ตอนที่ 1965
ณ ท่าอากาศยานในดาวฟ้าดิน
เซียปิงก็ทําการบ่มเพาะจนเสร็จสิ้นและมาถึงสถานที่แห่งนี้ เพราะสมาชิกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นจะเดินทางมาที่ท่าอากาศยานนี้ในไม่ช้า มารับเขาไปและออกเดินทางไปสู่ศูนย์กลางของจักรวาล
ระยะเวลาหลายวันนี้เขาก็เพียงแค่เก็บตัวบ่มเพาะ ทําให้แกนพลังฉีของตนเองที่พัฒนาขึ้นมาอย่างกะทันหันเสถียรและมั่นคง ดูดซับและย่อยสลายพลังงานส่วนใหญ่ที่ได้มาจากโลกอบิส ทําความคุ้นเคยกับพลังเวทมนตร์ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันหันได้อย่างสมบูรณ์
แน่นอนว่านี่ก็ทําให้แกนพลังฉีของเขาพัฒนาขึ้นมาอีก มีพลังเวทมนตร์ที่ทรงอํานาจกว่าก่อนหน้านี้ถึงหนึ่งเท่า อยู่ไม่ไกลไปจากระดับกฎเทวรูปขั้นสูงสุดมากนัก
หากมีบางคนที่สัมผัสได้ถึงพลังงานภายในร่างกายของเซียปิง พวกเขาจะต้องหวาดกลัวจนเจียนตายอย่างแน่นอน เพราะทั่วทั้งร่างกายของเขาท่วมท้นไปด้วยพลังเวทมนตร์ในทุกซอกทุกมุม ราวกับเป็นดวงอาทิตย์ที่เร่าร้อน เหมือนว่าจะแอบแฝงไปด้วยพลังงานที่สามารถขับเคลื่อนไปชั่วนิรันดร์
แน่นอนว่าพลังอํานาจเหล่านี้ก็ถูกเซียปิงยับยั้งไว้ ถูกเก็บไว้ในส่วนลึกของร่างกาย ไม่ได้รั่วไหลออกมาแม้แต่นิดเดียว
ไม่เช่นนั้น หากพลังหยางบริสุทธิ์รั่วไหลออกมานั้น มันจะส่งผลให้เกิดปัญหาที่ไม่อาจคาดเดาได้ขึ้นมาในทุกหนแห่ง
วิซ!
ในตอนนี้ บนท้องฟ้าก็มียานอวกาศขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา ราวกับเป็นปลาวาฬสีดาก็ว่าได้ มีอักขระที่ลึกลับมากมายจารึกอยู่รอบตัว มีขนาดที่ใหญ่อย่างมาก เรียกได้ว่าใหญ่ยิ่งกว่าป้อมปราการเคลื่อนที่เสียอีก
ทว่าขนาดของมันไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทําให้เซียปิงตกใจ สิ่งที่ทําให้เขาตกใจที่สุดก็คือเขารู้สึกเหมือนกับว่ายานอวกาศสดล่านี้จะมีชีวิตอยู่ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิต หางของมันสั่นไหวเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะมีสติสัมปชัญญะเป็น ของตนเอง
หากยานอวกาศสีดําล่านี้เปลี่ยนกลายเป็นปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวอย่างกะทันหัน เขาจะไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย
“นี่คือยานอวกาศระดับเซนด์รี? ท่านแมวนักปราชญ์ ท่านรู้หรือไม่ว่ายานอวกาศล่านี้คืออะไร?”
เซียปิงก็สัมผัสได้ทันทีว่ายานอวกาศล่านี้ดูจะมีออร่าที่คล้ายคลึงกับยานดาราจักรของเขา อีกทั้งยังลึกลับยิ่งกว่า ไม่ใช่สิ่งที่ยานอวกาศทั่วๆไปจะเทียบด้วยได้ นี่คือยานอวกาศของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นอย่างนั้นรึ?!
“หากข้าคาดเดาไม่ผิด นี่ควรจะเป็นยานอวกาศระดับเซนต์ขั้นกลาง หากพูดถึงเรื่องระดับเพียงอย่างเดียว คาดการณ์ได้ว่ายานอวกาศลํานี้ทรงอ่านาจยิ่งกว่ายานดาราจักรของพวกเราเสียอีก”
เมื่อได้ยินคําถามของเซียปิง แมวนักปราชญ์ก็ตอบกลับไปทันที “เหตุผลที่เจ้ารู้สึกเหมือนว่ายานอวกาศลํานี้ มีชีวิตเป็นของตนเองนั้น นั่นก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก เพราะว่ายานอวกาศล่านี้ได้หลอมรวมเข้ากับสิ่งมีชีวิตที่พิเศษของจักรวาลและอย่างน้อยก็อยู่ในระดับเซนต์”
“อะไรนะ? หลอมรวมเข้ากับสิ่งมีชีวิต…ระดับเซนต์ นี่มันหมายความว่าอะไรกัน?”
เซียปิงก็จ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่เหนือกว่าความรู้ของตนเอง สิ่งมีชีวิตสามารถที่จะหลอมรวมเข้ากับยานอวกาศได้ด้วยหรือ?
“ใช่แล้ว”
แมวนักปราชญ์ก็พูดอย่างเป็นธรรมชาติ “อย่างเช่นสิ่งมีชีวิตที่เป็นโลหะ หรือว่าสิ่งมีชีวิตที่เป็นพืช พวกมันสามารถหลอมรวมเข้ากับยานอวกาศได้”
“นี่เหมือนกับยานอวกาศระดับเซนต์ชื่อดังของจักรวาล ยานอุกกาบาต นี่คือการหลอมรวมเข้ากับยักษ์หิน ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในจักรวาล ทั่วทั้งร่างกายสามารถเปลี่ยนกลายเป็นก้อนหินที่ไม่มีวันพังทลายแข็งแกร่งทนทาน แม้แต่พายุอวกาศก็ไม่สามารถทําลายมันได้”
“อีกทั้งก็ยังมียานอวกาศระดับเซนต์ที่มีชื่อเสียงของเผ่าพันธุ์เอลฟ์เช่นกัน ยานเอลฟ์ นี่คือการหลอมรวม เข้ากับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์เอลฟ์ ต้นคาตาร์ทั่วทั้งยานอวกาศเสมือนกับเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ก็ว่าได้ รากยึดขยายออกไปในส่วนลึกของความว่างเปล่า สามารถที่จะเดินทางข้ามผ่านจักรวาลไปได้อย่างง่ายดาย”
มันก็ได้อธิบายกับเซียปิงเกี่ยวกับความลึกลับของยานอวกาศระดับเซนต์
“ถ้าอย่างนั้น ยานดาราจักรของพวกเราก็หลอมรวมเข้ากับสิ่งมีชีวิตบางอย่างเช่นกัน ?”
เซียปิงก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้
“ไม่”
แมวนักปราชญ์ก็มีสีหน้าที่อึดอัดใจเล็กน้อย “เดิมที่เจ้านายเก่าของข้าสร้างยานดาราจักรขึ้นมาจากแร่หายากเป็นจํานวนมหาศาล และฝืนพัฒนายานอวกาศจนมันเลื่อนขั้นไปสู่ระดับเซนต์ขั้นต่ําเท่านั้น”
“ไม่ใช่ว่าเจ้านายเก่าของข้าไม่ได้ต้องการตามหาสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดเหล่านี้ แต่ปัญหาก็คือว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็มีอยู่น้อยนิดจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกมันก็อยู่ในระดับเซนต์เช่นกัน ไม่สามารถเอาชนะได้”
“ถ้าอย่างนั้นเหตุใดดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นถึงได้มียานอวกาศเช่นนี้ได้?”
เซียปิงก็เอ่ยถามอย่างสงสัย
“นี่เป็นเรื่องธรรมดา ถึงอย่างไรดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นก็เป็นหนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีตัวตนในระดับเซนต์อยู่มากมาย การที่ต้องการจะตามหาสิ่งมีชีวิตประเภทโลหะหรือว่าสิ่งมีชีวิตประเภท พืชบางชนิดนั้นก็เป็นเรื่องที่เรียบง่ายมาก”
แมวนักปราชญ์ก็พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม “ในตอนนั้นเจ้านายเก่าของข้ารักในอิสระ ไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วมกับองค์กรใหญ่ๆเหล่านี้ เป็นเพียงแค่นักบ่มเพาะอิสระ ดังนั้นจึงไม่ได้เพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษขององค์กรใหญ่ๆอย่างเช่นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น”
“หากแรกเริ่มเดิมที เจ้านายเก่าของข้าเข้าร่วมกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น บางที่อาจจะไม่ถูกฆ่าตายไปง่ายๆเช่นนี้ แต่เพราะว่าเป็นเพียงแค่นักบ่มเพาะอิสระ ไม่มีญาติสนิทพี่น้อง ไม่มีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่ ดังนั้นจึงได้ตายไป ไม่มีใครล้างแค้นให้ด้วยซ้ํา ส่วนตัวฆาตกรก็ไม่จําเป็นต้องกังวลเรื่องใด เพียงแค่สังหารปัญหา ทุกอย่างก็สิ้นสุดลง”
เซียปิงก็รู้ว่าถึงแม้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นและวิหารแห่งความมืดจะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สองแห่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเซนต์ทุกคนของเผ่าพันธุ์มนุษย์จะต้องเข้าร่วมกับองค์กรใดองค์กรหนึ่งในสององค์กรนี้
ในความเป็นจริงก็มีเซนต์จํานวนมากที่ไม่ต้องการเข้าร่วมกับองค์กรใดๆ ชอบการใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระ ไม่ยึดติดและผูกมัดกับสิ่งใด ผู้คนเหล่านี้ก็เป็นที่ล่วงรู้กันในฐานะนักบ่มเพาะอิสระ
การเป็นนักบ่มเพาะอิสระก็มีข้อดีของมัน ไม่จําเป็นที่จะต้องยึดตามกฎระเบียบขององค์กร สามารถทําทุกอย่างได้อย่างอิสระ ต้องการจะเดินทางไปไหนก็ไปได้ ทว่าข้อเสียของมันคือนักบ่มเพาะอิสระเหล่านี้จะไม่มีผู้หนุนหลังอยู่ หากเกิดเหตุอันตรายใดๆขึ้นมา จะไม่มีใครที่สามารถช่วยได้
แมวนักปราชญ์ก็ถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม หากแรกเริ่มเดิมที่เจ้านายเก่าของมันมีมิตรสหายที่แข็งแกร่งอยู่บ้างหรือว่ามีดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นหนุนหลังอยู่นั้น ศัตรูก็คงจะไม่กล้าสังหารเจ้านายเก่าของมันตามอําเภอใจ จะต้องระแวดระแวงเช่นกัน
“ในอีกคําพูดหนึ่งก็คือ การที่ต้องการจะให้ยานดาราจักรพัฒนาต่อไป จําเป็นที่จะต้องตามหาสิ่งมีชีวิตประเภทโลหะหรือไม่ก็สิ่งมีชีวิตประเภทพืชในระดับเซนต์เพื่อหลอมรวมเข้ากับยานใช้รีไม่?”
เซียปิงเอ่ยถาม
“ถูกต้อง
แมวนักปราชญ์ก็พยักหน้า “เซียปิง หากเจ้าเลื่อนขั้นขึ้นไปในระดับเซนต์ได้และขอความช่วยเหลือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น การที่จะครอบครองสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มาก็ควรจะเป็นเรื่องที่เรียบง่ายมาก ยิ่งไปกว่านั้นยานอวกาศระดับเซนต์ในศูนย์กลางของจักรวาลก็เป็นยานพาหนะที่สําคัญอย่างถึงที่สุด หากปราศจากยาน อวกาศระดับเซนต์ เจ้าอาจจะเผชิญกับความยากลําบากในศูนย์กลางของจักรวาลได้
มันบ่งบอกว่ายานอวกาศระดับเซนต์เป็นสิ่งที่สําคัญอย่างมากในศูนย์กลางของจักรวาล ในความเป็นจริง หากไม่ได้สําคัญจริงๆ เซนต์ดาราจักรก็คงจะไม่ใช้ความมั่งคั่งทั้งหมดของตนเองในการสร้างยานอวกาศลํานี้ขึ้นมา
เซียปิงก็ต้องการจะสอบถามสถานการณ์ในศูนย์กลางของจักรวาลอย่างละเอียด ทว่าในตอนนี้ยานอวกาศด่าก็ลงจอดถึงพื้นแล้ว ลงจอดในท่าอากาศยานโดยตรง
ซูซู ซู่!!!
ในตอนนี้ประตูของยานอวกาศก็เปิดออกมา จากนั้นลูกศิษย์สามคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นที่อยู่ข้างในก็ก้วออกมาและหนึ่งในลูกศิษย์นั้นก็เป็นคนที่เซี่ยปิงเคยเห็นมาก่อนเช่นกัน นั่นก็คือซูฉางยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าขั้นสูงสุด เป็นผู้ที่นําสิ่งประดิษฐ์เซนต์ออกมาต่อสู้กับเซียปิงในพื้นที่ของแผนผังโชคชะตาราศี ท้ายที่สุดก็ถูกอัดเขากลับไปจนอยู่ในสภาพที่น่าสิ้นหวัง
ทว่าซูฉางในตอนนี้ไม่ได้มีท่าทางที่หดหูและสิ้นหวังเหมือนอย่างในตอนนั้น ในเวลานี้เขามีท่าทางที่องอาจ ผึ่งผาย เผยท่าทางที่มีภูมิฐานในฐานะศิษย์พี่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น
“เจ้าคือเชียปิงของนิกายฟ้าดินใช่หรือไม่? ข้าคือลูกศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น ครั้งนี้ข้ามาที่นี่เพื่อมารับเจ้าไปสู่ศูนย์กลางของจักรวาล รีบเข้ามาในยานอวกาศเถอะ”
ซูฉางก็พูดตรงเข้าประเด็นทันที
“เข้าใจแล้ว”
เซียปิงก็พยักหน้าและไม่ได้ลังเลแต่อย่างใด ทันใดนั้นก็ได้ตามซูฉางและคนอื่นๆเข้าไปในยานอวกาศ
ในช่วงเวลานี้ ภายในยานอวกาศก็เหมือนจะมีอัจฉริยะจากนิกายต่างๆในทางตะวันออกของจักรวาลที่รวมตัวกันอยู่ พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นผู้ที่ผ่านการประเมิน เป็นผู้มีพรสวรรค์ที่มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น