ตอนที่ 1968
“นี่คือศูนย์กลางของจักรวาลหรือ?!”
เซี่ยปิงก็มองไปที่ข้างนอกยานอวกาศและค้นพบว่าหลังจากที่ข้ามผ่านพายุอวกาศไปได้ มันก็กลายเป็นเขตพื้นที่ที่เงียบสงบอย่างมาก ไม่มีอันตรายใดๆที่ปรากฏขึ้นมาอีก
ทว่าเขาก็ต้องตกตะลึง เพราะว่าข้างหน้ามีลูกบอลแสงขนาดใหญ่แต่ละลูกที่ปรากฏอยู่ ลูกบอลแสงเหล่านี้มีหลากหลายสีสัน ดูงดงามตระการตาอย่างมาก เหมือนว่าเป็นไข่มุกแห่งท้องทะเลก็ว่าได้
ลูกบอลแสงเหล่านี้ก็แผ่ออร่าที่ลึกลับอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ออกมา เหมือนว่าจะไหลเวียนไปด้วยกฏที่สมบูรณ์แบบของจักรวาล ราวกับเป็นโลกที่ทรงอํานาจ
อย่างไม่ต้องสงสัย ลูกบอลแสงเหล่านี้ก็คือโลกธาตุขนาดเล็กในศูนย์กลางของจักรวาลนั่นเอง
อัจฉริยะจํานวนมากในทางตะวันออกของจักรวาลก็ได้เห็นภาพนี้เช่นกัน
“พวกเจ้าคาดเดาถูกแล้ว ลูกบอลแสงเหล่านี้ก็คือโลกแต่ละใบที่อยู่ในศูนย์กลางของจักรวาล” ชายวัยกลางคนชุดสีน้ําเงินก็เริ่มเอ่ยออกมา “ตราบใดที่สามารถฝ่าทะลวงบาเรียของโลกเหล่านี้ก็จะสามารถเข้าไปข้างในได้”
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นอยู่ที่ใดกัน?”
บางคนก็เอ่ยถามอย่างสงสัย
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นอยู่ภายในโลกที่มีชื่อว่าโลกแห่งการเริ่มต้น นี่คือหนึ่งในสํานักงานใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเรา หลังจากนี้พวกเจ้าจะต้องทําการบ่มเพาะอยู่ภายในโลกแห่งการเริ่มต้นนี้”
ชายวัยกลางคนก็พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม
วิซ!
จากนั้นระยะเวลาสามชั่วโมงก็ผ่านไปในพริบตา ยานอวกาศสีดําลํานี้ก็เดินทางข้ามฝันอวกาศอย่างต่อเนื่อง เดินทางมาไกลนับสิบปีแสง มีความเร็วที่รวดเร็วอย่างถึงที่สุด
“หยุด โปรดยืนยันตัวตนก่อนเข้ามาใกล้กว่านี้”
ในตอนนี้เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากระยะไกล ราวกับเป็นเสียงศักดิ์สิทธิ์ของจักรวาล ท่าให้เลือดลมในร่างกายของบรรดาผู้มีพรสวรรค์ที่อยู่ภายในยานอวกาศดุเดือดพลุ่งพล่านขึ้นมา แทบที่จะกระอักเลือด รู้สึกอึดอัดอย่างมาก ราวกับกําลังเผชิญแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่
“นี่ข้าเอง เปิดช่องทางไปสู่โลกแห่งการเริ่มต้น”
ชายวัยกลางคนชุดน้ําเงินก็เอ่ยออกไปอย่างเรียบเฉย
ปัง!
หลังจากที่สิ้นเสียง ช่องทางห้วงมิติขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาในผืนอวกาศ ราวกับเป็นลําแสงที่ฉีกห้วงอวกาศออกจากกัน กว้างขวางอย่างไร้ขอบเขต ไม่รู้ว่าทอดยาวออกไปสู่ที่ใด
ยานอวกาศลํานี้ก็สั่นสะเทือนเล็กน้อย ทันใดนั้นก็เข้าไปในช่องทางห้วงมิตินี้โดยตรง
“เป็นโลกขนาดใหญ่จริงๆ”
เมื่อข้ามผ่านช่องทางห้วงมิติมา ยานอวกาศก็มาถึงที่โลกแห่งการเริ่มต้นทันที ร่างกายของทุกๆคนก็สันเพิ่มจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาสํารวจออกไปรอบๆ รู้สึกว่าโลกแห่งนี้กว้างใหญ่อย่างไร้ขอบเขต ไม่สามารถมองเห็นจุดสิ้นสุดได้
เซี่ยปิงก็สัมผัสได้ถึงความกว้างใหญ่ของโลกใบนี้เช่นกัน ระยะรัศมีของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ครอบคลุมพื้นที่ในระยะหลายแสนล้านกิโลเมตรอย่างกะทันหัน ทว่าก็ยังมองไม่เห็นถึงจุดสิ้นสุดของโลกใบนี้
ยิ่งไปกว่านั้นโลกนี้ก็เปี่ยมไปด้วยพลังฉีธรรมชาติในทุกหนแห่ง เหนือยิ่งกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกแห่งที่เขาเคยพบมา ดูเหมือนว่าเพียงแค่สูดอากาศอยู่ในสถานที่แห่งนี้ก็เพียงพอที่จะเพิ่มพลังเวทมนตร์ขึ้นมาได้
“เซี่ยปิง พลังฉีธรรมชาติที่ท่วมท้นอยู่ในโลกนี้ไม่ใช่พลังฉีธรรมชาติทั่วๆไป ทว่ามันคือพลังฉีแห่งการเริ่มต้น ถึงแม้ว่ามันจะมีอยู่เพียงเลือนราง ทว่ามันก็แอบแฝงไปด้วยพลังงานที่มหาศาลยิ่งกว่าพลังฉีธรรมชาติทั่วๆไปนับล้านเท่า”
แมวนักปราชญ์ก็อุทานออกมาอย่างประหลาดใจเช่นกัน ถึงแม้ว่ามันจะติดตามเซนต์ดาราจักรมาเป็นระยะเวลานาน ทว่ามันกลับไม่เคยเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นมาก่อน เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ นักบ่มเพาะอิสระอย่างเซนต์ดาราจักรไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้ามา
แน่นอนว่ามันก็ไม่ได้รู้ถึงสถานการณ์ภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์มากนัก ทว่าเมื่อมองในตอนนี้ มันก็รู้สึกราวกับตนเองเป็นเด็กบ้านนอกที่เข้ามาในเมืองเป็นครั้งแรกได้พบกับสิ่งแปลกใหม่
“แน่นอนว่าเป็นโลกที่กว้างใหญ่”
เมื่อได้ยินคําอุทานของผู้คนที่อยู่รอบๆ ชายวัยกลางคนชุดสีน้ําเงินก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย “โลกแห่งการเริ่มต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางที่มากกว่าสามล้านปีแสงเสียอีก ต่อให้เป็นในเขตธรรมดาเอง มันก็ยังถือว่าเป็นโลกที่มีขนาดใหญ่อย่างยิ่ง”
“แน่นอนว่าความกว้างใหญ่ของมันไม่ใช่เหตุผลหลักที่โลกแห่งการเริ่มต้นกลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ สิ่งที่สําคัญยิ่งกว่าก็คือโลกใบนี้มีพลังฉีแห่งการเริ่มต้นอยู่ นี้สําหรับการบ่มเพาะของเผ่าพันธุ์ มนุษย์นั้นเรียกได้ว่ามีผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ มนุษย์ที่บ่มเพาะอยู่ในโลกแห่งนี้จะมีพัฒนาการที่รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์”
“แรกเริ่มเดิมที ก่อนที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะครอบครองโลกแห่งการเริ่มต้นนี้มาได้ พวกเราก็ต้องทําสงครามกับเผ่าพันธุ์นับไม่ถ้วน ไม่รู้ว่ามีผู้คนล้มตายไปมากแค่ไหนกว่าที่จะครอบครองมันมาได้ ในที่สุดมันก็กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ บ่มเพาะและฟูมฟักอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์มนุษย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง
บรรดาอัจฉริยะจากทางตะวันออกของจักรวาลก็ตื่นเต้นกันอย่างมาก พวกเขาก็เคยได้ยินเรื่องของพลังแห่งการเริ่มต้นมาก่อน ในช่วงเวลาปกติมันเป็นทรัพยากรที่ไม่สามารถหาได้ ทว่าภายในโลกนี้กลับสามารถดูดกลืน และใช้บ่มเพาะได้อย่างอิสระ
ว่ากันว่าตราบใดที่ทําการดูดกลืนพลังฉีแห่งการเริ่มต้นเข้ามาเพียงเล็กน้อย มันก็จะสามารถพัฒนาแกนพลังฉีได้เทียบเท่ากับการบ่มเพาะนับยี่สิบปี
หากทําการบ่มเพาะในสถานที่แห่งนี้อยู่ตลอดเวลา จากนั้นแกนพลังฉีจะต้องพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนผู้คนทั่วๆไปไม่สามารถที่จะจินตนาการได้
เรียกได้ว่าสมกับที่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์จริงๆ ช่างล้ําลึกและไม่อาจหยั่งถึง
พวกเขาก็คิดว่าการที่เข้าร่วมกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง หากใช้ชีวิตอยู่ในทางตะวันออกของจักรวาลต่อไป มีที่ไหนที่จะมีโอกาสเลื่อนขั้นไปในระดับเซนต์ บางที่ต่อให้ตายไปก็อาจจะบ่มเพาะได้ไม่ถึงไหน
“เอาล่ะ มาถึงแล้ว พวกเจ้าจะต้องลงไปจากยาน หลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่รับช่วงต่อจากข้า”
ในช่วงเวลานชายวัยกลางคนชุดน้ําเงินก็โบกมือ ยานอวกาศสีดล่านี้ก็สั่นสะเทือนเล็กน้อย จากนั้นก็มีพลังงานที่ห่อหุ้มทั่วทั้งร่างของผู้คนในยานอวกาศก่อนที่จะเทเลพอรต์คนเหล่านี้ออกไปทันที
ซู่ ซู ซู่!!!
ทันใดนั้นผู้คนจํานวนมากก็ปรากฏตัวขึ้นมาในลานจัตุรัสแห่งหนึ่ง
เซี่ยปิงและคนอื่นๆก็มองสภาพแวดล้อมรอบๆของลานจัตุรัสแห่งนี้ ค้นพบว่าตนเองอยู่ในเมืองขนาดใหญ่ ทุกๆที่มีอาคารสูงใหญ่มากมายและดูทันสมัยมาก
พวกเขาก็สัมผัสได้ว่ามีออร่าที่ทรงอานาจอยู่ทั่วทั้งเมือง อย่างน้อยก็เป็นยอดฝีมือในระดับกฏเทวรูป ยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็มีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง เหมือนว่ายอดฝีมือเหล่านี้เป็นเพียงแค่ประชากรทั่วไปของเมืองนี้ก็ว่าได้
บรรดาอัจฉริยะจํานวนมากก็ตกใจไปตามๆกัน มีที่ไหนที่พวกเขาจะเคยเห็นยอดฝีมือจํานวนมากมายเช่นนี้ที่รวมตัวกันอยู่ในเมืองเดียว เหมือนกับว่ายอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าไม่ได้มีค่าอะไรมากเลย เดินผ่านไปผ่านมาอยู่ทั่วทั้งเมือง
แม้แต่ในบางมุมของเมืองก็เหมือนจะมีแรงกดดันที่ทรงอํานาจแผ่ออกมา เห็นได้ชัดว่าในบริเวณนั้นเป็นบริเวณที่เซนต์อาศัยอยู่
ทว่าพวกเขาก็ไม่กล้าสํารวจเข้าไปในพื้นที่บริเวณนั้น กลัวว่าจะไปรบกวนเซนต์และเผชิญกับปัญหาใหญ่ที่ตามมา
“มียอดฝีมือที่มากมายดั่งก้อนเมฆบนฟากฟ้า”
เซี่ยปิงก็หรี่ตาลง ในตอนนี้เขาก็รู้สึกทิ้งเช่นกัน ต่อให้เขาจะไม่ได้ใช้จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ในการสารวจออกไปรอบๆ เขาก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าที่ทรงอานาจซึ่งอยู่รอบๆเมืองนี้
เหมือนว่าจะสามารถหาเซนต์ได้ในทุกหนแห่ง
เรียกได้ว่าสมกับที่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์จริงๆ แตกต่างจากภูมิภาคอื่นๆของจักรวาลอย่างสิ้นเชิง ทางตะวันออกของจักรวาลไม่มีทางที่จะเทียบได้แม้แต่น้อย
ในช่วงเวลานี้ เซี่ยปิงและคนอื่นๆที่ปรากฏขึ้นมาในลานจัตุรัสก็ดึงดูดความสนใจของผู้อื่นเช่นกัน
“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่ากลุ่มของเด็กเหล่านี้จะเพิ่งเข้าร่วมกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้น”
“ดูจากสีหน้าท่าทางของพวกเขาที่ตกตะลึงและงุนงงเช่นนี้ คงจะเป็นมนุษย์ที่มาจากภูมิภาคอื่นๆของจักรวาล ไม่ได้มีต้นกําเนิดอยู่ในศูนย์กลางของจักรวาลนี้”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง ไม่รู้ว่าหลายปีหลังจากนี้ ในหมู่คนเหล่านี้จะเหลือใครกี่คนที่ยังคงอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นได้”
“อัจฉริยะในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นก็มีอยู่มากมาย มากมายจนนับไม่ได้ ทว่าผู้ที่สามารถดํารงอยู่ต่อได้ก็มีเพียงน้อยนิด”
“ข้าสงสัยจริงๆ ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้ ใครกันที่จะมีพรสวรรค์มากพอในการพัฒนาเป็นเซนต์ได้?”
“อย่าคิดมากเกินไปเลย แม้แต่ผู้ที่มีต้นกําเนิดในศูนย์กลางของจักรวาลก็ยังมีเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะมีพรสวรรค์มากพอจะพัฒนาเป็นเซนต์ได้ อย่าตั้งความหวังเกินไป”
“ว่ากันว่าในบรรดาคนเหล่านี้มีอัจฉริยะคนหนึ่งที่มีนามว่าเซี่ยปิง มาจากนิกายฟ้าดินในทางตะวันออกของจักรวาล ก่อนหน้านี้เขาสามารถเอาชนะศิษย์นอกหลายคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นได้ เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก”
“มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยรี? ไม่คาดคิดว่าไม่ทันได้เข้าร่วมกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นก็มีพลังอํานาจในระดับนั้นแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนี้จะพอมีฝีมืออยู่เหมือนกัน ควรที่จะจับตามองไว้”
ยอดฝีมือจํานวนมากของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็กําลังพูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม