ตอนที่ 178 ฉวยโอกาสเอาเปรียบ / ตอนที่ 179 โดนปั่นหัวเล่นอีกแล้ว

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 178 ฉวยโอกาสเอาเปรียบ

 

 

           เขาทำให้เจียงมู่เฉินตกใจกลัว รีบเอามายันซือเหยี่ยนไว้

 

 

           “ไม่นอนดีๆ นายปีนขึ้นมาทำอะไร” เจียงมู่เฉินระเบิดลง นี่มันอะไรกัน เมื่อกี้ก็ยังดีกันอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมขึ้นมานอนแล้วยังมาโกรธกันอีก

 

 

           ซือเหยี่ยนไม่ตอบ ใจจดจ่ออยู่กับการกระทำในมือ

 

 

           เจียงมู่เฉินดึงผ้าห่มสุดชีวิต ยกเท้าเตะเขา “ดูท่าว่าคำพูดเมื่อกี้นี้ของเฉินเฉินจะแค่พูดไปงั้นๆ เอง หลอกผมมาตั้งแต่แรกแล้วสินะ”

 

 

           เขาถอนหายใจเงียบๆ “ช่างเถอะ ผมน่าจะรู้มาตั้งนานแล้ว”

 

 

           เจียงมู่เฉินทำหน้างุนงง เมื่อครู่นี้เขารับปากอะไรซือเหยี่ยน เจียงมู่เฉินคิดทบทวนอย่างจริงจัง ภาพในหัวค่อยๆ ย้อนระลึกปรากฏขึ้นมา…จากนั้นก็ตะลึงค้างไป

 

 

           ‘เขาบอกเองว่าต่อให้จะป๊าบๆๆ ก็โอเค’

 

 

           ‘ห้ามขัดขืน แล้วต้องให้ความร่วมมือด้วย แบบนั้นน่ะเหรอ’ เจียงมู่เฉินอยากร้องไห้ ตอนนี้เขาเอาคำพูดพวกนั้นเก็บกลับคืนมายังจะทันอยู่ไหม

 

 

           สีหน้าท่าทางของซือเหยี่ยนดูแล้วน่าสงสารอยู่ในที พูดไปก็คิดจะเปิดผ้าห่มลงจากเตียง ท่าทีแบบนั่นก็แปลว่า ‘ถ้าคุณยังไม่ยอมตกลง ผมจะกลับไปที่ระเบียง’

 

 

           เจียงมู่เฉินรู้สึกว่าชาติที่แล้วตัวเองต้องทำกรรมกับเขาไว้จริงๆ ชาติถึงได้โดนซือเหยี่ยนจัดการตลอด

 

 

           ‘แม่งเอ๊ย!’ ประเด็นสำคัญคือเขายังเป็นฝ่ายเต็มใจยอมส่งตัวเองถึงที่ให้ซือเหยี่ยนกิน

 

 

           เขากดมือซือเหยี่ยนที่อยากจะลงจากเตียงไว้ ขบกรามสุดชีวิตภายใต้ความมืดมิด ก็แค่โดนจับกดไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำ มีอะไรต้องกลัว

 

 

           อย่างมากก็แค่ออกกำลังกายกันก่อนนอนเท่านั้นเอง

 

 

           “นายอย่าไปไหน อยากเอาก็เอา คุณชายอย่างฉันพูดคำไหนคำนั้น” เจียงมู่เฉินเอ่ยอย่างหนักแน่น แทบอยากจะพุ่งตัวไปจับซือเหยี่ยนกดลงเตียงแทน

 

 

           ซือเหยี่ยนเลิกคิ้ว “จริงเหรอ คุณอย่าฝืนใจเลย”

 

 

           เขายังมาทำหน้าเหมือนไม่อยากทำให้เขาลำบากใจอีก เจียงมู่เฉินโมโหแล้ว “ฝืนใจกะน้องสาวนายสิ ให้นายทำนายก็ทำ จะมาพล่ามอะไรมากมาย”

 

 

           ท่ามกลางราตรีอันมืดมืด แววตาของซือเหยี่ยนทอประกาย จ้องเหยื่อที่ส่งตัวเองมาให้เขาถึงที่ตาไม่กะพริบ ยังวางลงตรงปากเข้าอีก เมื่อคิดถึงว่าเจียงมู่เฉินเป็นฝ่ายออกปากเองก็อดจะแอบยิ้มไม่ยิ้ม

 

 

           “เร็วเข้าสิ ยังอืดอาดอยู่ ฟ้าจะสว่างแล้วนะ” เจียงมู่เฉินเห็นซือเหยี่ยนไม่ทำอะไรสักที ชักจะร้อนใจแล้ว

 

 

           “โอ้…” แผนการเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นในแววตา “ผมก็ไม่ได้ไม่อยากจะเร็ว ประเด็นคือมือผมค่อนข้างชา”

 

 

           เจียงมู่เฉินถลึงตาใส่เขาอย่างหงุดหงิด “งั้นนายจะให้ทำยังไง”

 

 

           ซือเหยี่ยนยกมุมปากขึ้น “เฉินเฉิน ไม่งั้นคุณช่วยผมปลดกระดุมสิ”

 

 

           “!” ปลดกระดุม? เขาช่วยซือเหยี่ยน?

 

 

           เจียงมู่เฉินไปต่อไม่ถูก นี่มันเร้าใจไปไหม พวกเขาอยู่กันมาตั้งนาน เป็นซือเหยี่ยนคนเดียวที่ปลดเสื้อผ้าเขาออก ตัวเองยังไม่เคยช่วยซือเหยี่ยนปลดเสื้อผ้าเลย

 

 

           จู่ๆ เจียงมู่เฉินก็รู้สึกจักจี้ที่มือ

 

 

           “ได้ ฉันเองๆ” เจียงมู่เฉินลุกขึ้นนั่งบนเตียงประจันหน้าซือเหยี่ยน

 

 

           ท่ามกลางความมืด เขามองกระดุมบนเสื้อของซือเหยี่ยนไม่ชัด ทำได้แค่เพียงลูบๆ คลำๆ หาไปตามร่างกายของซือเหยี่ยน เจียงมู่เฉินคลำอยู่ตั้งนานก็ยังหากระดุมบนเสื้อของซือเหยี่ยนไม่เจอ

 

 

           ซือเหยี่ยนถอนหายใจเงียบๆ “เฉินเฉิน คุณคงจะไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบผมหรอกใช่ไหม”

 

 

           “ใครจะเบื่อจนเอาเปรียบนายกัน อีกอย่างร่างกายของนายจะส่วนไหนก็เป็นของฉัน ฉันลูบสักหน่อยจะเป็นไรไป นายไม่พอใจหรือไง” เวลานี้แล้วเจียงมู่เฉินยังลำพองตัวกว่าคนข้างๆ เสียอีก

 

 

           ซือเหยี่ยนยกมุมปากขึ้นหัวเราะ เขากางมือออก แสดงลีลาท่าทางว่า ‘ให้คุณทำได้ตามใจ’

 

 

           “อืม คุณพูดถูก ลูบได้ ลูบตามใจเลย”

 

 

           ปลายนิ้วเจียงมู่เฉินสั่นสะท้าน อดจะลูบจมูกปอยๆ ไม่ได้ ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าคำพูดของซือเหยี่ยนดูน่าอับอายอย่างไรชอบกล

 

 

           ตั้งสติได้ ในที่สุดเจียงมู่เฉินก็หากระดุมเสื้อเจอ ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ถึงค่อนข้างจะตื่นเต้น เขาค่อยๆ ใช้มือปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดๆ ตั้งแต่ปลดเม็ดแรก เม็ดที่เหลือก็ราบรื่นขึ้นเยอะ

 

 

           จนกระทั่งกระดุมทุกเม็ดถูกปลดออกแล้ว เจียงมู่เฉินถึงได้โล่งใจ เขาถอนหายใจเล็กน้อย ทำไมแค่ช่วยซือเหยี่ยนปลดกระดุมถึงเหนื่อยเหมือนไปวิ่งแปดร้อยเมตรมา

 

 

           ซือเหยี่ยนมองดูเจียงมู่เฉินที่กำลังถอนหายใจเบาๆ เขายกมุมปากขึ้นด้วยท่าทีใจเย็น “เฉินเฉิน ยังมีกางเกงอีกนะ”

 

 

             

 

 

ตอนที่ 179 โดนปั่นหัวเล่นอีกแล้ว

 

 

           “!” เจียงมู่เฉินอยากจะร้องไห้ ทำไมแค่ถอดเสื้อผ้าทำไมถึงยากขนาดนี้ ชีวิตใกล้จะไม่เหลือแล้ว

 

 

           ซือเหยี่ยนพิงกายเอ้อระเหยอยู่ตรงนั้น “อะไรกัน เฉินเฉินคิดจะฉีกสัญญาเหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินกัดฟัน อยากจะสบถคำหยาบคายใส่ ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าซือเหยี่ยนไอ้หมอนั่นขุดหลุมเอาไว้ แล้วตัวเองยังไม่ทันได้ค้นพบ ก็กระโดดลงไปอย่างโง่ๆ แล้ว

 

 

           “ฉันว่า นายกำลังปั่นหัวฉันเล่นอยู่ใช่ไหม” เจียงมู่เฉินเอ่ยถามอย่างคนรู้ตัวช้า

 

 

           ซือเหยี่ยนลูบจมูก เอ่ยอย่างไม่รู้ไม่ชี้ “โดนคุณจับได้แล้วหรือนี่”

 

 

           เจียงมู่เฉินโกรธจนกัดฟัน “โคตร! พ่อง! สิ! ฉันอยากจะเล่นงานนายให้ตายจริงๆ” เขาคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายยังมีหน้ามายอมรับอีก

 

 

           ซือเหยี่ยนยังคงพิงอยู่ตรงนั้น หรี่ตาลงเล็กน้อย “มาเถอะ อย่าอ่อนโยนกับผมมากเกินไปอีกนะ”

 

 

           เจียงมู่เฉิน “……”

 

 

           ‘อยากจะคืนสินค้าทำไงดี’

 

 

           “นายวางแผนหลอกฉันมาแม้แต่เรื่องที่อยู่ตรงระเบียงใช่ไหม” ดวงตาดอกท้อของเจียงมู่เฉินหรี่ลงเล็กน้อย “ไม่ใช่สิ ไม่ใช่แค่ตรงระเบียง นายวางแผนหลอกฉันตั้งแต่ที่ถามหาของขวัญกับฉันใช่ไหม”

 

 

           จงใจถามหาของขวัญกับตัวเอง แล้วจงใจยั่วโมโหตัวเอง จงใจให้ตัวเองโกรธจนด่าเขา จากนั้นตัวเขาเองก็ไปทำเป็นยืนน้อยใจอยู่ตรงระเบียง คิดไว้อยู่แล้วตัวเองทนเห็นเขาน้อยใจอยู่ตรงระเบียงคนเดียวไม่ได้ ต้องไปหาเขาแน่นอน

 

 

           ถึงเวลาก็ฉวยโอกาสเอาของขวัญ ไหนจะให้ตัวเองยอมตกลงรับสัญญาที่ไม่เท่าเทียมกันของเขา

 

 

           จากนั้นเขาก็ฉวยโอกาสทำตามอำเภอใจได้

 

 

           ‘แม่งเอ๊ย!’

 

 

           การโดนตลบหลังครั้งนี้ พาตัวเองผ่านไปทีละขั้นอย่างแม่นยำ ค่อยๆ ดึงดูดตัวเองให้มาลงหลุมที่เขาขุดไว้ล่วงหน้าแล้ว

 

 

           ที่สำคัญคือตัวเองเหมือนกับคนโง่ไม่มีผิด กระโดดลงไปอย่างโง่ๆ แล้วยังทุ่มเทใจกระตือรือร้นคิดอยากจะง้อเขา ไม่ว่าเขาพูดอะไร ตัวเองก็ยอมรับปากทุกอย่าง

 

 

           เจียงมู่เฉินรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหมูอย่างไรอย่างนั้น หมูก็ไม่ได้โง่เท่ากับเขาขนาดนี้ ชำระล้างให้สะอาดแล้วก็ยังเต็มใจส่งตัวเองถึงปาก ให้เขากินอีก

 

 

           ซือเหยี่ยนลูบปลายจมูกป้อยๆ “เฉินเฉิน ผมดูเป็นจอมวางแผนขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกรามแน่น “เหมือน โคตรจะเหมือน เป็นสิ่งที่กำหนดใส่มาในตัวนายอยู่แล้วจริงๆ” เขาโกรธจนยื่นมือไปกดเปิดโคมไฟ แล้วจ้องมองซือเหยี่ยนด้วยความเดือดดาล “นายว่านายทำขนาดนี้ได้ยังไงล่ะ”

 

 

           ซือเหยี่ยนทำเหมือนกับว่าคำพูดนี้กำลังอวยตัวเองอยู่ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “เพราะว่าผมคือผู้ชายของคุณ”

 

 

           “…” ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าในคำตอบของซือเหยี่ยนที่ยังมีความภูมิใจอยู่ด้วย มันหมายความว่าไงกัน

 

 

            “ตอนนี้นายกำลังรู้สึกภูมิใจใช่ไหม รู้สึกว่าการได้แกล้งฉันจนหัวหมุนมีความสุขมากใช่ไหม”

 

 

           “ภูมิใจมากจริงๆ” ซือเหยี่ยนตอบอย่างซื่อสัตย์

 

 

           เจียงมู่เฉินได้ยินคำตอบนี้ก็ระเบิดลงชั่วพริบตา ซือเหยี่ยนไอ้หมอนั่นยังรู้สึกว่าการปั่นหัวเขาเล่นน่าภูมิใจมากเลยเหรอ

 

 

           เขาจะโมโหจนระเบิดจริงๆ แล้ว ถ้าเวลานี้เขาพุ่งขึ้นไปเด็ดหัวซือเหยี่ยนออก คงจะไม่ต้องโดนปรับทางกฎหมายหรอกใช่ไหม

 

 

           “คิดไม่ถึงว่านายยังจะกล้ายอมรับ แม่งเอ๊ย นายยังจะกล้ายอมรับอีกเหรอ” เจียงมู่เฉินพุ่งเข้าใส่ ต้องการจะสู้กับซือเหยี่ยน “คุณชายเป็นคนที่นายจะปั่นหัวเล่นยังไงก็ได้เหรอ”

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นเขาโกรธจริงๆ ก็รีบง้อเขา เขาก็แค่หยอกล้อเจียงมู่เฉินเท่านั้น คิดจะทำให้เขาโกรธจริงๆ ที่ไหนกัน

 

 

           “เฉินเฉิน ที่ผมภูมิใจไม่ใช่เพราะผมหยอกคุณ”

 

 

           เจียงมู่เฉินถลึงตาใส่เขา “เรียกว่าปั่นหัว ไม่เรียกว่าหยอก”

 

 

           “ผมภูมิใจ เพราะผมมีแฟนที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แล้วยังเป็นห่วง ใส่ใจผมมากๆ อีกด้วย”

 

 

           “น้ำผึ้งอาบยาพิษ นายคิดว่าฉันจะเชื่อนายได้เหรอ”

 

 

           ซือเหยี่ยนมองเขาแล้วหัวเราะ “ใช่ ผมยอมรับว่าทั้งหมดเป็นแผนของผม แต่มันก็เดิมพันด้วยความห่วงใยที่คุณมีต่อผม ถ้าคุณไม่ห่วงใยผม แผนของผมก็จะไม่มีความหมายใดๆ ทั้งสิ้น”

 

 

           เขาคว้ามือเจียงมู่เฉินเอาไว้ “ดังนั้น ผมภูมิใจ ก็เพราะแฟนของผม…คือคุณไง”

 

 

           ……

 

 

           เงียบไม่พูดจากันอยู่หลายนาที เจียงมู่เฉินถึงได้กะพริบตา หัวใจเขาเต้นตึกตักตึกตักตึกตัก ราวกับหัวใจจะทะลุออกไป

 

 

           จู่ๆ เขาก็เริ่มกลัวตัวเองแล้ว รู้สึกว่าปฏิกิริยาตอบสนองของตัวเองเหมือนกับผู้หญิง คิดไม่ถึงว่าเมื่อได้ยินคำหวานแบบนี้จากปากซือเหยี่ยน หัวใจก็ตื่นเต้นจนจะระเบิดออกมา

 

 

           ‘หรือว่าเพราะว่าเขารักซือเหยี่ยนเข้าแล้ว ถึงได้เปลี่ยนไป กลัวการได้มาและการสูญเสียไม่ต่างจากผู้หญิงคนหนึ่งเลยแบบนี้’