ตอนที่ 315 ฉวยโอกาส

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 315

ฉวยโอกาส

“ท่านพ่อ”ทันทีที่ไป๋จูเหวินเข้ามาในวังหลวง ร่างของไป๋หลินก็พุ่งเข้ามากอดมันเอาไว้แน่นเป็นคนแรกเลยทีเดียว เรียกได้ว่าพอลุงอู๋หมิงของนางบอกว่าพ่อของนางกำลังจะกลับมารับนางก็เฝ้ารอวันนี้มาตลอดเลย

“เป็นเด็กดีหรือเปล่า”ไป๋จูเหวินถามพลางกอดลูกสาวตอบอย่างอบอุ่น

“ดีเจ้าค่ะ”ไป๋หลินยิ้มกว้างพลางตอบออกมาอย่างร่าเริง ทำเอาทั้งไป๋จูเหวินทั้งเหม่ยหลินต่างยิ้มรับอย่างมีความสุข คราวก่อยที่ไม่ได้พานางไปเพราะห่วงเรื่องความปรอดภัย ไม่นึกว่าการยึดอาณาจักรโฮจะง่ายดายถึงขนาดนี้ ที่เหลือก็เป็นการฟื้นฟูอาณาจักร ไม่น่ามีอันตรายอะไรแล้วจะพาไป๋หลินไปด้วยก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

“เรื่องคราวนี้ต้องขอบใจไป๋หลินเลยนะ”หยุนฟางว่าพลางเข้าไปหาเหม่ยหลินอย่างดีอกดีใจ นางกระซิบเรื่องที่ไป๋หลินทำให้เหม่ยหลินฟังทำเอาทั้งสองต่างหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดี

“ท่านพี่”ขณะไป๋จูเหวินกำลังเดินเข้าไปในตัววัง อยู่ๆร่างของหญิงสาวคนหนึ่งก็เดินออกมาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนที่เหมือนกับเหม่ยหลินไม่มีผิด

“เหม่ยฮวา เจ้าออกมาเดินแบบนี้จะดีเหรอ”เหม่ยหลินถามพลางเดินเข้าไปหาเหม่ยฮวาที่กำลังอุ้มท้องอยู่

“อะไรกัน ข้ายังไม่ได้ท้องแก่ขนาดนั้นสักหน่อย ท่านเองก็เป็นห่วงเกินไปเหมือนพี่เทียนเหวินเลย”เหม่ยฮวาว่าพลางถอนหายใจออกมา ท้องของนางตอนนี้โตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแต่ยังสามารถเดินเหินได้สบายไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย

“ท่านแม่ๆ พอท่านน้าคลอดข้าก็ได้จะได้น้องชายใช่ไหม”ไป๋หลินถามพลางมองไปทางท้องของเหม่ยฮวา

“อาจจะเป็นน้องสาวก็ได้ไม่ใช่เหรอ”เหม่ยหลินถามพลางมองบุตรสาวด้วยท่าทีเอ็นดู

“ไม่ใช่ ก็เด็กในท้องของท่านน้าเป็นผู้ชายนี่นา”ไป๋หลินตอบออกไปตามตรงเพราะนางเห็นอยู่ชัดๆว่าเด็กในท้องของเหม่ยฮวาเป็นเด็กผู้ชาย

“ใช่ เป็นลูกชาย”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางช่วยไป๋หลินยืนยันอีกที ทำเอาเหม่ยฮวานึกอึ้งไปพักใหญ่ แต่พอทราบว่าตนเองกำลังจะได้ลูกชายนางก็รู้สึกดีใจมากทำให้นางรีบขอตัวไปหาอู๋เทียนเหวินทันที

“ท่าทางจะเชิญคนเยอะน่าดูเลยนะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเดินไปที่ท้องพระโรงอย่างเชื่องช้า ภายในวังหลวงของอาณาจักรอู๋ยามนี้เต็มไปด้วยแขกร่วมงานมากมาย ทั้งคนสำคัญของอาณาจักร เหล่ายอดฝีมือ รวมทั้งคนของอาณาจักรต่างๆก็เช่นกัน

“น่ายินดีจริงๆที่องค์จักรพรรดิไป๋จูเหวินให้เกียรติมาร่วมงานเช่นนี้”อยู่ๆอู๋หมิงก็เดินฝ่าผู้คนเข้ามาหาไป๋จูเหวินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“เจ้าก็กัดชาวบ้านเป็นเหมือนกันหรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางถอนหายใจออกมา ความจริงตัวไป๋จูเหวินไม่ได้คิดจะเป็นจักรพรรดิแต่อย่างไร เพียงแต่เหล่าอสูรไม่ยอมเชื่อฟังใครเหมือนเช่นไป๋จูเหวิน การจะฟื้นฟูอาณาจักรไป๋ให้เจริญรุ่งเรืองไม่แพ้อาณาจักรอู๋ต่อนนี้จำเป็นต้องพึ่งพาพลังของเหล่าอสูร ทำให้ไป๋จูเหวินต้องนั่งลงบนบัลลังก์อย่างช่วยไม่ได้

“ทีนี้เจ้าก็อยู่ตำแหน่งเดียวกับข้าแล้ว”อู๋หมิงหัวเราะพลางพาไป๋จูเหวินไปร่วมทักทายแขกเช่นร่วมงาน แน่นอนว่าองค์จักรพรรดิอาณาจักรชินเองก็มาด้วยเช่นกัน

“ชินอ….ไม่สิจักรพรรดิไป๋ ขอแสดงความยินดีด้วย”องค์จักรพรรดิอาณาจักรชินพูดพลางเดินเข้ามาหาไป๋จูเหวินในทันที แต่เดิมไป๋จูเหวินเป็นเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรชินและเป็นประชาชนของอาณาจักรอู๋ การที่มันได้เป็นจักรพรรดิของอาณาจักรข้างเคียงเช่นนี้นับว่ามีผลประโยชน์ไม่น้อย แม้จะน่าเสียดายที่อาณาจักรไป๋ตอนนี้ไม่ค่อยมีสินค้าน่าสนใจก็ตาม

“หลังจากนี้เจ้าคงเหนื่อยหน่อย อาณาจักรไป๋ตอนนี้มีผลกระทบจากอาณาจักรโฮเก่ามามาก”องค์จักรพรรดิว่าพลางจับบ่าของไป๋จูเหวินเบาๆ มันเองก็เป็นจักรพรรดิ เข้าใจความยากลำบากในการฟื้นฟูอาณาจักรดี หากอาณาจักรของมันเป็นเหมือนอาณาจักรโฮมาก่อนละก็ มันคงไม่มีทางฟื้นฟูได้ในรุ่นอายุของมันแน่ๆ

“ขอรับ ข้าเองก็จะพยายามอย่างเต็มที่”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มรับ ตัวมันทนเห็นประชาชนของอาณาจักรโฮต้องลำบากยากเข็นไม่ได้ หากไม่ทำอะไรอาจจะเกิดเฟิงมี่คนที่ 2 อีกก็ได้ แม้ไม่ใช่ในรูปแบบมารแต่ความแค้นของคนมันส่งผลเลวร้ายเสมอ

“น่าเกลียด”อยู่ๆเสียงของคนๆหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากกลุ่มคนที่เข้ามาร่วมงาน

“นั่นนะเหรอ จักรพรรดิอาณาจักรไป๋”ชายอีกคนว่าพลางมองมาทางไป๋จูเหวินด้วยท่าทีดูถูก แม้จะเป็นจักรพรรดิแล้วแต่ไป๋จูเหวินก็ยังใส่เสื้อผ้าเรียบๆเช่นเดิม ในสายตาของชนชั้นสูงแล้วพวกมันกลับดูถูกไป๋จูเหวินจากเรื่องนี้

“ได้ข่าวว่ามันฉวยโอกาสตอยอาณาจักรโฮกำลังอ่อนแอเข้าไปชิงอาณาจักรเสียดื้อๆไม่ใช่หรือไง”ชายอีกคนพูดด้วยท่าทีดูถูก ท่าทางพวกมันจะเป็นคนของอาณาจักรหลิวที่ไม่ได้มาร่วมงานของอาณาจักรโฮเมื่อคราวก่อน

“อาณาจักรโฮจนจะตาย ยึดมาได้ก็คงไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ ดูองค์จักรพรรดิสิซอมซ่อเสียเหลือเกิน”ชายอีกคนที่แต่งกายอย่างหรูหราก็พลันพูดออกมาด้วยท่าทีเหยียดหยาม จักรพรรดิเป็นหน้าตาของอาณาจักร ตัวจักรพรรดิยังไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่จะให้คนอื่นมองว่าอาณาจักรร่ำรวยได้เช่นไร

“อาณาจักรไป๋อะไรนั่นคงไม่ไหวแล้วล่ะ ปิดเส้นทางการค้าเอาไว้ดีหรือเปล่า”คนของอาณาจักรหลิวพลันปรึกษากันอย่างจริงจังเสียอย่างนั้น จะว่าพวกมันก็ไม่ได้เพราะชื่อเสียงอาณาจักรโฮก่อนหน้านี้นั้นเลวร้ายมาก แม้จะยังทำการค้ากับเมืองหลวงได้ แต่พอไป๋จูเหวินยึดอำนาจก็แทบไม่มีการสั่งซื้อสินค้ามาจากเมืองหลวงเลย ทำให้เหล่าพ่อค้าใหญ่ต่างมองว่าอาณาจักรใหม่อย่างอาณาจักรไป๋กำลังซบเซาจากพิษของขุนนางเก่าแน่ๆ

“ท่านพี่”เหม่ยหลินที่อยู่ข้างๆเองก็ได้ยินเช่นกัน โชคดีที่ไป๋หลินยังไม่ทราบเรื่องว่าบิดาของตนเข้ายึดครองอาณาจักรโฮแล้วและสร้างอาณาจักรไป๋ขึ้นมาใหม่ ทำให้นางไม่เข้าใจว่าคนพวกนั้นพูดถึงเรื่องอะไรกัน

“ไม่เป็นไร อีกไม่นานพวกนั้นก็คงได้รู้เอง”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมา ดูเหมือนอาณาจักรหลิวจะปิดเส้นทางการค้ากับอาณาจักรไป๋ เช่นนั้นไป๋จูเหวินก็ไม่จำเป็นต้องสนใจเพราะตอนนี้อาณาจักรอู๋และชินต่างยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดเส้นทางการค้าให้อาณาจักรไป๋ แม้จะยังไม่มีสินค้าอะไรไปนำเสนอ แต่หลังจากนี้ไป๋จูเหวินรับรองได้เลยว่าเส้นทางการค้าของอาณาจักรไป๋กับอาณาจักรชินและอู๋นั้นจะไม่เงียบเหงาอย่างแน่นอน

“อาณาจักรเจ้าขาดเสบียงอาหาร จะรับซื้อของเราไว้หน่อยไหม”อู๋หมิงเสนอพลางยิ้มออกมา สภาพการเงินของไป๋จูเหวินมีหรือมันจะไม่รู้ แต่เดิมมันก็มีสมบัติของพวกท่านน้าอยู่แล้ว ไหนจะเงินที่มันได้จากการเป็นหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรอีก ภายในกลุ่มนักล่าอสูรมีสินค้าจากเขตอสูรมากมายวางขายรวมทั้งสมาคมแพทย์เดิมก็ถูกรวมเข้ากับกลุ่มนักล่าอสูรมาแต่ไหนแต่ไร ยาที่ขายในอาณาจักรอู๋แทบทั้งหมดต่างมีต้นทางมาจากไป๋จูเหวินทั้งสิ้น เรียกได้ว่าไป๋จูเหวินเป็นจักรพรรดิที่กระเป๋าหนักมากคนหนึ่งเลยก็ไม่ผิด

“เรื่องนั้นต้องรับอยู่แล้ว”ไป๋จูเหวินยิ้มรับ พลางเริ่มพูดคุยเรื่องการค้าระหว่างอาณาจักรกับอาณาจักรอู๋และชิน ทำเอาเหล่าองค์จักรพรรดิอาณาจักรอื่นๆต่างประหลาดใจไม่น้อยที่องค์จักรพรรดิอาณาจักรอู๋ผู้ยิ่งใหญ่และจักรพรรดิอาณาจักรชินทำไมถึงได้ยินดีรับข้อเสนอของจักรพรรดิใหม่อย่างจักรพรรดิอาณาจักรไป๋ง่ายดายเช่นนี้

“เชอะ เจ้านั่นไปชิงอาณาจักรมางั้นเหรอ”ชูเจิน องค์ชายเพียงพระองค์เดียวของอาณาจักรชูมองไป๋จูเหวินด้วยท่าทีไม่พอใจนัก ก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีมันยังโดนตนเองจับมาใช้งานอยู่เลย แต่ตอนนี้มันกลับขึ้นมาเป็นองค์จักรพรรดิเสียแล้ว ทำเอามันไม่ขอบใจเสียเท่าไหร่

อาณาจักรชูนั้นอยู่ใต้ร่มเงาของอาณาจักรอู๋ เรื่องสภาพเศรฐกิจไม่ต้องกังวลอะไรมากมายเพราะมีอาณาจักรอู๋คอยช่วยเหลือ แต่หากว่ากันตามเนื้อผ้าอาณาจักรชูมีผลผลิตไม่ค่อยดีนัก ทำให้ประชาชนยังยากจนอยู่มาก แถมองค์จักรพรรดิยังไม่ค่อยได้ความ เป็นเพียงลูกไล่ของอาณาจักรอู๋ ไหนจะองค์ชายที่เหลือเพียงคนเดียวยังเป็นคนอย่างชูเจินอีก ทำเอาประชาชนได้แต่ถอนหายใจเท่านั้น

ถึงจะเสียพี่ชายไปและต้องรับหน้าที่อย่างการเป็นองค์จักรพรรดิในอนาคตชูเจินก็ยังไม่ได้เปลี่ยนนิสัยไปมากนัก ยังชมชอบการเที่ยวเตร่และพนันขันต่อเช่นเดิม

“องค์จักรพรรดิอาณาจักรชู”อู๋หมิงเดินเข้ามาหาองค์จักรพรรดิอาณาจักรชูพลางเริ่มพูดคุยเรื่องการดูแลอาณาจักร ทำเอาชูเจินได้แต่กัดฟันกรอด พ่อของมันเอาแต่ทำตามที่อู๋หมิงแนะนำไม่ยอททำอะไรเองเลย การได้ทราบข่าวว่าองค์ชายชูเฟิงที่กลับมาเป็นมารนั้นทำเอาพ่อของมันเสียใจเป็นอย่างมากจนล้มป่วยไปหลายเดือน เห็นได้ชัดเลยว่าท่านไม่ได้เต็มใจจะมอบบัลลังก์ให้มันเลย หากชูเฟิงกลับมาก็จะเอาบัลลังก์ของมันให้พี่ชายทันที แน่นอนหากเป็นชูเฟิงมันก็ไม่ขัดข้อง แต่หากเป็นองค์ชายคนอื่นฟื้นขึ้นมาท่านก็คงทำแบบนั้นเหมือนกัน

“เสด็จพ่อ”หลังจากแขกของงานเริ่มกลับไปพักผ่อนที่เรือนรับรอง ชูเจินที่ได้ทราบข่าวของไป๋จูเหวินก็เข้ามาในห้องของบิดาเพื่อปรึกษาเรื่องที่มันคิดทันที

“ว่าไงลูกพ่อ”องค์จักรพรรดิถามพลางนั่งลงบนเตียง เห็นได้ชัดเลยว่าจักรพรรดิอาณาจักรชูแก่ลงมากจนน่าใจหาย ดวงตาของมันฟ่าฟาง ทั้งสมองยังเลาะเลือนไม่น้อย ท่าทางเรื่องของชูเฟิงจะส่งผลกับมันมากจริงๆ

“ข้ามีแผนการที่จะทำให้อาณาจักรของเรากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”ชูเจินว่าพลางยิ้มด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์

“แผนการ โอ้ เจ้ามีแผนการอะไร”องค์จักรพรรดิอาณาจักรชูยิ้มออกมาด้วยท่าทีเหนื่อยๆ นานๆทีบุตรชายของมันก็มีแผนการมาบอก มันเริ่มคิดเรื่องของบ้านเมืองแล้วงั้นหรือ

“ข้าจะสานสัมพันธ์กับอาณาจักรหลิว”ชูเจินพูดออกมาเพราะมันได้ยินเรื่องที่คนของอาณาจักรหลิวมีท่าทีไม่ชอบใจอาณาจักรไป๋นัก

“ร่วมมืองั้นหรือ แต่พวกเราก็ทำการค้ากับอาณาจักรหลิวอยู่แล้วนี่ลูก”องค์จักรพรรดิถามด้วยความสงสัย หากจะขยายการค้าบางทีการเปิดเส้นทางการค้ากับอาณาจักรไป๋ก็เป็นเรื่องน่าสนใจ แม้แต่อู๋หมิงยังสนับสนุนให้มันทำเช่นนั้น แม้ตอนนี้อาณาจักรไป๋จะยังไม่ฟื้นตัวดี แต่อู๋หมิงก็มั่นใจว่าสภาพเช่นนี้จะคงอยู่ไม่นาน ไป๋จูเหวินย่อมทำอะไรบางอย่างเพื่อฟื้นฟูอาณาจักรแน่นอน

“ข้าจะร่วมมือกับอาณาจักรหลิวเข้ายึดอาณาจักรไป๋”อยู่ๆชูเจินก็เสนอเรื่องที่ไม่คาดคิดออกมา ทำเอาจักรพรรดิอาณาจักรชูสะดุ้งวาบ

“เหลวไหล เจ้าคิดอะไรออกมา”องค์จักรพรรดิอาณาจักรชูยามนี้แม้จะเลาะเลือน แต่ก็ไม่โง่พอจะหันคมดาบใส่ไป๋จูเหวิน นอกจากมันจะมีอาณาจักรอู๋สนับสนุนอยู่แล้ว แม้แต่อาณาจักรชินก็ยังเป็นมิตรกับมัน หากโจมตีมีหวังโดนกองทัพของอาณาจักรอู๋กับกองทัพอาณาจักรชินถล่มแน่ๆ

“แต่ท่านพ่อ ตอนนี้อาณาจักรไป๋ไม่มียอดฝีมือเหลือเลยนะขอรับ เป็นอาณาจักรที่บุกได้ง่ายมาก”ในสายตาของชูเจิน ยอดฝีมือของอาณาจักรโฮเก่านั้นไม่เหลือแล้ว พวกมันหนีมาอยู่อาณาจักรหลิวกันหมด ตอนนี้ในอาณาจักรไป๋คนที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดก็คงมีแต่ไป๋จูเหวินที่พึ่งอยู่ระดับเทียนเซียนขั้น 4 กับภรรยาของมันที่อยู่ระดับเทียนเซียนขั้น 9 เท่านั้น ในมุมมองของมันช่างเป็นอาณาจักรที่อ่อนแอเสียเหลือเกิน

“เหลวไหล ข้าไม่มีวันโจมตีอาณาจักรไป๋แน่ๆ”องค์จักรพรรดิอาราจักรชูตอบออกมาด้วยท่าทีหนักแน่น

“ทำไมล่ะท่านพ่อ อาณาจักรกระจอกแบบนั้น”ชูเจินถามพลางลุกขึ้นด้วยท่าทีโมโห ของหวานวางอยู่ตรงหน้า ทำไมพ่อของมันถึงได้โง่ไม่ยอมตักกิน

“ไม่…..”องค์จักรพรรดิอาณาจักรชูคำรามออกมา แต่เสียงของมันกลับหายไปเสียก่อน อยู่ๆมันก็หน้าหน้ามืดล้มลงนอนกับเตียงหายใจหนักๆอย่างด้วยท่าทีเหน็ดเหนื่อย

“ท่านพ่อ…”ชูเฟิงไม่ได้มีท่าทีตกใจนัก อาการขององค์จักรพรรดิอาณาจักรชูเป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว พอใส่อมราณ์เข้าหน่อยก็เป็นลม ทำให้ชูเจินได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะลุกไปเรียกแพทย์หลวงที่ติดตามมาด้วยให้เข้ามาดูแลอาการของพ่อตนเอง ในเมื่อพ่อของมันไม่เห็นด้วย มันจะแอบติดต่อกับอาณาจักรหลิวเอง มันจะทำให้พ่อของมันเห็นว่ามันเองก็ทำเพื่ออาณาจักรได้เช่นกัน