“ดังนั้น นายไปเถอะ ต่อจากนี้อย่ามาอีก” สุดท้ายแล้วจอร์แดนก็ใช้คำพูดแบบนี้ให้เขาจากไป
เทาเท่นั่งก้มหน้าอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ ระหว่างคิ้วของผู้ชายที่ดูมีชีวิตชีวามาโดยตลอดตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความตกต่ำ
จอร์แดนสามารถเข้าใจความรู้สึกของเทาเท่ในตอนนี้มากๆ เพราะว่าเขาเองก็ถือว่าประสบเรื่องราวที่คล้ายกับเทาเท่ ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเสียใจว่า “ในสังคมนี้ไม่ยุติธรรมกับหญิงสาวแบบนี้แหละ หญิงสาวไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ เหมือนว่าได้ทำความผิดที่โหดร้าย เดินไปถึงไหนก็ต้องถูกตำหนิด่าทอ”
ดังนั้นตอนนั้นเธอจึงบอกกับโลกภายนอกว่าระหว่างเขาและลูน่านั้น เป็นเพราะร่างกายของเขามีปัญหาจึงไม่สามารถมีลูกได้ แต่ไม่ใช่ลูน่า
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ลูน่าได้รับการปฏิบัติที่ดี ลูน่าเดินไปถึงไหนก็ยังถูกผู้คนตำหนิด่าทอ จนกระทั่งพวกเขาอายุปูนนี้แล้ว คนนอกพูดถึงพวกเขา ก็จะนึกถึงเรื่องที่พวกเขาไม่มีลูกก่อน
จอร์แดนมักคิดอยู่เสมอ หากสามารถเกิดใหม่ได้อีกครั้ง เขาจะยืนหยัดไม่รั้งลูน่าไว้ หย่ากับเธอแล้วปล่อยเธอไป ให้เธอไม่ถูกคำพูดซุบซิบนินทาทรมานตาย
เทาเท่ไม่ได้พูดอะไร แค่เม้มปากและหัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา ไม่รู้ว่ารู้สึกตลกกับพวกคำพูดซุบซิบนินทา หรือว่ากำลังตลกกับอะไร
จอร์แดนคิดว่าเขาอาจจะเข้าใจแล้ว ลุกขึ้นตัดสินใจจะส่งแขก
แต่คิดไม่ถึงว่าเทาเท่ลุกขึ้นมาพร้อมกับเขา พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ผมไม่มีทางยอมแพ้แน่นอน”
จอร์แดนทั้งโมโหทั้งรน “อะไรนะ?”
เขายังคิดว่าเทาเท่เข้าใจแล้วซะอีก ใครจะไปรู้ว่าก็ยังผีหลงผีสิงอยู่
เขาอยากให้หลินจือถูกคำพูดซุบซิบนินทาพวกนั้นจมตายจริงๆ เหรอ?
ภายใต้ความจนปัญญาจอร์แดนได้แต่พูดเกลี้ยกล่อมโน้มน้าว “ถึงแม้ฉันจะสามารถยืนหยัดเฝ้าอยู่ดูแลกับลูน่ามาทั้งชีวิต แต่ว่าสถานการณ์ของนายกับฉัน ก็มีหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน”
“อย่างเช่นพ่อแม่ของฉันนั้นพอใจและชื่นชอบลูน่าตั้งแต่แรก ต่อมาถึงแม้จะรู้ว่าเธอไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ก็ไม่เคยบีบบังคับให้พวกเราหย่ากัน ทว่าก็ไม่ถึงขั้นแม่ของนายที่ทั้งพูดดูถูกและยังตบคนอีก ทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองอย่างสิ้นเชิง”
“อีกอย่าง ข้างบนของฉันยังมีพี่ชายและพี่สาว พวกเขาได้สร้างกิ่งยอดให้กับตระกูลแม็กซิมัสของเราแล้ว ทางฉันจะมีลูกหรือไม่มีจริงๆ แล้วไม่ได้สำคัญมาก”
“แต่ว่านายมีเพียงแค่ตัวเอง น้องสาวนายไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนายยังสามารถรับเลี้ยงลูกคนหนึ่งของเธออยู่ภายใต้ชื่อของนายได้ แต่ว่าตอนนี้นายไม่มีอะไรแล้ว และธุรกิจของตระกูลฟอเรนาพวกนายใหญ่โตขนาดนั้น อย่าว่าแต่พ่อแม่ของนายเลย แม้กระทั่งคุณปู่ของนาย เขาชอบหลินจือขนาดนั้น ก็ใช่ว่าจะสามารถยอมรับกันเรื่องที่ไม่สามารถมีลูกในภายหลังได้!”
คำพูดของจอร์แดนนั้นจริงใจทุกประโยคทุกคำ ทว่าแต่ละประโยคแต่ละคำนั้นกลับแทงลึกในบาดแผลของเทาเท่
แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเจ็บปวดมากเกินไป วินาทีนี้สมองของเธอกลับโจ่งแจ้งชัดเจนขึ้นมากๆ
เขาจ้องจอร์แดนแล้วถามขึ้นอย่างเจ็บปวดว่า “หากผมเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง หากผมไม่ได้มีธุรกิจใหญ่ขนาดนั้นที่ต้องสืบสาน เธอก็จะสามารถถูกโจมตีจากพวกคำตำหนิด่าทอเบาลงใช่ไหมครับ?”
จอร์แดนอึ้งไปเลย
เขาเขาเขา อย่าบอกนะว่าเขาจะไม่เอาอะไรแล้ว? บริษัทที่ใหญ่ขนาดนั้นของตระกูลฟอเรนา ธุรกิจต่างๆ เมื่อสองวันก่อนยังได้ข่าวอยู่เลยว่าฟอเรนากรุ๊ปจะเปิดโรงงานชิปใหม่ทางภาคใต้ ที่จอร์แดนรู้เรื่องนี้ เพราะว่าเรื่องนี้ต่างก็ถูกคนภายนอกจับตามอง
ตอนนี้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของกิลีถูกจำกัดโดยต่างประเทศทุกที่ หากประเทศกิลีสามารถมีโรงงานชิปอันดับต้นเป็นของตัวเอง มันจะเป็นโครงการใหญ่ที่จะนำความรุ่งโรจน์มาสู่ประเทศ
ฟอเรนากรุ๊ปที่อนาคตต้องรุ่งโรจน์ เทาเท่กลับคิดอยากจะทิ้งมันไป?
ทันใดนั้นจอร์แดนไม่รู้เลยว่าควรพูดอะไร ไม่รู้ว่าควรจะซึ้งใจกับความรู้สึกลึกซึ้งที่เขามีต่อลูกสาวของตนเอง หรือว่าควรด่าทอเขาว่าการเป็นผู้ชายนั้นไม่ควรหมกมุ่นอยู่กับเรื่องผู้หญิง
“ผมไม่มีทางยอมแพ้แน่นอนครับ” ในตอนที่จอร์แดนกำลังตะลึงงันอยู่นั้น เทาเท่ก็พูดเน้นย้ำอีกรอบ จากนั้นจึงจะหันตัวแล้วเดินจากไป
จอร์แดนมองดูภาพข้างหลังของเขาที่เซไปเซมา ก็อดใจไม่ไหวห้ามเขาไว้ “ฉันเรียกคนขับรถมา ส่งนายกลับไปที่โรงแรม”
เทาเท่ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ว่าได้เปลี่ยนจุดหมายปลายทาง “ไม่ต้องแล้วครับ ส่งผมตรงไปที่สนามบินเถอะครับ”
จอร์แดนตะลึงงันมาก “สภาพร่างกายของนายเป็นแบบนี้แล้ว จะไหวกับการเดินทางแบบนี้ได้ยังไง?”
แบกร่างกายที่ป่วยอยู่จากเมืองเจสเวิร์ดบินตรงมาที่เปกก้า ตอนนี้จะบินกลับไปอีก คนที่สร้างมาจากเหล็กก็รับไม่ไหว
เทาเท่ยืนหยัด “ไม่เป็นไรครับ การเดินทางที่เหนื่อยล้ากว่านี้ผมก็เคยผ่านมาแล้วครับ”
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาก็พูดเองเออเองว่า “ผมไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้แม้กระทั่งวินาทีเดียว รู้สึกได้แม้กระทั่งว่าอากาศก็ยังโศกเศร้า”
สุดท้ายแล้วจอร์แดนก็ทำตามเขา ให้คนขับรถส่งเขาไปที่สนามบิน
หลังจากที่ส่งเทาเท่ไปแล้ว จอร์แดนเองก็นั่งลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า
ได้ข่าวว่าหลินจือถูกวีนาตบ บวกกับสองสามวันนี้หลินจือป่วยจนลุกไม่ขึ้น จอร์แดนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าจะให้หลินจือตัดขาดกับเทาเท่ และสาบานว่าหากเทาเท่มาหาที่บ้าน จะตีเขาออกไป
ไม่เพียงแต่แค่เขา ทุกคนในตระกูลแม็กซิมัสต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้หลินจือมีความเกี่ยวข้องกับเทเท่อีก
แต่ว่าวันนี้เขาเห็นท่าทีของเทาเท่แล้ว โดยเฉพาะคำพูดพวกนั้นก่อนที่เทาเท่จะไป เขาไม่รู้เลยว่าจะตัดขาดพวกเขาจริงๆ หรือเปล่า
ขอให้พูดนั้นของเทาเท่เป็นเพียงแค่การล้อเล่น หากเทาเท่จะทิ้งฟอเรนากรุ๊ปเพื่อหลินจือ งั้นพวกเขาก็เท่ากับว่าได้ทำลายตระกูลฟอเรนา……
ข้างหลังมีเสียงเท้าเดินเบาๆ ดังผ่านมา จอร์แดนรีบกันกลับไปดู ที่แท้คือลูน่าที่คลุมเสื้อนอนลงจากตึกมา
จอร์แดนรีบไปพยุงเธอ “เธอลงมาได้ยังไง? เมื่อกี้เสียงดังจนเธอตื่นเหรอ?”
บ้านนี้ไม่ได้มีเพียงแต่หลินจือที่ป่วย ลูน่าเองก็ป่วยแล้ว
หลังจากที่ลูกน่าได้ข่าวเรื่องที่หลินจือถูกตรวจพบว่าไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ทันใดนั้นก็สลบไป ณ ที่นั้นเลย
ผู้หญิงคนหนึ่งไม่สามารถตั้งครรภ์ได้จะต้องพบเจอกับความยากลำบากอะไรบ้าง ลูน่ารู้ดียิ่งกว่าใคร เพราะว่ารู้ดีจึงเป็นห่วงแทนหลินจือจนถึงขั้นสลบไป
เธอสงสารหลินจือ หลังจากที่ตื่นขึ้นมาแล้วได้กอดหลินจือร้องไห้หนักมาก จากนั้นก็ล้มป่วยไปพร้อมกับหลินจือ
ลูน่าเดินมานั่งที่โซฟาตามจอร์แดน ถามพร้อมดวงตาที่แดงก่ำ “เทาเท่มาเหรอ?”
จอร์แดนจึงได้พูดเนื้อหาคร่าวๆ ที่คุยกับเทาเท่ให้ลูน่าฟัง น้ำตาขอลูน่าไหลรินลงมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ โอบกอดจอร์แดนร้องไห้อย่างไม่สามารถควบคุมได้ “หลินเป็นเด็กที่ดีขนาดนั้น? ทำไมเทวดาถึงต้องทำกับเธอแบบนี้? เธอกับเทาเท่ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันมากมายขนาดนั้น ในที่สุดก็สามารถสมหวังรักใคร่กันแล้ว!”
จอร์แดนฟังเธอพูดจนดวงตาแดงก่ำขึ้นมาเช่นกัน เขายกมือขึ้นโอบกอดลูน่าแล้วปลอบใจ “สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ในตอนนี้ คือรีบทำให้อาการป่วยครั้งนี้ของเธอดีขึ้น เรื่องอื่นๆ ค่อยวางแผนคุยกันเถอะ”
ในตอนที่จอร์แดนรู้ว่าหลินจือคือลูกสาวของตนเอง หลินจือได้หย่ากับเทาเท่ตั้งนานแล้ว และไม่สนใจไยดีกับเทาเท่ จนกระทั่งช่วงก่อนที่ไกรภพสร้างเรื่องวุ่นวายพวกนี้ออกมา หลินจือก็ยังเฉยชากับเทาเท่อยู่
ดังนั้นจอร์แดนคิดว่าความรู้สึกที่หลินจือมีต่อเทาเท่นั้นน้อยมาก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลินจือจะล้มป่วย และหลังจากที่หลินจือล้มป่วยเขาจึงจะรู้ว่า ที่แท้ในใจของเธอสนใจเทาเท่เพียงนี้