บทที่ 333 มีความรักที่ช่างลึก แต่วาสนาช่างตื้น

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

เทาเท่กดโทรไปหลายรอบมาก โทรศัพท์ของหลินจือต่างก็อยู่ในสถานะปิดเครื่อง

เขามองไปทางไวท์และพวกคุณท่านด้วยความมึนงง “ทำไมหลินจือไม่มา? โทรศัพท์ก็โทรไม่ติด?”

ตอนที่เขาออกเดินทางไปเขาเอสเลย์หลินจือกังวลจนจะร้องไห้ออกมา ไม่มีเหตุผลที่ตอนนี้เขากลับมาแล้วแต่เธอไม่รออยู่ที่โรงพยาบาล

คุณท่านจับไม้เท้าเม้มปากแล้วหลบสายตา ไวท์เองก็รู้สึกผิดไม่กล้ามองตาเขา มีเพียงแต่วีนาที่กอดอกพูดอย่างเสียดสีว่า “นายยังจะนึกถึงเธออยู่ทำไม? ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้!”

“หมายความว่าอะไร?” เทาเท่รีบหันไปมองวีนาทันที หากนั่นไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเขา เขาสามารถเดินขึ้นไปจับคอเสื้อของเธอมาไถ่ถามได้เลย

วีนาตะโกนด้วยความโมโห “ฉันบอกว่า หลายวันก่อนนายให้เธอไปตรวจทั้งร่างกายไม่ใช่เหรอ? ผลการตรวจออกมาว่าเธอไม่สามารถตั้งครรภ์ได้!”

“แม่ไปหาเธอแล้วเหรอ?” เทาเท่เหมือนไม่ได้สนใจเรื่องที่หลินจือสามารถตั้งครรภ์ได้หรือเปล่า แต่ว่าจ้องวีนาด้วยนัยน์ตาที่แหลมคมและถามอย่างไม่พอใจ

วีนาตกใจนัยน์ตาของเขามาก หลบสายตายอมรับแล้วตอบกลับ “แน่นอนว่าฉันไปหาเธอแล้ว เธอไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ยังจะก่ออยู่บนตัวของนายทำไม!”

คำพูดของวีนาพึ่งพูดจบ ก็เห็นเทาเท่กำหมัดแน่นทั้งสองข้าง เพราะว่าโมโหเกินไป กระดูกถูกกำแน่นจนเกิดเสียงแกรกแกรก

วีนาตกใจจนเดินถอยหลังไปก้าว พูดตะโกนด้วยความกลัวตัวสั่นงก “นายจะทำอะไร? หรือนายกล้าจะมาตีฉันเหรอ?”

ตอนนี้พวกเขาต่างก็อยู่ในห้องทำงานของไวท์ โซเมนและนทีบดีก็อยู่ โซเมนและนทีบดีเห็นสถานการณ์แล้วก็รีบพาวีนาออกไป เดี๋ยวจะวุ่นวายและแย่ไปกว่านี้

ไม่ว่าโซเมนหรือนทีบดี ต่างก็รู้สึกว่าครั้งนี้วีนาทำเกินไป เทาเท่เสี่ยงชีวิตไปช่วยพินอินที่เขาเอสเลย์ วีนาไม่เพียงแต่ทำการป้องกันอยู่ภายหลังให้ดี ยังไปยั่วโมโหหลินจืออีก

หากไม่ใช่เพราะพวกเขาไปทันเวลา เทาเท่ที่ถูกไกรภพบังคับให้ดื่มยาไปยังไม่รู้ว่าเลยว่าตอนนี้จะถูกไกรภพต่อยตีไปถึงสภาพไหน เทาเท่คือคนที่ผ่านอันตรายที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด วีนากลับทำแบบนี้กับหลินจือ หัวใจของเทาเท่จะถูกทำร้ายไปถึงสภาพแบบไหนเนี่ย?

ในห้องทำงานเทาเท่ถามไวท์ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ก่อนหน้านี้เทาเท่เองก็ไม่รู้ผลการตรวจของหลินจือ ไวท์จึงพูดอธิบายตามความจริง สำหรับเรื่องที่วีนาไปหาหลินจือแล้วพูดอะไรไปบ้าง ก็พูดบอกอย่างละเอียด

พอเทาเท่ได้ยินว่าวีนาไปถึงก็ขึ้นไปตบหลินจือ ทันใดนั้นก็เจ็บปวดจนยกมือขึ้นมาจับหน้าอก แล้วได้ยินว่าหลินจือจากไปอย่างเด็ดขาด คนทั้งคนของเขาล้มนั่งอยู่บนโซฟาอย่างอ่อนแรงและเศร้าใจ

นี่ก็คือแม่ที่ดีของเขา บีบบังคับให้ผู้หญิงที่เขารักจากไป

ไวท์นำจดหมายที่หลินจือเขียนให้เทาเท่มอบให้กับเขา “เธอบอกว่าคำพูดที่อยากจะพูดกับในอยู่จดหมายฉบับนี้หมดเลย”

เทาเท่จ้องจดหมายฉบับนั้น ไม่มีความกล้าที่จะรับมา เพราะว่าเหมือนจะเดาออกคร่าวๆ แล้วว่าหลินจือจะพูดอะไรในจดหมาย

เขาไม่อยากเลิก ไม่อยากเสียเธอไป เหมือนว่าการไม่อ่านจดหมายฉบับนี้ เธอก็จะไม่จากเขาไป

คุณท่านเดินมาหยิบจดหมายฉบับนั้นแล้วยัดเข้าไปในมือของเขา “ตระกูลฟอเรนาของพวกเราทำผิดของเธอเอง ไม่ว่าจะดีหรือร้าย นายต้องเผชิญหน้ากับมัน!”

เทาเท่เม้มปากและแกะจดหมายฉบับนั้น อ่านทีละตัวทีละประโยค

จดหมายนั้นหลินจือเขียนเองกับมือ ลายมีของเธอเหมือนดั่งตัวเธอที่สง่างาม ร่องรอยอ่อนๆ เต็มหน้ากระดาษ

เทาเท่ :

ในตอนที่นายเห็นจดหมายฉบับนี้ ฉันได้ออกจากเมืองเจสเวิร์ดแล้ว

สำหรับเหตุผลที่จากไป คิดว่านายน่าจะได้ยินจากทางไวท์แล้ว

ฉันรู้ว่านายต้องโกรธมากๆ โมโหมากๆ ฉันเองก็รู้ว่านายต้องโทษฉัน เกลียดฉัน

จริงๆ มันไม่จำเป็นเลย ระหว่างฉันกับนาย อาจจะเป็นเหมือนกับที่เขาว่ากันว่า “มีความรักที่ช่างลึก แต่วาสนาช่างตื้น” สินะ

สำหรับฉันในตอนนี้ พูดบอกลากันต่อหน้านั้นโหดร้ายมาก ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะจากลาไปโดยไม่บอกกล่าว

หวังว่านายจะสามารถลืมฉันได้ และเริ่มต้นชีวิตใหม่

ฉันเองก็จะมีชีวิตที่ดี จะอวยพรนายจากเมืองเวลฟ์ที่ห่างไกล

ดูแลตัวเองดีๆ นะ ลาก่อน

จดหมายฉบับนี้สั้นมาก ทว่าแต่ละตัวอักษรนั้นกลับกำลังทำลายหัวใจของเทาเท่

“มีความรักที่ช่างลึก แต่วาสนาช่างตื้น? มีความรักที่ช่างลึก แต่วาสนาช่างตื้น!” เทาเท่บีบจดหมายที่อยู่ในมือแล้วพูดอย่างประชด

ก่อนหน้านี้เขาเคยหวังว่าเธอสามารถใช้ลายมือที่สง่างามของเธอเขียนอะไรบางอย่างเพื่อเขา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้มาคือจดหมายบอกลา

ตรงหน้ามีภาพวันเวลาหวานๆ และเงียบสงบในช่วงนี้ที่อยู่กับเธอผ่านไป ภาพแต่ละภาพผ่านไปตาไปว่าเขาเจ็บปวดลำบากเพียงไหนเพื่อชนะใจเธอกลับมา เขาที่โมโหมากจับหน้าอกและไออย่างรุนแรงไปสักพัก จู่ๆ ตรงหน้าก็มืดไปหมดแล้วสลบไป

“เทาเท่!” คุณท่านและไวท์ต่างก็ตกใจมาก รีบขึ้นไปพยุงคนไว้

โชคดีที่ตอนนี้อยู่ในโรงพยาบาล เทาเท่จึงถูกส่งไปที่ห้องรักษาทันที คุณหมอที่รักษาให้การวินิจฉัยว่า :ร่างกายไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ในใจมีอารมณ์มากมายเก็บไว้ที่ไม่ได้จัดการเป็นช่วงเวลาหนึ่ง ดังนั้นจึงได้โมโหจนสลบไป

พวกคุณท่านและไวท์ต่างก็โล่งอกไปที วีนายืนอยู่ข้างๆ สีหน้าไม่ค่อยน่าดูสักเท่าไหร่

ชัดเจนเลยว่า ลูกชายของเธอคนนี้โมโหจนสลบไปเพราะเธอ

ลูกชายโมโหจนสลบ ลูกสาวก็อยู่ในห้องฉุกเฉินในสถานการณ์ที่อันตราย ทันใดนั้นความรู้สึกของวีนาก็โศกเศร้าขึ้นมาทันที

สถานการณ์ทางเทาเท่ดีขึ้นพอดี ทางห้องฉุกเฉินก็มีข่าวส่งมาว่า : เพราะว่าพินอินสูบยามากเกินไปจึงทำให้อวัยวะเสียหาย ไม่สามารถช่วยกลับมาได้

ในตอนที่วีนาได้ยินข่าวนี้ก็สลบไปในทันที คุณท่านเองก็ตัวสั่นเกือบจะทนไม่ไหว

ถึงแม้ว่าพินอินเดินมาถึงจุดนี้ล้วนเพราะการกระทำของเธอเอง แต่ว่าคนเป็นๆ คนหนึ่งเสียชีวิตไปแบบนี้ พวกเขาก็ถูกโจมตีไม่น้อยเลย

“บาปกรรมเอ้ยบาปกรรม!” คุณท่านใช้ไม้เท้ากดทิ่มที่พื้นอย่างแรง ตะโกนพูดอย่างเจ็บปวดและผิดหวัง

เขาว่ากันแล้วว่าการเป็นพ่อแม่ต้องทำความดีเยอะๆ จะได้สะสมแต้มบุญวาสนาให้ลูกๆ แต่ว่าไกอาและวีนาสองสามีภรรยาคู่นี้ ทั้งชีวิตนี้ไม่ได้สะสมแต้มบุญวาสนาเลยแม้แต่น้อย ลูกๆ ของเขาคนหนึ่งเจ็บปวดเพราะความรัก อีกคนหนึ่งไม่มีแม้กระทั่งชีวิต

หลังจากที่เทาเท่ฟื้นขึ้นมาแล้วได้ข่าวว่าพินอินเสียชีวิตแล้ว ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ

เห็นสภาพที่ผอมแห้งและทรุดโทรมของพินอินตอนอยู่ที่เขาเอสเลย์ เขาก็มีลางไม่ดีแล้ว คนปกติใครจะสามารถกลายเป็นสภาพร่างผีแบบนั้นได้ภายในไม่กี่วัน ไกรภพต้องทรมานเธออย่างโหดร้ายแน่นอน

ไกรภพไม่ได้คิดอยากจะเก็บชีวิตของเธอไว้ตั้งแต่แรก ไกรภพต้องการแม้กระทั่งชีวิตของเขา ไกรภพอยากให้พ่อแม่ของเขารับรู้ความรู้สึกของการเสียลูกๆ ไป

สำหรับพินอิน เทาเท่พูดได้เพียงแค่ว่าเขาพยายามช่วยสุดความสามารถแล้ว เขาไม่มีความเสียใจ สำหรับผลสุดท้ายนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสามารถตัดสินใจได้

วีนาฟื้นขึ้นมาจากการสลบ ได้ข่าวว่าให้ไปเยี่ยมพินอินครั้งสุดท้าย วีนาร้องไห้ดังสนั่น “พินอิน ลูกรักของแม่!”

“ไม่มีหนูแล้ว แม่จะมีชีวิตอยู่ต่ออย่างไร……”

“ลูกสาวที่น่าสงสารของแม่ หนูตายอย่างอนาถใจมาก!”

คุณท่านที่อยู่ข้างๆ เห็นสภาพนี้ของวีนาแล้วก็โมโหหนักมาก และ่ไมได้โมโหเพียงเพราะเรื่องเดียว ขอแค่เธอสั่งสอนพินอินอย่างเข้มงวดเล็กน้อย พินอินก็จะไม่ตกอยู่ในสภาพวันนี้

รู้เลี้ยงแต่ไม่อบรมนั้น การตายของพินอินในวันนี้ หนีไม่พ้นความเกี่ยวข้องของเธอกับไกอา

เธอยังมีหน้าร้องไห้อีก?

ยังไม่รู้สึกผิดกลับตัวกลับใจและนึกคิดว่าครึ่งหลังของชีวิตนี้จะเข้ากันได้ดีกับลูกชายที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวอย่างไร?”