ตอนที่ 386 ชุนเหนียงกลายพันธุ์ / ตอนที่ 387 ปกป้องด้วยชีวิต

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 386 ชุนเหนียงกลายพันธุ์

 

 

มั่วชิงขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าวรยุทธ์ของนางจะไม่เลว แต่กระบี่ยาวในมือถูกชุนเหนียงหักเป็นท่อนอย่างง่ายดาย มิหนำซ้ำชุนเหนียงยังฆ่าไม่ตาย ตอนนี้นางมีเพียงมือเปล่า ต่อให้วรยุทธ์ดีสักแค่ไหนก็ปราบชุนเหนียงไม่ได้

 

 

นางวิเคราะห์อย่างละเอียด ลักษณะของชุนเหนียงไม่เหมือนโดนพิษนักรบไร้ชีพ หากโดนพิษนักรบไร้ชีพไม่น่าจะเก่งกาจขนาดนี้ จู่ๆ นางก็นึกถึงยาคืนชีพที่เจียงสือพยายามฝึกปรุงมาตลอด หรือว่าเอายาพวกนี้มาใช้กับชุนเหนียงแล้ว

 

 

ต่อสู้กันไปมาหลายครั้ง มั่วชิงก็ค่อยๆ ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ชุนเหนียงเตะทีเดียว มั่วชิงก็เข้าไปในกระท่อมฟาง มั่วชิงปวดแปลบทันใด ครู่เดียวก็ลุกขึ้นมาไม่ได้ ชุนเหนียงไม่ได้ทำอะไรมั่วชิงอีก แต่วิ่งออกจากกระท่อมฟางไป

 

 

หลิงอวี้จื้อกับมู่หรงนี่อวิ๋นวิ่งฉิวไปบนถนนใหญ่ หลิงอวี้จื้อลดความเร็วฝีเท้าลง หายใจหอบ นางเดินไม่ไหวแล้วจริงๆ

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นปล่อยมือ ยื่นมือไปตบหลังหลิงอวี้จื้อเบาๆ

 

 

“ดีขึ้นบ้างหรือยัง”

 

 

“ไม่ไหวแล้ว หากวิ่งต่ออีกข้าคงจะสิ้นลม พวกเราพักสักหน่อย ไม่รู้ว่าทางมั่วชิงจะเป็นอย่างไรบ้าง”

 

 

เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดเต็มหน้าผากของหลิงอวี้จื้อ เธอไม่สนใจแล้วว่าพื้นจะสกปรกหรือไม่ นั่งลงบนพื้นทันที ก่อนนี้ยังรู้สึกหนาว ตอนนี้ร้อนจนแทบไฟลุก

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นมองไปรอบๆ มองไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆ จึงนั่งลงข้างๆ หลิงอวี้จื้อ

 

 

เมื่อครู่ที่เขาดึงมือหลิงอวี้จื้อวิ่งหนีด้วยกัน ในใจบังเกิดความรู้สึกพึงพอใจขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีโอกาสได้จับมือหลิงอวี้จื้อเช่นนี้ มือมีเหงื่อซึมแล้ว แต่ก็ไม่อยากปล่อย แค่อยากจะวิ่งเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ มีชั่วขณะหนึ่งถึงขนาดรู้สึกว่าหลิงอวี้จื้อเป็นของเขา เขากุมมือนางเอาไว้เช่นนี้ได้ตลอดไปไม่ปล่อย

 

 

“ชุนเหนียงไม่มีวิทยายุทธ์ ถึงแม้จะกลายเป็นนักรับไร้ชีพก็ทำร้ายมั่วชิงไม่ได้ ข้าจำได้ว่าพิษนักรบไร้ชีพสามารถแพร่ระบาดได้ มั่วชิงจำเป็นต้องจัดการชุนเหนียงให้สิ้น มิเช่นนั้นตำบลเถาหยวนจะลำบาก”

 

 

หลิงอวี้จื้อขมวดคิ้วกังวลใจ ความร้ายกาจของพิษนักรบไร้ชีพเธอเคยเห็นมานานแล้ว ตำบลเถาหยวนเป็นแค่ตำบลเล็กๆ ธรรมดาๆ หากมีคนโดนพิษนักรบไร้ชีพแล้ว เช่นนั้นตำบลเถาหยวนก็จะจบสิ้น

 

 

หากรู้ก่อนว่าจะทำให้ชาวบ้านที่นี่พลอยลำบากไปด้วย เธอก็คงไม่มาตำบลเล็กๆ แห่งนี้ ควรจะหาที่ๆ ไม่มีคนไปอาศัยอยู่สักพัก

 

 

ทำไมสำนักอู๋จี๋ถึงมีพิษนักรบไร้ชีพเยอะเช่นนี้ หรือว่าการศึกษาพิษปลุกเสกมันง่ายมาก นึกไม่ถึงว่าจะสามารถใช้ได้ตามอำเภอใจ

 

 

“พวกเรากลับไปก่อน ข้ากลัวว่ามั่วชิงจะรับมือชุนเหนียงไม่ไหว ให้อู่จิ้นไปช่วยอีกแรง”

 

 

หลิงอวี้จื้อจำได้ว่าเมื่อก่อน อู่จิ้นฟันฉับเดียวหลิงอวี้หรงก็หัวขาด ถึงแม้ว่าวิทยายุทธ์ของมั่วชิงจะอ่อนกว่าอู่จิ้นเล็กน้อย ก็มากเกินพอที่จะรับมือกับชุนเหนียง แต่เธอก็ยังคงไม่วางใจ

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นประคองหลิงอวี้จื้อลุกขึ้น สองคนเพิ่งจะลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงฟ่อๆ ใจหลิงอวี้จื้อมีลางสังหรณ์อันไม่เป็นมงคล นี่มันชุนเหนียงใช่ไหม

 

 

ชุนเหนียงกระโดดลงมาจากหลังคา การเคลื่อนไหวว่องไวมาก ปากดำมะเมื่อมนั้นมีเลือดไหล เป็นเลือดสีแดงสด หลิงอวี้จื้อมองชุนเหนียงด้วยความตกใจ หรือว่านางกัดคนแล้ว หรือว่ามั่วชิงเกิดเรื่องแล้ว จู่ๆ ชุนเหนียงก็เคลื่อนไหวได้ว่องไวขนาดนี้ ต่างกับท่าทางอุ้ยอ้ายของหลิงอวี้หรงโดยสิ้นเชิง จากภาพที่เห็นรู้สึกว่าจู่ๆ ก็กลายเป็นผู้มีฝีมือ

 

 

หรือว่านางไม่ได้โดนพิษนักรบไร้ชีพ หรือว่าพิษนักรบไร้ชีพถูกยกระดับแล้ว

 

 

ชุนเหนียงไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งเข้าหาพวกเขา มู่หรงนี่อวิ๋นบังหลิงอวี้จื้อเอาไว้ ถีบชุนเหนียงหนึ่งครั้ง แต่ถีบครั้งนี้ทำอะไรชุนเหนียงไม่ได้เลย นางพุ่งเข้ามาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 387 ปกป้องด้วยชีวิต

 

 

หลิงอวี้จื้อเห็นชุนเหนียงจู่ๆ ก็กลายเป็นผู้มีฝีมือเก่งกาจ ยิ่งกังวลเรื่องความปลอดภัยของมั่วชิง เธอยืนอยู่อีกด้าน สายตาจ้องเขม็งไปที่มู่หรงนี่อวิ๋นและชุนเหนียง พูดเตือนว่า

 

 

“นี่อวิ๋น เจ้าต้องระวังตัวด้วย”

 

 

ตอนแรกมู่หรงนี่อวิ๋นคิดว่าชุนเหนียงจะรับมือง่าย ต่อสู้กันไปมาสองสามครั้งก็รู้ว่าตนเองคาดการณ์ผิด เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชุนเหนียง

 

 

ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องปกป้องหลิงอวี้จื้อ จะให้ชุนเหนียงทำหลิงอวี้จื้อบาดเจ็บไม่ได้ คิดถึงตรงนี้ มู่หรงนี่อวิ๋นก็ตะโกนพูดว่า

 

 

“อวี้จื้อ เจ้ารีบไปซะ เลี้ยวข้างหน้าก็ถึงเรือนพักของพวกเราแล้ว เจ้าต้องรีบวิ่งหน่อย”

 

 

เพิ่งสิ้นเสียงของเขาชุนเหนียงก็เตะเขากระเด็น ชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่อย่างแรง จากนั้นก็ร่วงลงมาจากต้นไม้ทันที

 

 

ชุนเหนียงพุ่งไปทางหลิงอวี้จื้อ หลิงอวี้จื้อรู้ว่าตนเองหลบไม่ได้แล้ว ปิดตาลงทันที ปรากฏว่าไม่มีใครโดนตัวเธอ เปิดตาขึ้นมาถึงพบว่ามู่หรงนี่อวิ๋นกอดขาชุนเหนียงเอาไว้

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นกอดขาชุนเหนียงไว้แน่น ตะโกนด้วยกำลังทั้งหมดที่มี

 

 

“อวี้จื้อ รีบไป รีบไปซะ! มัวตะลึงอะไรอยู่ ไปเร็ว ท่านอ๋องยังรอเจ้าอยู่ เจ้ารีบไปหาท่านอ๋อง รีบไป!”

 

 

หลิงอวี้จื้อทิ้งมู่หรงนี่อวิ๋นไม่ได้ เซียวเหยี่ยนยังมีพวกอู่จิ้นกับแม่ทัพหลี่ ตอนนี้คงไม่เกิดเรื่องอะไร เธอทำให้มู่หรงนี่อวิ๋นพลอยลำบากไปด้วยไม่ได้ เธอเห็นแท่งไม้บนพื้น กำลังจะหยิบแท่งไม้บนพื้นขึ้นมา ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก็ต้องลองดูก่อน

 

 

จู่ๆ ชุนเหนียงก็ก้มตัวลง ยกมู่หรงนี่อวิ๋นขึ้นมาจากพื้นอย่างง่ายดาย

 

 

จากนั้นก็กัดไหล่มู่หรงนี่อวิ๋นหนึ่งที ออกแรงดึง เสื้อผ้าตรงไหล่ของเขาก็ฉีกขาด เผยให้เห็นผิวหนังภายใน จากนั้นก็กัดฉีกเนื้อของไหล่มู่หรงนี่อวิ๋นออกมา

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นได้แต่รู้สึกเจ็บปวดบริเวณไหล่ แต่อดทนไว้ไม่ส่งเสียงใดๆ

 

 

ชุนเหนียงกำลังจะฉีกกัดมู่หรงนี่อวิ๋นอีกครั้ง คราวนี้เป้าหมายคือคอของเขา

 

 

หลิงอวี้จื้อหยิบท่อนไม้ขึ้นมาจากพื้นทันที กำลังจะออกแรงทุบหัวชุนเหนียง

 

 

ชุนเหนียงหันขวับมองหลิงอวี้จื้อ ปล่อยมู่หรงนี่อวิ๋นลงอย่างไม่ไยดี พุ่งไปทางหลิงอวี้จื้ออีกครั้ง หลิงอวี้จื้อวิ่งไปข้างหน้าทันที แต่กลับสะดุดหินที่อยู่บนพื้นล้ม

 

 

ตาเห็นชุนเหนียงกำลังจะถึงตัวเธอแล้ว เธอจึงใช้มือปิดตาทันที ไม่อยากมองภาพเหตุการณ์ที่จะตามมา จากนั้นรู้สึกเหมือนมีอะไรตกลงบนตัวเธอ เธอเปิดตา เห็นกะโหลกศีรษะดำมะเมื่อมตกอยู่บนกระโปรงของตนเอง

 

 

กระเพาะอาหารบิดม้วนเป็นเกลียวคลื่น เธออาเจียนแห้งออกมา

 

 

อู่จิ้นยกกะโหลกศีรษะขึ้นมาจากตัวหลิงอวี้จื้อแล้วโยนไปข้างๆ ถามด้วยความเป็นห่วงว่า

 

 

“คุณหนู ไม่เป็นอะไรนะขอรับ!”

 

 

“ข้าไม่เป็นอะไร ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง”

 

 

“ท่านอ๋องไม่เป็นอะไรขอรับ ตอนนี้ยังไม่ตื่น”

 

 

อู่จิ้นพูดอย่างเคารพนอบน้อม

 

 

นึกถึงมู่หรงนี่อวิ๋นขึ้นมาได้ หลิงอวี้จื้อก็ไม่ถามอะไรอีก รีบลุกขึ้นมาจากพื้น วิ่งไปหามู่หรงนี่อวิ๋น เขานอนเหยียดบนพื้น ชุนคลุมยาวสีแดงเข้มถูกชุนเหนียงฉีกทึ้งไม่เหลือทรง ผ้าบริเวณไหล่ขาดรุ่งริ่ง เผยให้เห็นแผลเลือดเนื้อปนกันเละเทะภายใน แผลที่ลึกที่สุดเห็นถึงกระดูก

 

 

“นี่อวิ๋น เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง พวกเรารีบกลับไปพันแผลกันเถิด”

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดพลางก็จะยื่นมือไปประคองมู่หรงนี่อวิ๋น เห็นหลิงอวี้จื้อยื่นมือมา มู่หรงนี่อวิ๋นก็หลบทันที

 

 

“อย่าโดนตัวข้า อวี้จื้อ อยู่ห่างๆ ข้าหน่อย”

 

 

“ไม่เป็นอะไร สถานการณ์ของชุนเหนียงกับหลิงอวี้หรงไม่เหมือนกัน หลิงอวี้หรงเก่งขนาดนี้เสียที่ไหน”

 

 

หลิงอวี้จื้อลองพูดปลอบประโลมมู่หรงนี่อวิ๋น แต่ในใจรู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่ง เรื่องแบบนี้เธอเคยประสบมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่อยากมีประสบการณ์เช่นนี้อีกเด็ดขาด