บทที่ 271 ผู้บังคับการทั้งปวงถังเหวินหลง

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

ปั้งๆ!

คนข้างในไม่ออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนข้างนอกจะเข้าไม่ได้นะ คนรับใช้ที่เดิมรับผิดชอบส่งข่าวเป็นคนแรกที่ดึงดูดสายตาของทุกคน

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง และคนทั้งคนก็ตกตะลึงอย่างมาก

“ผู้ ผู้นำ มี มีนายพลมา!”

“นายพลอะไร ไม่เห็นหรือว่ากำลังยุ่งอยู่? คุณ…”

เฉินชังไห่ขมวดคิ้วทันที แอบด่าคนใช้คนนี้ในใจว่าไม่รู้จักสังเกตเลย ไม่เห็นหรือว่าสถานการณ์ที่นี่ไม่ปกติ?

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันพูดจบ เฉินชังไห่ก็เหมือนจะคิดได้อะไรบางอย่าง ลำคอของเขาเหมือนมีอะไรติด และไม่สามารถพูดต่อไปได้อีก

แตะๆ!

ราวกับว่าเพื่อต้องการยืนยันสิ่งที่เขาคิด ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าที่เรียบร้อยก็ดังขึ้นข้างหลังคนใช้

ไม่นาน กลุ่มทหารในชุดเครื่องแบบสีเขียวก็เข้าสู่สายตาของทุกคน

ผู้นำเป็นชายชราใบหน้าดุ เดินไปช้าๆที่ห้องจัดเลี้ยง

ที่น่าแปลกคือ ชายร่างกำยำที่อยู่หลังชายชราคนหนึ่ง คือคุณชายใหญ่ของตระกูลฉินและเป็นผู้โดดเด่นในเขตทหารเจียงหนันที่ไม่มาร่วมงาน ฉินชิงหู่!

และที่ด้านหลังฝั่งขวาของชายชรา คือหัวหน้าของหน่วยรบพิเศษชางหลง เฉิงหลง!

แม้แต่ผู้นำสองคนของเขตทหารเจียงหนัน ยังได้แค่ยืนอยู่ข้างหลังชายชราได้เท่านั้น และทุกคนก็รีบหันความสนใจไปที่ไหล่ของชายชรา

กิ่งมะกอก ดาวห้าแฉก สองดวง!

กรุด!

หลังจากเห็นยศทหารอยู่บนบ่าของชายชรา แขกที่มาร่วมงานก็ตกตะลึงและอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว

ใครก็ตามที่มีความรู้ทั่วไปเล็กน้อย ก็รู้ว่าดาวสองดวงนี้หมายถึงอะไร!

พลโท!

แม้แต่ฉินซิงหู่ที่โด่งดังในเขตทหารเจียงหนัน ก็ยังเป็นเพียงพลตรีเท่านั้น

เมื่อมองไปที่ทั้งเมืองเจียงหวย และแม้แต่จังหวัดโดยรอบ คนที่สามารถแขวนดาวสองดวงไว้บนไหล่ได้นั้นก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้น

อันที่จริง ผู้คนจำนวนมากในนี้รู้ว่าชายชราคนนี้คือใคร

เป็นบอสใหญ่ที่ดูแลเจียงหนัน หวยตงและกองกำลังจังหวัดอื่นๆ ผู้บังคับการทั้งปวงถังเหวินหลงคนใหม่!

หลังจากที่เห็นใบหน้าของถังเหวินหลงอย่างชัดเจน เย่หย่งโซ่ที่เมื่อกี้ยังเต็มไปด้วยความโกรธก็ฉายแววประหลาดใจในดวงตาของเขา เพราะการปรากฏตัวของถังเหวินหลงนั้นเหนือความคาดหมายของเขาเกินไป

“ท่านถัง คุณมาที่นี่ทำไม?”

ถึงจะพูดแบบนี้ แต่เย่หย่งโซ่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก ขจัดความเย่อหยิ่งออกไปเล็กน้อยแล้วทักทายถังเหวินหลง

ในความคิดของเขา ถังเหวินหลงไม่ใช่คนที่จะยอมลดตัวของเขามาร่วมงานเลี้ยงสำหรับชนชั้นล่างเช่นนี้ เป็นไปได้เพียงทางเดียวคือ เขารู้ว่าตนเองมาที่เจียงหนันเลยมาหาตนเอง

อันที่จริง ไม่ใช่แค่เย่หย่งโซ่เท่านั้นที่คิดแบบนี้ แต่ยังรวมถึงความคิดของแขกส่วนใหญ่ที่มาร่วมงานด้วย

ตระกูลเย่เป็นยักษ์ใหญ่ และถังเหวินหลงก็เป็นบอสใหญ่ที่น่าเกรงขาม พวกเขาไม่เชื่อว่าบอสใหญ่ดังกล่าวจะยอมลดตัวเพื่อเข้าร่วมในวันเกิดของเฉินชังไห่

“แหม นี่ไม่ใช่คุณชายสามของตระกูลเย่ใช่หรือไม่? มาที่เจียงหนันตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?”

วินาทีถัดมา ถังเหวินหลงก็ตอบด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าเขาเพิ่งเห็นเย่หย่งโซ่

ปฏิกิริยาของเขาทำลายการคาดเดาของทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย การแสดงออกของแต่ละคนเริ่มแปลก และบางคนก็หันสายตาไปที่เย่หย่งโซ่

หรือว่า ถังเหวินหลงจะมาร่วมงานวันเกิดของเฉินชังไห่จริงๆ?

หรือว่า เขามาหาเย่เทียนด้วย?

นี่เป็นการเดาที่ไร้เหตุผลอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ตัดสินจากความน่าทึ่งที่เย่เทียนนำมาให้พวกเขาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

อันที่จริง ไม่ต้องพูดถึงพวกเขา แม้แต่เย่เทียนก็รู้สึกแปลก ในความทรงจำของเขา เขาและถังเหวินหลงไม่เคยพบเจอกัน!

เย่หย่งโซ่ขมวดคิ้วอย่างหนัก “ท่านถังคุณมาที่นี่ไม่ใช่มาหาผมหรือ?”

“คุณชายสามพูดตลกละ ผมเพิ่งรู้ว่าคุณมาที่เจียงหนัน”

ถังเหวินหลงส่ายหัวเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้ม”คราวนี้ที่ผมมาที่นี่ ก็เพื่อตามหาใครสักคนมาพูดคุยด้วย”

เขาย้ายสายตาออกจากตัวเย่หย่งโซ่ดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาค่อยๆกวาดมองฝูงชนและถามด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ทราบว่าใครชื่อเย่เทียน?”

บูม!

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา แขกที่มาร่วมงานก็โกลาหล และพวกเขาอดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ด้วยความประหลาดใจ

“มันจริงเหรอ ท่านถังมาหาเย่เทียน?”

“เย่เทียนได้ทำการใหญ่อะไร ขนาดท่านถังยังมาหาเขาด้วยตัวเอง?”

“เกรงว่าคราวนี้ตระกูลเฉินจะรุ่งแล้วจริงๆ!”

ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น แต่ยังมีสมาชิกหลายคนในตระกูลเฉินก็ตกใจมากเช่นกัน จ้องไปที่เย่เทียน ไม่เข้าใจว่าเย่เทียนไปรู้จักกับถังเหวินหลงได้อย่างไร

ในทางตรงกันข้าม คุณท่านฉินและจี้นั้นดูนิ่งกว่ามาก แต่ก็ยังมีความตกใจในสายตาของพวกเขาอยู่บ้าง

ไม่ว่ายังไง อย่างน้อยจี้เจิ้งโก๋ก็เป็นนายทหารที่เกษียณแล้ว ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขายังคงมีสายสัมพันธ์ในกองทัพ

ตระกูลฉินยิ่งไม่ต้องพูดถึง คุณชายใหญ่ของตระกูลฉินอยู่ในกองทัพ และข่าวของพวกเขาในกองทัพนั้นเหนือกว่าคนอื่นๆมาก

พวกเขารู้มานานแล้วว่า วันนี้ถังเหวินหลงจะมาที่เจียงหนันเพื่อตรวจสอบสถานการณ์เขตทหารเจียงหนัน

นี่เป็นเหตุผลที่ฉินซิงหู่ไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงกับคนในตระกูลฉิน ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นผู้โดดเด่นของเขตทหารเจียงหนัน ดังนั้นจึงต้องอยู่ในกองทัพเพื่อต้อนรับถังเหวินหลง

แต่สิ่งที่ท่านฉินและจี้คาดไม่ถึงก็คือ ถังเหวินหลงจะนำกองกำลังมาที่นี่ เมื่อดูจากเสื้อผ้าแล้ว เกรงว่าแค่ตรวจสอบไปเพียงครึ่งทางก็มาที่นี่แล้ว

ไม่อย่างนั้น กลุ่มคนเหล่านี้ที่เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คน ไม่มีทางสวมชุดนี้มาให้เป็นที่สนใจหรอก

อันที่จริง การเดาของฉินเจิ้งและจี้เจิ้งโก๋นั้นไม่ผิด ถังเหวินหลงเป็นคนใจร้อน ตอนที่ตรวจสอบไปได้ครึ่งทาง เขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับเย่เทียนจากเฉิงหลง และเขาก็พากลุ่มคนเหล่านี้มาที่นี่ทันที

“ท่านถัง ผมคือเย่เทียน”

ไม่ว่าทุกคนจะคิดอย่างไร กับการเรียกของถังเหวินหลงโดยตรง เย่เทียนก็รู้ว่าตนเองไม่ออกไปไม่ได้

ท่าทีของเขาดูเรียบสงบ ราวกับว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาไม่ใช่คนใหญ่คนโตที่มีดาวสองดวงอยู่บนไหล่ของเขา แต่เป็นเหมือนแค่เพื่อนธรรมดา

“คุณคือเย่เทียนหรือ? ไม่เลว! ดูแล้วเป็นคนมีความสามารถและไม่ธรรมดาจริงด้วย!”

หลังจากที่ถังเหวินหลงตกตะลึงในตอนแรก เขาแสดงความชื่นชมต่อเขาออกมาโดยไม่เก็บเอาไว้

แม้ว่าเขาจะเห็นเย่เทียนเป็นครั้งแรก ความนิ่งที่เย่เทียนแสดงให้เห็นนั้น ไม่ใช่คนรุ่นหลังทั่วไปจะเทียบได้

เย่หย่งโซ่ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเขามืดลงทันที และเขาถามด้วยน้ำเสียงตั้งคำถาม“ท่านถัง คุณแน่ใจหรือว่าคุณมาที่นี่เพื่อตามหาเย่เทียน?”

เขาต่างหากที่เป็นลูกชายที่น่าภาคภูมิใจของตระกูลเย่!เย่เทียนเป็นเพียงลูกชายที่ถูกทอดทิ้งของตระกูลเย่เทียน ทำไมท่านถัง จึงมาหาเขาแต่ไม่ใช่ตนเอง? !

ถังเหวินหลงผู้ที่ถึงจะแก่แต่ก็มีไหวพริบที่ไม่ธรรมดา สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในท่าทีของเย่หย่งโซ่ทันที เขาขมวดคิ้วและเหลือบมอง และพูดจางๆว่า “คุณชายสาม นี่คุณคิดว่าผมแก่จนแยกแยะไม่ออกหรือ?”

“ท่านถังคุณอย่าเข้าใจฉผิด หย่งโซ่ไม่กล้า”

เย่หย่งโซ่ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็วและก้มศีรษะลงเล็กน้อย

แม้ว่าเขาจะเป็นลูกหลานของตระกูลเย่ แต่เขาก็ยังไม่ได้รับอำนาจทั้งหมด ผู้บังคับการทั้งปวงอย่างถังเหวินหลงที่สามารถควบคุมชะตากรรมของประเทศนั้น ยังไม่ใช่คนที่เขาสามารถยั่วยุได้!