ตอนที่ 216 ในที่สุดก็พูดความจริง 

 

 

 

 

 

หลังจากหงเหลียนถูกลากตัวออกมา กู้เฉินหรงซึ่งหลบอยู่นอกประตูก็รีบซ่อนตัว พอคนเดินห่างไปแล้ว เขาจึงติดตามอย่างเงียบๆ กู้เหยี่ยนถามจบแล้ว แต่กู้เฉินหรงยังมีเรื่องจะถามหงเหลียนอีก 

 

 

พอถึงที่ทิ้งศพอนาถา รถม้าของจวนสกุลกู้ก็หยุด คนงานสองคนหามร่างของหงเหลียนเดินเรียงหน้า โยนหงเหลียนไปยังกองศพอย่างแรง  

 

 

ที่ทิ้งศพอนาถามีแต่เป็นศพไร้ญาติ บริเวณนั้นมีหมาป่า ศพที่ถูกทิ้งส่วนใหญ่ถูกหมาป่าแทะ กลิ่นเน่าเหม็นฟุ้งกระจายไปไกล  

 

 

หลังจากรถม้าสกุลกู้ออกไปแล้ว กู้เฉินหรงซึ่งหลบอยู่ในที่ลับตาจึงปรากฏตัว ที่ทิ้งศพเหม็นจริงๆ เขาขมวดคิ้ว ทนดมกลิ่นเดินไปหาหงเหลียน 

 

 

เวลานี้หงเหลียนกำลังหายใจเฮือกสุดท้าย พอได้ยินเสียงคนเดิน นางก็ผงกหัวขึ้นอย่างยากเย็น เห็นกู้เฉินหรง นางตะลึงงัน “คุณชายรอง…” 

 

 

กู้เฉินหรงเหยียบตรงปากแผลที่ท้องของหงเหลียนอย่างไร้ความปรานี ความเจ็บปวดนี้ทำให้หงเหลียนเหงื่อไหล ใบหน้าบิดเบี้ยว 

 

 

“คุณชายรอง …” 

 

 

“คนที่สั่งให้เจ้าทำตอนนั้นคือซูเหมยใช่หรือไม่” 

 

 

กู้เฉินหรงเหยียบท้องของหงเหลียน ถามอย่างเ**้ยมเกรียม 

 

 

“บ่าวไม่รู้ว่าคุณชายพูดอะไร” 

 

 

“เรื่องที่เจ้ากับท่านพ่อพูดคุยกันข้าได้ยินหมด เจ้าไม่ต้องเสแสร้งต่อหน้าข้า ข้าขอถามอีกครั้ง คนที่สั่งให้เจ้าทำตอนนั้นคือซูเหมยใช่หรือไม่” 

 

 

“อะไรที่ควรพูดบ่าว…ก็พูดหมดแล้ว” 

 

 

“ที่ทิ้งศพอนาถาไม่ใช่ที่เหมาะ ตายในนี้ก็ไม่รู้ว่าจะลงนรกหรือไม่ เจ้าพยายามปกป้องครอบครัวของพี่ชายเจ้าไม่ใช่หรือ ให้ข้าส่งครอบครัวเจ้ามาอยู่พร้อมหน้ากัน ดีไหม” 

 

 

หงเหลียนรีบเบิ่งตากว้าง “คุณชาย อย่า…บ่าวขอร้อง…เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับครอบครัวพี่ชายของบ่าวแม้แต่น้อย” 

 

 

“ข้าต้องการฟังความจริงเท่านั้น เจ้ายังมีโอกาสครั้งสุดท้าย ป้าหงเหลียน คิดดูให้ดี” 

 

 

หงเหลียนไม่กล้าบอกกู้เหยี่ยน เพราะหากกู้เหยี่ยนรู้ กู้เหยี่ยนต้องไปหาซูเหมยแน่ 

 

 

แต่กู้เฉินหรงไม่ใช่อย่างนั้น เรื่องตอนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเขานัก ถึงเขารู้ก็ไม่อาจไปพูดกับซูเหมยได้ พอเห็นสายตาดุดันของกู้เฉินหรง นางก็กลัวขึ้นมาจริงๆ ว่าเขาจะทำร้ายครอบครัวพี่ชาย 

 

 

“บ่าวจะบอก เรื่องนี้ความจริงแล้วฮูหยินเป็นคนสั่ง” 

 

 

“ในที่สุดก็พูดความจริง” กู้เฉินหรงยกเท้าออก ถามต่อ “ซูเหมยติดสินบนเจ้าอย่างไร” 

 

 

หงเหลียนไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้ว ครู่หนึ่งนางจึงพูดเสียงขาดห้วนเป็นระยะ “พี่ชายข้าได้รับโทษประหารข้อหาฆ่าคน หลักฐานอยู่ในมือฮูหยิน บ่าว…บ่าว…ไม่กล้าขัดขืน” 

 

 

“ไม่ว่าเจ้าจะทรยศนายด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม นี่เป็นจุดจบที่เจ้าสมควรได้รับ” 

 

 

กู้เฉินหรงทิ้งคำพูดนี้ไว้แล้วหันหลังออกไป ที่นี่เหม็นสาบจริงๆ ขืนอยู่ต่อเขาคงทนไม่ไหวแน่ ซูเหมยทำร้ายซูจิ่วซืออย่างนี้ ก่อนไปเขาจะแก้แค้นให้ซูจิ่วซือ ไม่ให้โอกาสซูเหมยทำร้ายซูจิ่วซืออีก 

 

 

หงเหลียนมาถึงเส้นแบ่งความเป็นความตายแล้ว นางหลับตาไม่สนิท ราวกับมองเห็นซูหลิ่วเดินเข้ามาหา กับซูหลิ่ว นางยังรู้สึกผิดอยู่ ตอนนั้นซูหลิ่วเอาใจใส่นางไม่น้อย นางทรยศซูหลิ่ว 

 

 

แต่เรื่องที่นางบอกก็เป็นความจริง พี่ชายนางไม่เอาไหน ซูหลิ่วไม่อยากใส่ใจเรื่องของพี่ชายนาง แต่นางไม่ใส่ใจไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นพี่ชายแท้ๆ ของนาง เป็นพี่ชายแท้ๆ ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนางมาตลอด 

 

 

ข้าขอโทษ คุณหนู ข้ากำลังจะไปรับโทษที่ปรโลก 

 

 

วันนี้เป็นวันที่หงเหลียนเคยนึกว่าคงมาถึงสักวันหนึ่ง แต่นางไม่กล้าตายง่ายๆ  นางกลัวว่าพอนางตาย ซูเหมยจะทำให้ครอบครัวพี่ชายเดือดร้อน นางจึงจงรักภักดีต่อซูเหมยมาตลอดหลายปี และอยากให้ซูเหมยดูแลครอบครัวพี่ชายให้มากหน่อย 

 

 

 

 

 

——