉันจะมาฉันก็ได้รับการแจ้งอย่างเป็นส่วนตัวจากประธานว่าฉันก็จะต้องเป็นเพื่อนกับคุณเจียงคนนี้ให้ได้ เขาบอกว่าคุณเจียงเป็นมหาเศรษฐีที่ปกปิดตัวตนอยู่ในจีนและ เมื่อรวมทรัพย์สินทั้งหมดของเขา เขานั้นก็จะเป็น ชายที่ร่ํารวยที่สุดในประเทศจีนแล้ว!”

“ขนาดนั้นเลยหรอครับ?”

เควินตกตะลึง

เขานั้นรู้ว่าเจียงเฉินนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เขานั้นคิดไม่ถึงเลยว่าเจียงเฉินจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้!

ความมั่งคั่งของคุณเจียงมีเยอะกว่าคุณหม่าที่ ได้ชื่อว่าเป็นชายที่ร่ํารวยที่สุดในจีนเสียอีก แต่เขากลับเป็นมหาเศรษฐีที่ปกปิดตัวตน?

อย่างไรก็ตาม เควินนั้นก็รู้ดีว่าในประเทศจีน นมีเศรษฐีจํานวนมากที่ชอบใช้ชีวิตติดดิน พวก เขานั้นมักจะไม่ชอบโอ้อวดตัวเองและไม่ชอบที่จะให้ชื่อของตัวเองขึ้นไปอยู่บนรายชื่อการจัดอันดับ

คนรวยในประเทศจีนนั้นต่างก็รู้ดีว่าการมีชื่ออยู่บนการจัดอันดับนั้นไม่ต่างกับเอาตัวเองขึ้นไปอยู่บนเวที

และใครก็ตามที่มีรายชื่ออยู่บนนั้นก็เทียบได้กับ การดึงดูดความสนใจของคนจํานวนมากซึ่งกระตุ้นให้คนเกิดความโลภได้ง่าย!

ดังนั้นมันจึงมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นในจีนเสมอ

ในประเทศอื่นๆ เหล่ามหาเศรษฐีนั้นจะกระตือรี อรั้นเป็นอย่างมากเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ในรายชื่อจัดอันดับ เมื่อนิตยสารฟอร์บส์ทําการจัดอันดับผิดพลาดพวกเขานั้นก็จะส่งจดหมายประท้วงและตักเตือนอย่างรุนแรงว่า “ฉันด้วยกว่าอย่างแน่นอน!”

แต่ในประเทศจีน สถานการณ์กลับตรงกันข้าม

ทุกครั้งที่ทีมงานของนิตยสารไปตรวจสอบ ความมั่งคั่งที่แท้จริงของมหาเศรษฐีคนหนึ่ง เมื่อเศรษฐีคนนั้นได้ยินแบบนั้น พวกเขาก็จะเชิญผู้คนไปงานเลี้ยง และให้ซองแดงกับพวกเขา แต่จะบอกว่าครอบครัวของเขานั้นมีเงินไม่มาก ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ประสิทธิภาพการทํางานของบริษัทก็ค่อนข้างย่ําแย่ ไม่ได้ส่งพลังอย่างที่พวกเขาพูดชื่อของฉันคงอยู่ในการจัดอันดับไม่ได้

ดังนั้นบรรดาชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในจีนต้องใช้เวลาสักพักถึงจะปรับตัวได้

ชาวจีนให้ความสําคัญกับการทําตัวติดดินและพยายามเก็บตัว

และบรรดาชื่อมหาเศรษฐีชาวจีนที่อยู่ในการจัดอันดับอาจจะไม่ใช่อันดับที่แท้จริง

แต่มันกับตรงกันข้าม เพราะว่ายังมีมหาเศรษฐีปีที่เก็บตัวที่มีความแข็งแกร่งเหนือกว่าอยู่อีกมาก

และเจียงเฉินนั้นก็เป็นหนึ่งในนั้น

วอร์เรนและเควินทั้งสองจับมือกันและเริ่มนับทรัพย์สินของเจียงเฉินที่ละอย่าง แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถนับได้

ในที่สุดทั้งสองก็ได้ข้อสรุปผล

ความแข็งแกร่งของคุณเจียงเฉินที่ถูกเปิดเผยอ อกมาเป็นเพียงแค่ส่วนยอดของภูเขาน้ําแข็งเท่านั้น ความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ข้างใต้น้ําน่ากลัวยิ่งกว่า!

ยิ่งทั้งสองพูดคุยกันมากเท่าไหร่ ความเคารพต่อเจียงเฉินก็มีมากขึ้นเท่านั้น

ในเวลานี้เองเฉินก็ขับรถมาเซราติเข้ามาลงจากรถ

เลขาตะโกนออกมา “คุณเจียงมาแล้ว!”

วอร์เรนและเควินรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีพวกเขารีบเข้าไปทักทายด้วยความกระตือรือร้น

เมื่อเห็นจียงเฉินขับรถมาเซราติวอร์เรนก็ตำหนิเควินทันที “นายปล่อยให้คุณเพียงใช้รถยนต์ของแบรนด์อื่นได้ยังไง! นี่มันหมายความว่ายังไงกัน! นี่มันหมายความว่านายยังทํางานของไม่ดีนะ”

ประธานเควินเข้าใจได้ในทันที!

เขาก้มหน้าด้วยความละอาย “ผมต้องขอโทษ จริงๆ คุณวอร์เรน ผมทํางานไม่ดีเอง ผมจะรีบแก้ไขทันที”

เขาเข้าใจสิ่งที่วอร์เรนต้องการเขาจะต้องรีบส่งรถให้กับเจียงเฉิน

เจียงเฉินที่ไม่รู้อะไรเลยก็ลงมาจากรถและ เข้าไปจับมือกับวอร์เรนและเควินอย่างอบอุ่น

เจียงเฉินได้รับความเคารพจากพวกเขาเป็น อย่างมาก

ท้ายที่สุดแล้ว โลกนั้นต่างก็ยอมรับคนจีนใน เรื่องของการทํางานและทัศนคติที่เคร่งครัดต่อการทํางาน

เจียงเฉินขอบคุณวอร์เรนกับเควินที่มารอเขาก่อนเวลา

หลังจากนั้นทั้งสามก็จับมือกันเดินเข้าห้องส่วนตัวไป

ในเวลานี้เองบนลานจอดรถก็มีรถยนต์ขับเข้ามา

ฉีต้วนก็กําลังนั่งอยู่ที่เบาะหลังด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุข

เมื่อวานนี้เธอนั้นไปโอ้อวดว่าเจียงเฉินนั้นตามจีบเธอ แต่เธอกลับถูกเจียงเฉินตัวจริงจับได้สุดท้ายเธอก็ได้แต่วิ่งหนีออกมาด้วยความกลัว แม้กระทั่งกระเป๋าและโทรศัพท์ของเธอก็ยังถูกลืมไป

โศกนาฏกรรม

ในเวลานี้เองหนึ่งในเพื่อนของเธอก็สังเกตุว่าโทรศัพท์มือถือของฉีต้วนนั้นเปลี่ยนไป

“นี่เธอเพิ่งจะเปลี่ยนโทรศัพท์ไปได้แค่สองเดือนเองไม่ใช่หรอ? ทําไมเธอถึงเปลี่ยนอีกแล้วล่ะ?”

ฉีต้วน “…”

เธอคงไม่สามารถพูดออกไปได้ว่าโทรศัพท์ ของเธอถูกขโมยไปเพราะว่าเธอไปโอ้องดเอาไว้ใช่ไหม?

“โทรศัพท์พังน่ะ”

“งั้นหรอ เครื่องเก่าของเธอก็ซื้อมาตั้งเจ็ดแปดพัน ลําบากใจไม่น้อยเลยนะ”

“ใช่มันน่าลําบากใจมาก”

ขณะที่พูดออกมาน้ําตาของฉีต้วนก็ร่วงหล่น

เธอไม่กล้าแม้แต่จะไปขอโทรศัพท์ของเธอคืนมาจากเจียงเฉิน

แล้วกลุ่มคนก็เดินเข้าไปในร้านอาหารเข้าไปในห้องส่วนตัวก่อนจะนั่งลง

ผ่านไปไม่นานก็มีรถยนต์ขับเข้ามาอีกคัน

ฟานเหม่ยอิงและเลขาของเธอก็ออกมาจากรถ

เธอนั้นได้ข่าวมาว่าประธานเควินของเมอร์เซเดส เบนซ์นั้นจะมาทานอาหารเย็นที่นี่เธอนั้นต้องการได้รับสัยญาสําหรับงานเมอร์เซเดสเบนซ์ คาร์นิวัลดังนั้นเธอจึงเตรียมของขวัญมาด้วยมากมาย

“นายรู้ไหมว่าประธานของเมอร์เซเดส เบนซ์อยู่ห้องไหน?”

“ไม่ทราบครับ”

“ไม่ได้เรื่อง!”

“ฟานเหม่ยอิงดุเลขาของเธออีกครั้ง”

ความไม่พอใจปรากฏขึ้นมาในแววตาของเลขา แต่มันก็ถูกรอยยิ้มปิดบังเอาไว้อย่างแนบเนียน

“เฮ้ นี่มันประธานฝ่านไม่ใช่หรอ?”

มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ฟานเหม่ยอิงหันกลับไปมอง ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็ต้องเต็มไปด้วยรอยยิ้มใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้ายก็กลายเป็นใจดี

“ประธานฟานมาทานอาหารที่นี่หรอครับ?”

คนที่มาก็คือฟานเหมา เขาเป็นรองประธานสาขาย่อยของธนาคารหัวเซี่ยสาขาเมืองหลวง และยังเป็นญาติของเธอด้วย

นอกจากนี้ธนาคารหัวเซียนั้นก็ยังเป็นธนาคารหลักงานจัดแสดงและฟานเหม่ยอิงก็มีนางแบบสาวมากมายอยู่ในมือซึ่งรองประธานคนนี้ก็ชอบไม่น้อย

ดังนั้นทั้งสองจึงค่อนข้างที่จะสนิทสนมกัน!

“ประธานฝานไม่เจอกันนานเลยนะ”

“ประธานฝ่าน ผมเพิ่งได้ใบชามาสองสามชนิด ถ้ามีเวลาผมจะลองให้คุณได้ชิมดู”

บริษัทที่รับจัดงานนิทรรศการนั้นมักจจะมีนาง แบบอยู่ในมือมากมาย ดังนั้นหากเธอจัดหานางแบบคุณภาพไม่เลวมาให้เขาเล่นสนุกด้วยสัก หน่อยก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร

แลพเมื่อประธานฝ่านได้ยินแบบนั้นดวงตาของเธอก็เป็นประกาย

“จริงๆแล้ว ฉันก็ตั้งตารอชาชนิดใหม่ของนายอยู่มะรืนนี้ว่างไหมล่ะ?”

“ว่างอยู่แล้ว!”

ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะกัน ส่วนคนอื่นๆที่ได้ ยินพวกเขานั้นก็ต่างคิดว่าทั้งคู่คงจะเป็นแค่เพื่อนที่นัดดื่มชากันเฉยๆเท่านั้น

ในฝั่งของเจียงเฉิน

ในเวลานี้เองเจียงเฉินกับประธานทั้งสองก็กําลังนั่งอยู่ในห้อง [สมถะ]

ร้านอาหารจิงซินเหลียนนั้นเป็นร้านที่เน้นไปทางอาหารมังสวิรัติเป็นหลัก แค่ชื่อห้องก็รู้แล้วว่ามาสายธรรมะแน่ๆ เช่นห้อง อิ่มใจ สะสมบุญ กตัญญ บุญ…

เจียงเฉินไม่เข้าใจเลยว่าทําไมสองฝรั่งถึงได้อยากมาทานอาหารแบบนี้

เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาเป็นฝรั่งปลอมแต่จริงๆแล้วมีหัวใจจีน?

พวกเขาสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะขนาดใหญ่ที่ทํามาจากไม้เก่าแก่ เจียงเฉินนั่งหัวโต๊ะโดยที่มีวอร์เรน และเควินนั่งข้างๆเขา

ในเวลานี้ก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านชาแสนสวยสวมชุดโบราณเดินเข้ามา

“สวัสดีค่ะ แขกผู้มีเกียรติทั้งสามท่าน ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชาค่ะ…”

เจียงเฉินอดไม่ได้ที่จะมองเธอ

ผู้เชี่ยวชาญด้านชาแสนสวยคนนี้อยู่ในสุดแบบ โบราณเรียบๆ แต่ก็ยังมีกลิ่นอายที่สูงส่งทําให้ผู้คนต้องประหลาดใจ

“นี่….รุ่นพี่เจียง!”

ผู้เชี่ยวชาญด้านชาคนสวยอดไม่ได้ที่จะประห ลาดใจเมื่อเธอมองเห็นเจียงเฉิน ดวงตาที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความสุขก่อนจะถามซ้ําออกมา

“ใช่รุ่นพี่จากมหาลัยโปลีเทคนิคไหมคะ?”

“ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเจอรุ่นพี่เจียงที่นี่!”

ความตื่นเต้นและความประหลาดใจรวมถึงความชื่นชมนั้นเอ่อล้นออกมา

ต่อมาหญิงสาวก็ได้ขอถ่ายรูปกับรุ่นพี่และขอลายเซ็น ก่อนจะนําไปโพสต์อวดเพื่อนของเธอ และในไม่ช้าก็มีความคิดเห็นขึ้นมามากมาย

“นั่นมันรุ่นพี่เจียง!!”

“อ่า ซินซิน ทําไมเธอถึงโชคดีได้เจอรุ่นพี่เจียงกันนะ!”

“เดี๋ยวก่อนนะตอนนี้รุ่นพี่เจียงอยู่ที่ไหน!”

“บอกที่อยู่มาเดี๋ยวนี้นะ!”

“ฉันอิจฉา!”

“ตราบใดที่มีรุ่นพี่เจียงอยู่ที่นั่นจะต้องมีเรื่อสนุกแน่!”

“บะหมี่กึ่งสําเร็จรูปของฉันไม่หอมต่อไปอีกแล้ว”

ในความคิดเห็นนั้นแค่เศษเสี้ยวเพราะไม่นานหลังจากนั้นวีแชทของเธอก็ถูกถล่มอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาพยายามขอที่อยู่ของเจียงเฉินจากเธอ…

เจียงเฉินผู้เป็นตํานานของมหาวิทยาลัย!

ไอดอลของทุกคน!

เฉียวซินย่อมไม่มีวันเปิดเผยที่อยู่ของเจียงเฉิน

เพราะ

รุ่นพี่เจียงจะต้องเป็นของฉันคนเดียว!

ขณะที่เธอชงชาสายตาของเธอก็จับจ้องไปที่ เจียงเฉิน

หน้าแดง

หัวใจเต้นแรงมาก!

เจียงเฉินเองก็ย่อมมองเห็นความชื่นชมของหญิงสาว แต่ตอนนนี้เขามีแฟนมากเกินไปแล้ว ดังนั้นเขาควรที่จะเลิกยุ่งกับเรื่องพวกนี้ได้แล้ว

ในขณะที่ทั้งสามกําลังรับประทานอาหารกันป ระธานเควินก็เริ่มพูดถึงงานนิทรรศการเมอร์เซเดสเบนซ์มอเตอร์โชว์คานิวัล

ประธานเควินคนนี้เพิ่งจะเข้ามารับตําแหน่งใหม่

ดังนั้นไฟของเขายังแรงอยู่มาก ดังนั้นเควินจึงพยายามทํางานใหญ่ๆออกมา

และงานนั้นก็คือนิทรรศการเมอร์เซเดสเบนซ์ มอเตอร์โชว์คานิวัล!!!

เขาอธิบายแผนการออกมา

“คุณเจียง นี่คือแผนของผม ผมอยากจะฟังความเห็นของคุณเจียงหน่อยครับ”

เขานั้นต้องการคําแนะนําจากเจียงเฉินและใน ขณะเดียวกันเขานั้นก็ต้องการแรงสนับสนุนจากเจียงเฉินด้วย เพื่อนใช้ในการชักจูงผู้ถือหุ้นราย ใหญ่คนอื่นๆและเพื่อผลกําไรที่อาจมากถึงสองเท่าด้วยความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียว

“ไม่ว่าผมจะยังไง ผมก็เชื่อในความสามารถ ของคุณครับประธานเควิน” เจียงเฉินนั้นไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ดังนั้นเขาจึงไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรออกไป

สิ่งแบบนี้ควรปล่อยให้มืออาชีพจัดการจะดีกว่า

เขานั้นก็เชื่อมั่นในความสามารถของคนที่เป็น มืออาชีพในด้านนี้
ในเวลานี้เองเฉียวซินก็ได้แต่ตกตะลึง

“ปรากฏว่าเขาเป็นประธานสํานักงานใหญ่ของเมอร์เซเดส เบนซ์ประจําประเทศจีน?”

“พระเจ้า! ประธานคนนี้ดูเหมือนจะเคารพรุ่นพี่เจียงมาก เป็นไปได้ไหมว่ารุ่นพี่เจียงจะเป็นผู้ถือหุ้นของเมอร์เซเดส เบนซ์และต้องเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่มากๆด้วย!”

ตกตะลึง…..

เชี่ย! (“EY I L! รุ่นพี่เจียงสุดยอดไปเลย No!

ถ้าเจียงเฉินรู้ความคิดของเธอ คาดว่าเขาคงได้ เห็นเธอหลั่งน้ําตาออกมาเป็นเลข “666″

*เลขมงคล เลข 6/อ่านว่า ลิ่ว ในความเชื่อ ทางตะวันตกเชื่อว่าเลข 6 หมายถึงความโชคร้าย ยิ่งถ้าเลข 666 คือตอง 6 ยิ่งโชคร้ายสุดๆ ออกไปทางหม่นหมองในชีวิต สําหรับคนจีนแล้วเลข 6 ยิ่งมากยิ่งดี เพราะเสียง / อ่านว่า ลิ่ว พ้องกับคํา ในภาษาจีน แปลว่า ราบรื่น จึงเป็นตัวเลขเหมาะ กับทําธุรกิจ หรือปิดห้างร้านต่างๆ เชื่อว่าโชคลาภจะไหลเวียนดี*