ตอนที่ 930 งานชุมนุมยุทธภพ

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ตอนที่ 930 งานชุมนุมยุทธภพ

 

“ ฮ่าๆ !” หลูตงซิงตบไหล่หยางโป และหัวเราะเสียงดังด้วยความตื่นเต้น

 

หยางโปมองดูร่องรอยใต้ดาบและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ในที่สุดเขาก็สามารถพิสูจน์การคาดเดาของตัวเองได้แล้ว ก่อนหน้านี้เขาเดาว่าในโลกใบนี้ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีแค่เขาและ

 

อวี่เหวินสองคนเท่านั้นที่ฝึกพลัง ยังจะต้องมีคนอื่นๆที่ฝึกฝนพลังอยู่ด้วยอย่างแน่นอน

 

เช่นเดียวกับกระบี่เล่มนี้ น่าจะมีไว้ให้คนที่ฝึกฝนพลังใช้ คนธรรมดาไม่สามารถตัดชิ้นเหล็กเข้าได้เลย มีเพียงฝึกฝนพลังถึงจะเข้าถึงระดับนี้ได้

 

ไม่นาน คนอื่นๆในที่เกิดเหตุก็มีปฏิกิริยาตอบสนองและจู่ๆ ก็มีเสียงดังโหวกเหวกขึ้น

 

“ เฮ้ เพื่อน ช่วยพาฉันเข้าไปหน่อยได้ไหม เดียวฉันให้เงินคุณหนึ่งแสนหยวนเลย !”

 

” ฉันให้สามแสน แค่คุณแบ่งโควตาให้ผมที่หนึ่ง !”

 

“ หกแสนถ้าหกแสนล่ะ ว่าไง ? ”

 

หยางโปตกใจมาก เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าในงานจะบ้าคลั่งกันขนาดนี้ ทําเหมือนกับว่าเป็นงานประมูล

 

ชายที่ยืนอยู่ข้างชิ้นเหล็กคนนั้น ผายมือไปทางหยางโปและเชิญให้เขาเข้าไปข้างใน

 

หยางโปค่อนข้างแปลกใจ เขาพาหลูตงซิงเดินผ่านฝูงชนและเดินเข้าไปในคลับเฮาส์

 

โชคดีที่พนักงานในที่เกิดเหตุได้ขวางฝูงชนที่บ้าคลั่งไว้เบื้องหลังพวกเขา ทั้งสองถึงได้หลุดออกมาได้ และเดินตามกันเข้าไป

 

เมื่อเดินเข้ามาในคลับเฮาส์ ด้านในมีลานอยู่แห่งหนึ่ง ชายคนนั้นเดินเข้ามาประสานมือคารวะ

 

หยางโป ” คารวะศิษย์พี่ ! เสวียนจงมีตาหามีแววไม่ ศิษย์พี่โปรดยกโทษให้ด้วย ! “

 

หยางโปลิ้งไปครู่หนึ่ง เขาไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ ทําซะเหมือนซีรีย์กําลังภายใน

 

หลูตงซิงก็ตกตะลึงเช่นกัน ทั้งสองเป็นเพียงบุคคลภายนอก แม้ว่าจะอ้างตัวเองว่าเป็นลูกหลานของยุทธภพ แต่ยุทธภพของพวกเขาก็ยังคงเป็นแค่สังคม มีหรือจะเคยพบเจอกับพิธีรีตองแบบนี้มาก่อน ?

 

โชคดีที่หยางโปไหวตัวทันและรีบตอบกลับไปว่า “ เกรงใจไปแล้ว ! คุณชื่อ เสวียนจงใช่ไหม

 

ทําไมคุณถึงเรียกผมว่าศิษย์พี่ล่ะ ?”

 

เสวียนจงรู้สึกแปลกเล็กน้อย แต่ก็ยังรีบอธิบายไปว่า “ เพราะศิษย์พี่มีพลังที่แข็งแกร่งที่สุด

 

ก่อนหน้านี้ทุกคนที่มาที่นี่ทั้งหมด ต่างก็แย่กว่าท่านมาก”

 

หยางโปพยักหน้า แต่ก็ยังรู้สึกแปลกใจมาก เพราะคนที่เขาพบเจอทั้งหมดอย่างอวี่เหวินและ

 

เยวจนเหยา พวกเขาล้วนแข็งแกร่งกว่าตัวเอง คิดไม่ถึงว่าพอเขามาอยู่ที่นี่จะกลับกลายเป็นศิษย์ผู้มากฝีมือไปได้ แต่เขาไม่กล้าโอ้อวด เลยถามต่อไปว่า ” พวกคุณเป็นองค์กรอะไร ? การประมูลครั้งนี้เกี่ยวข้องกับอะไร ?”

 

เสวียนจงรีบโบกมือส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ด้านข้าง ” ศิษย์พี่ พวกเราเป็นพันธมิตรผู้ฝึกฝนที่ไม่เป็นทางการ ชื่อว่างานชุมนุมยุทธภพ พวกเราทุกคนล้วนเป็นผู้ฝึกพลัง จุดประสงค์ของการก่อตั้งคือเพื่อสามารถแลกเปลี่ยนสื่อสารระหว่างกันและพัฒนาไปด้วยกัน !”

 

หยางโปแปลกใจมาก เขาคิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้ จากนั้นเขาก็ถามต่อว่า “ แล้วที่พวกคุณทําการทดสอบการฟันเหล็กนอกประตู ทําไปเพื่ออะไร ?”

 

เสวียนจงยิ้มและตอบกลับไปว่า ” ศิษย์พี่ คิดว่าคุณคงพอจะเดาได้ เหตุผลในการจัดงานนี้ขึ้นมา

 

ก็เพื่อเป็นการดึงดูดพวกเดียวกัน เพราะมีเพียงพวกเดียวกันเท่านั้นที่จะผ่านระดับนี้ไปได้ “

 

หยางโปพยักหน้า ที่จริงแล้วเขาก็พอจะเดาถึงจุดตรงนี้ได้ แต่เมื่อคิดถึงการประมูลเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง

 

เมื่อเห็นหยางโปขมวดคิ้ว เสวียนจงก็รีบอธิบาย “ การประมูลน่ะมีขึ้นแน่นอน รุ่นพี่โปรดวางใจ

 

ทุกปีเราจะจัดการประมูลขึ้นหนึ่งครั้ง เพื่อแลกเปลี่ยนสื่อสารกัน และสามารถใช้โอกาสนี้ดึงดูดสมาชิกใหม่ให้เข้ามาร่วมได้”

 

หยางโปชายตามองเสวียนจง “ แล้วคุณอยู่ในงานชุมนุมยุทธภพ คือ…”

 

เสวียนจงอธิบายอย่างรวดเร็ว “ ผมเป็นเพียงแค่คนที่มาทํางานแทนคนหนึ่งเท่านั้น เพราะมีคนจํานวนมากอยู่ในสมาคม ทุกคนต้องการผู้ดูแล ผมเป็นคนที่อยู่ในองค์กรบ่อยที่สุด “

 

หยางโปมองหน้าอีกฝ่าย” เสียมารยาทไปแล้วจริงๆ ! ที่แท้คือประธานเสวียนนี่เอง !”

 

เสวียนจงรีบพูดขึ้นว่า ” คุณอย่าทําแบบนี้เด็ดขาด ผมเป็นแค่คนมาทํางานแทนคนอื่นๆคนหนึ่งก็เท่านั้น”

 

พอพูดจบ เสวียนจงก็เงยหน้าขึ้นมองหยางโปและถามไปด้วยความอยากรู้ว่า “ ศิษย์พี่ ยังไม่ได้ถามชื่อแซ่ของคุณเลย”

 

* ผมแซ่หยาง นี่คือ เพื่อนที่ดีของผม แซ่หลู ” หยางโปเอ่ยปากแนะนํา

 

“ สวัสดี ศิษย์พี่หลู เสียมารยาทไปแล้วจริงๆ ” เสวียนจงรีบเอ่ยออกมา “ ต้องขอโทษด้วยสําหรับการต้อนรับที่ไม่ดี !”

 

หลูตงซิงรีบเอ่ยขึ้น “ ผมก็แค่ทํางานแทนคนอื่นเหมือนกัน”

 

“ ศิษย์พี่หมู คุณนี่ล่อเล่นเก่งจริงๆ ” เสวียนจงกล่าวอย่างสุภาพ และรีบเชิญทั้งสองให้เดินเข้าไปข้างในทันที

 

เมื่อก้าวเข้ามาในลานบ้าน หยางโปก็รู้สึกค่อนข้างแปลกใจ ที่นี่ถูกตกแต่งด้วยสวนโบราณทั้งหมด มีศาลาและกระถางไม้ไผ่ ดูมีกลิ่นอายของความโบราณ

 

“ ที่นี่ไม่เลวจริงๆ ” หยางโปกล่าวชม

 

เสวียนจงเชิญทั้งสองไปนั่งในห้องรับแขก ที่นี่เป็นสถานการณ์ที่งดงามแบบโบราณ เฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานี มีภาพวาดวิวทิวทัศน์แขวนอยู่บนกําแพง และยังมีชุดน้ำชาสีน้ำเงินขาววางอยู่บนโต๊ะ ทุกอย่างดูคลาสสิกและน่าสนใจ

 

เสวียนจงในชาแล้ววางไว้ตรงหน้าทั้งสองคนและเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ ศิษย์พี่หยาง คือแบบนี้นะ ตอนนี้ผมจะทําการลงทะเบียนง่ายๆให้คุณก่อน รอพรุ่งนี้คุณก็สามารถมาได้เลย แน่นอนว่าที่นี่ยังมีลานบ้านอีกแห่งหนึ่ง คุณสามารถพักอยู่ที่นี่ก็ได้”

 

หยางโปพยักหน้าลงเล็กน้อย ยกน้ำชาขึ้น หรี่ตาทั้งคู่ลงเล็กน้อย และทําการสํารวจตรวจตรา

 

หยางโปรับรู้ได้ถึงพลังเจือจาง ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ เส้นใยของพลังที่อยู่โดยรอบเสวียนจง ความรู้สึกนี้ดูจะอ่อนแอมาก แต่ก็ไม่ถึงกับที่จะตรวจไม่พบ

 

เสวียนจงมีพลังอยู่ไม่มาก ดูเหมือนจะบางเบามาก !

 

หยางโปสามารถตัดสินได้อย่างง่ายดาย เขาเคยตรวจสอบดูเยวจนเหยาและอวี่เหวินมาก่อน

 

พลังรอบตัวของพวกเขาดูมีพลังมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

 

เสวียนจงหยิบบัญชีรายชื่อและเอ่ยปากถามว่า “ ศิษย์พี่หยาง ไม่ทราบว่าท่านชื่ออะไร”

 

“ ผมชื่อหยางโป ”

 

หลังจากมีอาการลังเลอยู่เล็กน้อย เสวียนจงก็เอ่ยถามว่า “ แล้วอาจารย์ล่ะ ?”

 

หยางโปส่ายหน้า “ เรื่องนี้จําเป็นต้องบอกไหม ?”

 

เสวียนจงรีบตอบกลับไปว่า “ แน่นอนคุณไม่จําเป็นต้องตอบก็ได้ “

 

หยางโปพยักหน้าโดยที่ไม่พูดอะไร

 

เห็นได้ชัดว่าเสวียนจงดูค่อนข้างจะผิดหวัง เขาหันไปมองหน้าหยางโป “ ถ้าอย่างนั้นผมก็จะเขียนไปว่าเป็นสํานักลับ ได้ไหม ? “

 

หยางโปพยักหน้า “ ได้ ”

 

เสวียนจงชายตามองไปทางหลูตงซิง” ศิษย์พี่หลู ไม่ทราบว่าท่านชื่อแซ่อะไร ?”

 

หลูตงซิงหันไปตอบเสวียนจง “ เรียกผมว่า คุณหลูเลยก็ได้ “

 

เสวียนจงยิ้มอย่างเขินอาย เขียนชื่อของเขาแยกไว้อีกที่ จากนั้นก็ยื่นป้ายหมายเลขให้พวกเขาและอธิบายว่า “ ป้ายหมายเลขนี้เป็นป้ายที่คุณจะประมูลของในวันพรุ่งนี้”

 

“ ขอโทษนะการแลกเปลี่ยนประมูลของพรุ่งนี้ หลักๆ ที่สําคัญคืออะไรบ้าง ? ” หยางโปถาม

 

“ หลักๆเลยจะเป็นการฝึกพลัง กลยุทธ์และพลังอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ยาอายุวัฒนะพวกนี้

 

สิ่งที่ต้องเตือนคุณไว้ก่อนคือ การแลกเปลี่ยนของเรา คู่กรณีซื้อขายไม่ตกลงกันในสกุลเงิน

 

แต่ชําระกันเองด้วยสินค้าราคาเดียวกันเพื่อให้ทราบถึงการซื้อและขายสินค้าแต่ถ้าหากคุณเสนอจํานวนเงินให้ได้มากพอก็ได้เหมือนกัน ” เสวียนจงอธิบาย

 

หยางโปพยักหน้า เขามีความรู้สึกเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับของเหล่านี้ และถึงกับแอบรอคอยด้วยความหวัง “ ขอบคุณมากที่เตือนสติ ”

 

เสวียนจงจ้องมองหยางโป ด้วยสีหน้าท่าทีที่เคารพนับถือ สําหรับเขาแล้ว หยางโปเป็นเพียงชายหนุ่มจากสํานักลับในโลกของเกมเท่านั้น อายุแค่นี้ แต่กลับมีพลังที่แข็งแกร่งแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่พบเจอได้ยากจริงๆ แน่นอน มันจะเป็นการดีที่สุดถ้าสามารถได้รับประโยชน์บางอย่างมาจากเขา

 

หยางโปไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ เขาและหลูตงซิงเดินออกไปทางประตูหลัง

 

เพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินคนเอ่ยทักขึ้นมาว่า ” ทั้งสองท่าน โปรดรอก่อน !”