ตอนที่ 574 พาลสงสัยมาถึงนาง

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 574 พาลสงสัยมาถึงนาง

การที่มู่จวินฮานมาที่นี่ เขามิได้บอกเรื่องนี้ให้อันหลิงเกอฟังเพราะมิอยากให้นางคิดมาก

หลังปิดประตูเสร็จ มู่เหล่าหวางเฟยก็เดินมาที่ด้านหลังเขาแล้วออกแรงนวดไหล่ให้ “ฮานเอ๋อมิต้องคิดมากเพราะสุขภาพของเจ้าสำคัญที่สุด ! ”

หลังเหตุการณ์นี้จบลง หลิงอวี่หนิงก็โดนลงโทษให้สำนึกผิดอยู่ในเรือน ส่วนทัวป๋าถิงฟางก็ถูกพากลับเรือนและผ่านไปมิถึงครึ่งวันสีหน้าของนางก็มีเลือดฝาดอีกครั้ง

เพราะเห็นว่ายานี้เป็นของหลิงอวี่หนิง มู่จวินฮานจึงมิลงโทษนางหนักมาก เพียงได้ยินสาวใช้กล่าวกันว่าพอกลับเรือนไปแล้วนางก็ยืนกรานว่าตนมิได้ทำเรื่องนี้และร่ำไห้อย่างน่าเวทนา

หลังเขาตริตรองเรื่องนี้แล้วก็อดสงสัยไปถึงตัวมู่เหล่าหวางเฟยมิได้ แต่เพราะไร้หลักฐานจึงมิอาจกล่าวอันใด ทว่าก็ให้คนนำชาพร้อมบอกต่อคำพูดของเขาที่ให้มู่เหล่าหวางเฟยมีสติ รู้ตัว รู้คิด รู้กระทำและควบคุมตนเองให้ดี

เพราะนี่คือหมู่เฟยของเขา นางเคยทำสิ่งใดไปบ้าง มู่จวินฮานย่อมรู้ดีแก่ใจ

“เห็นอยู่ว่าเรื่องนี้ชี้ไปที่ตัวหลิงอวี่หนิง แล้วเหตุใดท่านอ๋องจึงหันมาสงสัยในตัวมู่เหล่าหวางเฟยได้เจ้าคะ ? ” สาวใช้ยืนอยู่ด้านหลังเหล่าหวางเฟยและเอ่ยขึ้น หลังมีคนมาส่งชาและบอกต่อคำพูดของมู่จวินฮาน สายตาของนางจึงจับจ้องไปที่ถ้วยน้ำชาบนโต๊ะ

ส่วนมู่เหล่าหวางเฟยที่ย่อตัวนั่งบนเก้าอี้ก็ตอบกลับแบบมิใส่ใจ “ไม่ต้องมองแล้ว ข้าเองก็มิรู้เหมือนกันว่าเหตุใดท่านอ๋องจึงระแวงสงสัยได้”

ทว่ามิใช่เรื่องสำคัญเพราะเป้าหมายของนางไม่ใช่หลิงอวี่หนิง การที่หลิงอวี่หนิงโดนลงโทษก็เพราะหาเรื่องใส่ตัว ครั้งนี้เป็นแค่บันไดให้เหยียบไปข้างบนเท่านั้น

หลังจากนั้นสาวใช้ก็เคาะผิวโต๊ะเบา ๆ สองครั้งแล้วกล่าวด้วยถ้อยคำที่คิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว “เหล่าหวางเฟยโปรดวางใจ บ่าวจะรีบไปพบท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ รับรองว่าเรื่องนี้มิจบลงอย่างง่ายดายแน่นอนเจ้าค่ะ ! ”

หลังจากที่นางเดินออกไปได้มินาน มู่เหล่าหวางเฟยก็เรียกสาวใช้คนใหม่เข้ามา “นำยาพิษนี้ไปวางไว้ที่ห้องของสาวใช้ทัวป๋าหลิวลี่” นางมิเชื่อว่าคราวนี้จะจัดการกับเช่อเฟยคนใหม่มิได้

พอออกจากเรือนมู่เหล่าหวางเฟยแล้ว สาวใช้ผู้นั้นก็เร่งฝีเท้าตรงไปที่ห้องหนังสือ แม้รู้ว่าตอนนี้ท่านอ๋องมิได้มีเวลาว่าง แต่เขาต้องยอมฟังข่าวที่ตนคาบไปให้แน่นอน

“พูดมา วันนี้มาหาเปิ่นหวางด้วยเรื่องใด ? ” มู่จวินฮานนั่งไขว้ขา เพราะช่วงนี้งานยุ่งเขาจึงมิคิดจะอ้อมค้อมตั้งแต่ต้น

เดิมทีสาวใช้ก็มาที่นี่เพราะเรื่องวางยา เวลานี้จึงมิได้คิดว่ามีอันใดยากที่จะบอก “เรียนท่านอ๋อง บ่าวมาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้มู่เหล่าหวางเฟยเจ้าค่ะ”

ด้วยเสียงที่หนักแน่นทำให้มู่จวินฮานอดหันมามองไม่ได้ แต่เขามองมิออกว่าสาวใช้ผู้นี้กำลังคิดอันใดอยู่

มู่จวินฮานเงยหน้ามองนางอยู่ครู่ใหญ่ถึงยอมกล่าวออกมา “เหตุใดเจ้าต้องมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์แทนหมู่เฟย เปิ่นหวางหวังว่าเจ้าคงรู้ดีว่าแม้หมู่เฟยทำหรือไม่ทำ มันก็มิเกี่ยวข้องกับเจ้า”

“เหตุใดท่านอ๋องจึงมั่นใจว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของมู่เหล่าหวางเฟยเจ้าคะ ? หรือท่านอ๋องไปได้ยินมาจากที่ใดเจ้าคะ ? ”

“ท่านอ๋องมิอยากฟังหน่อยหรือว่าวันนี้บ่าวเอาหลักฐานใดมาเจ้าค่ะ ? ” สาวใช้ยังคุกเข่าอยู่ที่เดิม ฝ่ามือกำแน่นและนิ้วทั้งสิบมิเหลือช่องให้ลมเข้าคล้ายกำลังกำอันใดไว้สักอย่าง

และเป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้เพราะคำพูดของนางทำให้มู่จวินฮานกลับมานั่งอีกครั้งพร้อมเผยท่าทางตั้งใจฟัง เมื่อใดกันที่สาวใช้ผู้นี้สามารถรั้งมู่จวินฮานเอาไว้ได้ ? หรือจะบอกอีกนัยว่าคนข้างกายมู่เหล่าหวางเฟยล้วนมีความสามารถนี้ทั้งสิ้น ?

มู่จวินฮานนั่งมองนางด้วยแววตาชื่นชม ทว่าเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น

“บ่าวอยากเรียนท่านอ๋องว่าคนใกล้ชิดที่สุดต่างหากถึงจะเป็นคนอันตรายที่สุด เรื่องนี้เป็นฝีมือของหลิวลี่เช่อเฟย มิใช่มู่เหล่าหวางเฟยเจ้าค่ะ” สาวใช้กล่าวออกมาช้า ๆ แววตาสงบนิ่งดุจสายน้ำ “เมื่อมินานมานี้บ่าวเห็นสาวใช้ของนางถือขวดยาเข้าไปในเรือน หากท่านอ๋องมิเชื่อก็ส่งคนไปค้นได้เจ้าค่ะ หากไม่มีอันใดผิดพลาดในเรือนของนางน่าจะยังหลงเหลือร่องรอยบางอย่างไว้เจ้าค่ะ”

เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ แค่สืบดูก็รู้แล้ว

มู่จวินฮานย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าเรื่องนี้อาจถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายผู้อื่น เพียงแต่มิยอมกล่าวออกมาก็เท่านั้น

“เปิ่นหวางจักส่งคนไปสืบเรื่องนี้เอง มิรบกวนให้หมู่เฟยต้องคิดมากแล้ว” เขาตอบรับเสียงเรียบนิ่งแต่มือใต้แขนเสื้อกลับสั่นโดยมิรู้ตัว

“ท่านอ๋อง บางทีอาจเป็นเรื่องที่สองพี่น้องจงใจก่อขึ้นมาก็ได้เจ้าค่ะ แค่แสร้งมิรู้ความและใช้โอกาสตอนท่านอ๋องโปรดปรานมาทำร้ายคนอื่นเจ้าค่ะ”

สาวใช้ผู้นั้นเห็นมู่จวินฮานหยุดนิ่งจึงรีบกล่าวไปทางอื่น ส่วนคำว่าคนอื่นเมื่อครู่ก็หมายถึงมู่เหล่าหวางเฟยและหลิงอวี่หนิง

เดิมทีก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าหลิงอวี่หนิงมีส่วนร่วมในเรื่องนี้หรือไม่ แต่มิว่านางมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้หรือเปล่า เหตุการณ์ก็สามารถดำเนินต่อไปได้อยู่แล้ว

หลังรอให้สาวใช้ถอยออกไป มู่จวินฮานก็ส่งคนไปสืบทันทีและเมื่อถึงเวลากลางคืนคนที่ไปสืบก็กลับมารายงานว่าในเรือนของทัวป๋าหลิวลี่มีกิ่งเจียจู๋เถาอยู่สองสามกิ่งจริง ๆ เพียงแต่ถูกพบอยู่ในห้องของสาวใช้

“ไปจับตัวสาวใช้เอาไว้แล้วเฝ้าให้ดี อย่าให้ผู้อื่นมาปิดปากได้ หากทัวป๋าหลิวลี่ถามถึงก็บอกว่าสาวใช้คนนั้นโดนย้ายไปทำงานที่อื่นแล้ว”

หากเอ่ยเช่นนี้คือเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะทัวป๋าถิงฟางและทัวป๋าหลิวลี่อยากได้รับความโปรดปรานและความเห็นอกเห็นใจ จึงทำให้พวกนางร่วมมือและจงใจก่อขึ้นมาหรือ ?

นางสองพี่น้อง คนหนึ่งแสร้งแสดงเป็นตัวละครเจ้าน้ำตา ส่วนอีกคนใช้ร่างกายมาทำร้ายหมู่เฟยหรือ ?

ทางฝั่งทัวป๋าหลิวลี่ที่ยังมิรู้ปัญหาของตน แต่พอตื่นมาวันรุ่งขึ้นก็พบว่าสาวใช้ที่คอยดูแลตามปกติหายตัวไป

“หลีเอ๋อหายไปไหน ? ” วันนี้มิเห็นแม้แต่เงาของสาวใช้ นางจึงรู้สึกไม่ชิน

พอเห็นสาวใช้คนอื่นตอบอ้ำอึ้ง ทัวป๋าหลิวลี่ก็อารมณ์เสีย “พวกเจ้ายังเห็นข้าเป็นเช่อเฟยของจวนอ๋องอยู่หรือไม่ เหตุใดแม้แต่เรื่องจริงก็มิยอมบอกให้ข้าฟัง ! ”

แม้ตอนนี้ใบหน้าของนางยังมีความซีดเซียว แต่หากรวมกับเสียงอันทรงพลังก็ทำให้มันดูน่าเกรงขามกว่าเดิม

สาวใช้สองสามคนที่อยู่มุมห้องเห็นทัวป๋าหลิวลี่โมโหจึงรีบคุกเข่าแล้วตอบ “พ่อบ้านบอกว่าหลีเอ๋อถูกย้ายไปทำงานที่อื่นแล้วเจ้าค่ะ ส่วนไปที่ไหนก็ไม่มีผู้ใดบอกเจ้าค่ะ”

ทัวป๋าหลิวลี่รู้สึกถึงความผิดปกติ ทั้งในคำกล่าวยังแฝงความนัยบางอย่างจึงทำให้นางรู้สึกมิดี แต่ในขณะที่กำลังจะไปถามพ่อบ้านให้รู้เรื่อง นางก็เห็นร่างของคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาจากที่ไกลและทุกอย่างก้าวยังมั่นคงหนักแน่น

“คารวะท่านอ๋องเจ้าค่ะ ! ” ทัวป๋าหลิวลี่คำนับพร้อมคุกเข่า เดิมทีนางคิดแค่คารวะ ทว่าในจังหวะที่คุกเข่าลงมู่จวินฮานก็เดินผ่านตัวนางแล้วเข้าไปในเรือนโดยมิกล่าวอันใดออกมาสักคำ

เมื่อเข้ามาในเรือนแล้ว ทัวป๋าหลิวลี่ก็สั่งให้ยกน้ำชาตามมา ต่อจากนั้นจึงไปยืนด้านหลังของมู่จวินฮานและช่วยนวดให้เขาคลายความเมื่อยล้า “เหตุใดวันนี้ท่านอ๋องมีเวลามาหาข้าได้เจ้าคะ ? ”

เมื่อมือสัมผัสเข้ากับไหล่ ทัวป๋าหลิวลี่ก็สามารถรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้าวิตกกังวลแค่ไหน นางเองก็มิได้ถามมาก เพียงช่วยนวดให้เขาอยู่เช่นนั้น

แน่นอนว่านางรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของมู่จวินฮาน เพราะในเวลาปกติเขาไม่มีทางมาหานางก่อน

“ข้ามีเรื่องจะกล่าวกับเจ้า” มู่จวินฮานคว้าแขนขาวเนียนของนางมาจับไว้พร้อมเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและในเวลาเดียวกันก็เป็นการหยุดการกระทำของนาง

จากสัญชาตญาณของทัวป๋าหลิวลี่ทำให้รับรู้ได้ว่าต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นและเรื่องนั้นก็เกี่ยวข้องกับนางด้วย !

“เจ้ากับทัวป๋าถิงฟางกำลังวางแผนทำอันใดอยู่ ? ” คำพูดของมู่จวินฮานค่อนข้างร้ายแรง

“ข้ามิทราบว่าท่านอ๋องหมายถึงสิ่งใด ท่านอ๋องได้โปรดพูดให้กระจ่างด้วยเจ้าค่ะ” ทัวป๋าหลิวลี่เอ่ยพร้อมก้มมองพื้นและรอการตอบกลับจากเขา