ตอนที่ 378 แค่นี้เองเหรอ / ตอนที่ 379 ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 378 แค่นี้เองเหรอ 

 

 

           ที่จริงแล้วตอนที่ฉู่อีอีอยู่เมืองนอกก็เที่ยวอย่างมีความสุขมาก แม้ว่าเฉิงเฮ่าจะตามติดเธอแจ แต่ว่าชีวิตส่วนตัวของเธอก็ยังคงยุ่งเหยิงมาก 

 

 

           ถ้าหากปล่อยให้เผยหนานเจวี๋นรู้ว่าเธอคบกับเฉิงเฮ่าตอนที่อยู่เมืองนอกล่ะก็ โดยเฉพาะตอนนี้ทีเฉิงเฮ่ากลับมาแล้ว เธอก็ยังพัวพันกับเฉิงเฮ่าไม่เลิก เธอกลัวมากจริงๆ ว่าเขาจะสืบเจอความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฉิงเฮ่า 

 

 

           ยิ่งไปกว่านั้นเธอมีภาพลักษณ์ของคนที่จิตใจดี บริสุทธิ์ และรักนวลสงานตัวในสายตาของเผยหนานเจวี๋ยมาตลอด 

 

 

           “แค่นี้เองเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว ตั้งใจลากหางเสียงยาว น้ำเสียงมืดมนเป็นพิเศษ เห็นสีหน้ารู้สึกผิดของเธอที่เห็นได้ชัด เผยหนานเจวี๋ยรู้ว่าเธอไม่ได้พูดความจริงกับเขา 

 

 

           แต่ว่า ถ้าเธอจะไม่อยากพูด เขาก็จะไม่ถามต่อ ถึงอย่างไรเรื่องพวกนั้นก็ผ่านมาแล้ว งั้นเขาก็จะไม่ขุดคุ้ยอีก 

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณคิดว่าฉันจะหลอกคุณเหรอ” ฉู่อีอีกล่าว เงยดวงตาที่สดใสมองเขาพร้อมกับพูด ในใจตื่นเต้นสุดขีด เพียงแต่บังคับให้ใบหน้านิ่งเรียบ ได้ยินน้ำเสียงของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อคำพูดของเธอ 

 

 

           เขาคงไม่ส่งคนไม่สืบเรื่องเธอหรอกนะ ทันทีที่เขาสืบเจอ แล้วเธอล่ะ? ในตอนนี้หัวใจของฉู่อีอีเต้นไม่เป็นจังหวะ มันเต้นตึกตักๆ อย่างต่อเนื่อง 

 

 

           “ไม่มีอะไร คุณไปพักผ่อนเถอะ ผมก็แค่ถามไปงั้นๆ” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวพร้อมยื่นมือลูบผมที่ปรกหน้าฉู่อีอี 

 

 

           ได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว ฉู่อีอีรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย หลายวันนี้เผยหนานเจวี๋ยเริ่มเย็นชากับเธออีกแล้ว 

 

 

           ครุ่นคิด ในที่สุดฉู่อีอีก็ออกไปจากระเบียง ปล่อยให้เผยหนานเจวี๋ยอยู่ตรงนั้นคนเดียว 

 

 

           หลังจากที่ฉู่อีอีไปแล้ว เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้กลับไปที่ห้องนอน แต่จุดบุหรี่อีกมวน แล้วสูบต่อ ความคิดพันหมื่นวนเวียนอยู่ในใจ 

 

 

           ตอนนี้เขาหมั้นกับฉู่อีอีแล้ว เขาจะทิ้งเธอไปได้อย่างไร แต่เขาก็อยากอยู่กับฉู่เจียเสวียนเหมือนกัน 

 

 

           คิดยิ่งคิดยิ่งสับสน บุหรี่ไปมือดับไปแล้ว จนกระทั่งนิ้วมือรู้สึกเจ็บปวด เผยหนานเจวี๋ยดึงสติกลับมา 

 

 

           ความคิดหมื่นพัน ยิ่งคิดยิ่งสับสนจริงๆ 

 

 

           วันต่อมา แสงอาทิตย์ส่องสว่างทั่วพื้นดิน ท้องฟ้าแจ่มใส แสงแดดสดใส เป็นอากาศดีที่เหมาะสำหรับการเดินทาง 

 

 

           ในวิลล่า 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกำลังง่วนอยู่ในครัว เธอตัดสินใจจะทำกับข้าวให้ซูซาน วันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ นานๆ ทีที่เธอจะว่าง ฉะนั้นจึงอยากให้ซูซานพักผ่อนสักหน่อย 

 

 

           “เสร็จแล้วค่ะแม่ ข้าวเสร็จแล้ว จวิ้นฉือกินข้าวได้แล้ว” หลังจากฉู่เจียเสวียนวางกับข้าวไว้บนโต๊ะอาหารแล้ว ตะโกนเรียกทั้งสองคนในห้องรับแขก 

 

 

           ในห้องรับปขก กงจวิ้นฉือกับซูซานกำลังคุยกันอย่างออกรส เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้ว ก็ประคองซูซานเดินเข้าไปในห้องกินข้าวแล้ว 

 

 

           เห็นกับข้าวสี่อย่างและน้ำแกงหนึ่งอย่างบนโต๊ะกินข้าว กงจวิ้นฉือยิ้ม หลังจากให้ซูซานนั่งลงแล้ว เขาก็เข้าไปในห้องครัว ช่วยยกกับข้าวออกมา 

 

 

           “เจียเสวียน ฝีมือทำกับข้าวของคุณเยี่ยมไปเลย” กงจวิ้นฉือร้องชมกับข้าวของที่ฉู่เจียเสวียนทำ กินอย่างเอร็ดอร่อย บนใบหน้ามีรอยยิ้ม 

 

 

ฉู่เจียเสวียนแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยมาสามปี เธอไม่มีอะไรทำ ฉะนั้นในทุกวันสิ่งที่เธอทำมากที่สุดก็คือการทำกับข้าว น่าเสียดายที่เผยหนานเจวี๋ยไม่เคยเห็นคุณค่าในแต่ละมื้อที่เธอทำให้เขา 

 

 

ซูซานได้ยินคำพูดของกงจวิ้นฉือแล้วก็พยักหน้า “ใช่แล้ว เจียเสวียน ลูกสุดยอดจริงๆ” 

 

 

หลังจากมื้ออาหาร ทั้งสามคนนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องรับแขก ซูซานกับกงจวิ้นฉือคุยกันเรื่องสัพเพเหระ ส่วนฉู่เจียเสวียนพูดแค่คำสองคำ เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูซีรี่ย์ 

 

 

 “เจียเสวียนเอ๊ย เมื่อไรลูกคิดจะแต่งงานกับกงจวิ้นฉือเหรอ แม่เห็นพวกลูกคบกันนานแล้วนะ” จู่ๆ ซูซานดึงๆ แขนเสื้อของฉู่เจียเสวียน เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 379 ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ 

 

 

 “แม่คะ ทำไมเธอถึงถามเรื่องนี้อีกแล้วล่ะ ไม่รีบค่ะ หนูกับกงจวิ้นฉืออายุยังน้อย ช้าหน่อยค่อยคุยเถอะค่ะ” ฉู่เจียเสวียนมองกงจวิ้นฉือพร้อมเอ่ยปาก เงยหน้าขยิบตาให้กับกงจวิ้นฉือ 

 

 

กงจวิ้นฉือสังเกตเห็น รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า จากนั้นก็พูดว่า “นั่นสิครับ คุณน้าซู ตอนนี้ผมกับเจียเสวียนยังมีเรื่องต้องทำตั้งเยอะ เรื่องแบบนี้อย่ารีบดีกว่า” 

 

 

 ‘เธอยังไม่อยากแต่งงานกับเขาเหรอ’ ความผิดหวังแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจ พระเจ้ารู้ดีว่าเขาอยากแต่งงานกับเธอมากแค่ไหน แต่ว่าเขาก็ไม่อยากบังคับเธอ 

 

 

ซูซานได้ยินคำพูดของกงจวิ้นฉือ รู้ว่าเขาตามใจลูกสาวของตัวเอง ลูกสาวของเธอพูดอะไรเขาก็ว่าอย่างนั้น 

 

 

ไม่ทันรู้ตัว หนึ่งวันก็ผ่านไปทั้งอย่างนั้นแล้ว ตกกลางคืน กงจวิ้นฉือก็ออกจากบ้านของฉู่เจียเสวียน ในเวลานี้มีเพียงฉู่เจียเสวียนกับซูซานที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องรับแขก 

 

 

 “เจียเสวียน ลูกยังคิดถึงเขาอยู่ใช่ไหม” ซูซานเอ่ยขึ้นกะทันหันพร้อมมองฉู่เจียเสวียน แววตาที่มองเธอมีคำถาม 

 

 

เธอรู้เรื่องอดีตของฉู่เจียเสวียน ฉะนั้นในใจของเธอจึงเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลาว่าฉู่เจียเสวียนจะปล่อยวางอดีตไม่ได้ 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของซูซาน ฉู่เจียเสวียนอึ้งไป จากนั้นก็หัวเราะ “แม่คะ แม่พูดอะไรน่ะ หนูยังคิดถึงเขาที่ไหนกัน” 

 

 

เธอในตอนนี้มีแต่ความรู้สึกเกลียดชังเผยหนานเจวี๋ย ไม่มีความรัก เธอจะไม่ปล่อยให้ตัวเองมีส่วนพัวพันใดๆ กับเผยหนานเจวี๋ยอีกอย่างแน่นอน 

 

 

 “เปล่าก็ดี เจียเสวียน กงจวิ้นฉือเป็นผู้ชายที่ดีมากจริงๆ ลูกต้องรักษาเขาให้ดีรู้หรือเปล่า” ซูซานดึงมือของฉู่เจียเสวียน พูดกับเธอ 

 

 

เธอหวังจริงๆ ว่าเธอจะสามารถอยู่ด้วยกันกับกงจวิ้นฉือ 

 

 

“วางใจเถอะค่ะคุณแม่ หนูรู้ว่าแม่เป็นห่วงเรื่องอะไร แต่ว่าเรื่องแบบนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก แม่วางใจได้ร้อยยี่สิบเปอร์เซ็นต์เลยโอเคไหมคะ” ฉู่เจียเสวียนยิ้มสดใส แววตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม 

 

 

ทั้งสองคนคุยเรื่องในใจอยู่ในห้องรับแขก ท้องฟ้าข้างนอกยิ่งมืดลงทุกที 

 

 

ที่ไน้ท์คลับของเมือง A 

 

 

ถังถังผลักประตูเข้าไปในบาร์ เสียงดนตรีหนวกหูภายในลอยมาเข้าหูของเธอ หลังจากเธอสั่งเหล้าแก้วหนึ่งแล้ว ก็เดินไปที่มุมมืดทันที ดื่มเหล้าอย่างเบื่อหน่ายตามลำพัง 

 

 

กวาดสายตาไปทั่วบาร์ จู่ๆ เธอก็หรี่ตามองเห็นเงาที่คุ้นเคยอยู่ไม่ไกล มุมปากยกยิ้ม รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏอยู่ในแววตา และแล้วก็ได้เจอเขาที่นี่จริงๆ 

 

 

เนื่องจากถังถังนอนไม่หลับ จิตใจสับสนเล็กน้อย ดังนั้นจึงมาที่บาร์ ถึงอย่างไรเธอก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกับเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

เห็นเขานั่งดื่มเหล้าอยู่ตรงนั้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก แก้วเล่าแก้วเล่า โศกเศร้าเป็นอย่างยิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ถังถังเห็นเขาเป็นแบบนี้ 

 

 

หรือว่าเขาจะทะเลาะกับฉู่อีอี? ถังถังคาดเดาอยู่ในใจ เดินเข้าไปหาเขา 

 

 

“ประธานเผย ทำไมมานั่งดื่มอยู่คนเดียวล่ะ อารมณ์ไม่ดี?” 

 

 

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นข้างกาย เผยหนานเจวี๋ยเหลือบตาที่พร่ามัวขึ้น หลังจากเห็นว่าเป็นถังถังแล้ว ริมฝีปากบางๆ ยกยิ้ม “คุณเองเหรอ เจียเสวียน…ช่วงนี้สบายดีไหม” 

 

 

เขาอยากรู้จริงๆ ว่าเธอสบายดีหรือเปล่า ตอนนี้เขาไม่มีความกล้าที่จะไปหาเธอแล้ว ยิ่งไม่มีความกล้าจะเจอหน้าเธอ 

 

 

ได้ยินคำถามของเผยหนานเจวี๋ย ถังถังรู้สึกทั้งตลกและทั้งโมโหเล็กน้อย 

 

 

เขานึกว่าเขาเป็นใคร ตอนที่เขาทำร้ายฉู่เจียเสวียนจนบาดเจ็บขนาดนั้นเขาไม่เคยถามไถ่เธอเลย ตอนนี้เขามีสิทธิ์อะไรมาเป็นห่วงว่าเธอสบายดีไหม 

 

 

คนเรานี่ช่างไม่เคารพตัวเองเสียจริง เวลาที่ได้มาก็ไม่รู้จักรักษา เวลาที่เสียไปถึงจะรู้คุณค่าของสิ่งนั้น 

 

 

“ประธานเผย เธอจะสบายดีหรือเปล่าดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวอะไรกับคุณนะ?” ถังถังเอ่ยปากเย็นชา แววตาที่มองเผยหนานเจวี๋ยยิ่งเจือปนความโกรธ