เพราะว่าไกรภพโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย ดังนั้นการตายของพินอินจึงไม่มีใครสามารถรับผิดชอบได้
ในตอนที่ตำรวจเจอตัวของไกรภพใต้ผา เขาไม่มีลมหายใจตั้งนานแล้ว พวกลูกน้องของไกรภพก็ถูกตำรวจจำกุมดำเนินคดีในไม่ช้า จากการสารภาพของพวกเขาตำรวจจึงรู้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ไกรภพได้กระทำอะไรบ้าง
ตั้งแต่เรื่องที่ซูซีถูกวางยา ขับรถชนเทาเท่และหลินจือ ไปถึงเรื่องการตายของเนียร์ และต่อด้วยพินอิน ลูกน้องพวกนั้นของไกรภพสารภาพมาอย่างชัดเจน
เนียร์เองก็ถูกไกรภพวางยา ไกรภพได้บอกกับเนียร์ก่อนว่าตนเองเป็นน้องชายของมัลลิกา จากนั้นก็พูดคำพูดโหดร้ายและแก้แค้นมากระตุ้นเนียร์ จากนั้นเนียร์ก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้จนโดดทะเลไป
สำหรับยาที่อยู่ภายในร่างกายของเนียร์ เป็นยาชนิดที่เมื่อเจอกับความเย็นก็จะออกฤทธิ์ทันที ดังนั้นทางตำรวจจึงตรวจไม่พบยาชนิดใดในร่างกายของเนียร์ เพราะว่าตอนนั้นเนียร์จมอยู่ในทะเลหลายชั่วโมงแล้ว
เพราะว่าการตายของพินอินไม่ได้ดูดีมากนัก ดังนั้นตระกูลฟอเรนาจึงจัดงานศพของเธอง่ายๆ และธรรมดา
เทาเท่ป่วยหนักหลังจากงานศพของพินอิน หลังจากนั้นถึงขั้นอาการหนักจนเป็นไข้ไม่ลด
ไวท์ที่เป็นคุณหมอ ในตอนที่รักษาให้เทาเท่แล้วก็ได้พูดกับโซเมนและนทีบดีว่า “ร่างกายของเท่ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก ที่ป่วยหนัก มีความเป็นไปได้สูงเพราะคิดมากและกังวลเกินไป”
ความคิดมากและกังวลมากเกินไปนี้ พวกเขาต่างก็รู้ว่าเพราะอะไร
หลินจือออกจากเมืองเจสเวิร์ดแล้วเหลือจดหมายแบบนั้นไว้ให้เขา ชัดเจนเลยว่ากำลังบอกเลิกกับเขาผ่านทางอ้อม และตั้งแต่ที่หลินจือจากไปก็ไม่มีแม้กระทั่งการโทรและข่าวคราวใดๆ ส่งมาให้เขาเลย พยายามจัดงานศพของพินอินให้เสร็จสิ้น คือขีดจำกัดขั้นสุดของเทาเท่แล้ว
โซเมนและนทีบดีเครียดมาก “ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”
คุณท่านอายุมากแล้ว วีนาก็ท้อแท้หมดหวังเพราะการตายของพินอิน ไกอาก็อยู่ต่างประเทศ ได้ข่าวว่าเรื่องการถูกลักพาตัวในครั้งนี้ก็ได้รับแผลมาไม่น้อย แม้แต่ตนเองยังเอาตัวไม่รอด งานศพของลูกสาวพินอินคนนี้ยังกลับมาไม่ทันเลย
ตอนนี้ข้างกายของเทาเท่ก็ไม่มีใครแล้ว เหลือเพียงแต่เพื่อนที่ดีสามคนนี้ของเขาคอยเฝ้าดูแล
เห็นสภาพของเทาเท่ในวันนี้แล้ว ไม่ว่าใครก็ทั้งสงสารและเจ็บปวด
โซเมนจ้องมองชายที่นอนอยู่บนเตียงอย่างเฉื่อยชาและเซื่องซึมด้วยความหวังให้เขาดีขึ้น “ดูความก้าวหน้าแค่นั้นของเขาสิ อันตรายที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดพวกเราต่างก็ผ่านมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะทรุดลงเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว!”
นทีบดีไม่ชอบฟังคำพูดของโซเมนที่ไม่เห็นความรักเป็นเรื่องสำคัญ “นี่นายไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็ไม่เข้าใจอยู่แล้ว รอให้วันไหนนายมีผู้หญิงที่ตนเองรักแล้วไม่เอานาย ฉันจะดูว่านายจะเข้มแข็งเท่าเท่หรือเปล่า”
โซเมนทำสีหน้าดูถูก “ก็แค่ผู้หญิงเอง หาคนใหม่ก็จบ”
โซเมนพึ่งพูดจบ ควีนก็เคาะประตูเดินเข้าห้องผู้ป่วย
นทีบดีหันไปมองโซเมนทันทีเหมือนว่าจะมีเรื่องสนุกๆ ให้ดูแล้ว ตอนนี้โซเมนคบกับควีน เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไร “ก็แค่ผู้หญิงเอง หาคนใหม่ก็จบ” คำพูดประมาณ ควีนต้องได้ยินแล้วแน่นอน
นทีบดีอยากเห็นภาพที่ควีนโมโหและโซเมนเขินอาย แต่ว่าเขามองความแน่วแน่ของควีนต่ำไป เธอพูดเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น “ฉันมาส่งเอกสารสองสามฉบับ”
ถึงแม้ว่าเทาเท่จะอยู่ในโรงพยาบาล ทว่าในตอนที่ได้สติก็ยังต้องจัดการงานวิชาการบางอย่าง งานส่วนมากของฟอเรนากรุ๊ปในตอนนี้มีควีนและพี่จอนห์สองพี่น้องคอยจัดการ ทว่ามีบางอย่างที่ต้องให้เทาเท่เซนต์ชื่อ
ควีนวางเอกสารลง จากนั้นก็ถามโซเมนสองสามประโยคเกี่ยวกับอาการของเทาเท่และเตรียมตัวจะจากไป
นทีบดียิ้มแล้วพูดกับเธอว่า “ผู้ช่วยควีนหลายปีมานี้คุณยิ่งอยู่ยิ่งเก่งแล้ว ต่อจากนี้ใครแต่งงานกับคุณ วาสนาช่างดีจริงๆ เข้าครัวก็ได้ทำงานข้างนอกก็ได้เพอร์เฟกต์ที่สุด”
“ขอบคุณคำชมจากทนายนทีบดีค่ะ” ควีนจะฟังไม่ออกเหรอว่าประโยคนี้นทีบดีตั้งใจพูดให้โซเมนฟัง ดังนั้นจึงแค่ตอบกลับอย่างเฉยชาแล้วหันหลังจากไป
โซเมนไม่มีทางสู่ขอเธอ ถึงแม้ว่านทีบดีจะพูดกระตุ้นยังไงก็ไม่มีประโยชน์
หลังจากที่ควีนออกไปแล้วนทีบดีถามโซเมนอย่างเห็นใจว่า “นายไม่ลองคิดที่จะเป็นฝั่งเป็นฝากับควีนจริงๆ เหรอ?”
นทีบดีรู้สึกชื่นชมควีนจากใจจริง “ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีตระกูลที่มีอำนาจและโดดเด่น แต่ว่าเธอมีความสามารถและเพอร์เฟกต์มากๆ ภายหลังต้องสามารถช่วยนายพัฒนาแมคเคนซีกรุ๊ปได้มากมายแน่นอน”
นทีบดีไม่ได้คุยโวโอ้อวดควีนเลย ควีนเพอร์เฟกต์มากจริงๆ
หลายปีมานี้การที่ได้ฝึกฝนอยู่ข้างกายของเทาเท่เป็นแขนซ้ายและแขนขวาของเทาเท่ หากอยู่ข้างนอกสามารถตั้งบริษัทเองและดูแลจัดการบริษัทได้ตั้งนานแล้ว หากไม่ใช่เพราะพวกเขาสองพี่น้องเต็มใจทุ่มเทให้กับฟอเรนากรุ๊ป บริษัทข้างนอกเตรียมรอที่จะแย่งพวกเขาไปเป็นประธานเต็มไปหมด
ใครจะไปรู้ว่าโซเมนกลับพูดตอบอย่างขี้เกียจว่า “ผู้หญิงเนี่ยมีความสามารถมากมายขนาดนั้นทำไม อ้อนเป็นใจอ่อนเป็นและดูแลผู้ชายบนเตียงได้ดีก็พอแล้ว อีกอย่างฉันโซเมนยังต้องการผู้หญิงมาช่วยพัฒนาแมคเคนซีกรุ๊ปอีกเหรอ?”
นทีบดีพูดอย่างเข้าใจโจ่งแจ้ง “ฉันเข้าใจแล้ว นี่นายยังรักไม่พอ หากนายรักจริงๆ ไม่ว่าเธอมีความสามารถหรือเปล่า ไม่ว่าเธอจะมีชาติตระกูลหรือเปล่า ก็จะสู่ขอเธอกลับบ้านโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”
นทีบดีพูดถึงตอนสุดท้ายแล้วก็ยังไม่ลืมที่จะเพิ่มบริบทให้ตนเอง “อย่างเช่นฉันที่ทำต่อภรรยาของฉัน”
เพราะว่ารักมาก ก็คาดหวังตั้งแต่เขายังอายุน้อยๆ เริ่มทำการวางแผน สุดท้ายก็ค่อยๆ ถูกดึงดูดเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง
ภายนอกประตู ควีนที่ไม่ได้ออกไปทันที กำหมัดแน่นทั้งสองข้างอยู่ข้างลำตัว นัยน์ตามีรอยยิ้มฝืนผ่านไป
เธอไม่ควรจะอยู่ต่อและรอฟังอย่างไม่ตายใจว่าพวกเขาจะพูดอะไรถึงเธอ นี่ก็คือการสร้างความลำบากใจให้กับตนเองชัดๆ
เขาแค่มีความรู้สึกสดใหม่กับเธอชั่วขณะเท่านั้น ก็แค่เล่นๆ เพราะว่าผู้หญิงของเขาในก่อนหน้านี้ยังไม่มีประเภทเหมือนเธอ
ควีน เธอยิ่งโลภขึ้นไปทุกทีแล้ว
ตอนแรกเธอแค่คิดว่า ขอแค่ได้เป็นผู้หญิงของเขาก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?
แค่คิดว่าสามารถคบกับเขา ถึงแม้ว่าวันเดียวก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ?
เธอรู้มาโดยตลอดว่าเขาไม่รักเธอไม่ใช่เหรอ?
ได้ทำการเตรียมตัวที่เขาจะสามารถจากไปได้ตลอดเวลาไม่ใช่เหรอ?
ตอนนี้เธอกำลังรอคอยอะไรอยู่? กำลังคาดหวังอะไรอยู่?
และกำลัง……เจ็บปวดอะไรอยู่?
เธอพูดแบบนี้กับตนเอง ค่อยๆ คลายมือทั้งสองข้างที่กำหมัดแน่น ก้าวเท้าเดินจากไปอีกครั้ง
ในตอนที่อาการของเทาเท่ค่อยๆ ดีขึ้น เรื่องแรกที่บอกกับไวท์ก็คือ “ฉันจะออกจากโรงพยาบาล”
ไวท์หมดคำจะพูด “ตอนนี้นายยังหายดีไม่หมดเลย จะออกจากโรงพยาบาลทำไม? เรื่องงานพวกควีนและจอนห์ต่างก็ส่งมาให้นายจัดการแล้วไม่ใช่เหรอ?”
นัยน์ตาของเทาเท่แน่วแน่และยืนหยัด “ฉันจะไปเปกก้า”
ไวท์ท้อแท้มาก “ฉันรู้ว่านายมีคำพูดมากมายจะพูดกับหลินจือ แต่อย่างน้อยต้องรอให้นายหายดีหมดก่อนค่อยไป——”
เทาเท่พูดแทรกตัดคำพูดของไวท์ “ฉันฝันว่าเธอป่วย อาการหนักมาก ฉันต้องรีบไปดู”
ไวท์ปวดหัว “ถึงแม้ว่าเธอจะป่วย เธอก็อยู่ที่เปกก้า ตระกูลแม็กซิมัสต้องเชิญหมอจากทั้งโลกให้เธอแน่นอน นายไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร?”
“อีกอย่าง นายเองก็ยังป่วยอยู่!” ไวท์พูดเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด เทาเท่กลับฟังคำเกลี้ยกล่อมไม่เข้าเลยสักประโยค เลิกผ้าห่มแล้วเตรียมตัวจะออกไป สุดท้ายโซเมนก็เดินเข้ามา และกดทับเขาพร้อมกับไวท์