ตอนที่ 1606 ปีศาจ (5)

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1606  ปีศาจ (5)

“ได้ซิ  แต่ซูหย่าอารมณ์ร้าย  ถ้าเจ้าพูดจาล่วงเกินนาง  ตามกฎของสำนักธาราเมฆ  ต่อให้ซูหย่าทำอะไรเจ้า  ทางสำนักก็จะไม่เข้าไปยุ่งหรอกนะ”  เทียนเจ๋อพูดอย่างเย็นชา

กู่อิ่งพูดยิ้มๆว่า  “ครูเทียนเจ๋อพูดเรื่องอะไร  ข้าแค่อยากเจอครูซูหย่า  ไม่ได้คิดจะทำอะไรหยาบคายเลย  ทำไมครูซูหย่าจะต้องถือสาเด็กอย่างข้าด้วย?”

คำพูดของกู่อิ่งช่างน่าฟัง  แต่เทียนเจ๋อยังคงเย้ยหยันอยู่ในใจ

เด็กอย่างเจ้ากล้าลองดีกับครูหรือ?

เทียนเจ๋ออยากอัดกู่อิ่งมานานแล้ว  แต่กฎของสำนักทำให้เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้  แม้ว่ากฎของสำนักจะใช้ได้ผลกับเขา  แต่สำหรับซูหย่า  มันก็เป็นแค่ลมตด!

ไม่งั้นสวี่มู่คงไม่โดนตบจนอยู่ในสภาพนั้นหรอก

เมื่อมีความหวังว่าซูหย่าจะสอนบทเรียนให้กับกู่อิ่ง  เทียนเจ๋อก็ตกลงตามคำขอของเขา  เขาพากู่อิ่งไปที่สาขาจ้าววิญญาณซึ่งซูหย่าอยู่ในบ่ายวันนั้นด้วยตัวเอง

ในตอนบ่าย  จวินอู๋เสียเดินไปที่สาขาจ้าววิญญาณเพื่อทำการฝึกช่วงบ่าย  ก่อนที่นางจะไปถึงสาขาจ้าววิญญาณ  นางก็เห็นเทียนเจ๋อกำลังพากู่อิ่งมาที่ประตู

จวินอู๋เสียชะงักฝีเท้าเล็กน้อย  แล้วรีบกลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว  จากนั้นก็เดินเข้าไปด้วยใบหน้าสงบนิ่ง

เทียนเจ๋อเคาะประตูอยู่นานสองนาน  แต่ก็ไม่มีการตอบสนองจากข้างในจนเขารู้สึกหงุดหงิด  ทันใดนั้นเขาก็เห็นจวินอู๋เสียเดินเข้ามาอย่างช้าๆ  จิตสำนึกของเทียนเจ๋ออยากจะยิ้มออกมา  แต่พอเหลือบเห็นกู่อิ่งที่อยู่ข้างๆ  เขาก็ยับยั้งรอยยิ้มนั้นเอาไว้ทันที

“จวินอู๋  ซูหย่าอยู่ข้างในรึเปล่า?”  เทียนเจ๋อถาม  ดูท่าทางจริงจังมาก

จวินอู๋เสียเหมือนนางไม่เคยพบกู่อิ่งมาก่อน  นางกวาดสายตามองเทียนเจ๋อแล้วพูดเบาๆว่า  “อาจารย์ยังไม่ได้ออกจากสาขาจ้าววิญญาณไปไหนเลย”

[หมายความว่าอยู่ข้างในหรือ?  แล้วทำไมไม่เปิดประตู!!!]

เทียนเจ๋อโวยวายอยู่ในใจ  แต่ใบหน้ายังคงเคร่งขรึมจริงจัง

ดูเหมือนจวินอู๋เสียจะเห็นความหงุดหงิดของเทียนเจ๋อ  นางก้าวเข้าไปเคาะประตู

เทียนเจ๋อเคาะประตูอยู่ครึ่งชั่วโมงก็ไม่เปิด  แต่พอจวินอู๋เสียเคาะเบาๆสองทีเท่านั้น  ประตูก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว  ด้านหลังประตูคือซูหย่าผู้งดงามทรงเสน่ห์  ใบหน้าของนางเป็นสีแดงระเรื่อจากการดื่มเหล้า  นางหรี่ตามองคนทั้งสามที่ยืนอยู่ด้านนอก

“เจ้าเด็กเวร  มารบกวนการพักผ่อนของข้าอีกแล้ว”  ซูหย่าทำเหมือนไม่เห็นเทียนเจ๋อกับกู่อิ่งเลยสักนิด  แขนเรียวยาวของนางยื่นออกมาดึงจวินอู๋เสียเข้าไปข้างใน  แล้วยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นถีบประตูให้ปิด

เทียนเจ๋อรีบยื่นมือออกไปกันไม่ให้ประตูปิด  ในใจแอบเหงื่อออก  แต่ยังคงฝืนทำหน้าเคร่งขรึม

“ทำอะไร?”  ซูหย่ามองเทียนเจ๋อด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนจะพูดว่า  ‘เจ้าอยากโดนอัดรึไง?’

เทียนเจ๋อรีบพูดว่า  “นี่คือคนที่วิหารมารโลหิตส่งมา  เขาอยากคุยกับเจ้าเรื่องสวี่มู่”

“สวี่มู่นี่คือต้นหอมประเภทไหนกัน?”  ซูหย่าเลิกคิ้ว

เทียนเจ๋อหมดคำพูด

สวี่มู่ไม่ใช่ต้นหอม!  แต่เป็นไอ้หัวไข่โชคร้ายที่โดนท่านตบจนเส้นลมปราณวิญญาณถูกทำลายไปเลยไงเล่า!

แม้ว่าในใจเขากำลังโวยวาย  แต่เทียนเจ๋อก็ยังแสร้งทำเป็นสงบนิ่งและพูดว่า  “ศิษย์ของสาขาพลังวิญญาณที่ท่านสั่งสอนไปเมื่อไม่นานมานี้ไง”

“อ๋อ”  ซูหย่าตอบอย่างไม่ไยดี  สายตาของนางเลื่อนไปมองกู่อิ่งที่อยู่ข้างๆเทียนเจ๋อ

กู่อิ่งมีใบหน้าที่หล่อเหลาและมีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า  ถ้าไม่รู้จักนิสัยแท้จริงของเขา  ก็คงยากที่จะเกิดความประทับใจแย่ๆต่อเขา  แต่ซูหย่ามองเขาแวบแรกก็รู้สึกไม่ชอบเขาทันที

มันไม่ใช่เพราะอะไรอย่างอื่นเลย  แต่เป็นเพราะนางสังเกตเห็นว่าสายตาของกู่อิ่งกวาดมองศิษย์ของนางอย่างรวดเร็วจนแทบไม่สังเกตเห็นเลย