“ได้ครับ” ไกรภพรับคำอย่างใจเย็น
จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า“คุณตำรวจ ซีเธอไม่ได้กินแค่ข้าวกับผม ”
เมื่อไกรภพพูดจบเนียร์ก็หัวเสียขึ้นมา ตะคอกใส่เขา“ไกรภพ นี่แกหมายความว่ายังไง ? ก่อนซีจะไปหาแกเธอกินน้ำซุปที่ฉันทำ หรือฉันจะเป็นคนวางยาเธองั้นเหรอ?
“ฉันเป็นแม่แท้ๆของเธอ ฉันจะทำแบบนี้กับเธอทำไม?”เนียร์โกรธจัด
นี่ถ้าไกรภพเป็นผู้หญิง คงเป็นผู้หญิงที่ตอแหลที่สุดแน่ๆ
ก่อนหน้านั้นเขาคอยแต่จะยุแหย่ความสัมพันธ์ของเธอกับซูซี จนกระทั่งทั้งสองคนต้องทะเลาะกัน ตอนนี้ก็มาพูดเป็นนัยกับทางตำรวจ ว่าคนที่วางยาซูซีอาจเป็นฝีมือของเธอ เนียร์อยากจะฆ่าเขาให้ตายซะเดี๋ยวนี้
ตำรวจไม่ได้สนใจภาวะอารมณ์ของเนียร์ พูดอย่างเย็นชาว่า“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็รบกวนทุกคนไปกับพวกเราด้วย”
เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดจบก็หันหลังแล้วจากไป ต่อให้เนียร์จะโกรธยังไงก็ไม่มีทางเลือก จำต้องตามไปที่สถานีตำรวจด้วย
ทางฝั่งเทาเท่ก็ได้ทราบข่าวจากไวท์เช่นกัน ไวท์ขมวดคิ้วและพูดว่า“เจ้าไกรภพคนนี้ช่างเจ้าเล่ห์เหลือเกิน อยากจะโยนความผิดเรื่องที่วางยาซูซีไปให้กับเนียร์”
หว่างคิ้วที่ขมวดของเทาเท่เต็มไปด้วยความเย็นเยือก“หากฉันคิดไม่ผิด เขาต้องไปทำอะไรไว้ที่บ้านของเนียร์เป็นแน่ เมื่อตำรวจไปตรวจค้น ก็จะค้นเจอ‘หลักฐาน’ที่ว่านี้ เช่นยาที่เขาได้เก็บมันไว้ก่อนหน้านั้น
หลินจือที่ก้มหน้าปอกแอปเปิลให้เทาเท่อยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะตกใจและพูดขึ้นว่า“นี่ไกรภพเขาจะทำลายความสัมพันธ์แม่ลูกของเนียร์กับซูซีงั้นเหรอ มันจะโหดร้ายเกินไปแล้ว”
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดต่อว่า“ แต่ต่อให้ตำรวจจะตรวจค้นเจออะไร ซูซีเธอก็คงไม่เชื่อหรอกมั้ง ”
เนียร์เป็นแม่แท้ๆของซูซี ซูซีคงไม่เชื่อว่าแม่แท้ๆของเธอจะวางยาเธอได้ ความสัมพันธ์แม่ลูกของพวกเขาคงไม่เปราะบางแบบนี้
เทาเท่มองไปยังสีหน้าที่จริงจังของเธอและพูดว่า“ ไม่ ซูซีต้องเชื่ออยู่แล้ว ”
“ห๊า?เพราะอะไร?”หลินจือไม่เข้าใจ
คำถามนี้ของเธอไวท์เป็นคนตอบแทนเทาเท่“คุณลืมไปแล้วเหรอ ? ไกรภพปรากฏตัวขึ้นในตอนที่ซูซีตกอับที่สุด ตอนที่เขาปรากฏตัวขึ้นไม่เพียงเป็นฮีโร่หักข้อมือของซาโต้ จากนั้นก็ยังรักและดูแลซูซีทุกอย่าง ยืนหยัดเคียงข้างไม่ทิ้งไปไหน ตอนนี้ในใจของซูซี คนที่ดีกับเธอที่สุดก็คือไกรภพ ไม่ใช่แม่ของเธอ”
ไวท์ถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า“ ต้องยอมรับว่า ไกรภพคนนี้ช่างคิดการณ์ได้ลึกซึ้งจริงๆ ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ทิ้งขว้างตัวเองไปไหนในตอนที่ตกต่ำที่สุด ซูซีย่อมต้องเชื่อมั่นในตัวเขาอยู่แล้ว”
สีหน้าของหลินจือทั้งประหลาดใจและตกใจมาก กับแผนการนี้ของ ไกรภพ
บนโลกนี้มีคนเจ้าเล่ห์ที่คิดการณ์ได้แยบยลขนาดนี้เลยเชียวเหรอ?
ช่างน่ากลัวจริงๆ
เธอพึมพำ “ดังนั้น ตอนนี้ซูซีก็เหมือนถูกไกรภพครอบงำแล้วสิ?”
เทาเท่เอื้อมมือไปลูบที่ศีรษะของเธอเบาๆ ใบหน้ามีร่องรอยความปวดใจผาดผ่าน
เธอเป็นคนจิตใจดีและเรียบง่าย ความร้ายกาจของไกรภพเปิดโลกทัศน์ใหม่ของเธอ หากเป็นไปได้ เขาไม่อยากให้เธอต้องมารู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย
ไม่นานนัก เทาเท่ก็ได้ข่าวจากจอนห์ ว่าทางตำรวจพบหลักฐานที่บ้านของเนียร์ เนียร์กับซูซีถูกจับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกายโดยเจตนา แต่ไกรภพก็ทำทีประกันตัวเนียร์ออกมา
หลินจือมึนงง “นี่ไกรภพเขาคิดจะทำอะไรกัน?”
“หากเขาต้องการแก้แค้น ซูซีกับเนียร์ก็เข้าไปอยู่ในคุกแล้วไง มันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ ? แล้วจะประกันตัวเนียร์ออกมาเพื่ออะไร?”
เทาเท่เม้มปากและไม่ได้พูดอะไร
อันที่จริงในใจของเขาคาดเดาสิ่งที่น่ากลัวบางอย่างเอาไว้ แต่เขาไม่อยากจะพูดออกไปจนทำให้หลินจือต้องตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง
ดังนั้นก็จึงพูดแค่ว่า“ผมจะให้จอนห์เฝ้าจับตามองเขาเอาไว้ คุณอย่าคิดมากไปเลย ”
ตั้งแต่หลินจือมาถึงที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้ไปไหนอีก อยู่เป็นเพื่อนกับเทาเท่ตลอด
เดิมทีเธอตั้งใจจะกลับไปทำอาหารที่เทาเท่ชอบมาให้ชายหนุ่ม แต่เทาเท่ไม่ยอมให้เธอไป และให้โซเมนหาคนส่งอาหารมาให้แทน
ตอนนี้พวกเขาไม่มีใครรู้แผนการของไกรภพ ขนาดเขาอยู่กับหลินจือยังมีเรื่องขึ้นได้ แล้วเขาจะปล่อยให้หลินจือไปไหนมาไหนคนเดียวได้ยังไง
ในช่วงอาหารเย็น หลินจือกำลังป้อนซุปให้เทาเท่อยู่ พินอินกับวีนาก็เดินตามกันเข้ามาในห้อง
วีนาถือกล่องอาหารติดมือมาด้วย ราวกับเอามาให้เทาเท่ยังไงอย่างนั้น
เมื่อมาถึงพินอินก็เปิดประเด็นขึ้นมาทันที“ คนบางคนฉกฉวยโอกาสที่จะได้เอาอกเอาใจพี่ชายของฉัน คอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้พี่ชายฉันที่ข้างเตียงไม่ห่าง ไม่ละอายบ้างเลยหรือไง ? คิดจะทำแบบนี้แล้วจะหย่ากันทำไมตั้งแต่ทีแรก?”
ปากของพินอินยังคงเราะร้ายใช่ย่อย หลินจือไม่รู้จริงๆว่าเธอที่อายุน้อยๆแบบนี้ทำไมถึงได้ร้ายกาจนัก
แต่หลังจากที่พินอินต่อว่าเธอไป ยังไม่ทันที่หลินจือจะได้ตอบกลับ เทาเท่ก็เป็นฝ่ายลงมือก่อน
เขาคว้าแก้วบนโต๊ะข้างเตียงที่เอาไว้ดื่มน้ำมา ขว้างไปที่พินอินด้วยใบหน้าที่โกรธจัด แก้วน้ำนั้นเป็นแก้วที่ตกแล้วแตก ในนั้นยังมีน้ำที่หลินจือเทไว้ให้เขาจนเต็มรอให้มันหายร้อนอยู่
เสียง“เพล้ง”ดังขึ้น แก้วน้ำตกไปที่บริเวณเท้าของพินอิน แตกกระจายรวมถึงน้ำร้อนก็สาดกระเซ็น พินอินกรีดร้องและถอยหลังไปด้วยความตกใจ
“ไปให้พ้น!”เทาเท่ตวาดใส่พินอิน ที่ขมับก็มีเส้นเลือดเต้นกระตุก เห็นชัดว่าเขากำลังโกรธจัด
กว่าเทาเท่จะขอโอกาสไถ่โทษจากหลินจือในครั้งนี้ได้ ตัวเองก็เป็นกังวลกับความสัมพันธ์ที่ยากลำบากนี้ แต่แล้วพินอินก็กลับมาทำแบบนี้ เทาเท่ไม่โกรธสิแปลก
หากเป็นไปได้ เขาก็อยากจะตัดขาดกับน้องสาวคนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ
พินอินถูกเทาเท่ขว้างแก้วมาใส่ ก็ตกใจจนขวัญกระเจิง แต่ก็ยังกระทืบเท้าฟึดฟัดแล้วหันไปฟ้องวีนา“แม่!ดูพี่เขาสิ!แค่ผู้หญิงคนเดียวถึงขั้นไม่ไว้หน้าใครเลย!”
เมื่อวีนาเห็นว่าเทาเท่กำลังโกรธจัด ก็รีบพูดปรามพินอินไปว่า“พูดให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ ”
วีนาพูดจบก็ถือกล่องข้าวเดินเข้ามา เป็นฝ่ายพูดก่อนว่า“แม่กลัวว่าดึกๆแกจะไม่มีอะไรกิน เลยทำอะไรมาให้”
“ขอบคุณครับ แต่ผมกินแล้ว”เทาเท่ไม่รับน้ำใจนี้
เขาไม่รู้จริงๆว่าในใจของคนเป็นแม่อย่างวีนาจะยังมีลูกชายคนนี้อยู่ เอาอาหารมาให้ในเวลานี้ เขาคงหิวตายไปแล้ว
วีนารู้สึกทำตัวไม่ถูก เธอเหลือบมองไปยังหลินจือ หวังให้หลินจือรับกล่องข้าวนี้แทนเทาเท่ ให้คนเป็นแม่อย่างเธอไม่ต้องมาอึดอัดแบบนี้
แต่กลับเห็นหลินจือนั่งนิ่งอยู่ข้างๆ ราวกับไม่เห็นเธอกำลังขอความช่วยเหลือยังไงอย่างนั้น และไม่พูดอะไรสักคำ
ในใจวีนากัดฟันกร่อนอย่างเงียบๆ ไม่พอใจกับการนิ่งดูดายของหลินจือ
แต่เมื่อตรึกตรอง เธอจะเอาหน้าที่ไหนไปร้องขอให้หลินจือมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้กัน ?
ตอนนั้นที่หลินจือยังเป็นลูกสะใภ้ของเธอ เธอเคยช่วยหลินจือมาก่อนที่ไหนกัน ?
เธอไม่เพียงไม่ช่วย ยังจงใจหาเรื่องให้หลินจือต้องอับอายอีก ทำให้หลินจือตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
หลินจือย่อมสัมผัสได้ถึงความอึดอัดนี้ของวีนา เธอจงใจเมินเฉย เธอเคยพูดเอาไว้ ว่าจะไม่ญาติดีกับพวกเขา และจะไม่ไปมาหาสู่กับพวกเขาอีก ดังนั้นทำไมต้องช่วยเธอด้วย