ตอนที่ 256 ให้เจ้าลิ้มรสความทรมานยิ่งกว่าตาย / ตอนที่ 257 เสียงร้องไห้ประหลาด

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 256 ให้เจ้าลิ้มรสความทรมานยิ่งกว่าตาย

 

 

 

 

เฟิ่งอวิ๋นหล่างปล่อยกู้เฝิ่นไต้ ทรงยิ้มหยัน “หมายความว่า เรื่องนี้ชิงเฉิงใส่ร้ายเจ้า?”

 

 

“พี่คงเข้าใจหม่อมฉันผิดไป หม่อมฉันไม่เคยทำอย่างนี้เพคะ ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ผิด”

 

 

กู้เฝิ่นไต้ทรงคลานเข้าไปหา ยื่นพระหัตถ์โอบพระชงค์เฟิ่งอวิ๋นหล่าง ทรงสะอื้นไห้เบาๆ ไหล่สะท้านขึ้นลง ราวกับกระต่ายขาวตัวน้อยที่กำลังตกใจกลัว ดูน่าสงสารในสายตาของผู้ชาย

 

 

แต่เวลานี้เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงกริ้วจัด ทอดพระเนตรแต่ไม่ใส่พระทัย พระองค์ทรงโกรธแค้นกู้เฝิ่นไต้ แม้เรื่องนี้ไม่มีหลักฐานใดๆ แต่พระองค์ทรงเชื่อคำทูลของกู้ชิงเฉิง

 

 

เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงถีบกู้เฝิ่นไต้กระเด็นอย่างไม่ปรานี “อย่าทำให้เสื้อเราเปรอะเปื้อน กู้เฝิ่นไต้ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า เรากับชิงเฉิงคงไม่ห่างเหินกันหลายปี เจ้าวางใจ เวลานี้เรายังไม่ถอดเจ้าออกจากตำแหน่งฮองเฮา เราจะทรมานเจ้าอย่างช้าๆ ให้เจ้าลิ้มรสความทรมานยิ่งกว่าตาย”

 

 

กู้เฝิ่นไต้ตกพระทัยจนพระวรกายสั่นสะท้าน พระนางทรงฟังออกว่าเฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงกริ้วพระนางเพียงไร ตั้งแต่วันนี้ไป พระนางไม่มีวันเป็นที่โปรดปรานอีก เฟิ่งอวิ๋นหล่างจะทรมานพระนางจริงๆ

 

 

เมื่อทรงคิดเช่นนี้ กู้เฝิ่นไต้กลัวขึ้นมาทันที ยามปกติเฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงอ่อนโยน แต่หากทรงกริ้วขึ้นมา จะกลายเป็นคนน่ากลัวมาก

 

 

เรื่องนี้กู้เฝิ่นไต้ทรงรู้ดีมาตลอด พระนางถวายการรับใช้เฟิ่งอวิ๋นหล่างมาสามปีแล้ว

 

 

ตลอดสามปีมานี้พระนางแสดงตนเป็นคนอ่อนโยนมีเมตตา ไม่เคยทำให้เฟิ่งอวิ๋นหล่างกริ้ว นี่เป็นครั้งที่สองที่เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงกริ้วพระนาง ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อน ความเกลียดชังรังเกียจฉายออกมาทางพระเนตรอย่างชัดเจน

 

 

“ฝ่าบาท…”

 

 

กู้เฝิ่นไต้ทรงร่ำไห้ต่อ พยายามจะเรียกความสงสารจากพระทัยเฟิ่งอวิ๋นหล่าง

 

 

เฟิ่งอวิ๋นหล่างไม่แม้แต่จะทอดพระเนตรมองกู้เฝิ่นไต้ ราวกับว่าหากเห็นจะทำให้พระเนตรของพระองค์เปรอะเปื้อน “ตั้งแต่วันนี้ เราจะไม่มาที่วังเว่ยยางอีก เจ้าก็ไม่ต้องออกไป

 

 

ต่อไปค่าใช้จ่ายรายเดือนของวังเว่ยยางถือตามบรรทัดฐานพระสนมระดับกุ้ยเหริน เมื่อยึดตามบรรทัดฐานพระสนมระดับกุ้ยเหริน คนในวังเว่ยยางเวลานี้มากเกินไป คนที่สมควรออกก็ให้ออก ภารกิจวังในทั้งหมดมอบหมายให้ชิงเฉิงจัดการ

 

 

ฮองเฮาต้องเตรียมตัวรับความลำบาก ต่อไปความเป็นอยู่จะไม่ดีนัก”

 

 

เฟิ่งอวิ๋นหล่างตรัสเสร็จก็ออกจากห้อง กู้เฝิ่นไต้ทรงทรุดนั่งกับพื้นอย่างเหม่อลอย พระองค์ช่างเย็นชากับพระนางเหลือเกิน

 

 

เมื่อก่อน พระนางเคยใช้เล่ห์กลจริง แต่คนที่ไม่เชื่อกู้ชิงเฉิงก็คือเฟิ่งอวิ๋นหล่าง เวลานี้เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงกล่าวโทษพระนางทุกอย่าง ทรงคิดจะทรมานนางให้ตายทั้งเป็น

 

 

วันข้างหน้าช่างลำบากแสนสาหัส พระนางไม่อาจจินตนาการได้

 

 

สามปีมานี้ พระนางทรงใช้ชีวิตอย่างสูงส่งสมพระเกียรติ เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงโปรดปรานพระนาง พระนางได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เวลานี้เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงใช้วิธีเดียวกันมาลงโทษพระนาง ต่อไปพระนางจะทำอย่างไรดี

 

 

พอคิดถึงตรงนี้ กู้เฝิ่นไต้แย้มพระสรวลออกมาทันที เวลานี้พระนางเหลือแต่ตำแหน่งฮองเฮาเท่านั้น ความหรูหราสุขสบายสามปีมานี้ สุดท้ายก็ว่างเปล่า

 

 

กู้เฝิ่นไต้ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกน่าหัวเราะ พระนางแย้มพระสรวลไม่หยุด จนน้ำพระเนตรไหล พระนางคิดว่าตนชิงทุกสิ่งทุกอย่างจากมือของกู้ชิงเฉิง เวลานี้กู้ชิงเฉิงเริ่มเอาคืนแล้ว

 

 

กู้ชิงเฉิง การสูญเสียสิ่งที่เคยมีอยู่เป็นความทุกข์ทรมานที่สุด เจ้าตั้งใจจะให้ข้าเป็นอย่างนี้ ใช่หรือไม่?

 

 

“ฮองเฮา เป็นอะไรไป”

 

 

อี่ซ่านเห็นกู้เฝิ่นไต้แย้มพระสรวลไม่หยุด ก็ร้อนใจจนทนไม่ไหว แต่กู้เฝิ่นไต้ได้แต่แย้มพระสรวล ไม่ตรัสแม้แต่คำเดียว

 

 

ไม่ พระนางไม่มีวันยอมแพ้ ขอแต่ให้มีชีวิตอยู่ พระนางไม่มีวันยอมแพ้ พระนางเป็นฮองเฮา จะเป็นฮองเฮาไปตลอดชีวิต ไม่มีวันให้กู้ชิงเฉิงสมหวัง ถ้าชาตินี้พระนางไม่มีความหวัง พระนางก็จะตายพร้อมกับกู้ชิงเฉิง

 

 

ถ้าจะลงนรก ก็ลงด้วยกัน

 

 

พอคิดอย่างนี้ กู้เฝิ่นไต้ก็กำพระหัตถ์แน่น พระนขาจิกเข้าไปในเนื้อโดยไม่รู้สึกพระองค์ พระเนตรมีความแค้นฝังลึกฉายออกมาแวบหนึ่ง

 

 

 

 

——

 

 

ตอนที่ 257 เสียงร้องไห้ประหลาด

 

 

 

 

ซูจิ่วซือกับกู้หลียวนอยู่ระหว่างการเดินทาง คราวนี้ซูจิ่วซือพาจื่อหลานมาด้วย ทั้งสามนั่งรถม้าคันเดียวกัน ซูจิ่วซือค่อนข้างร้อนใจ ตลอดทางแทบไม่ได้พัก

 

 

กู้เฉินหรงอยู่ที่ภูเขากุยอวิ๋นซาน ระยะทางสิบลี้โดยรอบไร้ผู้คน นับว่าเปลี่ยวมาก

 

 

ภูเขานี้เดิมทีเรียกว่าเขาปีศาจ บนเขามีไอหมอกปกคลุมตลอดปี มีสัตว์ป่าชุกชุม เคยมีคนไปล่าสัตว์ที่เขากุยอวิ๋นซาน ลือกันว่าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ มองเห็นผีผู้หญิงสยายผมยาว นายพรานตกใจวิ่งหนีทันที

 

 

ตั้งแต่นั้นมาเรื่องเขากุยอวิ๋นซานมีผีก็ร่ำลือไปทั่ว คนแถวนั้นพากันย้ายหนี ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขากุยอวิ๋นซาน จึงกลายเป็นภูเขารกร้าง

 

 

เดินทางสิบวัน ก็เห็นเขากุยอวิ๋นซานอยู่เบื้องหน้า

 

 

ขณะเข้าใกล้เขากุยอวิ๋นซาน จื่อหลานก็เริ่มกระวนกระวายใจ เปิดม่านออก พอดีเห็นอีกาสีดำฝูงหนึ่งบินผ่านไป นางกลืนน้ำลาย พูดขึ้น “คุณหนู บ่าวได้ยินมาว่าเขากุยอวิ๋นซานมีผี ดูข้างนอกยังรู้สึกเร้นลับพิกล

 

 

“ดูเจ้าสิกล้าหาญจริงๆ แค่คำร่ำลือก็ตกอกตกใจอย่างนี้ ถ้ามีผีจริงๆ บอกให้มาหาข้าก็แล้วกัน” กู้หลียวนเห็นจื่อหลานกลัว ก็อดขำไม่ได้

 

 

จื่อหลานเริ่มอาย รู้สึกว่าตัวเองไร้ความสามารถ

 

 

“จื่อหลาน ไม่ต้องกลัว เฉินหรงอยู่ที่นี่ ที่นี่ไม่มีผีแน่ เป็นคำร่ำลือเท่านั้น”

 

 

ซูจิ่วซือกล้าหาญมาก กู้หลียวนก็เช่นกัน ทั้งสองไม่ใช่คนขี้ขลาด แม้ภายนอกเขากุยอวิ๋นซานจะดูเร้นลับ แต่ทั้งสองไม่รู้สึกกลัว รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่มีคนทำ แสดงว่าไม่ต้องการให้คนอื่นเข้ามาใกล้เขากุยอวิ๋นซาน

 

 

“ข้างหน้าเส้นทางวิบาก รถม้าเข้าไม่ได้ พวกเราต้องเดินขึ้นเขาไป ข้าจะจุดพลุสัญญาณก่อน”

 

 

กู้หลียวนพูดจบก็หยิบพลุสัญญาณจากอกเสื้อขว้างขึ้นไปกลางอากาศ พลุสัญญาณส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นก็ให้รถม้าจอด ทั้งหมดเดินขึ้นเขาไป

 

 

เวลานี้เพิ่งพ้นเที่ยงวันไม่นาน เป็นเวลาที่อากาศร้อนที่สุด แต่เขากุยอวิ๋นซานกลับเย็นสบาย ยิ่งเข้าใกล้อากาศยิ่งเย็น ท้องฟ้ามืดสลัว เหมือนฝนจะตก

 

 

กู้หลียวนเดินนำหน้าสุด ซูจิ่วซือตามมา ขณะเข้าไปในเขากุยอวิ๋นซาน ไอเย็นฉ่ำก็ปะทะเข้ามา บนเขาไม่เปลี่ยว ไม่ใช่เขารกร้าง

 

 

ยิ่งเดินเข้าไปเรื่อยๆ ไอหมอกบนเขายิ่งหนา เห็นเส้นทางเลือนรางไม่ชัดเจน หรือว่ามีอีกาบินผ่านหัวไป

 

 

จื่อหลานตึงเครียดมาก มองรอบข้างอย่างระแวดระวังตลอดเวลา ซูจิ่วซือกลับไม่รู้สึกเครียด แต่เห็นเขากุยอวิ๋นซานมีความเร้นลับ ต้องระแวดระวัง แม้แต่กู้หลียวนซึ่งมักจะทำตัวตามสบายก็ยังมีสีหน้าเคร่งเครียด

 

 

“เอ่อ…คุณหนู ข้างหน้ามีคน”

 

 

จู่ๆ จื่อหลานก็ร้องบอก

 

 

ความจริงซูจิ่วซือก็เห็นแล้ว ท่ามกลางไอหมอกมีเงาคนสีแดงแวบเข้ามาจริงๆ ผมยาวสยายปรกไหล่ ดูคล้ายกับผู้หญิง พอมองให้ดี กลับไม่มีอะไรเลย บนภูเขารกร้างห่างไกลนี้มีผู้หญิงอาศัยอยู่

 

 

“ฮือๆ….” จู่ๆก็มีเสียงร้องไห้แว่วผ่านอากาศเข้ามา เป็นเสียงร้องไห้โหยหวน ยิ่งบนเขามีไอหมอกหนาแน่น พอได้ยินก็ทำให้ขนลุก

 

 

จื่อหลานกลัวขึ้นมาจริงๆ นางตกใจจนตัวสั่น

 

 

“เฉินหรงให้พวกเรามาที่บ้าๆ ทางเดินก็แทบไม่เห็น”

 

 

กู้หลียวนบ่น แล้วตะโกนขึ้นไปกลางอากาศ “แม่นาง เสียใจเรื่องอะไรปรากฏตัวมาพูดกับข้า ข้าเป็นคนใจอ่อนกับผู้หญิง ไม่แน่อาจจะช่วยเจ้าได้ เจ้าแอบร้องไห้คนเดียวไม่เบื่อหรือ”