บทที่ 1538 – หุบเขาอสูรทมิฬ หนองน้ำมังกรพิษ บุปผามังกรพิษ?

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1538 – หุบเขาอสูรทมิฬ หนองน้ำมังกรพิษ บุปผามังกรพิษ?

 

ฉินชิงยิ้มขณะที่พยักหน้า จากนั้นนางก็ดื่มสุราในแก้วเข้าไป ดวงตาที่งดงามของนางเปล่งประกายขึ้นทันที

 

“นี่เป็นสุราที่อร่อยที่ข้าเคยลิ้มรสมาเลย สุราในตำนานคงเป็นเพียงของธรรมดาเมื่อเทียบกับสิ่งที่อยู่ในมือข้า” ฉินชิงกล่าวขึ้นอย่างจริงจัง

 

“หากเจ้าชอบก็จงดื่มตามที่เจ้าต้องการ”

 

“เจ้าหมักบ่มมันขึ้นมาเองงั้นหรือ?” ดวงตาที่งดงามของฉินชิงจ้องมองไปที่ชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยคิดครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็เข้าใจว่าเหตุใดนางจึงถามเช่นนี้ นั่นก็เพราะว่าเขาไม่ได้พกไหสุราติดตัวมาเลยแต่เขากลับบอกให้ให้ดื่มได้เท่าที่นางต้องการ

 

ชิงสุ่ยยิ้มออกมา

 

หลังจากที่ดื่มไปแแก้วหนึ่งฉินชิงก็เริ่มมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ “นี่ย่อมไม่ใช่สุราธรรมดา มันมีสรรพคุณช่วยชำระล้างจุดลมปราณและเสริมความแข็งแกร่งให้แก่จุดลมปราณและอวัยวะภายใน!”

 

“ข้ามีของดีๆมากมาย ข้าจะมอบของขวัญบางอย่างให้กับเจ้าด้วยเช่นกัน” ชิงสุ่ยอยากจะมอบของขวัญให้แก่นางแต่ไม่รู้จะเนื่องในโอกาสใดดี

 

“พี่สาวชิง พวกเราถือว่าสร้างปัญหาให้แก่คฤหาสน์จอมฟ้าฉินหรือไม่ในตอนนี้?” ชิงสุ่ยเห็นว่าฉินชิงนั้นดูกังวล

 

“ไม่!” ฉินชิงยิ้มแต่ดวงตาของนางยังปรากฏร่องรอยของความกังวล

 

ชิงสุ่ยไม่ได้ถามอะไรต่อไป นางได้บอกเขาในทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องการบอกแล้ว ดูเหมือนว่าจักรวรรดิฉินจะไม่ได้สงบสุขเหมือนการมองจากภายนอก คฤหาสน์จอมฟ้าฉินอาจมีคนไม่มากนักแต่ทุกๆคนก็ถือว่าทรงพลังอย่างยิ่ง บางทีพวกเขาอาจจะเป็นภัยคุกคามต่อใครบางคนโดยที่ไม่ได้เจตนา

 

….

 

ในวันถัดมาชิงสุ่ยและผู้คนจำนวนมากของคฤหาสน์จอมฟ้าฉินก็มานั่งทานอาหารด้วยกัน มากกว่าครึ่งของเหล่ายอดฝีมือปรากฏตัวอยู่ที่นี่ในตอนนี้ ผู้อาวุโสและฉินป่ายฟงต่างมีความสุขอย่างยิ่งเมื่อมองมายังชิงสุ่ย

 

เมื่อชิงสุ่ยได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขา เขาก็รู้สึกผ่อนคลายในหัวใจ คฤหาสน์จอมฟ้าฉินนั้นทรงพลังมากกว่าที่เขาคิดไว้ บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้สนใจตระกูลกู๋เลยด้วยซ้ำ เมื่อเขาคิดถึงตอนที่ตระกูลกู๋ขอโทษเขา เขาก็รู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ยังต้องมีอะไรที่ซ่อนเร้นอยู่อีกแน่นอน

 

ฉินชิงก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ต่อหน้าคนอื่นๆในตระกูลนางค่อนข้างจะสงบนิ่ง หลานชายและหลานสาวของนางชื่นชอบป้าที่งดงามผู้นี้ ฉินชิงนั้นมีชื่อเสียงอย่างยิ่งเมืองราชันย์ฉินทุกๆคนต่างก็รู้จักนาง

 

นางมีชื่อเสียงในนามท่านหญิงชิง หญิงสาวผู้งดงามและทรงพลัง เป็นผู้ที่ทรงพลังที่สุดในหมู่รุ่นเยาว์

 

……

 

ปัญหาระหว่างคฤหาสน์จอมฟ้าฉินและตระกูลกู๋ก็ดูสงบลงไปแล้วในตอนนี้ ชิงสุ่ยคิดว่าเขาคงจะไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้ว เขามาที่นี่เพราะว่าฉินชิงและในตอนนี้ปัญหาของท่านปู่ของนางก็ได้รับการแก้ไขแล้ว เขาไม่มีอะไรต้องทำอีกแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนางในตอนนี้ถือเป็นมิตรสหายที่สนิทกันแต่ก็ยังไม่ถึงคนรัก

 

“ชิงสุ่ย ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่ง” ฉินชิงพาชิงสุ่ยออกมาจากคฤหาสน์

 

“ที่ใดกัน?” ชิงสุ่ยถามขึ้น

 

“เจ้าจะรู้เองเมื่อเราไปถึง” ฉินชิงหัวเราะออกมา

 

…….

 

หุบเขาอสูรทมิฬ!

 

ฉินชิงพาชิงสุ่ยมาที่ภูเขาลูกหนึ่งที่มีหมอกสีดำปกคลุมโดยรอบ “มีสมบัติมากมายในหุบเขานี้ แต่หมอกสีดำนี้เต็มไปด้วยพิษที่รุนแรง”

 

ชิงสุ่ยนึกถึงพลังธรรมชาติและเขตแดนแห่งราชันย์ขณะที่เขากล่าวขึ้น “ถ้าไม่กลัวพิษ แต่ยังมีอันตรายอย่างอื่นอีกหรือไม่? ข้าสงสัยว่าที่นี่มีอะไรดีๆหรือไม่?”

 

“ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าเจ้าจะได้พบสมบัติแบบไหน แต่มันอันตรายอย่างยิ่ง พวกเราต้องระวังให้ดี” ฉินชิงส่ายศีรษะของนางพร้อมกับปฏิเสธ

 

หุบเขาอสูรทมิฬนั้นถือเป็นพื้นที่ต้องห้ามเพราะหมอกพิษที่ปกคลุมทั่วบริเวณนี้ ยากยิ่งนักที่จะมีคนมาที่นี่แต่ก็ยังมีบ้าง ฉินชิงเป็นหนึ่งในผู้ที่เคยมาที่นี่ก่อนหน้านี้และนางได้พบกับซากปรักหักพังภายในนั้นซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์อสูรที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง นางรีบหนีออกมาและไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย

 

นี่มันก็ผ่านมา 10 ปีแล้ว แต่หลังจากที่นางเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับชิงสุ่ยนางก็รู้สึกได้ทันทีว่านี่เป็นโอกาสที่น่าจะได้สำรวจพื้นที่แห่งนี้

 

“รับนี่ไป มันสามารถช่วยป้องกันพิษได้” ฉินชิงยื่นไข่มุกให้แก่ชิงสุ่ย หลังจากที่เขารับไข่มุกนี้ไปมันก็ปลดปล่อยรัศมีสีเงินออกมาซึ่งเป็นระยะประมาณ 10 เมตร

 

ไข่มุกทำลายพิษ!

 

ชิงสุ่ยนั้นมีไข่มุกทำลายวารีอยู่ดังนั้นเขาจึงรู้ถึงวิธีการใช้งานของมันเป็นอย่างดี การที่เขาได้รับไข่มุกทำลายพิษในตอนนี้ นี่ถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้น 1

 

“ แล้วเจ้าล่ะ?” ชิงสุ่ยถามขึ้น เขาเห็นว่าฉินชิงไม่ได้มีไข่มุกนี้อีกแล้ว

 

“ร่างกายของข้าพิเศษยิ่งนัก พิษส่วนใหญ่ไม่สามารถทำอันตรายข้าได้ ในตอนที่ข้ามาที่นี่ครั้งที่แล้วข้ายังไม่ได้มีไข่มุกทำลายพิษแต่ก็ไม่ได้เป็นอะไร”

 

“ร่างกายของข้านั้นก็พิเศษเช่นเดียวกัน เจ้ารับมันไปดีกว่า” ชิงสุ่ยยื่นไข่มุกทำลายพิษกลับไปให้ฉินชิง

 

ฉินชิงไม่ได้รับมันมา “เจ้าช่างหัวแข็งยิ่งนัก?”

 

“ข้าหรือ?” ชิงสุ่ยมองไปที่นางด้วยความประหลาดใจ

 

“ใช่ และยังเป็นคนใจใหญ่ใจโต” ฉินชิงกล่าวขึ้นอย่างจริงจัง

 

ชิงสุ่ยหน้าแดงขึ้นมา “เข้ารู้ได้อย่างไรว่าข้านั้น ‘ใหญ่โต’?”

 

ฉินชิงมองไปที่สีหน้าของชิงสุ่ย เมื่อตระหนักได้ถึงสิ่งที่เขาพูดนางก็เขินอายขึ้นทันที “เจ้าช่างเลวร้ายยิ่งนัก!”

 

เมื่อได้เย้าหยอกฉินชิง ชิงสุ่ยก็หัวเราะออกมา เขายื่นไข่มุกทำลายพิษไปในมือของนาง “ดูสิ ข้าเองก็มีไข่มุกทำลายพิษเช่นกัน”

 

ชิงสุ่ยเปิดใช้งานเขตแดนแห่งราชันย์และรัศมีสีขาวก็ปรากฏขึ้นรอบตัวเขา วงรัศมีของมันนั้นใหญ่ยิ่งกว่าวงของไข่มุกทำลายพิษและการป้องกันก็ดีกว่าเช่นกัน

 

เมื่อได้เห็นเช่นนี้ฉินชิงก็ไม่ได้ปฏิเสธอีกต่อไป แต่นางก็ยังคงยิ้มกับกับคำพูดของชิงสุ่ยก่อนหน้านี้ แม้ว่านางจะรู้สึกแปลกๆแต่นางก็ไม่ได้โกรธอะไร

 

พวกเขาทั้ง 2 คนต่อเข้าไปในหุบเขาอสูรทมิฬ ทางเข้าของมันกล้างใหญ่และหมอกสีดำนี้ก็ปกคลุมหนาแน่นตั้งแต่ปากทางเข้า หมอกนี้ดูหนาแน่นอย่างยิ่งราวกับมันเป็นกำแพงของอะไรบางอย่าง

 

แม้ว่ามันจะไม่ได้ส่งกลิ่นใดๆออกมาแต่ก็ดูไม่น่าเข้าใกล้เป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่มีสำคัญล้ำค่าคงไม่มีผู้ใดอยากจะเข้าไป

 

ในตอนที่พวกเขาเข้าไปใกล้หมอกสีดำนี้ก็มีแรงผลักเบาๆเหมือนไม่ให้พวกเขาเข้าไปใกล้ เมื่อพวกเขาก้าวเข้าไปข้างในก็พบว่ามันไม่ได้หนาแน่นเหมือนที่คิดและสีของมันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทา แม้ว่าระยะการมองเห็นจะถูกลดลงไปแต่อย่างน้อยก็ยังสามารถมองเห็นได้

 

บางทีอาจเป็นเพราะที่ทางเข้ายังไม่ได้มีอันตรายใดๆ พืชพรรณที่อยู่บนพื้นดินเต็มไปด้วยสารพิษ หนอนและแมลงที่อยู่ที่นี่ก็เต็มไปด้วยสารพิษจำนวนมากเช่นกัน

 

ชิงสุ่ยไม่ได้พูดอะไร เขาเดินตามฉินชิงเข้าไปเงียบๆ

 

หุบเขาอสูรทมิฬที่นี่กว้างใหญ่ยิ่งนัก ภูมิประเทศที่นี่เต็มไปด้วยสันเขาที่เป็นเส้นทางคดเคี้ยวคิอจำนวนมาก

 

“เงียบจังเลย!” ชิงสุ่ยกล่าวขึ้น

 

ฉินชิงหันกลับมาแล้วยิ้มให้ชิงสุ่ย “มีอะไรหรือ?”

 

“ข้ากำลังคิดว่าถ้าหากข้าเป็นคนที่เลวร้าย ข้าจะทำอะไรที่นี่?” ชิงสุ่ยกล่าวขึ้นอย่างจริงจัง รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยราคะเมื่อเขามองไปที่ฉินชิง

 

“โอ้ หากเจ้านอนลงไปที่นี่ก็เหมือนตายไปแล้วครึ่งตัว” ฉินชิงมองตรงมาที่เขาขณะที่นากล่าวขึ้น เจ้าจอมวายร้ายนี่แกล้งนางอีกแล้วงั้นหรือ?

 

“พี่สาวชิง คนแบบไหนกันที่จะมาที่นี่?” ชิงสุ่ยหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องคุยกันที

 

“หายากยิ่งนัก ปกติแล้วจะเป็นคนที่ต้องการสิ่งที่มีพิษบางอย่างจึงจะมาที่นี่ รวมถึงมีบางนิกายที่เกี่ยวข้องกับพิษก็จะมาที่นี่เช่นเดียวกัน ที่แห่งนี้เป็นเหมือนบ้านของสิ่งที่มีพิษมากมาย”

 

เมื่อเขาได้ยินคำพูดของฉินชิง ชิงสุ่ยก็ตกใจ เขาก็ต้องการพิษต่างๆเช่นกัน เมื่อมองไปรอบรอบตัวเขาก็กล่าวขึ้นว่า“ข้าเองก็ต้องการพิษจากพวกหญ้าและแมลงเช่นเดียวกัน แต่ระดับของสารพิษที่อยู่ที่นี่ดูเหมือนจะต่ำเกินไป”

 

“หากต้องการพิษระดับสูงเจ้าต้องเดินลึกเข้าไปอีก” ฉินชิงยิ้มและเดินนำไป

 

ฮู้วว!

 

เสียงของสัตว์อสูรตัวหนึ่งดังขึ้นมาทันที แต่ในมุมมองของชิงสุ่ยมันเป็นเหมือนกับลูกแมวตัวน้อย เขายื่นมือออกไปและจับคอมันเอาไว้อย่างง่ายดาย

 

ร่างกายของมันมีสีเหลืองและมีลวดลายสีขาว ดวงตาขนาดใหญ่โตข้างของมันนั้นเต็มไปด้วยความกลัว เมื่อมันโดนชิงสุ่ยจับเอาไว้

 

“เจ้าปล่อยมันไปได้หรือไม่?” ฉินชิงมองเจ้าแมวน้อยในมือของชิงสุ่ยขณะที่นางกล่าวขึ้น เสียงของนางนั้นช่างอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความสงสาร

 

ชิงสุ่ยรู้สึกดีอย่างยิ่งในตอนนี้ เจ้าแมวน้อยตัวนี้ช่างดูน่ารักยิ่งนัก ฉินชิงรู้สึกสงสารมันเมื่อนางเห็นว่าเขากำลังจับมันเอาไว้

 

ชิงสุ่ยปล่อยมันไปทันที เขายิ้มและกล่าวว่า “พี่สาวชิง เจ้าดีต่อมันเพราะว่ามันดูน่ารักนั้นหรือ?”

 

ฉินชิงหัวเราะ “ดูเหมือนจะใช่นะ”

 

ชิงสุ่ยยิ้ม “อื้ม เหมือนกันเจ้าที่สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองเพียงแค่ยิ้มออกมา วิญญาณของชายหนุ่มทุกๆคนต่างก็ถูกความงามของเจ้าช่วงชิงไป”

 

ฉินชิงส่ายศีรษะของนาง นางขี้เกียจเกินกว่าจะห้ามปรามชิงสุ่ยในตอนนี้ แต่คำพูดของชิงสุ่ยนั้นหมายความว่านางงดงามอย่างยิ่งและนางก็มีความสุขมากที่ได้ยินเช่นนี้ แต่นางก็ไม่ได้แสดงท่าทีนั้นออกมาขณะที่เดินไป

 

ฉินชิงไม่ได้แสดงท่าทีใดๆออกมาดังนั้นชิงสุ่ยจึงไม่กล้าที่จะพูดเกินกว่านี้

 

“หืม หญ้าคางคกดำ?” หลังจากผ่านไปครึ่งวันชิงสุ่ยก็ได้เห็นหญ้าที่มีลักษณะคล้ายหยกสีดำ

 

หญ้าชนิดนี้เติบโตขึ้นบนหลังของคางคกดำ มันสามารถเคลื่อนไหวได้แม้ว่ามันจะเชื่องช้าและเปล่งแสงสีดำออกมา

 

หรือเป็นหญ้าที่มีพิษร้ายแรงอย่างยิ่ง

 

ชิงสุ่ยยื่นมือออกไปเก็บมันไว้ในทันที!

 

ฉินชิงดึงเขากลับมาอย่างรวดเร็ว “พิษของมันรุนแรงมากนัก ห้ามจับมันด้วยมือเปล่า”

 

“ไม่มีปัญหาหรอก”

 

มือของชิงสุ่ยเริ่มแดงขึ้นทันที ราวกับว่าแสงสีดำที่มันปลดปล่อยออกมาห่อหุ้มมือของเขาเอาไว้เมื่อเขาโยนหญ้าคางคกดำเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะ.

 

หญ้าคางคกดำนั้นเป็นพืชที่มีเอกลักษณ์ มันจัดอยู่ในตระกูลหญ้าหนอนชนิดหนึ่งและถือว่าล้ำค่าอย่างยิ่ง สามารถใช้ช่วยด้านการฝึกยุทธได้เช่นเดียวกัน

 

“ตรงหน้าของพวกเราเป็นกลุ่มของอสรพิษขนาดใหญ่ ตรงนั้นก็มีผึ้งพิษอยู่ด้วยเช่นกันคงจะดีถ้าหากว่ามันไม่บินออกมา” ฉินชิงย้ำเตือน หลังจากที่เดินต่อไปพวกเขาก็ได้มาถึงจุดที่ลึกที่สุดของสันเขาซึ่งเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ ภายในนั้นมีอสรพิษขนาดต่างๆกำลังแหวกว่ายอยู่มากมาย

 

“ที่นี่คือหนองน้ำมังกรพิษ มีมังกรพิษซ่อนเร้นอยู่ภายในนี้ คงจะดีกว่าถ้าหากว่าเราไม่ไปรบกวนมัน” ฉินชิงหยุดเดินขณะที่นางหันมาพูดกับชิงสุ่ย

 

“เช่นนั้นที่นี่ก็ต้องมีสิ่งดีๆอย่างแน่นอน” ชิงสุ่ยกล่าวขึ้นหลังจากที่คิดครู่หนึ่ง

 

“ภายในนี้ไม่มีผู้ใดกล้าลงไป มังกรพิษที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่มังกรธรรมดา”

 

ชิงสุ่ยรู้ว่าพลังของกมังกรแต่ละตัวนั้นแตกต่างกันอย่างมาก มังกรพิษที่อยู่ที่นี่คงจะเหนือกว่ามังกรทุกๆตัวที่เขาเคยสังหารมาอย่างแน่นอน

 

“ฉินชิง เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีสมบัติใดที่ซ่อนเร้นเอาไว้ภายในนี้?” ชิงสุ่ยรู้สึกเจ็บใจเล็กน้อยและอยากจะลองเสี่ยงดูสักครั้ง

 

“หนองน้ำมังกรพิษกล่าวขานกันว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของดอกไม้ที่ล้ำค่าชนิดหนึ่งนั่นก็คือ บุปผามังกรพิษ” ฉินชิงยิ้มให้ชิงสุ่ย.

 

“บุปผามังกรพิษ? มันคืออะไรกัน?” ชิงสุ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าที่สงสัย