ตอนที่ 1611 คลั่งไคล้ยา (1)
แสงตะวันยามเย็นอาบไล้ใบหน้าอันหล่อเหลาของกู่อิ่ง รอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากกดลึกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยจิตสังหารแทนที่รอยยิ้มอ่อนโยนที่มีอยู่เดิม ภายใต้แสงอาทิตย์อัสดง มันดูแปลกประหลาดเล็กน้อย
ทันใดนั้น เงาดำร่างหนึ่งก็กระโจนเข้ามาที่ด้านข้างของกู่อิ่ง
“นายน้อย”
กู่อิ่งหันไปมองชายชุดดำคนนั้น
“พวกตาแก่ในสำนักธาราเมฆคอยระวังข้าอยู่ ถ้าเราจะหาสิ่งนั้น ดูเหมือนพวกเจ้าจะต้องออกโรงแล้ว” รอยยิ้มของกู่อิ่งแฝงความกระหายเลือดแบบเดียวกับที่จวินอู๋เสียคุ้นเคย ต่างกับตอนที่อยู่ในสำนักธาราเมฆเป็นคนละคนเลย
“นายน้อยหมายความว่า?” ชายชุดดำถามอย่างระวัง
“การที่สำนักธาราเมฆสามารถนั่งอยู่ท่ามกลางสิบสองวิหารและเก้าอารามได้ และยังมีกลุ่มอำนาจมากมายที่คอยระวังพวกเขาอยู่ตลอดเวลา มันจะต้องมีเหตุผลอยู่แน่ ไอ้แก่นั่นไม่ยอมบอกอะไรมากนัก ถ้าพวกเจ้าจะตรวจสอบเรื่องนี้ก็ต้องระวังให้ดี อย่าให้ถูกจับได้” กู่อิ่งพูดเบาๆพลางเอาสองมือไพล่หลัง เขาหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตอนค้นหาสิ่งนั้นก็ช่วยข้าตรวจสอบคนคนหนึ่งด้วย”
“ใครขอรับ?”
“จวินอู๋ที่พักอยู่ห้องตรงข้ามกู่ซินเยียน” ซูหย่าปกป้องจวินอู๋ดีเกินไป เขาพยายามเบี่ยงประเด็นไปที่จวินอู๋หลายครั้ง ให้ชื่อของจวินอู๋ถูกพูดถึง แต่ซูหย่าก็ขวางไว้ได้หมด จวินอู๋ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำตั้งแต่ต้นยันจบ ทำให้เขาไม่สามารถระบุข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากเรื่องนี้ได้เลย
ไม่รู้ทำไม ในใจของกู่อิ่งถึงได้มีลางสังหรณ์ที่รุนแรงมากว่าจวินอู๋คนนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับจวินเสียแน่ๆ
ดวงตาคู่นั้น เหมือนกันเกินไป
“เช่นนั้นต้องการให้ข้าฆ่าเขาไหมขอรับ?” ชายชุดดำพูดอย่างเย็นชา น้ำเสียงเต็มไปด้วยจิตสังหารรุนแรง
แต่กู่อิ่งกลับส่ายหน้า “เจ้าแค่ต้องบังคับให้เขาเรียกภูติประจำตัวออกมาเท่านั้น ไม่ต้องฆ่า”
เขาอยากลิ้มรสของอร่อยด้วยตัวเอง
“แน่นอนว่าบาดเจ็บสาหัสได้ ข้าไม่สน” ในคำพูดที่กล่าวด้วยรอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยเจตนาชั่วร้ายที่น่ากลัวยิ่งนัก
“ขอรับนายน้อย” ชายชุดดำรับคำสั่งทันที
กู่อิ่งพยักหน้าอย่างพอใจพร้อมกับยิ้มอย่างร้ายกาจ เขาเดินช้าๆลงไปยังเชิงเขาฝูเหยา ขณะที่ในป่าทึบด้านหลังมีเงาดำหลายสิบร่างเคลื่อนที่ผ่านป่าไปอย่างรวดเร็ว
บนภูเขาฝูเหยาที่เงียบสงัด ทุกอย่างดำเนินไปอย่างไร้เสียง
หลังจากส่งกู่อิ่งออกจากสำนักธาราเมฆ เทียนเจ๋อก็ไปที่ห้องทำงานของชายชราตัวเล็กทันที แต่หาจนทั่วห้องก็ไม่พบแม้แต่เงาของชายชรา ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เขาก็ได้กลิ่นหอมจางๆของสมุนไพร
สังหรณ์ร้ายผุดขึ้นในใจของเทียนเจ๋อ เขาเดินตามกลิ่นนั้นผ่านลานอันเงียบสงบ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องด้านหลังลาน
ห้องเล็กๆนี้ถูกซ่อนไว้อย่างดี มันตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของที่พักอาจารย์ใหญ่สำนักธาราเมฆ มีต้นสนซึ่งเขียวชอุ่มตลอดปีล้อมรอบ ชั้นวางของที่อยู่นอกห้องเต็มไปด้วยหมวกไม้ไผ่วางเรียงราย หมวกไม้ไผ่ที่วางอยู่บนชั้นเหล่านั้นถูกพลิกกลับด้านและใส่สมุนไพรหลากหลายชนิดเอาไว้
ในโลกนี้คนที่ใช้หมวกไม้ไผ่ใส่สมุนไพรทุกชนิดนั้นหายากจริงๆ
ประตูห้องเล็กนั้นปิดสนิท แต่กลิ่นหอมอ่อนๆของสมุนไพรยังคงโชยออกมาจากข้างใน
เทียนเจ๋อรู้สึกได้ทันทีว่าเปลือกตาของเขากระตุกอย่างรุนแรง เขาพุ่งเข้าไปราวสายฟ้า ตรงที่ประตูและผลักมันเปิดออกทันที!
“อาจารย์! เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือว่าท่านปรุงยาได้แค่หนึ่งวันต่อเดือน? ถ้าท่านเกิดเผาบ้านอีกรอบจะทำยังไง!!” ทันทีที่เทียนเจ๋อผลักประตูเข้าไป เขาก็ร้องโหยหวนออกมา