ตอนที่ 245 คนที่สนิทยิ่งกว่าสามีอีก
คนอย่างอิ๋งโจวนี้ ก็ทำให้คนอื่นอยู่กับเขาได้อย่างไม่ระแวงจริงๆ ไม่รู้ว่าเพราะเขาเป็นหมอหรือไม่ เฉินยางอยู่ข้างๆ เขามักจะรู้สึกปลอดภัย รู้สึกปลอดภัยมากกว่าอยู่ข้างกายเฝิงเยี่ยไป๋เสียอีก อย่างไรเสียพวกเขาก็อยู่ด้วยกันมาสองเดือนแล้ว พอจู่ๆ เขาบอกจะไป ในใจเฉินยางก็รู้สึกว่างเปล่า แม้จะรู้ว่าไม่ใช่ไม่เจอกันอีก แต่ในใจก็รู้สึกเสียดายมากมาย
เพียงแต่คนเขามีเรื่องที่ต้องทำ สำหรับนางเขาไม่ได้เป็นญาติกันทำถึงเช่นนี้ก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว ตัวเองไม่มีเหตุผลที่จะขอให้เขาอยู่ต่ออีก เทียบกับนางแล้ว จี้หรู่ฉางและผู้ช่วยเด็กยิ่งต้องการอิ๋งโจวมากกว่า หากยังเอ่ยปากให้เขาอยู่ต่อก็จะเห็นแก่ตัวเกินไป นางนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ย้อนนึกถึงเมื่อครู่ที่เขาบอกจะบดยาเป็นผงแล้วแลกเป็นเงิน เขาช่วยตัวเองตั้งมากมายเช่นนี้ เรื่องเงินเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยนางก็ยังสามารถช่วยเขาได้อยู่ และก็ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่ระหว่างทางนี้เขาดูแลตัวเอง หากไม่ใช่เพื่อนาง เขาก็ไม่ถึงกับใช้เงินจนหมดถึงกับต้องขายยา ถึงจะกลับไปได้อย่างตอนนี้
“ในเมื่อท่านหมอจะไปแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะไม่รั้งท่านไว้ ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ยังต้องขอบคุณท่านที่ช่วยเหลือดูแล เรื่องเงินท่านก็ไม่ต้องเป็นห่วง ให้ข้าคิดหาวิธีให้” อิ๋งโจวเป็นคนซื่อตรง ก่อนหน้านี้ใช้เงินของนางซื้อม้าก็ยังจำจนถึงตอนนี้ว่าต้องคืนเงินให้นาง ให้เงินเขาตรงๆ คาดว่าเขาก็คงจะไม่เอา จึงพูดว่า “ก็ถือเสียว่าเป็นค่าตอบแทนที่ท่านช่วยดูแลข้าในช่วงนี้เถิด เงินนี้ให้สามีข้าเป็นคนให้ นี่เป็นสิ่งที่เขาควรจะให้ท่าน”
อิ๋งโจวกำลังจะปฏิเสธ เฉินยางก็ลุกขึ้นแล้ว และวางอาหารที่นำมาไว้บนโต๊ะ ใช้น้ำเสียงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้เลย พรุ่งนี้ข้าจะเอาเงินมาส่งให้ท่าน”
ตอนที่นางหันหลังจากไปนั้น ก็เริ่มสะอื้นขึ้นมา ไฉนถึงได้มีความรู้สึกเหมือนแยกกับญาติสนิทเช่นนี้ บอกไม่ถูกว่าความรู้สึกเสียใจนี้เป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่ไม่ถึงสองเดือน แต่กลับมีความรู้สึกที่แน่นแฟ้นช่นนี้
อิ๋งโจวมองนางจากไป เขาเปิดกล่องอาหาร ข้างในใส่ขนมฝีมือประณีตเอาไว้ ว่าแล้วก็ยังคงเป็นเด็กสาวอยู่ เขามองนางที่เดินไปด้วยท่าทางใจลอยนั้น ในใจรู้สึกเศร้าสลดอยู่บ้าง นางหายดีแล้ว เพียงแต่ช่วงเวลาที่รักษานั้นเฝิงเยี่ยไป๋ไม่อยู่ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์นั้นเขาไม่อยู่ ความรู้สึกของเฉินยางที่มีต่อเขาก็ขาดไปส่วนหนึ่ง ดังนั้นจนถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่สามารถพึ่งพิงเขาได้อย่างเต็มที่ กลับทำให้รู้สึกว่าอิ๋งโจวที่รักษานางใกล้ชิดยิ่งกว่าเฝิงเยี่ยไป๋เสียอีก
เพียงแต่เรื่องความสัมพันธ์นั้น ต่อให้ช่วงแรกไม่มี สามีภรรยาอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ไม่ต้องกลัวจะห่างเหิน อีกอย่าง พวกเขาต้องใช้ชีวิตด้วยกันไปตลอด ชีวิตนี้ยังอีกยาวไกล มีเพียงเวลาที่เขาทนความเหงาไม่ไหวจนรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่มีเรื่องที่เขาจะอยู่ห่างไกลกับนางอย่างแน่นอน
เมื่อก่อนนางไม่ได้มีความรู้สึกเศร้าสลดมากมายเช่นนี้ ความรู้สึกมาไวไปไว วันนี้เล่นกับคนนี้ดี ความรู้สึกก็มา ตอนจะจากก็รู้สึกเสียใจ รู้สึกว่านี่ก็คือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตนางแล้ว เพียงแต่กลางคืนกลับมาที่บ้าน ห่มผ้านอนไปคืนหนึ่ง เรื่องที่เมื่อวานยังเล่นด้วยกันอยู่ก็ลืมไปหมดสิ้น วันนี้เจอเพื่อนเล่นคนใหม่ ก็รู้สึกว่านางเป็นคนที่ไม่อาจแทนที่ได้ เป็นเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมา พูดตรงๆ ก็คือหัวใจเล็ก ใส่เรื่องมากมายไม่ได้ ของใหม่เข้ามาแล้ว ของเก่าก็ต้องเทออกเพื่อให้ที่ของใหม่ เพียงแต่นั้นเป็นเมื่อก่อน ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ในใจจู่ๆ ก็เหมือนมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมามากมาย ของเก่าเติมไม่เต็มก็ลืมไม่ได้ พอลืมไม่ได้เรื่องที่กังวลก็เพิ่มมากขึ้น ความกังวลเพิ่มมากขึ้นก็ไม่ได้มีความสุขเช่นนั้นแล้ว
——
ตอนที่ 246 กล่อมสามีให้ดีใจ
บนตัวเฉินยางไม่มีเงิน นางอาศัยอยู่กับเฝิงเยี่ยไป๋ กินใช้ไม่มีสิ่งใดที่นางต้องเป็นกังวล ในมือย่อมไม่มีเงิน อยากได้เงินก็ได้แต่ไปหาเฝิงเยี่ยไป๋ ตามหลักแล้วสามีภรรยากัน ไม่ว่าอะไรล้วนเป็นส่วนรวม นางอยากได้เงินแค่บอกเขาตรงๆ ก็ได้แล้ว แต่อย่างไรเสียเงินก็ไม่ได้ใช้กับตัวเอง สำหรับนางแล้วอิ๋งโจวไม่ใช่คนนอก แต่สำหรับเฝิงเยี่ยไป๋แล้วกลับห่างเหินนัก นางรู้สึกขอดื้อๆ เลยไม่ได้ หลังจากที่คิดอยู่พักหนึ่ง ก็นึกถึงตอนอยู่ที่เขาต้าเหลียงนั้น จี้หรู่ฉางสอนนางว่า ถ้าอยากจะขอให้คนอื่นทำอะไรให้ก็ต้องรู้จักยอมคน ต่อให้เป็นพวกที่จะฆ่าลา ก่อนจะฆ่าก็ยังต้องกล่อมให้ลาขึ้นเขียงเลย ต้องหาวิธีกล่อมคนให้ดีใจแล้วถึงจะขอได้
ก็เพียงแค่จะกล่อมเฝิงเยี่ยไป๋ให้ดีใจไม่ใช่หรือ คิดว่าคงไม่ได้ยากเช่นนั้น นางคิดไปตามความชอบของตัวเอง อยากจะเลี้ยงอาหารดีๆ ใก้เขาหนึ่งมื้อ แล้วพูดคำพูดดีๆ อีกเล็กน้อย ก็อาจจะสำเร็จแล้ว
นางทำอาหารไม่เป็น แต่จัดแจงยังทำได้อยู่ นางไปที่ห้องครัว มองหมูเห็ดเป็ดไก่ที่อยู่เต็มโต๊ะ ที่บินอยู่บนฟ้า ที่วิ่งอยู่บนพื้น ที่ว่ายอยู่ในน้ำ เมื่อก่อนอยากกินไม่ได้กิน ตอนนี้มีมากมายนับไม่ถ้วน ความยิ่งใหญ่ของท่านอ๋องนี้ไม่ใช่เล่นๆ จริงๆ มิน่าแต่ละคนถึงได้แย่งกันปีนให้สูงขึ้นแทบเป็นแทบตาย มีใครบ้างไม่อยากมีเงินทองที่ใช้ไม่หมดสิ้น อาหารอร่อยที่กินไม่หมดจนทำเอาอิจฉา
เพียงแต่นางไม่รู้ว่าเฝิงเยี่ยไป๋ชอบกินอะไร ใกล้จะถึงเวลาอาหารค่ำแล้ว เหล่าพ่อครัวต่างวุ่นวายกันนัก เฉินยางยังไม่ชินกับฐานะใหม่ของนางอย่างพระชายา เรียกใช้คนนางไม่ถนัด มีนางครัวออกไปเทน้ำเห็นนางยืนอยู่ตรงนั้น ก็โค้งคำนับแล้วเรียก “พระชายา” นางถึงได้ดึงสติกลับมา แล้วร้อง “อ๊ะ” ออกมาแล้วบอกว่าทำไมหรือ
นางครัววางอ่างน้ำลงแล้วถามนาง “ไฉนท่านถึงมาที่นี่แล้ว ที่นี่ทั้งมันทั้งสกปรก ท่านอยากกินสิ่งใดสั่งสาวใช้ให้สาวใช้มาบอกก็พอแล้ว ไม่ต้องถึงกับวิ่งมาด้วยตัวท่านเองเลย”
เฉินยางเหม่อเล็กน้อย อ้าปากด้วยความลังเลว่า “ท่านพี่ใกล้จะกลับมาแล้ว ข้าคิดจะเตรียมของกินให้เขา แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาชอบกินอะไร ของกินมากมายเช่นนี้ข้าก็ไม่รู้จะเลือกอย่างไร ดังนั้นจึง…”
“ข้าน้อยยังนึกว่าเป็นเรื่องใดเสียอีก เรื่องนี้ง่ายนัก” นางครัวชี้ไปบนโต๊ะ “ฝั่งนี้มีแกงหนึ่งอย่าง เนื้อปลาต้มเยื่อไผ่ โจ๊กหนึ่งอย่างเป็นโจ๊กถั่วแดง ยังมีเฟิ่งเว่ยอวี๋ชื่อ หงเหมยจูเซียง ซิ่วฉิวกานเป้ย กานเหลียนฝูไห่เซิน ซานเจินชื่อหลงหยา เสร็จแล้วยังมีซุยซั่งกานกั่วมี่เจี้ยนปาผิ่นหลงเฟิ่งเหมียวจินจั่นหอหลงผันจู้ อาหารที่ของเรานี้ล้วนทำตามอาหารในวัง หากท่านอ๋องจะกินละก็ รสชาติก็จะจืดเล็กน้อย ที่กินบ่อยๆ ก็มีเยี่ยนอัวซื่อจื้อ ซานเซียนเหยาจู้ หลานฮวาโต้วกานและไป่จื่อตงกวา บวกกับปิงถางไป่เหอหม่าถีเกิงอีกถ้วยหนึ่งก็ถือว่าครบแล้ว ท่านดูว่าท่านจะสั่งอะไรบ้าง”
เฉินยางฟังนางพูดตั้งมากมาย ที่จริงแล้วก็จำไม่ได้แม้แต่คำเดียว ต่อให้พูดซ้ำอีกครั้งนางก็จำไม่ได้ ชื่ออาหารเหล่านี้ทั้งพูดยากและจำยาก เทียบกับกุยช่ายผัดเนื้อ หมูเปรี้ยวหวานที่พวกเขากินเมื่อก่อนแล้วแทบจะเหมือนท้อเซียนที่ต้องกลายเป็นเซียนถึงจะได้กิน
อย่างไรเสียเพียงฟังชื่อก็อลังการแล้ว รสชาติก็คงจะไม่แย่ ก็ไม่เคยได้ยินว่าเฝิงเยี่ยไป๋เลือกกิน จึงพูดว่า “เช่นนั้นแล้วก็เอามาตามที่ปกติเขาชอบกินมาเถิด”
นางครัวตอบรับก็หันไปสั่งพ่อครัวแล้ว
เฉินยางเห็นกำลังยุ่งอยู่ ตัวเองยืนอยู่ก็ประหลาด กำลังเตรียมจะขยับออกไป หันหลังไปก็เห็นเหล้าแต่ละไหที่วางอยู่บนชั้น นางจุ๊ปาก นึกถึงเหล้าผลไม้ที่ดื่มเมื่อคืนอีกแล้ว