ตอนที่ 250 เลื่อนเป็นกุ้ยเฟย / ตอนที่ 251 ตามหากู้เฉินหรงด้วยกัน

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 250 เลื่อนเป็นกุ้ยเฟย 

 

 

 

 

 

พอเห็นสีหน้าซูจิ่วซือ ซูเหิงก็พอจะเข้าใจ ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแต่กำชับ “พี่ ข้างนอกอันตราย ระวังตัวด้วย” 

 

 

ซูจิ่วซือไม่ได้อธิบายเรื่องระหว่างตนกับกู้เฉินหรงให้ซูเหิงกับซูเหลียงอินฟัง นางเองก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร 

 

 

ทันทีที่รู้ความจริง นางไม่คิดอะไรทั้งนั้น ในที่สุดอารมณ์ที่เคยสะกดมาตลอดก็ไม่สามารถสะกดไว้ และระบายออกมาทันที ในสมองคิดอย่างเดียว ไม่ว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างไร นางก็ต้องไปตามหากู้เฉินหรง 

 

 

นางติดหนี้กู้เฉินหรงมากเหลือเกิน 

 

 

ซูจิ่วซือยังไม่ทันเข้าวัง จื่อซูก็วิ่งพรวดเข้ามา รายงาน “คุณหนู พระสนมกุ้ยเหรินได้รับการแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟย เรื่องนี้ฝ่าบาทมีพระราชโองการแล้ว” 

 

 

พอได้ยินว่ากู้ชิงเฉิงได้รับแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟย ซูจิ่วซือก็ประหลาดใจ ทำไมจู่ๆ เฟิ่งอวิ๋นหล่างมีพระราชโองการอย่างนี้ 

 

 

“เป็นเรื่องที่น่ายินดี ต่อไปฮองเฮาคงไม่เป็นที่โปรดปรานแล้ว” 

 

 

ซูเหลียงอินหัวเราะ แม้นางไม่เคยใกล้ชิดกู้เฝิ่นไต้ แต่ก็ไม่ชอบกู้เฝิ่นไต้โดยสัญชาตญาณ พอได้ข่าวว่ากู้ชิงเฉิงได้รับแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟย นางจึงดีใจมาก 

 

 

“ข้าจะเข้าวัง ครั้งนี้ที่น้องรองออกจากคุกได้เพราะกู้ชิงเฉิงช่วย น้องรอง เจ้ากลับไปพักผ่อนในห้องก่อน ข้าเข้าวังแล้ว” 

 

 

ซูเหิงพยักหน้า ซูจิ่วซือให้ซูหลานเตรียมรถม้า จะรีบเข้าวัง 

 

 

จู่ๆ กู้ชิงเฉิงก็ได้รับแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟย เรื่องนี้ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในวังใน ผู้คนจำนวนมากไปเยี่ยมคารวะที่วังจื่อจิง แต่กู้ชิงเฉิงกันไว้ที่นอกประตู 

 

 

ระหว่างทางไปวังจื่อจิงซูจิ่วซือพบกู้หลียวน เขาได้รับพระบัญชาจากฝ่าบาทให้เข้าเฝ้า 

 

 

“เกิดอะไรขึ้นกับชิงเฉิงหรือ ฝ่าบาทให้ข้าไปดูแลชิงเฉิง พระสุรเสียงไม่ค่อยปกติ ข้าไม่กล้าทูลถาม รู้สึกเป็นห่วงชิงเฉิง” 

 

 

ซูจิ่วซือรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับกู้ชิงเฉิง เฟิ่งอวิ๋นหล่างให้กู้ชิงเฉิงกินยาเร็วปานนี้ พอนึกขึ้นได้ว่าประเดี๋ยวพอเข้าพบกู้ชิงเฉิง นางอาจจะไม่รู้จักตน ซูจิ่วซือก็รู้สึกไม่สบายใจ  

 

 

แม้การลืมเรื่องราวบางอย่างจะเป็นเรื่องดี แต่การลืมทุกสิ่งทุกอย่างต้องเริ่มใหม่หมด 

 

 

“หลียวน ถ้าชิงเฉิงไม่รู้จักพวกเรา เจ้าคิดอย่างไร” 

 

 

กู้หลียวนหยุดเดิน ถามด้วยความประหลาดใจ “เจ้าหมายถึงว่าชิงเฉิงสูญเสียความทรงจำหรือ” 

 

 

“เป็นไปได้มาก” 

 

 

“ฝ่าบาทต้องการอะไร ต้องการให้นางลืมเรื่องจางเฉิง ถึงกับทำให้นางสูญเสียความทรงจำ ลืมพวกเราผู้เป็นญาติ” กู้หลียวนสีหน้าเครียด “ถ้าไม่ใช่ฝ่าบาท ข้าคงจะชกหน้าเขาแน่ ทำอย่างนี้ข่มเหงกันเกินไปแล้ว” 

 

 

“ฝ่าบาทต้องการอย่างนี้ พวกเราไม่มีใครห้ามได้ ชิงเฉิงนึกถึงเรื่องจางเฉิงตลอดเวลา เป็นปมในใจของนาง ถ้าลืมได้นางก็อาจจะให้อภัยตัวเอง จิตใจก็สบายขึ้น” 

 

 

กู้หลียวนถอนหายใจเบาๆ “เวรกรรมจริงๆ” 

 

 

ทั้งสองไปถึงนอกวังจื่อจิง พอรู้ว่าทั้งสองมา เสี่ยวเหลียนก็พาเข้าไปในห้องโถง รายงานอย่างนอบน้อม “กุ้ยเฟย องค์หญิงกับคุณชายใหญ่มาแล้ว” 

 

 

“เอาละ เจ้าออกไปก่อน” 

 

 

กู้หลียวนมองกู้ชิงเฉิงด้วยความสงสัย ดูแล้วมิมีอะไรเปลี่ยนไป ขณะที่กำลังจะเปิดปาก กู้ชิงเฉิงก็พูดขึ้นก่อน “พี่ จิ่วซือ นั่งสิ!” 

 

 

ทั้งสองมองหน้ากัน กู้ชิงเฉิงไม่ได้สูญเสียความทรงจำเลย 

 

 

“ชิงเฉิง เจ้ายังจำข้าได้หรือ” กู้หลียวนถามด้วยความประหลาดใจ 

 

 

ซูจิ่วซือยิ่งไม่เข้าใจ หรือว่าเฟิ่งอวิ๋นหล่างไม่ได้ให้กู้ชิงเฉิงกินยา ถ้าอย่างนั้นเกิดอะไรขึ้นระหว่างพระองค์กับกู้ชิงเฉิง ทำไมจึงเลื่อนตำแหน่งให้โดยไม่มีเหตุผล 

 

 

 

 

 

—— 

 

 

ตอนที่ 251 ตามหากู้เฉินหรงด้วยกัน 

 

 

 

 

 

กู้ชิงเฉิงงุนงง ยิ้มเจื่อนๆ “พี่ พูดอะไรโง่ๆ ข้าจะไม่รู้จักพี่ได้อย่างไร” 

 

 

“เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ข้ากลัวว่าฝ่าบาทจะทำอะไร…” กู้หลียวนชะงัก ไม่พูดต่อ 

 

 

พอได้ยินกู้หลียวนพูดถึงฝ่าบาท ใบหน้าราบเรียบของกู้ชิงเฉิงก็แสดงความสงสัย “ทำไมข้าจึงอยู่ในวัง ทำไมถึงได้เป็นกุ้ยเฟย พี่ บอกข้าหน่อย เกิดอะไรขึ้น เสี่ยวเหลียนบอกว่าเมื่อห้าปีก่อนข้าก็เข้าวังแล้ว ทำไมข้านึกไม่ออกเลย ดูเหมือนว่าข้าจะลืมอะไรไปหลายเรื่อง” 

 

 

“ชิงเฉิง เจ้าจำฝ่าบาทไม่ได้หรือ” 

 

 

ซูจิ่วซือจับจุดนี้ได้อย่างหลักแหลม  

 

 

“เมื่อวานข้าเพิ่งเห็นฝ่าบาท ถ้าห้าปีมานี้ข้าอยู่ในวังจื่อจิงมาตลอด ทำไมจึงไม่เคยเห็นฝ่าบาทเลยเล่า” 

 

 

กู้ชิงเฉิงเอามือกุมหัว เหมือนกับเริ่มปวดหัว พยายามหวนรำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีต แต่สมองไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเฟิ่งอวิ๋นหล่างแม้แต่น้อย 

 

 

ซูจิ่วซือเข้าใจแล้วว่ากู้ชิงเฉิงเป็นอะไรไป เดิมทีนางเข้าใจว่าเฟิ่งอวิ๋นหล่างเอายาลบความทรงจำให้กู้ชิงเฉิง แต่เวลานี้เห็นแล้วว่าไม่ใช่ กู้ชิงเฉิงลืมเฟิ่งอวิ๋นหล่างไปแล้ว 

 

 

ซูจิ่วซือเคยได้ยินว่าในโลกนี้มียาที่ทำให้ลืมคนที่ตนรักได้ นางเคยได้ยินแต่ไม่เคยเห็น หรือว่าเฟิ่งอวิ๋นหล่างพบยานี้แล้ว 

 

 

“ฝ่าบาทต้องการอะไรแน่ ทุ่มเทพระทัยให้เจ้าลืมพระองค์หรือ เวรกรรม…” กู้หลียวนไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว “เวรกรรมจริงๆ คราวนี้พระองค์จะได้รู้ความรู้สึกของเจ้าเสียที เจ้าลืมพระองค์ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ทรมานทุกวัน” 

 

 

“พี่ พูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร” 

 

 

“เปล่า ไม่มีอะไร บางเรื่องลืมแล้วก็ลืมไป อย่าคิดเลย สุขภาพสำคัญที่สุด” 

 

 

กู้ชิงเฉิงยังคงงุนงง นางรู้สึกว่าตนลืมเรื่องราวมากมาย 

 

 

เช่นนางจำไม่ได้ตนเข้าวังมาอย่างไร จำไม่ได้ว่าจางเฉิงตายอย่างไร กระทั่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างตนกับกู้เฝิ่นไต้ 

 

 

ช่วงเวลาห้าปี ขาดหายไปไม่ปะติดปะต่อในความทรงจำของนาง ราวกับขาดอะไรไปหลายอย่าง ทำให้นางเชื่อมโยงไม่ได้ 

 

 

คราวนี้เฟิ่งอวิ๋นหล่างมีความตั้งใจดีกลับเป็นผลร้าย เรื่องความรักระหว่างทั้งสอง นางไม่อาจพูดอะไรได้ หวังแต่ว่ากู้ชิงเฉิงจะอยู่อย่างมีความสุข 

 

 

“ชิงเฉิง ข้าจะไปจากเมืองหลวงระยะหนึ่ง เจ้าดูแลตัวเองให้ดี” 

 

 

“เจ้าไปไหนหรือ” 

 

 

พอได้ยินว่าซูจิ่วซือจะไป กู้หลียวนก็ถาม 

 

 

“เจ้าไปหาเฉินหรงใช่หรือไม่!” 

 

 

ซูจิ่วซือพยักหน้า “ใช่” 

 

 

“ในที่สุดก็คิดตก ข้าไปกับเจ้า ข้าเองก็อยากออกไปอยู่แล้ว จิ่วซือ เจ้าเตรียมจะไปหาเฉินหรงที่ไหน หลังจากเขาไปแล้วก็ไม่ได้ข่าวเลย” 

 

 

“หุบเขาราชาพิษ” 

 

 

กู้หลียวนตะลึง ไม่เข้าใจความหมายของกู้เฉินหรง ด้านหนึ่งกู้เฉินหรงต้องการปิดบังซูจิ่วซือ อีกด้านหนึ่งกลับบอกซูจิ่วซืออย่างลับๆ จึงซักถาม “เจ้ารู้แล้วว่าเฉินหรงอยู่ไหน เขาก็เขียนจดหมายถึงเจ้าหรือ” 

 

 

“หลียวน พูดอะไรอย่างนี้” 

 

 

ซูจิ่วซือจ้องหน้ากู้หลียวนอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาเขียนจดหมายถึงกู้หลียวน นี่แสดงว่าเวลานี้กู้เฉินหรงปลอดภัยดี พอคิดได้อย่างนี้ ความวิตกของซูจิ่วซือก็ผ่อนคลายลง 

 

 

“เมื่อวานข้าได้รับจดหมายจากเฉินหรง บอกให้ข้าไปหาเขา แต่เขากำชับว่าอย่าบอกเจ้า เรื่องนี้เจ้ารู้มาจากไหน” 

 

 

“เจ้าพาข้าไปหาเขานะ” 

 

 

“เจ้าสองคนมีอะไรปิดบังข้าหรือ ทำไมข้ารู้สึกว่าต้องมีแผนอะไรบางอย่าง” 

 

 

“เจ้ารู้จักเขาตั้งแต่เล็กยังกลัวว่าจะโดนเขาหลอก พรุ่งนี้เราออกเดินทางแต่เช้า” 

 

 

จิ่วซือไม่อยากเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว คิดแต่จะไปหากู้เฉินหรงให้เร็วที่สุด