ตอนที่ 1598 แขกจากวิหารมารโลหิต (1)
ถ้าเป็นคนอื่นก็คงปล่อยทิ้งไปแล้ว แต่นี่คือสวี่มู่ที่เป็นคนของวิหารมารโลหิต ในสำนักธาราเมฆเขาก็ถือว่าเป็นคนที่โดดเด่นเช่นกัน ไม่อาจเทียบกับศิษย์ทั่วไปได้
และ……
“แฮ่ม……ศิษย์พี่เป็นคนทำร้ายสวี่มู่จนบาดเจ็บสาหัส” เทียนเจ๋อบอกตัวคนร้ายในคดีนี้ออกมา
ชายชราเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“เสี่ยวหย่า? เจ้านั่นไปหาเรื่องอะไรนาง ทำให้นางลงมือได้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ” ชายชราพูดด้วยสีหน้าสะเทือนใจ
เทียนเจ๋ออึ้ง
นี่มันใช่เวลาถอดถอนใจที่ “ในที่สุด” ศิษย์พี่ก็ลงมือจนได้ไหมล่ะเนี่ย? เวลานี้มันต้องถามว่าทำไมศิษย์พี่ถึงทุบตีคนจนอยู่ในสภาพนั้นต่างหาก
หลังจากสวี่มู่ได้รับบาดเจ็บ เทียนเจ๋อเองก็ไปเยี่ยมเขามาแล้ว เขาเห็นกับตาตัวเองว่าสวี่มู่ถูกซูหย่าอัดจนเละขนาดไหน ใบหน้าหล่อเหลานั้นบวมเป่งจนไม่ต่างจากหัวหมู ผ่านมากว่าครึ่งเดือนแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายบวม
จินตนาการออกเลยว่าซูหย่าลงมือหนักขนาดไหน
แค่ไม่ได้เอาชีวิตของสวี่มู่เท่านั้น
“เป็นเพราะจวินอู๋” เทียนเจ๋อพูดอย่างจนปัญญา
“จวินอู๋? เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเจ้าหนูนั่น?” ชายชรารู้สึกสนใจขึ้นมา
เทียนเจ๋อเล่าเรื่องที่สวี่มู่ไปที่หอจันทร์แรมเพื่อด่าจวินอู๋ พยายามจะให้จวินอู๋สู้กลับ แต่ถูกซูหย่าตบเอา เล่าทั้งสาเหตุและผลกระทบทั้งหมดที่นำไปสู่เหตุการณ์นี้
ชายชราตัวเล็กฟังอย่างออกรส ใบหน้ามีรอยยิ้มกว้าง
“วิหารมารโลหิตกับจวินอู๋? น่าสนใจ ข้าเห็นเจ้าหนูนั่นเงียบๆไม่พูดไม่จา แต่กลับทำให้วิหารมารโลหิตจ้องเล่นงานเขาได้ ไม่ใช่เล่นเลยจริงๆ เรื่องนี้เสี่ยวหย่าไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าไม่ปกป้องศิษย์ตัวเอง แล้วใครจะปกป้อง? ข้าเห็นว่าหลายปีมานี้เสี่ยวหย่าควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ไม่น้อย เมื่อก่อนตอนที่คนนั้นโดนรังแก นางก็พังประตูบุกเข้าไปสังหารอีกฝ่ายจนหมดเลยไม่ใช่หรือ? ดูเหมือนว่าการเก็บตัวมาหลายปีจะทำให้นางใจเย็นลงเยอะ น่าดีใจจริงๆ” ชายชราลูบเคราพลางหัวเราะด้วยความดีใจ
ถ้าคนอื่นมาได้ยินคำพูดนี้เข้า เขาต้องกระอักเลือดแน่ ตบคนจนเส้นลมปราณพลังวิญญาณเสียหายอย่างหนักนี่เรียกว่าควบคุมอารมณ์ได้จริงๆหรือ?
ดูเหมือนว่าในสายตาของชายชราตัวเล็กคนนี้ การที่ซูหย่าฆ่าอีกฝ่ายจนหมดบ้านนั้นเป็นแค่เรื่องธรรมดาที่ควรจะเป็นเท่านั้น
เทียนเจ๋อชินกับความคิดนอกรีตของอาจารย์และศิษย์พี่ของตัวเองแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของชายชราที่ขัดต่อแนวคิดคนปกติ เขาจึงไม่ได้คัดค้านอะไร
แต่……
อาจารย์ ตอนที่ท่านชมศิษย์พี่ว่าทำดีมีเหตุผล ท่านได้มองมาที่ศิษย์คนนี้ที่ถูกพวกท่านรังแกเหมือนสุนัขบ้างไหม!!
ไหนว่าต้องปกป้องศิษย์ไง!
“วิหารมารโลหิตบอกว่าได้ส่งคนมาที่นี่แล้ว เรื่องนี้ศิษย์พี่เป็นคนทำ เกรงว่าจะแก้ไขได้ไม่ง่ายนัก” เทียนเจ๋อพยายามสงบจิตใจอย่างเต็มที่
อาจารย์กับศิษย์พี่บ้าไปแล้ว เขาเป็นคนปกติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ เขาต้องตั้งสติเอาไว้ให้มั่น!
ชายชราลูบเคราแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่สนใจไยดีว่า “ถึงเสี่ยวหย่าจะเป็นคนทำ แต่กฎของสำนักธาราเมฆข้าก็ต้องรักษาไว้ จะให้คนนอกสำนักธาราเมฆเข้ามาในสำนักได้ยังไง?”
ศิษย์ของเขาแค่ปกป้องศิษย์ของตัวเอง เขาที่เป็นอาจารย์ปู่ก็ต้องช่วยสนับสนุนพวกเขาอยู่แล้ว!
เทียนเจ๋อกล่าวว่า “แต่คนที่วิหารมารโลหิตส่งมาเป็นคนที่ออกจากสำนักธาราเมฆของเรานะขอรับ”
“เหรอ?” ชายชราเลิกคิ้ว เขาคิดว่าวิหารมารโลหิตจะส่งพวกตาแก่หัวดื้อมาซะอีก
“ใคร?”
“กู่อิ่ง” เทียนเจ๋อพูด
พอชายชราได้ยินคำสองคำนั้น เขาก็มีสีหน้าประหลาดใจทันที
“ทำไมเป็นเขา?”
ปกติเขาไม่ได้สนใจศิษย์ของสำนักธาราเมฆนักหรอก แต่กู่อิ่งคนนี้ เขาจำได้อย่างแม่นยำ