ตอนที่ 649 นายน้อยของข้าเป็นคนดี
เขายกมือต่อยคนผู้นั้นจนสลบไป ทันทีที่เหลือบตามองก็พบกับแม่นางที่ถูกพวกเขาจับกุมตัวไว้ ร่างกายที่อ่อนปวกเปียกนั้นกำลังจะล้มไปทางด้านหลัง!
“แม่นาง!” เรื่องเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ชุยตานก็ไม่คิดอะไรมาก เขารีบเข้าไปหญิงสาวผู้นั้นเอาไว้
“ขออภัยที่ล่วงเกิน!” ชุยตานผงะไปเล็กน้อย จากนั้นหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาป้อนเข้าไปในปากของหญิงสาว และบังคับให้นางกลืนลงไป
“ชุยตาน?” ทางด้านชุยตานเพิ่งจะป้อนยาหญิงสาว ก็ได้ยินเสียงนายน้อยของตนมาจากทางด้านหลัง
เขารีบหันศีรษะกลับไปแล้วเอ่ยว่า “นายน้อย ไยท่านถึงลงมาได้”
ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นมา ก็พบกับซูหลีที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งปิดจมูกและปากไว้ จากนั้นก้าวเท้าเดินมาทางนี้ด้วยท่าทางอ่อนช้อย ขณะที่นางเดินมา พลางใช้พัดพัดสายลมมาด้วย
“ข้าเดินมาดูเสียหน่อย” ซูหลีพูดด้วยเสียงแผ่วเบา ที่จริงแล้วนางไม่ค่อยวางใจชุยตาน ทางนี้มีคนจำนวนมาก หากชุยตานไม่ได้ใช้ยาสลบของนางแล้วละก็ เกรงว่าชุยตานก็คงประสบกับหายนะแช่นกัน
คิดไม่ถึงว่าทันทีที่เดินมาทางนี้ จะเห็นมีคนนอนระเนระนาดเต็มไปหมด
ซูหลีก้าวเท้าเหยียบที่ร่างของคนของนองกองที่พื้น ถึงได้พบว่าอีกฝ่ายไม่มีการเคลื่อนไหวเลยสักนิด ดังนั้นนางถึงได้ทราบว่าพวกเขาได้รับยาของนางเข้าไปแล้ว
ซูหลีมิได้เป็นคนเขลา หลังจากที่ถูกลอบสังหารคราก่อน หากนางไม่ได้พกยาอะไรติดตัว ก็ต้องพกบางอย่างที่สามารถปกป้องตัวเองได้ ยาสลบที่รุนแรงมากขวดนี้ เป็นยาที่นางปรุงขึ้นเอง
คิดไม่ถึงว่าบัดนี้จะสามารถใช้ประโยชน์ในสถานการณ์เช่นนี้ได้ ทำให้นางผ่อนลมหายใจออกมา
“แค่กๆๆ!” ในขณะที่กำลังครุ่นคิด สตรีที่ถูกชุยตานช่วยเหลือไว้ผู้นั้นค่อยๆ ตื่นขึ้น จากนั้นส่งเสียงไอขึ้นอย่างเบาๆ
ซูหลีอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่งก่อน จากนั้นจึงหรี่ปรายตามองลงเล็กน้อยมองสตรีผู้นั้นครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าทันทีที่มองกลับไป พบว่าสตรีผู้นี้เป็นคนที่นางคุ้นเคยดี!
“แม่นางลู่?” ซูหลีเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ
ทางด้านลู่เหมียนเหมียนที่พึ่งหวนคืนสติกลับมา เมื่อหวนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ทั้งร่างก็สั่นเทิ่ม แต่เมื่อได้ยินเสียงของซูหลี นางก็รีบแหงนศีรษะขึ้นและสบตากับซูหลีพอดี
“คุณชายซู?” แม้รูปโฉมของซูหลีจะไม่พิเศษเกินไป เกรงว่าในเวลานี้แม้นางใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดบังจมูกและริมฝีปาก หลังจากลู่เหมียนเหมียนพินิจอย่างละเอียดจนจำนางได้ สุดท้ายแล้วนางก็สามารถจำใบหน้าของซูหลีได้
ซูหชีผงกศีรษะแล้วเอ่ยอย่างอดทนไม่ไหว “ไยเจ้าถึงมาอยู่ในสถานที่แห่งนี้”
เมื่อคิดได้เช่นนี้นางพลันฉุกคิดได้ เสียงเมื่อนี้ทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยยิ่ง ซูหลีขมวดคิ้วแล้วชายตามองที่ร่างคนที่อยู่บนพื้น สายตานางจับจ้องไปที่ใบหน้าของบุรุษที่สลบไสล ครั้นมองหาอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่คนๆ หนึ่ง
สีหน้าของซูหลีเปลี่ยนไปมาก
นางถึงว่าไยนางถึงรู้สึกว่าคุ้นหูนัก คิดไม่ถึงว่าในเวลาดึกดื่นขนาดนี้จะมีคนทำเรื่องสกปรกโสมมเช่นนี้ได้ อีกทั้งมิใช่ใครอื่น คนผู้นั้นก็คือเฉิงเค่อที่มีเรื่องบาดหมางใจกับนาง!
ในชั่วขณะนี้ยาสลบกระจายหายไปมากกว่าครึ่ง ซูหลีเปิดผ้าเช็ดหน้าออกแล้วย่อตัวลงมองไปทางเฉิงเค่ออยู่สองปราด ทันทีที่มองดูเขา ทำให้ซูหลีถึงกับต้องขมวดคิ้วขึ้น
“แม่นางท่านนี้ ให้ข้าน้อยคลายเชือกให้เถิด” ชุยตานเห็นดังนั้น เขาก็ทราบแล้วว่าสตรีผู้นี้กับซูหลีรู้จักกัน เขาก็ไม่เอ่ยอะไรอีก เพียงเงยศีรษะมองที่ลู่เหมียนเหมียน
เขายื่นมือไปทางนาง ทันทีที่เขายื่นมือลู่เหมียนเหมียนก็สั่นงกๆ ในดวงตาเต็มไปด้วยความตกตระหนก
ชุยตานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งเสียงเบาปลอบโยนนาง
ลู่เหมียนเหมียนตะลึงงันไปชั่วพริบตาหนึ่ง ผ่านไปพักใหญ่ ดูเหมือนว่าในที่สุดนางก็รู้สึกว่าตนได้รับการช่วยเหลือแล้ว ในเวลานี้นางจึงผงกศีรษะให้กับชุยตานด้วยความงุนงง
ชุยตานรีบปล่อยมือจากมือที่ถูกมัดไว้ของนางคู่นั้น แล้วเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่เป็นไรแล้ว นายน้อยของข้าเป็นคนดี คุณหนูไม่ต้องเป็นกังวล”
ตอนที่ 650 เป็นลู่เหมียนเหมียน
ซูหลีที่กำลังจ้องมองเฉิงเค่ออย่างละเอียดถี่ถ้วน หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้จากชุยตาน นางก็อดมองค้อนมิได้ หรือนางยังมีใบหน้าของคนชั่วหรือ
“คุณชายซู!” ในที่สุดลู่เหมียนเหมียนก็หวนสติกลับคืน ท่อนขาของนางยังคงอ่อนแรง ทว่านางก็ยังพยายามฝืนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าซูหลี จากนั้นคำนับซูหลีด้วยท่าทางอ่อนหวานและเอ่ยว่า “ขอบพระคุณคุณชายที่ช่วยเหลือไว้”
“แม่นางลู่เกรงใจเกินไปแล้ว” ซูหลีรีบลุกขึ้น ยื่นมือไปประคองนางเอาไว้
เมื่อนางยื่นมือสัมผัสกับลู่เหมียนเหมียน ก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายลู่เหมียนเหมียนยังสั่นงกๆ ซูหลีผงะเล็กน้อย ในดวงตามีประกายเคร่งขรึมพาดผ่าน ลู่เหมียนเหมียนที่เป็นเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่านางถูกเรื่องเมื่อครู่ทำให้ตกใจเป็นอย่างยิ่ง
นางเก็บสีหน้าเล็กน้อย ทันทีที่ปรายตามองก็พบว่าเสื้อผ้าของลู่เหมียนเหมียนถูกฉีกขาด เผยให้เห็นหัวไหล่ขาวเกลี้ยงเกลา ใบหน้าของนางแสดงความไม่สบายใจออกมา นางพยายามดึงเสื้อท่อนบนเพื่อคลุมผิวของตน แต่เสื้อตัวนั้นถูกฉีกขาดแล้วจึงปกปิดอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น
อารมณ์ที่แสดงบนใบหน้าของลู่เหมียนเหมียนในเวลานี้ มีทั้งความตื่นตระหนกทั้งหวาดกลัวและความอึดอัด ทั้งยังมีความโศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
ซูหลีเห็นดังนั้น อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ นางถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกมา จากนั้นคลุมลงบนร่างของลู่เหมียนเหมียนแล้วเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาว่า
“แม่นางลู่ใช้เสื้อตัวนี้คลุมเอาไว้ก่อนเถิด”
ลู่เหมียนเหมียนได้ยินดังนั้นจึงมองซูหลีอย่างห้ามไม่ได้ เป็นจังหวะที่ใบหน้าของซูหลีกระทบกับแสงดาวพอดี ในค่ำคืนที่อกสั่นขวัญหายเช่นนี้ กลับมีกลิ่นอายบางอย่างที่อธิบายไม่ถูกเพิ่มขึ้นไปโดยปริยาย ทำให้หัวใจของลู่เหมียนเหมียนรู้สึกหวั่นไหว
นางรู้สึกว่าหัวใจเต้นกระหน่ำ จนมีริ้วแดงระเรื่อปรากฏบนใบหน้า
ซูหลียืนอยู่ข้างกายนาง ทว่าเป็นเพราะแสงสีในยามราตรีนี้ค่อนข้างมืด จึงทำให้มองไม่เห็นสีหน้าของนาง
“นายน้อย คนเหล่านี้จะทำอย่างไรดี” ช่วยเหลือคนไว้เรียบร้อย ชุยตานมองคนที่บนพื้นเหล่านี้ จากนั้นจึงขมวดคิ้วและเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา
ซูหลีหวนคืนสติกลับมา ใบหน้ามีความเย็นชาพาดผ่าน เฉิงเค่อผู้นี้นับวันยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม เขากลับกล้ากระทำเรื่องนี้ออกมา ลู่เหมียนเหมียนมิใช่สตรีสามัญ บิดาของนางเป็นถึงขุนนางในราชสำนักเชียวนะ!
“มัดพวกเขาไว้ และนำพวกเขากลับจวนด้วย”
“หา!?” ชุยตานรู้สึกงุนงง เดิมเขาคิดว่านายน้อยจะส่งคนเหล่านี้ให้ผู้ว่าการซุ่นเทียนจัดการเสียอีก คิดไม่ถึงว่าทันทีที่ซูหลีเปิดปากพูดกลับเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา
เขาตะลึงงัน ทว่าก็เพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น หลังจากเขารู้สึกตัว กลับไม่เอ่ยอะไรออกมาเพียงผงกศีรษะตอบรับเท่านั้น
นายน้อยสั่งในทำอะไรเขาก็ทำตามที่สั่งละกัน นายน้อยคงจะมีคิดอะไรไว้ในใจแล้ว
“แม่นางลู่ ไม่เป็นไรแล้ว ข้าส่งเจ้ากลับจวนก่อนก็แล้วกัน” ซูหลีหันศีรษะกลับมาแล้วพูดปลอบโยนลู่เหมียนเหมียนสองสามประโยค สายตาของลู่เหมียนเหมียนหยุดอยู่ที่ใบหน้างามสะคราญของซูหลี จากนั้นจึงผงกศีรษะเล็กน้อย
จนถึงบัดนี้ในใจของลู่เหมียนเหมียนก็ยังรู้สึกหวาดกลัว นางไม่กล้าคิดต่อหากวันนี้ซูหลีไม่ได้เดินทางผ่านมาท่างนี้ นะ นางจะทำอย่างไรดี…
เมื่อคิดถึงตรงนี้สายตาของลู่เหมียนเหมียนก็หยุดที่ร่างคนที่นอนอยู่ที่ด้านหลังอย่างห้ามไม่ได้ นางไม่เคยคิดว่าบุรุษที่นางรักหมดหัวใจจะกระทำเช่นนี้กับนาง
เพื่อเขานางถึงกับยอมเป็นศัตรูกับบิดา ทำให้มารดาต้องเสียน้ำตาทุกวัน คิดไม่ถึงว่าจะมีจุดจบเช่นนี้
ในเวลานี้ลู่เหมียนเหมียนรู้สึกโศกเศร้าไปทั้งหัวใจ ในใจรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
ซูหลีเห็นดังนั้นจึงไม่ถามอะไรอีก เพียงสั่งให้ชุยตานไปลากรถม้ามาที่นี่ นางจะไปส่งลู่เหมียนเหมียนกลับจวนก่อน
ชุยตานได้ยินดังนั้นจึงไม่พูดอะไรต่อ เพียงฟังคำสั่งของซูหลี