ตอนที่ 344 ให้โอกาสเจ้าจัดการเซียวเหยี่ยนสักครั้ง / ตอนที่ 345 ภาพฉากสยอง

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 344 ให้โอกาสเจ้าจัดการเซียวเหยี่ยนสักครั้ง

 

 

หลิงอวี้จื้อแสร้งทำท่าทางตกใจ

 

 

“หา…เขาอยู่ที่นี่หรือเจ้าคะ ข้าไม่รู้จริงๆ เขามาทำอะไรที่สำนักอู๋จี๋ ข้าถูกบังคับให้แต่งงานกับเขาอยู่แล้ว ข้าไม่อยากเจอเขา หากเจ้าสำนักพอจะจัดการเขาให้ข้าได้ก็ดีเจ้าค่ะ ข้าจะได้ไม่ต้องปวดหัวเรื่องถอนหมั้น”

 

 

“ข้าจะให้โอกาสนี้กับเจ้า ให้เจ้าจบเรื่องเซียวเหยี่ยนด้วยน้ำมือของเจ้าเอง ว่าอย่างไร”

 

 

ในใจหลิงอวี้จื้อร้อนรนจนทนไม่ไหวแล้ว แต่ไม่สามารถแสดงออกต่อหน้าเจียงสือได้แม้แต่น้อย เธอทำหน้าขี้ขลาด

 

 

“เช่นนี้…เช่นนี้ไม่ได้เจ้าค่ะ เขาเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หากข้าฆ่าเขา ข้าก็ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ ซ้ำยังทำให้จวนมหาเสนาบดีติดร่างแหไปด้วย ข้าไม่กล้าเจ้าค่ะ”

 

 

“เขาตายในสำนักอู๋จี๋ เกี่ยวอะไรกับเจ้า ถึงตอนนั้นเจ้าก็โยนเรื่องนี้มาที่สำนักอู๋จี๋ก็พอ”

 

 

“แต่ผู้คุมกฎเสวี่ยเป็นพยานรู้เห็นทั้งหมดนี้แล้ว นางไม่ปล่อยข้าไปแน่”

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดพลางคุกเข่ากับพื้น

 

 

“เจ้าสำนัก ข้าเป็นเพียงลูกสาวขุนนางธรรมดาๆ คิดเพียงอยากจะปกป้องคนรักของตน ท่านอ๋องอำนาจบารมีมากมายขนาดนั้น ข้าไม่กล้าจริงๆ เจ้าค่ะ”

 

 

เจียงสือก้มลงมองหลิงอวี้จื้อ สีหน้าเริ่มหมดความอดทน

 

 

“เรื่องกวานเสวี่ยข้าจะกำชับเอง คุณหนูใหญ่หลิง เจ้าพูดดีๆ ไม่ชอบ จะให้ข้าบังคับหรือ”

 

 

“ขอบพระคุณเจ้าสำนักเจ้าค่ะ ข้าทำตามนั้นแล้วกันเจ้าค่ะ”

 

 

หลิงอวี้จื้อรู้ว่าปฏิเสธไม่ได้แล้ว จึงได้แต่รับคำ นางไม่ได้มาเพื่อถามความเห็นของเธอ แต่มาแจ้งเพื่อทราบ ให้เธอไปฆ่าเซียวเหยี่ยนเสีย ขอบใจจริงๆ ที่เจียงสือคิดได้เช่นนี้

 

 

“เจ้าลุกขึ้นเถิด!”

 

 

เจียงสือเห็นหลิงอวี้จื้อตอบรับแล้วพอใจอย่างยิ่ง ให้หลิงอวี้จื้อลุกขึ้น

 

 

ไม่ได้นอนมาทั้งคืน เดิมทีหลิงอวี้จื้อก็ง่วงอยู่แล้ว จงใจหาวหวอดต่อหน้าเจียงสือ จากนั้นก็รีบขออภัยอย่างตื่นตกใจ

 

 

“ขอโทษเจ้าค่ะ เจ้าสำนัก ข้าไม่ได้เจตนาจริงๆ เมื่อคืนไม่ได้หลับทั้งคืน ข้าแค่ง่วงเกินไปเท่านั้น ดังนั้นถึงได้…”

 

 

เห็นหนังตาหลิงอวี้จื้อประกบกันแล้ว เจียงสือก็ไม่ได้จะทรมานหลิงอวี้จื้อ

 

 

“เจ้าไปพักสักหน่อยเถิด ตอนบ่ายข้าจะพาเจ้าไปเยี่ยมเซียวเหยี่ยน ขอเพียงเจ้าทำเรื่องนี้สำเร็จ เรื่องกวานเสวี่ยก็วางใจเถิด

 

 

นางจะไม่ไปขัดเจ้ากับมู่หรงนี่อวิ๋นอีก เรื่องของพวกเจ้าสมหวังได้ เจ้าจะแต่งงานกับมู่หรงนี่อวิ๋นอย่างราบรื่น”

 

 

หลิงอวี้จื้อทำหน้ายินดี ยิ้มพูดว่า

 

 

“เช่นนั้นดีมากเลยเจ้าค่ะ ขอบคุณเจ้าสำนัก”

 

 

เจียงสือไม่ได้พูดอะไรอีก ออกจากห้องไปอย่างเร็ว หลิงอวี้จื้อเก็บรอยยิ้มทันใด ถึงแม้เธอจะง่วงมาก แต่ไม่มีใจจะหลับ นอนแผ่บนเตียง สองมือประสานใต้ศรีษะ

 

 

“มั่วชิง ข้างนอกมีคนเฝ้าอยู่เท่าไหร่”

 

 

“มีสาวใช้เพียงสองคน ข้าจัดการได้ คุณหนู ท่านอ๋องคงถูกจับไปแล้ว สำนักอู๋จี๋มีคุกใหญ่เพียงแห่งเดียว หากเดาไม่ผิด ท่านอ๋องคงถูกขังอยู่ในคุกใหญ่

 

 

เพียงแต่คุกใหญ่ล้วนหลอมมาจากเหล็กนิล หากไม่มีกุญแจก็ไม่มีทางเปิดออกเลย พวกเราต้องเอากุญแจถึงไปช่วยชีวิตท่านอ๋อง”

 

 

“กุญแจคงไม่อยู่กับตัวเจ้าสำนักหรอกกระมัง!”

 

 

“กุญแจคุกใหญ่มิได้อยู่กับตัวเจ้าสำนัก อยู่กับทหารยามผู้ดูแลคุก ข้างในมีทหารยามทุกด่าน หากพวกเราไปช่วยคนเช่นนี้ เกรงว่าจะถูกจับกุม”

 

 

หลิงอวี้จื้อคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายพูดว่า

 

 

“อาศัยแค่พวกเราสองคนช่วยคนออกมาไม่ได้แน่ มั่วชิง เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าตอนที่พวกเราเพิ่งมาถึงอำเภอฉางหนิง ในตัวอำเภอมีคนหนุ่มตายไปไม่น้อย ล้วนถูกฉีกกัดจนไม่เป็นรูปเป็นร่าง

 

 

สำนักอู๋จี๋เลี้ยงอะไรที่ไม่สามารถเผยให้คนเห็นอยู่หรือไม่ หากปล่อยสิ่งนี้ออกมา จะต้องเกิดความวุ่นวายโกลาหลแน่นอน ถึงตอนนั้นเราก็ล่อมันไปที่คุกใหญ่ พวกเราฉวยโอกาสชุลมุนนี้ช่วยคนออกมา”

 

 

“สำนักอู๋จี๋ต้องช่วยเหลือพวกสายมารมาตลอด น่าจะมี ข้ารู้ว่าของเหล่านี้อยู่ที่ไหน คุณหนู ให้ข้าไปเถิด”

 

 

“เจ้าออกไปก็ต้องจัดการสาวใช้ตรงประตูด้วย ถึงเวลานั้นข้าอยู่ทางนี้จะอันตรายยิ่งไปอีก พวกเราไปด้วยกัน อย่างไรเสียข้าก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ไปเถิด!”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 345 ภาพฉากสยอง

 

 

มั่วชิงคิดไปคิดมาก็เห็นด้วย จึงไม่ได้พูดอะไรอีก พยักหน้ารับคำ

 

 

มั่วชิงจัดการสาวใช้ตรงหน้าประตูอย่างง่ายดาย ลากสาวใช้เข้าไปซ่อนในห้อง

 

 

นางคุ้นเคยกับสำนักอู๋จี๋เป็นอย่างดี นำทางหลิงอวี้จื้อลัดเลาะทางลัดไปทางห้องทิศเหนือ เพื่อป้องกันการหลบหนี คนและสัตว์ร้ายทุกตัวจึงถูกขังไว้ในคุกใต้ดิน

 

 

ทหารยามข้างนอกห้องทิศเหนือก็ไม่เยอะ มั่วชิงจัดการทหารยามแล้วเปิดกลไกห้องทิศเหนือ ประตูหินค่อยๆ เคลื่อนเปิด

 

 

“คุณหนู ท่านต้องระวัง ตามข้ามา”

 

 

มั่วชิงพูดจบก็ใช้หินเหล็กไฟในมือจุดตะเกียงน้ำมันบนผนัง ข้างในมีบันไดแคบๆ อันหนึ่ง

 

 

หลิงอวี้จื้ออาศัยแสงสลัว เดินตามมั่วชิงไปข้างหน้า เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ได้กลิ่นชวนอาเจียน มีทั้งกลิ่นคาวเลือดเข้มข้น กลิ่นเปียกชื้นแรงมาก รวมทั้งกลิ่นเหม็นอับแบบคนไม่ได้อาบน้ำมาหลายปี

 

 

หลิงอวี้จื้ออุดปาก เพื่อไม่ให้ตัวเองอาเจียนออกมา

 

 

มั่วชิงนิ่งเฉยมาก กลิ่นเหล่านี้นางเคยดมมาหลายปีแล้ว คุ้นเคยไปกว่านี้ไม่ได้อีก ตอนนั้นเพื่อฝึกวิชา พวกนางต้องมาที่นี่ทุกวัน

 

 

ลงบนไดมาแล้ว หลิงอวี้จื้อก็คลายมือด้วยความตกใจ นี่เป็นฉากที่ตื่นเต้นที่สุดตั้งแต่เธอเกิดมาจริงๆ พระเจ้า น่ากลัวกว่าในภาพยนตร์อีก อย่างน้อยในภาพยนตร์ก็รู้ว่าเป็นของปลอม แต่พวกนี้เป็นของจริง

 

 

มั่วชิงจุดตะเกียงน้ำมันบนกำแพงต่อ มีกรงขนาดเล็กใหญ่เต็มไปหมด

 

 

ข้างในกรงข้างหน้าขังหมาป่าสีดำเจ็ดแปดตัวไว้ คำรามเสียงต่ำเป็นระลอกๆ ดวงตาประกายแสงสีเขียว กำลังกินคน ใช่แล้ว ที่กินอยู่เป็นศพคน ถูกฉีกกัดจนดูไม่ออกว่าหน้าตาเป็นอย่างไร แขนขาดขาขาดโยนกระจายไปทุกที่

 

 

หากหัวใจไม่แข็งแกร่งพอ ไม่กล้าดูภาพนี้แน่นอน

 

 

“นี่คือหมาป่าหรือ”

 

 

“ถูกต้องเจ้าค่ะ แต่ไม่ใช่หมาป่าธรรมดา มันดุร้ายมาก เจ้าสำนักเอาคนเป็นมาเลี้ยงพวกมันตลอด เมื่อก่อนตอนที่ข้าอยู่สำนักอู๋จี๋ เจ้าสำนักเลี้ยงหมาป่าดำไม่กี่ตัว ไม่รู้ว่าเจ็ดแปดตัวนี้เป็นตัวเดียวกับเมื่อก่อนหรือไม่ ข้าลองดูสักหน่อยประเดี๋ยวก็รู้”

 

 

มั่วชิงพูดจบก็เอามือวางในปาก เป่าเป็นเสียงคล้ายนกหวีด ได้ยินเสียงเป่าปาก หมาป่าดำตัวหนึ่งในนั้นก็มาทางนี้ทันใด ใช้กรงเล็บตะกายกรงเหล็กไม่หยุด

 

 

มุมปากมั่วชิงหยักยิ้มบางๆ

 

 

“หมาป่าตัวนี้เป็นตัวที่เมื่อก่อนข้าเคยฝึกให้เชื่อง มันยังจำสัญญาณปากข้าได้

 

 

คุณหนู คราวนี้เรื่องก็จัดการง่ายแล้ว มันอยู่ที่นี่เป็นเวลาค่อนข้างนาน หมาป่าตัวที่เพิ่งมาใหม่อาจจะกินมันได้ ถึงตอนนั้นข้าสามารถใช้สัญญาณปากล่อมันไปที่ห้องขังทางโน้น

 

 

หมาป่าพวกนี้มีเพียงผู้คุมกฎไม่กี่คนกับเจ้าสำนักที่ใช้สัญญาณสั่งได้ ตอนนี้มีเพียงเฟิงอิ๋นที่อยู่สำนักอู๋จี๋ตลอด คงเป็นเฟิงอิ๋นที่ดูแลพวกมันทั้งหมด”

 

 

มั่วชิงพูดจบ ก็เป่าเสียงนกหวีดต่อไป ยื่นมือไปลูบหัวหมาป่าสีดำ

 

 

หมาป่าสีดำถูไถมือของมั่วชิงอย่างสนิทสนม มันสนิทกับมั่วชิงขนาดนี้ หมาป่าตัวอื่นก็ไม่กล้าเข้ามา พากันหลีกไป นี่แสดงว่ามันมีอำนาจแท้จริงในบรรดาหมาป่าเจ็ดแปดตัวนี้

 

 

มั่วชิงทำความคุ้นเคยอย่างละเอียด น้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย

 

 

“เจ้าเป็นหมาป่าผี”

 

 

หมาป่าดำตัวนั้นดูเหมือนจะเข้าใจที่มั่วชิงพูด คำรามเสียงต่ำตอบรับมั่วชิงหนึ่งครั้ง เห็นดังนี้มั่วชิงก็นั่งยองๆ กับพื้น

 

 

“หมาป่าผี ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ข้าคือมั่วชิงไง เมื่อครู่ข้าดูไม่ออกว่าเป็นเจ้า ขอโทษนะ หน้าตาข้าเปลี่ยนไปแล้ว เจ้ายังจำข้าได้ใช่ไหม”

 

 

หมาป่าผีคำรามเสียงต่ำต่อไปอีกหนึ่งครั้ง ดูเหมือนจะตอบรับมั่วชิงอีกครั้ง

 

 

“หมาป่าตัวนี้เข้าใจมนุษย์ดีจริง”

 

 

“เมื่อก่อนข้าฝึกหมาป่าหลายตัวให้เชื่อง หมาป่าผีเป็นตัวหนึ่งที่พิเศษที่สุด มันเป็นตัวที่ข้าช่วยชีวิตมา ดังนั้นจึงใกล้ชิดสนิทสนมกับข้ามาตลอดเจ้าค่ะ”