บทที่ 338 ยกเลิกสัญญา

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

อย่าว่าแต่จอร์แดนเลยที่คิดไม่ถึงว่าหลินจือจะล้มป่วย แม้กระทั่งตัวหลินจือเองก็คิดไม่ถึง

ตั้งแต่ที่วีนาบอกผลการตรวจของตนเองแล้วถูกวีนาตบ หน้าอกของเธอก็เหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับถมอยู่ เธอคิดว่านั่นเป็นเพราะความโกรธที่ถูกวีนาตบและเสียใจที่รู้อาการของร่างกายตนเอง

รอให้ล้มป่วยไปแล้วเธอจึงจะรู้ว่า อารมณ์พวกนั้นที่กดทับอยู่ในใจของเธอ ไม่ได้มีเพียงแต่ความโมโหและความเสียใจ ยังมีความเจ็บปวดที่แยกทางกับเทาเท่

ความเจ็บปวดนั้น ทำเอาเธอทั้งคนล้มลงไปหมด

เธอจะไม่ถูกโจมตีจนล้มลงได้อย่างไร?

เทาเท่คือชายที่เธอตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอตั้งในช่วงวัยรุ่น คือคนที่อยู่เหนือบนสุดในหัวใจเธอ

หลังจากที่หย่ากันแล้วถึงแม้ว่าเธอจะสามารถเผชิญหน้ากับเขาเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่นั่นไม่ได้แสดงว่าเธอจะลืมเขา

เธอแค่ถูกเขาทำร้ายจนไม่กล้าไปรักเขาอีกแล้ว ต่อมาเขาแสดงความจริงใจและตามจีบอย่างยืนหยัด มิหนำซ้ำยังไม่สนในชีวิตของตนเองเพื่อเธออีกด้วย เธอยังมีอะไรที่ไม่กล้ารักอีก?

จึงตอบตกลงแต่งงานใหม่กับเขาทันที นี่คือการตอบสนองที่เธอมีต่อเขา

แต่เธอคิดไม่ถึงว่า ครั้งนี้เธอจะแลกมากับการเจ็บปวดที่เจ็บไปถึงกระดูกดำ

แต่แค่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะเทาเท่ไม่รักเธอ แต่เพราะว่าเขารักเธอจึงทำให้ความเจ็บปวดในครั้งนี้รุนแรงกว่าตอนนั้นที่จะหย่ากับเทาเท่……

การล้มป่วยของหลินจือในครั้งนี้ใช้เวลาไปประมาณสิบวันจึงจะค่อยๆ ดีขึ้น ช่วงเวลาเหล่านี้เธอและเทาเท่ไม่ได้มีการติดต่อกัน ในเมื่อเธอบอกแล้วว่าจะแยกทางกัน ก็ไม่มีทางติดต่อเทาเท่ และเทาเท่ก็ไม่เคยติดต่อเธอมา

เช้าวันนั้นในตอนที่หลินจือกำลังทานข้าวกับจอร์แดนและลูน่า จอร์แดนคิดไปสักพักสุดท้ายก็เอ่ยปากพูด “หลายวันก่อนเทาเท่เคยมาที่”

หลินจือตะลึงงันเล็กน้อย จอร์แดนพูดอีกว่า “เขาบอกว่าเขาฝันถึงเธอป่วย ไม่วางใจเธอดังนั้นจึงมาเยี่ยมดู”

“รีบเดินทางมาในเวลากลางดึก แล้วกลับไป เขาเองก็ป่วย”

“อะไรนะ?” หลินจือได้ยินว่าเทาเท่ป่วย ยังฝืนมาที่นี่กลางอีก ทันใดนั้นก็ทั้งตกใจและโมโห

หลายวันก่อนเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์เขาได้พักอยู่ในโรงพยาบาลหนึ่งสัปดาห์ ตอนนี้มาป่วยอีก เขาจะเอาชีวิตของตนเองอยู่หรือเปล่าเนี่ย?

“ที่พ่อพึ่งบอกหนูตอนนี้ เพราะว่าหลายวันก่อนร่างกายของหนูยังอ่อนแอ กลัวว่าบอกกับหนูแล้วหนูจะไม่สบายใจไปอีก จะเพิ่มอาการป่วยให้หนู” จอร์แดนอธิบายว่าทำไมเขาถึงพึ่งบอกเรื่องนี้กับเธอในตอนนี้

“ค่ะ” หลินจือรู้ว่าจอร์แดนเป็นห่วงอาการของเธอมาก

แต่ว่าถึงแม้หลินจือจะไม่พูดอะไร จอร์แดนก็ยังมองออกถึงความเป็นห่วงที่อยู่ระหว่างคิ้วของเธอ ดังนั้นจึงพูดต่อว่า “ร่างกายของเขาน่าจะไม่ได้เป็นอะไรมาก พ่อเห็นข่าวว่าเขากลับไปทำงานแล้ว”

ในเมื่อครั้งนี้วัยรุ่นทั้งสองเลิกกันไปด้วยดี จอร์แดนรู้สึกว่าจำเป็นต้องให้หลินจือรู้สถานการณ์ปัจจุบันของเทาเท่ มีเพียงแต่รู้แล้วเธอจึงจะวางใจ จึงจะเก็บใจกลับไป

ช่วงเวลาที่หลินจือป่วยนี้ไม่ได้จับโทรศัพท์เลย นอกจากตอบกลับข้อความและสายโทรที่จำเป็นแล้ว ข่าวอื่นๆ เธอไม่ได้ดูเลย และไม่ได้มีอารมณ์อะไรไปดูเรื่องพวกนั้นด้วย

จอร์แดนบอกกับเธอก่อนว่าเทาเท่หายดีแล้ว หลินจือเองก็โล่งอกไปที

หายดีแล้วก็ดี

จอร์แดนพูดต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้เรื่องละครใหม่ที่พวกเราจะเซ็นสัญญากับฟอเรนากรุ๊ป พ่อตัดสินใจจะหาเวลาติดต่อกับพวกเขา ยกเลิกสัญญานี้ ยังดีที่แค่เซ็นสัญญาไป ยังไม่ได้สร้างกองถ่ายและคัดเลือกนักแสดง ไม่ได้มีความเสียหายอะไรมาก”

“ในเมื่อแยกทางกันแล้ว ก็ไม่เหมาะสมที่จะทำงานร่วมกันต่อค่ะ” เรื่องนี้ตอนแรกหลินจือก็อยากจะพูดกับจอร์แดนอยู่

หากเธอและเทาเท่ไม่ได้ประสบสถานการณ์แบบนี้แล้วเลิกกัน หากพวกเขาเป็นแฟนกันหรือเป็นภรรยาที่แต่งงานกันอีกครั้ง พวกเขาทำงานด้วยกันนั้นไม่เป็นไร แต่ว่า ณ ตอนนี้มันช่างอึดอัดเกินไปแล้ว

มีประสบการณ์ร่วมงาน “The Legend of Concubine Rong ” กับเทาเท่ครั้งที่แล้ว หนังสือใหม่ของจอร์แดนที่นำมาดัดแปลงเป็นละคร หลินจือไม่อยากร่วมงานกับเทาเท่อีกแล้วจริงๆ ยกเลิกสัญญาเร็วๆ และแยกย้ายกันไปก็ดี

จอร์แดนเห็นว่าเธอเองก็เห็นด้วยที่จะยกเลิกสัญญา พูดต่ออีกว่า “หนูวางใจได้ ขอแค่ประกาศยกเลิกสัญญา ก็จะมีนักลงทุนอื่นมาหาเราทันที”

“หรือไม่พวกเราก็สามารถก่อตั้งบริษัทให้กับหนู หนูดำเนินเรื่องสร้างละครเรื่องนี้ขึ้นมาเอง” จริงๆ แล้วจอร์แดนค่อนข้างที่จะชอบทางเลือกนี้

ทว่าหลินจือได้ยินแล้วก็โบกมือทันที “หานักลงทุนใหม่ดีกว่าค่ะ หนูดำเนินเรื่องเองไม่ไหวแน่นอนค่ะ ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ”

หลินจือเข้าใจนิสัยของตัวเองดี ไม่ใช่หญิงแกร่งที่วางกลยุทธ์เก่งและเข้าได้กับทุกฝ่าย ให้เธอมาบริหารบริษัทเองนั้นไม่ไหวจริงๆ

บอกว่าเธอไม่มีความกล้าก็ดี ไม่มีความมุ่งมั่นพยายามก็ช่างโดยรวมแล้วเธอแค่อยากเขียนบทอย่างเงียบสงบ

จอร์แดนไม่รู้เลยว่าจะพูดยังไงกับเธอดี “เจ้าเด็กนี่ จริงๆ เลย——”

ไม่มีความปรารถนาใดเลยจริงๆ ใสซื่อธรรมดา

แต่เขาจะทำอะไรได้ล่ะ?

ลูกสาวแท้ๆ ของตนเอง ก็ทำได้แต่ตามใจ

ดังนั้นจอร์แดนจงหัวเราะพลางพูดขึ้นว่า “โอเคๆๆ งั้นพ่อรอให้ยกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการแล้วจะติดต่อนักลงทุนใหม่ทันที”

หลังจากทานอาหารเช้าแล้วจู่ๆ สาวใช้ก็มาหาหลินจือ “คุณหนูคะ ข้างนอกมีผู้หญิงที่สง่างามมากๆ คนหนึ่ง บอกว่าเป็นเพื่อนของคุณค่ะ อยากพบเจอคุณ”

หลินจือตะลึงงันมาก “เพื่อนของฉัน?”

ในเมื่อเป็นเพื่อนของเธอ ก่อนจะมาเยี่ยมเธอจะต้องติดต่อเธอก่อนแน่นอน ทำไมเธอถึงไม่ได้รับข่าวใดๆ เลย?

หลินจือเดินออกไปที่ประตูกับสาวใช้ด้วยความสงสัยและมึนงง ในตอนที่เห็นว่าคนที่ยืนอยู่นอกประตูคือนานิ หลินจือทั้งตกใจและดีใจ “นานิ? เธอมาได้ยังไง? ทำไมฉันไม่รู้ข่าวเลย?”

การติดต่อของเธอและนานิไม่มีขาดสายกันมาก่อน นอกจากช่วงก่อนหน้านี้ที่เธอป่วยเป็นไข้มึนๆ งงๆ จึงไม่ได้เปิดดูโทรศัพท์เลย สองสามวันนี้เธอและนานิได้ติดต่อกันอย่างสนิทสนมและใกล้ชิดมาก เธอกลับไม่รู้ว่านานิมาเมืองเวลฟ์ ยังมาเยี่ยมเธอด้วย

นี่นานิทำอะไรเนี่ย?

นานิมองออกถึงความสงสัยของเธอ เดินมาโอบกอดเธอยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ก็เพราะฉันอยากเซอร์ไพรส์เธอไง?”

หลินจือโอบกอดนานิอย่างกว้างใหญ่ พูดขึ้นว่า “เซอร์ไพรส์มากจริงๆ”

นานิถ่ายละครอยู่ที่กองถ่าย “The Legend of Concubine Rong “มาโดยตลอด หลินจือคิดว่านานิไม่มีเวลามาเยี่ยมเธอเลย ตอนนี้ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอกะทันหัน หลินจือก็เลยทั้งตกใจและดีใจ

นานิคือเพื่อที่ดีที่สุดของเธอ มีคำพูดมากมายที่เธอไม่สามารถพูดกับจอร์แดนและลูน่าได้ จึงได้แต่พูดให้นานิฟัง

หลินจือต้อนรับนานิเข้าไปในบ้าน นานิเดินไปด้วยพลางพูดไปด้วยว่า “มีเซอร์ไพรส์ที่ใหญ่กว่านี้อีก”

หลินจือหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “ยังมีอะไรอีก?”

นานิขยับเข้ามาใกล้อย่างลึกลับ “ก็คือว่า ฉันซื้อบ้านหลังหนึ่งที่เมืองเวลฟ์แล้ว หลังจากนี้ก็สามารถอยู่เมืองเวลฟ์ได้ยาวๆ แล้ว”

“ห๊ะ!” หลินจือตะลึงงันไม่เบาเลย

อันนี้เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ

ก่อนหน้านี้เพราะว่านึกได้ว่าตนเองจะต้องห่างไกลกับนานิก็รู้สึกหดหู่ใจ คิดไม่ถึงว่านานิจะย้ายมาที่เมืองเวลฟ์แบบนี้เลย อย่าพูดถึงเลยว่าหลินจือจะดีใจเพียงไหน

“ดีมากเลย ดีมากเลย!” หลินจือดีใจมาก “ต่อจากนี้พวกเราก็สามารถเจอหน้ากันบ่อยๆ แล้ว”

หลินจือรู้จักกับนานิตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็สนิทสนมกันมาโดยตลอด ตลอดหลายปีมานี้นอกจากปีนั้นที่เธอไปต่างประเทศ นอกจากการที่นานิออกไปถ่ายละครนานๆ บ่อยแล้ว ทั้งสองไม่เคยแยกจากกันเลยจริงๆ

เมื่อก่อนทั้งสองต่างก็ไม่มีเหตุผลที่จะออกจากเมืองเจสเวิร์ด ชีวิตความเป็นอยู่ของทั้งสองอยู่ที่นั่น ชายที่อยู่บนยอดของหัวใจต่างก็อยู่ที่นั่น พวกเธอจะจากออกจากที่นั่นได้อย่างไร