ตอนที่ 1605 ปีศาจ (4)

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1605  ปีศาจ (4)

ถ้าวันหนึ่งกู่อิ่งยอมทิ้งความชอบความต้องการของตัวเองเพราะถูกสำนักธาราเมฆควบคุมไว้ล่ะก็  เกรงว่าโลกจะถึงกาลวิบัติเป็นแน่

เหตุผลที่กู่อิ่งต้องออกจากสำนักธาราเมฆในตอนนั้น  กู่ซินเยียนรู้ดีอยู่แล้ว  ถ้ากู่อิ่งทำตามกฎ  โศกนาฏกรรมในปีนั้นก็คงไม่เกิดขึ้น  แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี  แต่กู่ซินเยียนรู้ว่ากู่อิ่งยังคงเป็นกู่อิ่งคนเดิม  ความชื่นชอบในการฆ่าและความบ้าระห่ำอวดดีของเขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย

“เมื่อกี้เจ้าบอกว่าคนที่ทำร้ายสวี่มู่คือ ซูหย่า อาจารย์ของจวินอู๋งั้นหรือ?”  จู่ๆคำพูดของกู่อิ่งก็หันเหไปอีกทาง

หลินเฮ่าอวี่พยักหน้า  จากนั้นใบหน้ากู่อิ่งก็เผยรอยยิ้มที่น่าขนลุกออกมา

“ได้เวลาที่ข้าต้องเอายาไปให้สวี่มู่แล้ว”  พูดจบกู่อิ่งก็ลุกขึ้น  หลินเฮ่าอวี่มองกู่อิ่งอย่างไม่เข้าใจ  แต่ดวงตาของกู่ซินเยียนกลับฉายแววกังวล

คำถามเมื่อกี้ของกู่อิ่งทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

เมื่อกู่อิ่งเดินออกไปจากห้อง  เขาก็เจอเข้ากับครูของสำนักธาราเมฆสองคนยืนทำหน้าเครียดอยู่นอกห้อง  เมื่อทั้งสองเห็นกู่อิ่งออกมา  ก็ก้าวเข้าไปหาทันที

“ครูเทียนเจ๋อสั่งไว้  ถ้าเจ้าอยากไปไหนต้องมีพวกเราไปด้วย  และต้องได้รับอนุญาตจากเขาก่อน”

กู่อิ่งหัวเราะเบาๆ  “ครูเทียนเจ๋อกังวลมากจริงๆ  ข้าจะไปส่งยาให้สวี่มู่  เขาอนุญาตรึเปล่า?”

ครูทั้งสองสบตากัน  แล้วพยักหน้าให้กู่อิ่ง

ทั้งสองคนเดินขนาบข้างกู่อิ่ง  คอยเฝ้าระวังเขาไม่ให้คลาดสายตา

กู่อิ่งไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย  เขายังคงยิ้มแย้มขณะเดินไปที่ห้องของสวี่มู่ภายใต้สายตาเฝ้าระวังของคนทั้งสอง  ระหว่างทางที่เดินไปนั้น  การรวมกลุ่มที่แปลกประหลาดของทั้งสามคนได้ดึงดูดความสนใจของศิษย์จำนวนไม่น้อย  พวกเขาต่างมองมาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น

ดูเหมือนกู่อิ่งจะไม่ได้คิดทำอย่างอื่นๆจริงๆ  เขาเดินจนมาถึงห้องของสวี่มู่อย่างสงบ  สวี่มู่ยังคงอยู่ในสภาพกึ่งรู้สึกตัว  เขานอนอยู่บนเตียงโดยมีครูจากสาขาผู้เชี่ยวชาญยาคอยดูแลอยู่หลายคน  กู่อิ่งไปที่นั่นและมอบยาของวิหารมารโลหิตให้ครูที่ดูแล  ขณะที่ครูสองคนที่ติดตามเขามาก็คอยเฝ้าดูอยู่ด้านข้างอย่างเข้มงวด

“ข้ามีเรื่องขอร้อง”  กู่อิ่งหันกลับมาพูดกับครูทั้งสองคน

“เรื่องอะไร?”

“ข้าอยากพบคนที่ทำให้สวี่มู่บาดเจ็บ”  กู่อิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม

ครูทั้งสองขมวดคิ้วทันที

“เรื่องที่สำนักธาราเมฆไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทะเลาะเบาะแว้งระหว่างศิษย์นั้น  ข้ารู้ดี  แต่ข้าได้ยินมาว่าคนที่ทำร้ายสวี่มู่จนอยู่ในสภาพนั้นไม่ใช่ศิษย์ของสำนักธาราเมฆ  แต่เป็นครูของที่นี่  แม้ว่าครูจะมีสิทธิ์สั่งสอนศิษย์  แต่การที่ครูจากสาขาอื่นเข้ามาแทรกแซงการสั่งสอนศิษย์และยังลงมือหนักขนาดนี้  เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องที่ปัดให้พ้นไปได้ง่ายๆ  ไม่ใช่หรือ?”  เห็นได้ชัดว่ากู่อิ่งรู้ระบบของสำนักธาราเมฆเป็นอย่างดี

ครูทั้งสองคนดูลังเล  และในที่สุดก็ทิ้งคนหนึ่งไว้คอยเฝ้า  ส่วนอีกคนก็ไปหาเทียนเจ๋อเพื่อขอความเห็นจากเขา  ทำให้เทียนเจ๋อต้องรีบเร่งมาที่นี่ด้วยตัวเอง

เขาทำหน้าเครียดมองกู่อิ่งที่ยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร

“เจ้าอยากเจอซูหย่าหรือ?”  เทียนเจ๋อถามพลางจ้องมองกู่อิ่งอย่างดุร้าย

กู่อิ่งตอบว่า  “วิหารมารโลหิตได้รับความเสียหายอย่างมากที่ต้องสูญเสียศิษย์ที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งไป  ข้าคิดว่าในฐานะผู้ที่จะเป็นประมุขคนต่อไป  ข้ามีสิทธิ์พบกับคนที่ทำให้เขาบาดเจ็บ  หรือครูเทียนเจ๋อกังวลว่าข้าจะทำเรื่องที่ไม่สมควรกับครูซูหย่า?”

เทียนเจ๋อพูดไม่ออก

กู่อิ่งน่ะรึจะทำเรื่องที่ไม่สมควรกับซูหย่า!?

นั่นเป็นเรื่องที่ตลกที่สุด  ขนาดเขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูหย่าเลย  ด้วยพลังของกู่อิ่ง  ถ้าอยากหาเรื่องซูหย่า  เขาก็ควรจะชั่งน้ำหนักพิจารณาให้ดีๆ