ถังซีสั่นสะท้านราวกับอยู่ท่ามกลางอากาศหนาว แต่จริงๆ แล้วหัวใจเธอกำลังละลายเพราะคำพูดของเขา นี่เฉียวเหลียงของเธอไปเรียนรู้วิธีพูดคำหวานๆ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร โอ…ช่างหวานเหลือเกิน!
ถังซีหน้าแดงก่ำ มองค้อนเฉียวเหลียงอย่างเขินอาย ดึงมือเธอกลับมา “เฮ้! นี่คุณคิดอะไรอยู่! ไปเรียนพูดคำแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว ประกายเย็นชาเปล่งออกมาจากดวงตาเขา ขณะคิดว่า ‘ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่อยู่ในเว็บไซต์ก็โกหกน่ะสิ! ดี ฉันจะขึ้นบัญชีดำให้หมดเมื่อกลับถึงบ้าน!’
เฉียวเหลียงเม้มริมฝีปาก “ก็คุณอิจฉาความโรแมนติคของคู่รักหนุ่มสาวไม่ใช่เหรอ”
ความโรแมนติกของคู่รักหนุ่มสาวอย่างนั้นเหรอ ถังซีจำได้ว่าเธอแค่พูดตอนอยู่ในห้องทำงานเขาว่าการเป็นหนุ่มสาวนั้นช่างดีเหลือเกิน ถ้าอย่างนั้น… ถังซีหัวเราะอย่างซุกซน มองเฉียวเหลียงด้วยสายตามีความหมาย “คุณรู้สึกแย่เพราะฉันอายุแค่ยี่สิบสาม ส่วนคุณยี่สิบเจ็ดเข้าไปแล้วใช่ไหม”
เฉียวเหลียงขมวดคิ้วมองเธอในกระจกมองหลัง แล้วกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “ผมก็อายุยี่สิบสามเหมือนกัน! ผมไม่ได้ดูเด็กเหมือนคนอายุเท่านั้นหรอกเหรอ” เขามองค้อนถังซีแล้วกล่าวเสียงเศร้า “คุณคิดว่าผมแก่เกินไปหรือเปล่า”
ถังซีมองหน้าเฉียวเหลียงที่ดูแปลกไป หางตาเธอหรี่ลง ประกายแวววาวกะพริบอยู่ในดวงตา เธอแตะหน้าผากเฉียวเหลียงและพึมพำว่า “คุณไม่ได้มีไข้ใช่ไหม”
เฉียวเหลียงซึ่งกำลังขับรถเหยียบเบรกทันที ปัดมือถังซีออก จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโยนทิ้งข้างๆ ตัว “บ้าที่สุด!” ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์กลับคืน แต่ถังซีหยิบขึ้นมาก่อนแล้ว เธอรู้รหัสผ่าน และป้อนวันเดือนปีเกิดของเธอลงไปอย่างรวดเร็ว หน้าจอปลดล็อก และเธอเห็นหน้าเว็บไซต์ที่อ่านค้างไว้ ‘หนึ่งร้อยวิธีทำให้แฟนสาวหัวเราะ’
ถังซีเงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียง สีหน้าเขาดุดัน ‘ไอ้บ้าเอ๊ย! ถ้าผู้หญิงคนนี้รู้ว่าเขาค้นหาวิธีทำให้เธอหัวเราะ รวมถึงวิธีทำให้เขาดูอ่อนเยาว์และมีเสน่ห์เร้าใจยิ่งขึ้นจากอินเทอร์เน็ต เธอต้องหัวเราะท้องแข็งแน่!’
ถังซีค่อยๆ แอบสังเกตสีหน้าเฉียวเหลียง เมื่อเห็นว่าเขาโกรธ เธอก็รีบแตะหน้าจอเพื่อปิดหน้าเว็บไซต์นั้นลง แต่กลับกลายเป็นไปเปิดประวัติการค้นหาเว็บไซต์โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งมี ‘วิธีทำให้แฟนคุณคิดว่าคุณมีชีวิตชีวา’ ‘วิธีทำให้ตัวเองดูมีชีวิตชีวาเหมือนนักศึกษามหาวิทยาลัย’ และ ‘ทำอย่างไรให้ตัวเองดูสดใสร่าเริง’
เฉียวเหลียงซึ่งกำลังขับรถอยู่เหลือบมอง เมื่อเห็นเป็นหน้าประวัติการค้นหา ดวงตาเขาก็เบิกกว้างทันทีด้วยความอับอาย เขารีบคว้าโทรศัพท์จากมือเธอ แล้วกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก “คุณบอกว่าจะส่งข้อความถึงคนที่มาสมัครงานสองคนนั้นไม่ใช่หรือ”
ถังซีไม่ตอบ เธอโยนโทรศัพท์มือถือและประวัติส่วนตัวของสองคนนั้นบนตักทิ้งไป ดึงศีรษะเขาเข้ามาหา แล้วจูบอย่างหนักหน่วงบนริมฝีปากเขา เฉียวเหลียงรีบเปิดไฟกะพริบทันที พารถเข้าจอดข้างทาง แล้วจ้องมองเธอ ถังซีประคองใบหน้าเขาไว้และแนบริมฝีปากเธอกับริมฝีปากเขา…
ถังซีแทบไม่ต้องเป็นคนเริ่มในคราวนี้ เฉียวเหลียงไม่ปล่อยโอกาสแน่นอน เขาแง้มริมฝีปากเธอด้วยปลายลิ้นเขาทันที…
ครู่ใหญ่ผ่านไปกว่าเฉียวเหลียงจะปล่อยเธอ ถังซีกอดคอเฉียวเหลียงไว้ แนบหน้าผากเธอกับหน้าผากเขา กระซิบว่า “คนโง่ คุณไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองเลย เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นยังไง คุณก็ดีที่สุดในสายตาฉันอยู่แล้ว คุณต้องเป็นคุณแบบนี้ ไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อฉัน ฉันรักคุณในแบบที่คุณเป็น เข้าใจไหม”
หัวใจเฉียวเหลียงวาบไหวขึ้นมาในฉับพลัน เขาก้มลงจูบเธออีกครั้ง…
ก๊อก ก๊อก…
ขณะที่ทั้งสองกำลังดื่มด่ำกับรสจุมพิตก็มีคนมาเคาะกระจกหน้าต่าง ถังซีรีบผลักเฉียวเหลียงออก เฉียวเหลียงตาหวานฉ่ำมองหน้าเธออย่างไม่เต็มใจ แล้วหันไปเปิดกระจกด้วยสีหน้าบึ้งตึง มองหน้าตำรวจจราจรที่ดูท่าทางเคอะเขินอย่างเย็นชา “มีอะไรครับ”
“ผมขอถามหน่อย ว่าคุณกำลังทำอะไรกันอยู่” คราวนี้นายตำรวจมองชายหนุ่มผู้หล่อเหลาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ถังซีรีบปิดบังใบหน้า เธอรู้สึกอับอายมาก พระเจ้า! เกิดอะไรขึ้น! เมื่อกี้เธอกับเขาจูบกันในรถ แล้วทำไมจู่ๆ ตำรวจถึงปรากฏตัวขึ้นมา
เฉียวเหลียงมองหน้าตำรวจด้วยความโกรธ น้ำเสียงเขาเยือกเย็น “คุณตาบอดหรือ”
“คุณ!” สีหน้านายตำรวจเข้มขึ้นทันที ขณะกล่าวออกมาด้วยความโมโห “คุณฝ่าฝืนกฎจราจร จอดรถในช่องทางเร่งด่วน กรุณา…” แต่ก่อนที่นายตำรวจจะพูดจบเฉียวเหลียงก็ขัดจังหวะเสียก่อน เขาหยิบนามบัตรออกมา วางลงบนใบสั่งของตำรวจ “เอานามบัตรนี้ไปที่เฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป คนที่นั่นจะจ่ายค่าปรับให้คุณ” จากนั้นโดยไม่เปิดโอกาสให้ตำรวจได้พูด เขาก็กล่าวอย่างเย็นชา “เราไปได้แล้วใช่ไหม”
และก่อนที่ตำรวจจะตอบ เขาก็เหยียบคันเร่งพารถพุ่งออกไป
ถังซียังคงปิดหน้าและมองเฉียวเหลียงอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร “ถ้าคุณจัดการเรื่องนี้อย่างไม่ถูกต้อง จะเป็นข่าวพาดหัววันพรุ่งนี้ ‘ประธานเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป จูบกับหญิงสาวลึกลับบนถนนในช่องทางเร่งด่วน ทำให้เกิดการจราจรติดขัด แล้วแค่ทิ้งนามบัตรไว้ให้ตำรวจ…’ เป็นข่าวอื้อฉาวแน่!”
เฉียวเหลียงยิ้ม “พวกเขากล้าเหรอ”
ถังซียกมือตบอกตัวเองเบาๆ บางทีก็อาจจะไม่…
เมื่อเห็นเธอยังคงเงียบ เฉียวเหลียงก็ลูบผมเธอแล้วถามอย่างอ่อนโยน “คุณกลัวเหรอ”
“กลัวสิ!” ถังซีมองเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง “คุณทำแบบนี้ได้ยังไง…” ถังซีอยากหารูสักรูหนึ่งมุดลงไปซ่อนตัว เมื่อจำได้ว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น “คุณจูบฉันบนถนนตรงนั้นได้ยังไง”
เฉียวเหลียงมองตาถังซีลึกลงไป แล้วขับรถต่อไปโดยไม่พูดอะไร ครู่หนึ่งเขาจึงเอ่ยออกมาในที่สุดว่า “ผมอดใจไม่ได้”
ถังซีหน้าแดงก่ำขึ้นมาอีก ตอนนี้เขากลายเป็นคนปากหวานปานน้ำผึ้งไปแล้ว!
เฉียวเหลียงโทรหาอาห้าซึ่งกำลังง่วงงุนเพราะทำงานล่วงเวลาเมื่อคืนนี้ ขณะรับโทรศัพท์เขาก็ยังคงงัวเงีย ตาปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง หลังจากได้ยินชื่อถนนและตอบว่า “ได้ครับ” เขาก็ผล็อยหลับไปอีก แต่ทันใดนั้นเขาก็ผุดลุกขึ้นจากเตียงด้วยดวงตาเบิกกว้าง “ถนนซินเฉิงหรือ ลบวิดีโอกล้องวงจรปิดเฝ้าระวังการจราจร! นายน้อยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ใช่ไหม หรือว่าเขาขับรถเร็วเกินกำหนด แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วไม่น่าจะใช่อะไรแบบนั้นเลย!”
แม้ว่านายน้อยแทบจะไม่เคยขับรถเอง แต่เขาไม่มีทางละเมิดกฎจราจรอย่างแน่นอน เขามักปฏิบัติตามกฎจราจรเสมอ
อาห้ารีบไปหาอาหกเพื่อบอกเรื่องนี้ เมื่ออาหกเปิดวิดีโอให้ดูเขาก็ต้องขยี้ตา “นายน้อยไปจอดรถทำไมตรงนั้น”
อาหกเม้มริมฝีปาก และขยายภาพวิดีโอ เมื่อเห็นชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นในรถ ทั้งสองก็จ้องหน้ากันและกันด้วยความตกใจ อาหกถึงกับอึ้ง “…” นี่คือนายน้อยของเขาจริงๆ หรือ
อาห้าอุทาน “โอ พระเจ้า! คนคนนั้นคือนายน้อยจริงๆ หรือ เขาคือนายน้อยจริงๆ หรือ บ้าบอที่สุด เขาดูเร่าร้อนจริงๆ! โอ… ฉันคิดว่าฉันต้องเรียนรู้เขาใหม่แล้วล่ะ!”