ข่าวคราวของโมเซอหายไปกว่าครึ่งปีแล้ว ชูฮันไม่แน่ใจว่าตอนนี้โมเซออยู่ในระยะที่เท่าไหร่แล้ว แต่อย่างเดียวที่ชูฮันมั่นใจก็คือโมเซอจะต้องมาที่เมืองอันลูแน่นอน

 

ชื่อเสียงของโมเซอในชาติที่แล้วนั้นไม่ธรรมดาเลย ชูฮันรู้จักเขาดี โมเซอมีลักษณะนิสัยคล้ายกับฟานเจี้ยน แต่จะดุดันและรุนแรงมากกว่า

 

แต่สิ่งที่ทั้งสองมีเหมือนกันนั่นก็คือถ้าพวกเขามีความรู้สึกดีกับใคร พวกเขาจะทำตามที่รับปากเอาไว้

 

ชูฮันเคยช่วยโมเซอไว้ครั้งหนึ่ง เพราะงั้นชูฮันคาดว่าโมเซอจะต้องมาอย่างแน่นอน  และในอนาคตอันใกล้เขาจะต้องใช้ความสามารถของโมเซอ โมเซอเป็นคนที่แข็งแกร่ง ไม่เข้าร่วมกับองค์กรไหน ไม่ทำงานให้ใคร และชูฮันไม่สามารถเผยตัวตนและความสัมพันธ์ของเขากับโมเซอได้ และมันก็เป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะส่งคนที่ไม่มีใครรู้จักและไม่เกี่ยวข้องกับค่ายเขี้ยวหมาป่าไปทำงาน

 

หลังจากได้เป้าหมายที่แน่ชัดในใจแล้ว ชูฮันก็นึกถึงหลูฮงเชิงที่เป็นลูกศิษย์ของเหย่โม ตลอดหลายวันมานี้หลูฮงเชิงไม่ว่างเลย แม้ชูฮันจะไม่ได้มอบหมายงานใดๆให้เลย แต่หลูฮงเชิงกระตือรือร้นอย่างมาก เขาคอยสร้างอาวุธให้กองทัพเขี้ยวหมาป่าไม่พักเลย

 

แต่หลูฮงเชิงก็ยังถือว่าฉลาดอยู่ เขารู้ถึงลำดับของทหาร อาวุธชิ้นแรกที่หลูฮงเชิงทำเสร็จถูกส่งไปให้ซางจิ่วตี้ด้วยความสนใจอย่างมาก ซึ่งชูฮันคิดว่าน่าจะเป็นชูซิงที่ให้ไอเดียนี่กับหลูฮงเชิง

 

ส่วนอาวุธยอดเยี่ยมที่สร้างโดยหลูฮงเชิง ชูฮันยังไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง แต่ด้วยทัศนคติเปลี่ยนแปลงของหลูฮงเชิงที่มีต่อค่ายเขี้ยวหมาป่า ชูฮันเดาว่าหลูฮงเชิงจะเป็นคนที่จะมีประโยชน์อย่างมากในอนาคต

 

อาวุธที่ใช้ในปัจจุบันนี้ถูกสร้างมาจากในยุคศิวิไลซ์ ทหารผ่านศึกของกองทัพจะมีอภิสิทธิเหนือกว่า พวกเขามีอาวุธของตัวเองอยู่แล้วที่ได้รับมาตั้งแต่ในยุคศิวิไลซ์ คุณภาพของอาวุธพวกนี้จะเหนือกว่ามาก แต่หลังจากเกิดการปะทุวัสดุก็ขาดแคลน โรงงานไม่ได้ทำการผลิตอีกต่อไป อาวุธจึงมีอย่างจำกัด

 

พูดง่ายๆก็คือ ผู้รอดชีวิตโดยทั่วไปจะมีความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างแย่ ทหารทั่วไปได้รับแค่แท่งเหล็กธรรมดาเอาไว้ป้องกันตัวเอง

 

ซึ่งนี้เป็นแค่ในกรณีของค่ายเขี้ยวหมาป่า ค่ายใหญ่ๆทั้งหลายจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยวัสดุจากธรรมชาติทั้งหลายมากกว่าค่ายเขี้ยวหมาป่า แต่ตามสถานที่ส่วนใหญ่ของจีนในตอนนี้ อาวุธทั่วไปที่คนส่วนใหญ่ใช้กันก็คือก้อนหินเพราะพวกเขาไม่มีหนทางหรือกำลังที่จะหาอาวุธ

 

เพราะงั้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากอย่างนี้ การมาถึงค่ายเขี้ยวหมาป่าของหลูฮงเชิงจึงเป็นการยกระดับอาวุธให้กับทุกคน ตอนนี้หลูฮงเชิงคือปรมาจารย์คนสำคัญที่เป็นที่ต้องการไปทั่วทั้งค่ายเขี้ยวหมาป่า ทุกคนมีความต้องการสร้างอาวุธจนหลูฮงเชิงไม่มีเวลาพักผ่อน

 

ในกรณีนี้ ชูฮันที่เจอกับหลูฮงเชิงก็พูดประโยคแรกออกมาว่า “ใครที่ต้องการสั่งทำอาวุธกับนายโดยเฉพาะจะต้องเป็นคนที่มียศทหารระดับสูงเท่านั้น”

อาวุธที่หลูฮงเชิงสร้างนั้นเป็นอาวุธที่แตกต่างจากอาวุธทั่วไป คนที่จ้างหลูฮงเชิงทำอาวุธขึ้นให้มักหลับไม่เต็มตาเพราะกลัวว่าจะโดนขโมยไปกลางดึก นี้แสดงให้เห็นว่าอาวุธของหลูฮงเชิงดีขนาดไหน แม้ชูฮันจะไม่รู้ว่าทำไมฝีมือของเฒ่าแก่เหย่โม่ถึงได้ล้ำขนาดนี้ได้กว่าตาม และการที่เค้าส่งหลูฮงเชิงไปเรียนรู้กับเหย่โม่คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง

 

หลูฮงเชิงตอบรับคำสั่งของชูฮันทันที “ครับหัวหน้า ก่อนหน้านี้ผมก็แค่ทำอาวุธไปเล่นๆตามความเคยชิน ผมไม่คิดว่าทุกคนจะตามหาตัวผมกันตลอดเวลาขนาดนี้ ผมต้องทำอาวุธตลอดเวลาจนล้าไปหมด ต้องขอบคุณหัวหน้าแต่มันจะดีกว่าถ้าหัวหน้าบอกให้คนทั้งค่ายรู้ จะได้ไม่มีคนมากวนผมอีก”

 

“ฉันจะหาผู้ช่วยจากฝ่ายจัดการให้ พักผ่อนซะนายทำงานหนักมากแล้ว ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องนี้อีก” ชูฮันกำลังคิดไกล อาวุธคือสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก และหลูฮงเชิงคนเดียวต้องรับผิดชอบทำอาวุธให้ทั้งกองทัพเขี้ยวหมาป่า ที่จริงการเพิ่มผู้ช่วยก็คงไม่ได้ช่วยปัญหานี้

 

ทว่าหลูฮงเชิงกลับตอบรับเสียงหนักแน่น “ผมขอผู้ช่วยผู้หญิงได้มั้ย?”

 

ชูฮันเมิน และเปลี่ยนเรื่อง “นายมีแบบร่างอาวุธมั้ย?”

 

“ครับ” หลูฮงเชิงตอบรับเสียงสดใส และส่งสมุดที่มีค่าอย่างมากให้ชูฮันทันที “เฮ้ เฮ้! หัวหน้า ผมได้ยินว่าตอนนี้หัวหน้าเป็นวิวัฒนาการระยะ 4 แล้ว? ผมคิดว่าอีกไม่นานผมน่าจะแซงหัวหน้าได้!”

 

ชูฮันที่พึ่งรับแบบร่างมา ย่นคิ้ว มันมีรอยยิ้มในแววตาของชูฮันอยู่ชั่วครู่หนึ่ง แซงเขา? หลูฮงเชิงคนนี้ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด แล้วการพูดการจาก็ไม่มีการถ่อมตัวเลย

 

เมื่อมองไปที่สมุดในมือ ยิ่งเห็นมากเท่าไหร่ชูฮันก็ยิ่งรู้สึกกลัว และอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นสบตาหลูฮงเชิง “นายวาดนี้ทั้งหมดเองงั้นเหรอ?”

 

“เปล่าครับ” คำตอบของหลูฮงเชิงนั้นผิดคาด “รูปพวกนี้เป็นการออกแบบของเหอซางและชูซิง ชูซิงจะรับผิดชอบการออกแบบมุมและการปรับแต่ง เหอซางออกแบบตัวอาวุธ ส่วนผมทำหน้าที่หนักที่สุด ผมเป็นจำแนกอาวุธดีที่สุด”

 

ชูฮันเข้าใจความหมายที่หลูฮงเชิงพูดทันที “พวกเขาร่างแบบคร่าวๆเองได้มั้ย?”

 

“เอ่อ” หลูฮงเชิงเกาหัว มีท่าทางไม่สบายใจ “แต่ถ้าไม่มีผม พวกเขาไม่สามารถสร้างแบบพวกนี้ขึ้นได้ ผมเป็นคนเดียวที่ทำได้”

 

แน่นอน ชูฮันไม่ปฏิเสธความสามารถของหลูฮงเชิง ขณะที่ประหลาดใจกับความสามารถของเหย่โม่ เขาก็รู้สึกขอบคุณความสามารถในการเรียนรู้อย่างรวดเร็วของหลูฮงเชิง และการที่เรียนรู้จากเหย่โม่มาได้มากมายในเวลาแค่ไม่กี่เดือน การวาดแบบร่างอาวุธชั้นดีได้มากมายขนาดนี้

 

ในสมุดแบบร่างส่วนใหญ่เป็นอาวุธเบา รูปร่างสมส่วนอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีเศษเสี้ยวของอาวุธในยุคศิวิไลซ์เลย ที่สำคัญกว่านั้นอาวุธทุกชิ้นออกแบบมาอย่างเหมาะสมกับระดับพลังของผู้ใช้ ซึ่งมันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้อย่างสูงให้แก่ผู้ใช้

 

ในขณะที่เปิดดูไปได้ไม่กี่หน้า จู่ๆชูฮันก็ตาโต หน้าท้ายๆนั้นเห็นได้ชัดเจนเลยว่าไม่ใช่อาวุธเบา พวกมันส่วนใหญ่เป็นปืนระเบิดขนาดใหญ่ ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นแนวคิดร่วมของเหอซาง แต่ดูแล้วในตอนนั้นพวกเขาไม่สามารถสร้างขึ้นได้เพราะมีปัญหาเห็นได้จากเครื่อหมายคำถามที่จดโน้ตเอาไว้

 

“นายทำอันนี้ได้มั้ย?” ชูฮันสงสัย เขากำลังนึกถึงภาพปืนพลังแม่เหล็ดขนาดใหญ่ที่ติดไว้รอบค่ายเพื่อป้องกันศัตรู