ตอนที่ 342 ถามพระชายาของข้าก่อนว่าตกลงหรือไม่ / ตอนที่ 343 ผู้หญิงที่ถูกส่งมาถึงตำหนักมีเยอะแล้ว

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 342 ถามพระชายาของข้าก่อนว่าตกลงหรือไม่

 

 

ชุนเหนียงพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก

 

 

หลิงอวี้จื้อมองๆ มั่วชิงที่ยืนข้างตนเอง ดูเหมือนจะใจลอยตลอดเวลา เธอยื่นมือออกไปเขย่าๆ มั่วชิง

 

 

รู้สึกมาตลอดว่าสำนักอู๋จี๋มีความลับมากมาย ซ้ำยังเกี่ยวข้องกับราชสำนักอย่างใกล้ชิด มิเช่นนั้นเหตุใดราชสำนักถึงต้องรวมกำลังทำลายสำนักๆ หนึ่งในยุทธภพ

 

 

ความลับเหล่านี้เกรงว่ามีเพียงเจ้าสำนักวิปริตผู้เดียวเท่านั้นที่รู้ ถึงแม้ชุนเหนียงจะอยู่ข้างกายนางมาโดยตลอด แม้จะเป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุด แต่เรื่องที่รู้นั้นมีไม่มากเลย

 

 

นึกถึงคำถามก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ หลิงอวี้จื้อก็ถาม

 

 

“มั่วชิง คราวที่แล้วพวกเราเคยเจอมู่หรงกวานเสวี่ยที่จวนมู่หรงมาก่อน เจ้าจำนางได้หรือไม่”

 

 

มั่วชิงส่ายหน้า

 

 

“ไม่เจ้าค่ะ ตอนนั้นพวกเราสี่คน มีเพียงข้ากับเฟิงอิ๋นที่เผยใบหน้าจริงให้คนเห็น ดูเหมือนเจ้าสำนักจะคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว อีกสองคนไม่เคยฝึกวิชากับพวกเรา เวลาเจอกันโดยบังเอิญก็ใส่หน้ากากไว้ พวกเราไม่รู้จักใบหน้าที่แท้จริงของพวกนางด้วยซ้ำ และไม่รู้ชื่อของพวกนางด้วย”

 

 

“มีการทำเช่นนี้ด้วยหรือ เช่นนั้นแสดงว่ามีแผนซ่อนเร้นไว้แต่แรกแล้วจริง ๆ”

 

 

มิน่ามั่วชิงถึงไม่รู้จักมู่หรงกวานเสวี่ย นอกจากมู่หรงกวานเสวี่ย ผู้คุมกฎอีกคนคือใครล่ะ หรือว่ายังแอบแฝงอยู่ในเมืองหลวงด้วย

 

 

เซียวเหยี่ยนถูกขังไว้ในคุกใหญ่ของสำนักอู๋จี๋ เฟิงอิ๋นก็ถูกขังอยู่ในคุกข้างๆ เขา กรงขังล้วนทำมาจากเหล็กนิล ความแข็งแรงทนทานหาใดเปรียบ หากไม่มีกุญแจ ก็ไม่มีทางเปิดออกมาได้เลย

 

 

เซียวเหยี่ยนนั่งขัดสมาธิกับพื้น รักษาอาการบาดเจ็บ ยาพิษดอกไร้รักที่เฟิงอิ๋นป้อนเขาก่อนหน้านี้ยังมีผลต่อกำลังภายใน ถึงแม้เขาจะแอบบ้วนทิ้ง แต่ยังกินลงไปเล็กน้อย ยังมีผลต่อเขาอยู่บ้าง เมื่อครู่ก็รับฝ่ามือของเจียงสือไป ทำให้เขาบาดเจ็บภายใน

 

 

เฟิงอิ๋นพิงข้างกรงเหล็กนิล เห็นเซียวเหยี่ยนหันหลังให้นาง ทั้งตกใจและโมโหอยู่ในใจ

 

 

“เซียวเหยี่ยน นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะหลอกข้า”

 

 

“เจ้าหลอกข้าได้ เหตุใดข้าจะหลอกเจ้าไม่ได้”

 

 

น้ำเสียงของเซียวเหยี่ยนเย็นชา ยังคงหลับตารักษาแผลอยู่ ไม่ได้มองเฟิงอิ๋น

 

 

“เจ้าไม่ยอมแต่งกับข้า ข้าจึงต้องใช้วิธีเช่นนี้ ข้าไม่เคยคิดจะทำร้ายถึงชีวิตเจ้า แค่อยากให้เจ้าอยู่เคียงข้างข้าเท่านั้น

 

 

เซียวเหยี่ยน ข้าสู้หลิงอวี้จื้อไม่ได้ตรงไหน ข้าได้ยินว่าคุณหนูใหญ่แห่งจวนมหาเสนาบดีคนนั้นเดิมทีเป็นคนปัญญาอ่อน เจ้าเป็นผู้ทรงอิทธิพล จะแต่งกับคนปัญญาอ่อน เรื่องแพร่ออกไปก็รังแต่จะทำให้คนทั่วหล้าหัวเราะเยาะท่าน”

 

 

เฟิงอิ๋นไม่พอใจอย่างยิ่ง หากพูดว่านางแพ้มู่หรงกวานเย่ว์ นางก็จะยอมรับโดยดี ผู้หญิงคนนั้นมีวิธีการจริงๆ

 

 

แต่หลิงอวี้จื้อเป็นใคร ถึงแม้จะเกิดในตระกูลขุนนาง แต่ปัญญาอ่อนตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าอย่างไร ตนเองก็เก่งกว่าหลิงอวี้จื้อ

 

 

ตอนแรกแต่งงานกับเซียวเหยี่ยนได้อย่างราบรื่นอยู่แล้วเชียว ใครจะไปรู้ว่าคนที่ไหว้ฟ้าดินจะไม่ใช่นาง ขอเพียงนางกับเซียวเหยี่ยนได้ไหว้ฟ้าดินกันแล้ว ทั้งชีวิตนี้เซียวเหยี่ยนก็อย่าได้คิดจะกำจัดนางเลย

 

 

“ข้าจะแต่งกับใคร ไม่ต้องให้เจ้ามาชี้นิ้วสั่ง เฟิงอิ๋น เจ้าหลงคิดว่าตนเองฉลาดเกินไปแล้ว”

 

 

“ใช่ ข้าหลงคิดว่าตนเองฉลาด แล้วก็หลงคิดว่าตนเองทำให้เจ้ายอมจำนนได้แล้ว ตอนนี้เจ้าถูกขังอยู่ที่นี่ เจ้าก็อย่าได้คิดจะออกไปเลย ท่านอาจารย์ไม่มีทางฆ่าข้า แต่ฆ่าเจ้าได้ เซียวเหยี่ยน คราวนี้ข้าจะไม่ช่วยเจ้า นี่คือจุดจบของการที่เจ้าหลอกข้า”

 

 

เฟิงอิ๋นพูดด้วยความเกลียดแค้น

 

 

“วิธีการของท่านอาจารย์มีมากมายนัก สามารถทำให้ท่านอ๋องได้ลองลิ้มชิมรสของความรู้สึกตายดีกว่าอยู่แน่นอน สิ่งที่ท่านอาจารย์เกลียดที่สุดในชีวิตก็คือท่านซีหนานอ๋อง ตอนนี้นางรู้ตัวตนของเจ้าแล้ว จะปล่อยโอกาสทองนี้หลุดมือไปได้อย่างไร”

 

 

เซียวเหยี่ยนไม่สนใจเฟิงอิ๋น ที่เขาถูกเฟิงอิ๋นพาเข้ามาในสำนักอู๋จี๋คราวนี้อยู่ในความคาดหมายของเขา เขาอยากมาหาเฟิงอิ๋นเพื่อเอายาถอนพิษ เขาสามารถหนีได้อยู่แล้ว แต่จงใจไม่หนี ตามเฟิงอิ๋นมาที่สำนักอู๋จี๋ นึกไม่ถึงว่าจะได้รางวัลที่สำนักอู๋จี๋โดยมิได้ตั้งใจ มาคราวนี้ไม่เสียเที่ยว

 

 

สองสามวันมานี้อู่จิ้นควรจะมาถึงแล้ว คำนวณวันเวลาแล้วอีกไม่นาน ขอเพียงทนไปได้อีกสองสามวัน เขาก็จะออกไปจากที่นี่ไปโดยสวัสดิภาพ ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องทนต่อไปให้ได้

 

 

“เจ้ากับชุนเหนียงสมรู้ร่วมคิดกันตั้งแต่แรกแล้วใช่หรือไม่”

 

 

เฟิงอิ๋นถามต่อ

 

 

เพียงแต่เซียวเหยี่ยนยังคงไม่สนใจเฟิงอิ๋น เรื่องเหล่านี้เขาไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เฟิงอิ๋นฟัง และไม่อยากพูดอะไรกับเฟิงอิ๋นมากไปกว่านี้อีก

 

 

เห็นเซียวเหยี่ยนไม่ได้สนใจตนเองด้วยซ้ำ โทสะในใจเฟิงอิ๋นก็ยิ่งรุนแรง ถีบกรงเหล็กนิลไปหนึ่งที

 

 

“เซียวเหยี่ยน เจ้า…”

 

 

“ผู้คุมกฎเฟิง หากเจ้าสามารถถีบจนกรงเหล็กนิลพังได้ ก็เชิญทำต่อไป”

 

 

“หลายปีมานี้ข้าคิดถึงเจ้าไม่เสื่อมคลาย เหตุใดเจ้าถึงไร้ความรู้สึกเช่นนี้ หลายวันมานี้เจ้าอ่อนโยนกับข้ามาก เป็นเช่นนี้ต่อไปมิได้หรือ”

 

 

“เจ้าไปถามพระชายาของข้าก่อนเถิดว่านางตกลงหรือไม่”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 343 ผู้หญิงที่ถูกส่งมาถึงตำหนักมีเยอะแล้ว

 

 

เซียวเหยี่ยนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เซียวเหยี่ยนยิ่งกว่าไม่ชอบเฟิงอิ๋น เขารังเกียจนางถึงขีดสุด

 

 

หลายปีก่อนคอยตามตอแยเขา ตอนนั้นก็ทำให้เขารำคาญเกินทนแล้ว คิดไม่ถึงว่าเฟิงอิ๋นจะวางยาหลงโฉมงามให้เขา พบกันคราวนี้ยังวางยาพิษเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาจะต้องลากเฟิงอิ๋นลงเหว ไม่ปล่อยให้นางเอาตัวรอดไปได้ง่ายๆ

 

 

“พระชายาโง่ของเจ้าจะรู้อะไร เจ้าเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มีผู้หญิงอีกสองสามคนข้างกายก็เป็นเรื่องเข้าใจได้

 

 

เซียวเหยี่ยน ข้ายินดีอยู่กับเจ้าและพระชายาเพื่อปรนนิบัติเจ้า ขอเพียงเจ้ารับปากข้าว่าจะพาข้าไปเมืองหลวง ข้าสามารถคิดหาวิธีออกไปจากสำนักอู๋จี๋ได้ ตอนนี้มีเพียงข้าที่ช่วยเจ้าได้”

 

 

เฟิงอิ๋นยอมละทิ้งศักดิ์ศรี ก่อนหน้านี้นางอยากครอบครองเซียวเหยี่ยนคนเดียว ตอนนี้รู้ว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว จึงลดความต้องการลง

 

 

ถึงแม้จะอยู่เป็นพระชายารองข้างกายเขา นางก็ยินยอม นางชอบเซียวเหยี่ยนมากจริงๆ หลายปีมานี้ไม่เคยพบเจอผู้ชายที่ทำให้จิตใจของนางหวั่นไหวได้เหมือนเซียวเหยี่ยน ปกตินางเป็นคนหยิ่ง แต่พออยู่ต่อหน้าเซียวเหยี่ยน นางยอมลดศักดิ์ศรีเหล่านั้นลง

 

 

“ผู้หญิงที่ถูกส่งมาถึงตำหนักมีเยอะแล้ว เฟิงอิ๋น เจ้าอยู่ในนั้นไม่โดดเด่นเลยด้วยซ้ำ ข้าเป็นคนกลัวตายเสียที่ไหน เจ้าคิดจะฉวยโอกาสนี้ขู่ข้า ช่างไม่เข้าใจข้าเอาเสียเลย”

 

 

ถูกเซียวเหยี่ยนปฏิเสธอีกครั้ง เฟิงอิ๋นโกรธไม่เบา ทำสีหน้าเย็นชาพูดว่า

 

 

“เซียวเหยี่ยน เจ้าอย่ามาเสียใจภายหลัง”

 

 

ทิ้งประโยคนี้ไว้ เฟิงอิ๋นก็บังคับตนเองให้มองไปทางอื่น ไม่ต้องไปดูเซียวเหยี่ยนอีก หากนางไม่ได้ที่ต้องการ เช่นนั้นนางก็ยินดีให้เซียวเหยี่ยนตายที่นี่

 

 

นางมีบารมีมากในสำนักอู๋จี๋ ที่จริงสาวใช้ต่างกลัวนาง นอกจากเจียงสือแล้ว ในสำนักอู๋จี๋ถือว่านางเป็นคนที่สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้

 

 

เมื่อได้พบเซียวเหยี่ยน เขาก็เอาแต่เมินนาง ก่อนหน้านี้นางยังหลงคิดว่าได้เซียวเหยี่ยนมาแล้ว ในเมื่อเซียวเหยี่ยนไร้จิตใจกับนางขนาดนี้ เช่นนั้นก็โทษนางไม่ได้

 

 

เซียวเหยี่ยนไม่สนใจเฟิงอิ๋น ตั้งสมาธิกับการเคลื่อนย้ายลมปราณรักษาอาการบาดเจ็บเท่านั้น

 

 

เวลาค่อยๆ ผ่านไป ข้างนอกฟ้าสางแล้ว พวกนางอยู่ในห้องไม่ได้ยินข่าวคราวใดๆ

 

 

หลิงอวี้จื้อรอจนเริ่มร้อนใจแล้ว ก่อนหน้านี้เจียงสือบอกว่ากุญแจหายไป จากนั้นให้คนไปตามเซียวเหยี่ยน พบว่าเซียวเหยี่ยนไม่อยู่ในห้อง แล้วพาคนออกไปทันที ยังไม่รู้ว่าทางเซียวเหยี่ยนเกิดเรื่องหรือไม่ จะตกอยู่ในมือของเจียงสือหรือไม่

 

 

ตอนนี้เองประตูห้องถูกผลักเปิดออก คนที่เข้ามาคือเจียงสือ ชุนเหนียงลุกขึ้นทันที รีบเข้าไปรับ กอดแขนเจียงสือไว้

 

 

“เจ้าสำนักเจ้าคะ ข้ากลัวเหลือเกิน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าจริงๆ นะเจ้าคะ”

 

 

ชุนเหนียงพูดด้วยสีหน้าน้อยใจ ซ้ำยังถูแขนเจียงสือไปมา น้ำเสียงหวานเลี่ยน

 

 

ก่อนนี้ยังดีอยู่ แต่พอได้ยินชุนเหนียงพูดเช่นนี้แล้ว หลิงอวี้จื้อก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัวอย่างควบคุมไม่ได้

 

 

เทคนิคการแสดงของชุนเหนียงก็ไม่เลว รู้ดีแก่ใจว่าในใจรังเกียจสุดชีวิต ยังแสดงต่อหน้าเจียงสือได้อย่างเป็นธรรมชาติ หลายปีขนาดนี้แล้ว ช่างยากสำหรับนางจริงๆ

 

 

“ข้ารู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ชุนเหนียง เจ้ากลับไปเถิด!”

 

 

“ขอบคุณเจ้าค่ะเจ้าสำนัก”

 

 

ชุนเหนียงสีหน้ายินดี

 

 

“ข้าจะรอเจ้าสำนักที่ห้องนะเจ้าคะ”

 

 

พูดจบเดินยักย้ายเอวบางออกไป พอออกไปจากห้องแล้ว นางก็ยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อบนหน้าผาก เหงื่อเย็นผุดออกมา ยังดีที่เหตุการณ์ร้ายแรงแต่ไม่มีอันตราย

 

 

ชุนเหนียงออกไปโดยสวัสดิภาพ หลิงอวี้จื้อไม่ได้โชคดีเช่นนี้ เธอไม่รู้ว่าเจียงสือจะทำอะไรกับเธอ เธอยิ้มประจบเจียงสือ

 

 

“เจ้าสำนัก ข้าบุกเข้ามาในสถานที่อันทรงค่าโดยมิได้ตั้งใจ อยู่ที่นี่ยังเปลืองอาหารของที่นี่ด้วย เกรงใจจริงๆ เจ้าค่ะ”

 

 

“ไม่เป็นไร ถึงแม้จะเลี้ยงเจ้าไปตลอดชีวิตก็ไม่เป็นปัญหา ในเมื่อเจ้าเป็นคู่หมั้นของเซียวเหยี่ยน ตอนนี้เซียวเหยี่ยนก็อยู่ที่นี่ เจ้าไม่อยากเจอเขาหน่อยหรือ”

 

 

สีหน้าของเจียงสือไม่แสดงโทสะ เสียงยังคงต่ำ