ตอนที่ 1603 ปีศาจ (2)
น้ำเสียงเขากลั้วหัวเราะ มุมปากก็ยกขึ้น แต่ดวงตาคู่นั้นไม่มีรอยยิ้มอยู่เลย มีแต่ความกระหายเลือดที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว
“ไม่……ไม่……ข้าจำได้” หลินเฮ่าอวี่สั่นไปทั้งตัวอย่างควบคุมไม่ได้
กู่ซินเยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้
กู่อิ่งหัวเราะออกมาทันทีเมื่อเห็นสีเลือดบนใบหน้าของหลินเฮ่าอวี่จางหายไปหมด เขาพูดว่า “ไม่ต้องเครียด ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้น เจ้าเป็นหลานชายของผู้อาวุโสหลิน ข้าจะทำร้ายเจ้าได้ยังไง ดูหน้าเจ้าซิ ดูไม่ได้เลย นั่งลง”
หลินเฮ่าอวี่ยิ้มเฝื่อน ไม่ได้รู้สึกโล่งใจกับคำพูดของกู่อิ่งเลยแม้แต่น้อย เพราะเขารู้แก่ใจดีว่าเมื่อครู่นี้กู่อิ่งไม่ได้ล้อเล่น
“ขอบคุณพี่ใหญ่กู่อิ่ง” หลินเฮ่าอวี่นั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้าง ในใจเหมือนมีคนกับเทพตีกันอยู่
ต้องเผชิญหน้ากับกู่อิ่ง เขาจะสามารถทำตามแผนที่วางไว้ได้หรือไม่?
ก่อนมา หลินเฮ่าอวี่คิดมาอย่างละเอียดแล้ว แม้ว่ากู่อิ่งจะมีนิสัยแปลกประหลาด แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็คือลูกชายของประมุขวิหารมารโลหิต ตอนนี้วิหารมารโลหิตตกอยู่ในสภาพน่าอับอายในสำนักธาราเมฆเช่นนี้ ในฐานะที่กู่อิ่งเป็นคนของวิหารมารโลหิต เขาก็ไม่ควรนั่งดูอยู่เฉยๆ บางที……หลินเฮ่าอวี่อาจจะใช้การปรากฏตัวของกู่อิ่งพลิกสถานการณ์ที่วิหารมารโลหิตกำลังเผชิญอยู่ได้
แต่พอกู่อิ่งมาอยู่ตรงหน้า หลินเฮ่าอวี่ก็ไม่กล้ามั่นใจขนาดนั้นแล้ว
ภายในห้องนั้นมีเพียงกู่อิ่งที่ยิ้มอยู่ ส่วนหลินเฮ่าอวี่และกู่ซินเยียนมีสีหน้าย่ำแย่ ทั้งสองไม่พูดอะไรสักคำ
สถานการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ทำให้ยากจะเชื่อว่ากู่อิ่งที่นั่งอยู่ตรงหน้าคนทั้งสองมาจากวิหารเดียวกับพวกเขาจริงๆ
“ที่สำนักธาราเมฆพวกเจ้าเป็นยังไงกันบ้าง?” กู่อิ่งดูเหมือนไม่ได้สังเกตเห็นความตึงเครียดของทั้งสองคนเลย เขาเอ่ยปากถามทั้งสองคนอย่างนิ่งๆ
กู่ซินเยียนไม่ตอบ แต่หลินเฮ่าอวี่สะดุ้งอยู่ในใจ เขากลัวกู่อิ่ง แต่ช่วงนี้ชีวิตเขาน่าสังเวชมาก เฉียวฉู่ตามรังควานเขาทุกวันโดยไม่มีหยุดพัก ทำให้เขาหมดหนทางแล้ว
ถ้าเขาเลือกไม่บอกกู่อิ่ง วันข้างหน้าของเขาในสำนักธาราเมฆคงไม่มีทางดีขึ้นไปกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้แน่
หลังจากดิ้นรนอยู่ในใจพักหนึ่ง หลินเฮ่าอวี่ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เตรียมที่จะเปิดปากพูด แต่พอเขากำลังจะพูด เขาก็เห็นกู่ซินเยียนจ้องเขาอยู่พร้อมคำเตือนในแววตาของนาง
ในดวงตาที่เป็นประกายคู่นั้นเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมอย่างชัดเจน
นางไม่อยากให้เขาพูดอะไรทั้งนั้น โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้ากู่อิ่ง
ตอนแรกหลินเฮ่าอวี่ยังลังเลอยู่บ้าง แต่พอเขาเห็นสายตาของกู่ซินเยียน เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีจากก้นบึ้งของหัวใจ
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว กู่ซินเยียนยังคิดจะปกป้องไอ้เวรนั่นอยู่อีก!? ความกลัวกู่อิ่งถูกแทนที่ด้วยความโกรธทันที เขาไม่สนใจกู่ซินเยียนและพูดออกมาว่า
“พี่ใหญ่กู่อิ่ง ท่านรู้ไหมว่างานชุมนุมเทพยุทธ์ปีนี้มีผู้เยาว์จากเผ่าจ้าววิญญาณปรากฏตัวขึ้นมาคนหนึ่ง?”
กู่อิ่งเลิกคิ้ว
“เผ่าจ้าววิญญาณ? ไม่เคยได้ยิน”
หลินเฮ่าอวี่พูดว่า “ผู้เยาว์จากเผ่าจ้าววิญญาณคนนั้นมีความสามารถในการเสริมวิญญาณ เป็นสิ่งที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นวิชาที่ฝังความสามารถพิเศษไว้บนร่างวิญญาณ ความสามารถนั้นทำให้สิบสองวิหารแย่งชิงตัวเขากันอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาปฏิเสธคำเชิญจากสิบสองวิหารทั้งหมดและไปเข้าร่วมวิหารหยกวิญญาณแทน”
“วิหารหยกวิญญาณ?” กู่อิ่งหัวเราะเบาๆ “มดแมลงพวกนั้นยังไม่ตายอีกหรือ?”